ศปช.ย้ำพื้นที่เสี่ยงท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ย้ายของขึ้นที่สูง

กรุงเทพฯ 6 ต.ค. – ศปช. ย้ำประชาชนในพื้นที่เสี่ยงท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ย้ายของขึ้นที่สูง ด้านกรมชลฯ เร่งระบายน้ำเชียงใหม่ต่อเนื่อง ก่อนที่น้ำจะไหลเข้าพื้นที่ อ.สารภี และบางตำบลของ จ.ลำพูน ขณะที่ ศธ.ขยายเวลาซ่อมเครื่องใช้ที่แม่สาย ถึงกลางเดือนนี้


นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) และ ศปช.ส่วนหน้า จังหวัดเชียงราย ย้ำเตือนประชาชนในบริเวณพื้นที่ลุ่มริมน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา รวม 11 จังหวัด ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ภายหลังเขื่อนเจ้าพระยาปรับการระบายน้ำ มาอยู่ที่อัตรา 2,200 ลบ.ม./วินาที ตั้งแต่เวลา 16.00 น. วันนี้ (6 ต.ค.67) และยังคงการระบายน้ำที่อัตราดังกล่าว โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง 7 จังหวัด ได้แก่ คลองโผงเผง คลองบางบาล แม่น้ำน้อย และพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกันน้ำบริเวณ จ.ชัยนาท อ.สรรพยา และวัดสิงