ข้อตกลง

มอสโก 17 มี.ค.- รัสเซียต้องการให้มีหลักประกันความมั่นคง “ที่แข็งแกร่ง” ในการทำข้อตกลงสันติภาพกับยูเครนว่า นาโตจะไม่รับยูเครนเข้าเป็นสมาชิก และยูเครนจะคงความเป็นกลางต่อไป นายอเล็กซานเดอร์ กรุชโก รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศของรัสเซียให้สัมภาษณ์อิซเวสเตีย ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์แห่งชาติของรัสเซียในหลากหลายประเด็นและมีการเผยแพร่ในวันนี้ หนึ่งในนั้น คือ การทำข้อตกลงสันติภาพกับยูเครน นายกรุชโกกล่าวว่า รัสเซียต้องการให้ข้อตกลงนี้มีหลักประกันด้านความมั่นคงที่แข็งแกร่ง ไม่สามารถถูกทำลายได้ หนึ่งในหลักประกันเหล่านี้ได้แก่ การคงสถานภาพความเป็นกลางของยูเครน และการที่ประเทศสมาชิกองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโตไม่ยอมรับยูเครนเข้าร่วมนาโต รัฐมนตรีช่วยต่างประเทศรัสเซียย้ำด้วยว่า รัสเซียไม่เห็นด้วยกับการที่นาโตจะส่งคณะผู้สังเกตการณ์เข้าไปในยูเครน ไม่ว่าจะส่งไปในนามนาโต สหภาพยุโรปหรืออียู หรือในนามประเทศ เพราะการเข้าไปในพื้นที่ขัดแย้งจะเท่ากับว่าเป็นฝ่ายที่มีส่วนร่วมในความขัดแย้งด้วย รัสเซียจะหารือเรื่องการส่งคณะสังเกตการณ์พลเรือนเข้าไปติดตามการปฏิบัติตามข้อตกลงสันติภาพ หลังจากที่มีข้อตกลงแล้วเท่านั้น ก่อนหน้านี้อังกฤษ ฝรั่งเศสและออสเตรเลียประกาศว่า พร้อมส่งกองกำลังรักษาสันติภาพเข้าไปสังเกตการณ์การหยุดยิงในยูเครน ขณะที่เมื่อวานนี้มีรายงานข่าวอ้างคำกล่าวของประธานาธิบดีเอมานูว์แอล มาครงของฝรั่งเศสว่า การประจำการกองกำลังรักษาสันติภาพเป็นอำนาจการตัดสินใจของยูเครน ไม่ใช่รัสเซีย.-814.-สำนักข่าวไทย

วอชิงตัน 8 มี.ค. – ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า ต้องการเจรจาข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่าน และได้ส่งจดหมายถึงผู้นำสูงสุดของอิหร่าน เสนอเรื่องเปิดการหารือกัน ประธานาธิบดีทรัมป์ยืนยันระหว่างให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์บิสซิเนสเน็ตเวิร์ก (Fox Business Network) เมื่อวันพฤหัสบดีว่า เขาได้ส่งจดหมายถึง อยาตอลลาห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน เมื่อวันพุธ โดยได้แสดงความหวังว่าผู้นำอิหร่านจะเข้าร่วมการเจรจา เพราะจะเป็นผลดีกับอิหร่าน ขณะนี้มี 2 ทางที่จะจัดการปัญหาอิหร่าน คือ ใช้การทหาร หรือทำข้อตกลง เขานิยมข้อหลังมากกว่า เพราะไม่ต้องการทำร้ายชาวอิหร่าน  ต่อมาประธานาธิบดีทรัมป์ ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ห้องทำงานรูปไข่ในทำเนียบขาวในวันศุกร์ว่า เขาคาดหวังว่าเรื่องนี้จะเกิดขึ้นในเร็วๆ นี้ สหรัฐไม่สามารถปล่อยให้อิหร่านมีอาวุธนิวเคลียร์ และหวังว่าจะสามารถบรรลุข้อตกลงสันติภาพกับอิหร่าน ด้านคณะผู้แทนถาวรของอิหร่านประจำสหประชาชาติ หรือยูเอ็น แจ้งในวันเดียวกันว่า อิหร่านยังไม่ได้รับจดหมายจากนายทรัมป์ ขณะที่นอร์นิวส์ (Nour News) ของอิหร่านระบุว่า เป็นเพียงการโชว์ซ้ำๆ ของรัฐบาลสหรัฐเท่านั้น นายทรัมป์เป็นผู้ถอนตัวสหรัฐออกจากข้อตกลงนิวเคลียร์นานาชาติในปี 2561 ขณะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐสมัยแรก เป็นข้อตกลงปี 2558 ระหว่างอิหร่านกับมหาอำนาจที่จะยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรอิหร่าน แลกกับการที่อิหร่านจะพัฒนาโครงการนิวเคลียร์แบบมีข้อจำกัด.-820(814).-สำนักข่าวไทย

นายกรัฐมนตรียูเครน ประกาศพร้อมลงนามในข้อตกลงสินแร่หายากกับสหรัฐ หากสหรัฐรับประกันด้านความมั่นคง

วอชิงตัน 26 ก.พ.- นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐเปิดเผยว่า นายโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนต้องการเดินทางมาลงนามข้อตกลงสำคัญที่สหรัฐในวันศุกร์นี้ ขณะที่แหล่งข่าวเปิดเผยว่า ทั้ง 2 ประเทศตกลงในเงื่อนไขของร่างข้อตกลงเกี่ยวกับทรัพยากรแร่ของยูเครนแล้ว ก่อนหน้านี้ประธานาธิบดีทรัมป์ได้เรียกร้องให้ยูเครนชดใช้ความช่วยเหลือในการทำสงคราม ด้วยการให้สิทธิแก่สหรัฐมูลค่า 5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 16.89 ล้านล้านบาท) ในทรัพยากรแร่ของยูเครน ทำให้ประธานาธิบดีเซเลนสกีแย้งว่า ยูเครนได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐมูลค่าน้อยกว่านั้น และยูเครนไม่ได้เป็นหนี้เพราะเป็นความช่วยเหลือแบบให้เปล่าเพื่อปกป้องยูเครนจากรัสเซีย           ล่าสุดนายทรัมป์เปิดเผยกับสื่อเมื่อวันอังคารตามเวลาท้องถิ่นว่า นายเซเลนสกีจะเดินทางมาพบเขาในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ เพื่อลงนามข้อตกลงเรื่องแร่ เป็นข้อตกลงที่ยิ่งใหญ่อาจมีมูลค่านับล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้ให้รายละเอียดใด โดยมีรายงานในสื่อของสหรัฐว่า ขณะนี้ทั้งสองฝ่ายตกลงในรายละเอียดยังไม่ลงตัว ส่วนในยูเครนนั้นมีเพียงแหล่งข่าวรัฐบาลที่ยืนยันว่า ตกลงกันในเบื้องต้นได้แล้ว แต่ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการจากรัฐบาลยูเครน เดอะไฟแนนเชียลไทม์รายงานว่า เนื้อหาหลักของข้อตกลงนี้  คือ การตั้งกองทุนร่วมระหว่างสหรัฐและยูเครนเพื่อการพัฒนาแหล่งทรัพยากรแร่ของยูเครน โดยยังไม่มีข้อสรุปเรื่องหลักประกันด้านความมั่นคงที่ยูเครนเรียกร้องมาโดยตลอด เพื่อปกป้องตนเองจากรัสเซีย นายทรัมป์ตอบคำถามผู้สื่อข่าวเรื่องสิ่งที่ยูเครนจะได้จากข้อตกลงว่า ยูเครนได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐไปแล้ว 350,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 11.82 ล้านล้านบาท) และยุทโธกรณ์ต่าง ๆ รวมถึงสิทธิที่จะต่อสู้ต่อไป ยูเครนมีแหล่งแร่ 22 […]

กลุ่มฮามาสปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอล 2 คนแล้ววันนี้และมีกำหนดจะปล่อยอีก 4 คนในวันเดียวกันจากบริเวณฉนวนกาซา เพื่อแลกเปลี่ยนกับการปล่อยตัวนักโทษ

เยรูซาเล็ม 18 ม.ค.- คณะรัฐมนตรีอิสราเอลเต็มคณะให้การรับรองข้อตกลงกับกลุ่มฮามาสเรื่องหยุดยิงและปล่อยตัวประกันแล้วเมื่อช่วงตรู่วันนี้ หลังประชุมหารือกันนานถึง 6 ชั่วโมง การรับรองข้อตกลงดังกล่าวอาจปูทางไปสู่การยุติสงครามในกาซาที่ดำเนินมานาน 15 เดือน นับจากกลุ่มฮามาสบุกข้ามพรมแดนเข้าไปก่อเหตุสะเทือนขวัญในอิสราเอลเมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2566 สื่อในอิสราเอลรายงานว่า รัฐมนตรี 24 คนออกเสียงสนับสนุนข้อตกลง ขณะที่รัฐมนตรี 8 คนออกเสียงคัดค้านเนื่องจากมองว่า การรับรองข้อตกลงหยุดยิงเท่ากับเป็นการยอมจำนนให้แก่กลุ่มฮามาส ส่วนเมื่อวานนี้คณะรัฐมนตรีความมั่นคง ซึ่งเป็นคณะรัฐมนตรีชุดเล็กได้ให้ความเห็นชอบข้อตกลงนี้ไปแล้ว   ข้อตกลงที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่19 มกราคมตามเวลาท้องถิ่น แบ่งเป็น 3 ระยะ ระยะแรกใช้เวลา 6 สัปดาห์จะมีการทยอยปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอล 33 คนแลกกับนักโทษชาวปาเลสไตน์หลายร้อยคน   อิสราเอลจะถอนกำลังทหารจากเขตที่คนอยู่หนาแน่นในกาซา ชาวปาเลสไตน์จะได้เริ่มคืนถิ่นฐานรวมทั้งอนุญาตรถบรรทุกสิ่งของช่วยเหลือเข้าสู่กาซานับร้อยคัน ทุกวัน จากนั้นในระยะที่2 จะเป็นการปล่อยตัวประกันที่เหลือ การถอนทหารอิสราเอลทั้งหมด และการฟื้นฟูความสงบในกาซ่า  ส่วนระยะสุดท้ายจะเป็นเรื่องการฟื้นฟูกาซาซึ่งอาจใช้เวลาหลายปี และการส่งคืนร่างตัวประกันที่เสียชีวิตแล้ว กลุ่มฮามาสสังหารคนในอิสราเอลประมาณ 1,200 คน และลักพาตัว 250 คนไปกาซาในวันที่ 7 ตุลาคม 2566 เป็นเหตุให้อิสราเอลทำสงครามตอบโต้ทันทีในวันดังกล่าวมาจนถึงปัจจุบัน ขณะนี้สภาพบ้านเรือนในกาซาเสียหายยับเยิน มีคนล้มตายมากกว่า […]

เยรูซาเล็ม 17 ม.ค.- สำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลแถลงวันนี้ว่า คณะรัฐมนตรีจะประชุมเพื่อให้ความเห็นชอบในขั้นสุดท้ายต่อข้อตกลงกับกลุ่มฮามาสเรื่องหยุดยิงในฉนวนกาซาและปล่อยตัวประกันที่ถูกกลุ่มฮามาสลักพาตัวไปตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2566 เดิมการประชุมเพื่อให้ความเห็นชอบจะมีขึ้นในวันพฤหัสบดีตามเวลาท้องถิ่น แต่อิสราเอลได้เลื่อนออกไปโดยกล่าวโทษว่าสาเหตุเกิดจากกลุ่มฮามาส ต่อมาสำนักนายกรัฐมนตรีอิสราเอลออกแถลงการณ์ในเช้าวันนี้ว่า กำลังจะมีการให้ความเห็นชอบ หลังจากนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูได้รับรายงานจากคณะเจรจาว่า สามารถบรรลุข้อตกลงปล่อยตัวประกันได้แล้ว คณะรัฐมนตรีด้านความมั่นคงจะประชุมในวันนี้ ตามด้วยการประชุมคณะรัฐมนตรีเต็มคณะเพื่อให้ความเห็นชอบข้อตกลง อย่างไรก็ดี แถลงการณ์ไม่ได้ระบุว่า การประชุมเต็มคณะจะมีขึ้นในวันนี้หรือวันเสาร์ หรือจะมีการชะลอการหยุดยิงที่จะเริ่มขึ้นในวันอาทิตย์ สื่ออิสราเอลเผยแพร่แถลงการณ์ของกลุ่มตัวแทนครอบครัวตัวประกันในกาซาที่เรียกร้องเมื่อกลางดึกที่ผ่านมา ให้นายกรัฐมนตรีเนทันยาฮูเร่งช่วยเหลือพวกเขาโดยเร็วว่า สำหรับตัวประกันที่เหลืออยู่ 98 คน แต่ละคืนที่ผ่านไป คือ อีกหนึ่งคืนแห่งความฝันร้าย จึงไม่ควรชะลอการกลับบ้านของพวกเขาออกไปแม้แต่คืนเดียว รอยเตอร์ระบุว่า ตัวประกัน 33 คน ประกอบด้วยเด็ก สตรี คนชรา และคนป่วย จะได้รับการปล่อยตัวจากกลุ่มฮามาสในการหยุดยิงระยะที่ 1 เป็นเวลา 6 สัปดาห์ แลกกับการที่อิสราเอลทยอยถอนกำลังทหารออกจากกาซาและปล่อยตัวนักโทษชาวปาเลสไตน์ในอิสราเอลหลายร้อยคน ตามข้อตกลงที่บรรลุได้เมื่อวันที่ 15 มกราคม โดยมีกาตาร์ อียิปต์และสหรัฐเป็นคนกลางในการเจรจา นักวิเคราะห์การเมืองบางคนคาดการณ์ว่า การเริ่มหยุดยิงในวันอาทิตย์อาจล่าช้าออกไป หากอิสราเอลไม่สามารถเห็นชอบข้อตกลงได้ภายในวันเสาร์ เนื่องจากกลุ่มแข็งกร้าวในรัฐบาลอิสราเอลที่ยืนกรานว่าไม่ควรยุติสงครามจนกว่าจะบรรลุเป้าหมายเรื่องการกำจัดกลุ่มฮามาส ได้แสดงท่าทีว่าจะขัดขวางการให้ความเห็นชอบ อย่างไรก็ดี […]

โดฮา 13 ม.ค.- รอยเตอร์อ้างเจ้าหน้าที่ว่า กาตาร์ในฐานะคนกลางการเจรจาได้ส่งมอบร่างฉบับสุดท้ายของข้อตกลงหยุดยิงและปล่อยตัวประกันเพื่อยุติสงครามในกาซาให้แก่อิสราเอลและกลุ่มฮามาสในกาซาแล้ว เจ้าหน้าที่ที่ได้รับฟังรายงานสรุปการเจรจาเผยว่า ความคืบหน้าครั้งสำคัญนี้มีขึ้นหลังเที่ยงคืนตามเวลากรุงโดฮาของกาตาร์ หลังจากหัวหน้าหน่วยข่าวกรองของอิสราเอล ทูตตะวันออกกลางของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ และนายกรัฐมนตรีกาตาร์เจรจาหารือกัน ด้านทำเนียบขาวสหรัฐแถลงว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮูของอิสราเอลเมื่อวันอาทิตย์ เรื่องหนทางที่จะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงและปล่อยตัวประกันในกาซาที่ถูกกลุ่มฮามาสลักพาตัวตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2566 รอยเตอร์เสริมว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐกำลังเร่งหาทางบรรลุข้อตกลงให้ได้ก่อนที่นายไบเดนจะพ้นจากตำแหน่งเมื่อนายทรัมป์สาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม.-814.-สำนักข่าวไทย

บากู 24 พ.ย.- ที่ประชุมโลกร้อนบรรลุข้อตกลงให้เงินช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาปีละ 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 10.34 ล้านล้านบาท) ในการรับมือกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ประเทศผู้รับความช่วยเหลือระบุว่าไม่เพียงพอ การประชุมสมัชชาภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 29 หรือคอป 29 (COP29) เริ่มต้นมาตั้งแต่วันที่ 11 พฤศจิกายนที่กรุงบากูของอาเซอร์ไบจาน มีกำหนดเสร็จสิ้นในวันที่ 22 พฤศจิกายน แต่ยืดเยื้อมาจนถึงวันนี้ เนื่องจากตัวแทนจากเกือบ 200 ประเทศถกเถียงกันอย่างหนัก โดยเมื่อวานนี้ตัวแทนจากประเทศกำลังพัฒนาและประเทศเกาะบางแห่งเดินออกจากที่ประชุมด้วยความไม่พอใจ และหลังจากที่ประชุมสามารถบรรลุข้อตกลงได้ในวันนี้ ผู้ร่วมประชุมบางคนลุกขึ้นยืนปรบมือ ขณะที่บางคนตำหนิประเทศร่ำรวยว่า ยังพยายามไม่มากพอและวิจารณ์ประเทศเจ้าภาพว่ารีบเร่งตัดบทปิดการประชุม ทั้งที่ยังมีการถกเถียงเนื้อหาของข้อตกลงอยู่ ตัวแทนจากอินเดียกล่าวในการปิดสมัยประชุมว่า ข้อตกลงดังกล่าวเป็นเพียงภาพลวงตาที่ไม่สามารถแก้ไขความรุนแรงของปัญหาที่ทุกประเทศกำลังเผชิญอยู่ ดังนั้นอินเดียจึงขอคัดค้านการยอมรับข้อตกลงนี้ ด้านนายไซมอน สตีลล์ เลขาธิการกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศหรือยูเอ็นเอฟซีซีซี (UNFCCC) ยอมรับว่า เป็นการเจรจาที่ยากเย็น แต่ก็ได้ข้อตกลงที่เปรียบเสมือนกรมธรรม์ประกันภัยให้แก่มนุษยชาติในการรับมือกับภาวะโลกร้อน อย่างไรก็ดี กรมธรรม์นี้จะมีผลบังคับใช้ต่อเมื่อมีการจ่ายเบี้ยประกันอย่างครบถ้วนและตรงต่อเวลาเท่านั้น ภายใต้ข้อตกลงนี้ประเทศร่ำรวยรับปากจะจัดสรรเงินช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาในการรับมือกับภาวะโลกร้อนปีละ 300,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 10.34 ล้านล้านบาท) ภายในปี 2578 เพิ่มขึ้นจากข้อตกลงเดิมที่รับปากจะจัดสรรปีละ 100,000 […]

มะนิลา 8 ก.ค.- ฟิลิปปินส์และญี่ปุ่นลงนามข้อตกลงการเข้าถึงต่างตอบแทนหรืออาร์เอเอ (RAA) ที่จะให้ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถส่งกำลังพลไปยังดินแดนอีกฝ่ายได้ เลขาธิการด้านการสื่อสารของประธานาธิบดีฟิลิปปินส์แถลงวันนี้ว่า นายกิลแบร์โต เตียวโดโร รัฐมนตรีกลาโหมฟิลิปปินส์ และนางโยโกะ กามิกาวะ รัฐมนตรีต่างประเทศญี่ปุ่น ได้ลงนามข้อตกลงที่กรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์ โดยมีประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์ของฟิลิปปินส์ร่วมเป็นสักขีพยาน ข้อตกลงนี้จะสร้างกรอบในการอำนวยความสะดวกให้แก่ความร่วมมือทางทหาร เช่น เปิดทางให้กองกำลังที่มาเยือนสามารถนำกำลังพลและยุทโธกรณ์เข้าประเทศได้ง่ายขึ้น ข้อตกลงนี้จะมีผลบังคับใช้เมื่อรัฐสภาของ 2 ประเทศให้สัตยาบัน ถือเป็นครั้งแรกที่ญี่ปุ่นทำอาร์เอเอในเอเชีย หลังจากที่มีอาร์เอเอกับออสเตรเลียและอังกฤษ และกำลังเจรจากับฝรั่งเศส รอยเตอร์มองว่า การมีกำลังพลญี่ปุ่นประจำการในฟิลิปปินส์อาจช่วยให้ฟิลิปปินส์สามารถต้านทานอิทธิพลของจีนในทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นน่านน้ำที่จีนอ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อนกับหลายประเทศ ส่วนญี่ปุ่นไม่มีข้อพิพาทกับจีนในทะเลจีนใต้ แต่มีข้อพิพาทกับจีนในทะเลจีนตะวันออก.-814.-สำนักข่าวไทย

สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานวันนี้ว่า จีนคาดหวังว่า สหภาพยุโรป หรือ อียู จะพิจารณาใหม่อีกครั้งเกี่ยวกับอัตราภาษีที่จะเก็บจากรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน และอยากให้อียูหยุดการเดินหน้าไปยังทิศทางที่ผิดในการปกป้องอุตสาหกรรมยานยนต์จากการแข่งขันกันในเชิงธุรกิจ

โซล 4 มิ.ย.- ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอลของเกาหลีใต้อนุมัติข้อเสนอให้ระงับการบังคับใช้ข้อตกลงลดความตึงเครียด 2 เกาหลีปี 2561 อย่างเต็มตัว หลังจากเกาหลีเหนือส่งลูกโป่งผูกขยะลอยข้ามพรมแดนเข้ามาในเกาหลีใต้เป็นจำนวนมาก ประธานาธิบดียุนลงนามอนุมัติข้อเสนอที่ผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันนี้ หลังจากสภาความมั่นคงแห่งชาติของประธานาธิบดีได้ตัดสินใจเมื่อวันจันทร์ว่า จะระงับการบังคับใช้ข้อตกลงทางทหารอย่างครอบคลุม (Comprehensive Military Agreement) เพื่อตอบโต้ที่เกาหลีเหนือส่งลูกโป่งเข้ามาเกือบ 1,000 ลูกนับจากวันที่ 29 พฤษภาคม และรบกวนการส่งสัญญาณจีพีเอสของเกาหลีใต้ นายกรัฐมนตรีฮัน ด็อก-ซูกล่าวในการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า การยั่วยุไม่หยุดของเกาหลีเหนือไม่เพียงเป็นอันตรายต่อชีวิตและความปลอดภัยของประชาชน แต่ยังบ่อนทำลายสันติภาพของคาบสมุทรเกาหลีอย่างร้ายแรง การระงับการบังคับใช้ข้อตกลงทางทหารวันที่ 19 กันยายน 2561 เป็นความชอบธรรมตามกฎหมาย เปิดทางให้เกาหลีใต้สามารถฝึกซ้อมทางทหารใกล้เส้นปักปันเขตแดนทางทหาร และสามารถดำเนินการตอบโต้การยั่วยุของเกาหลีเหนือได้อย่างเพียงพอและทันที การระงับการบังคับใช้ข้อตกลงจะมีผลจนกว่าจะมีการฟื้นฟูความไว้วางใจระหว่าง 2 เกาหลี ด้านกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้แถลงหลังจากประธานาธิบดีลงนามอนุมัติว่า จะฟื้นกิจกรรมทางทหารตามปกติทั้งหมดใกล้เส้นปักปันเขตแดนทางทหารและหมู่เกาะพรมแดนทางตะวันตกเฉียงเหนือที่เคยถูกจำกัดจากข้อตกลงปี 2561 และจะดำเนินมาตรการทุกอย่างเพื่อปกป้องชีวิตและความปลอดภัยของประชาชนเกาหลีใต้ ก่อนหน้านี้เกาหลีใต้ได้ระงับการบังคับใช้ข้อตกลงนี้เป็นบางส่วนเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 หลังจากเกาหลีเหนือปล่อยดาวเทียมจารกรรมเข้าสู่วงโคจรสำเร็จ ครั้งนั้นเกาหลีใต้ได้ยกเลิกการใช้เขตห้ามบินบริเวณพรมแดน ทำให้สามารถฟื้นการลาดตระเวนและสอดแนมบริเวณพรมแดน 2 เกาหลี.-814.-สำนักข่าวไทย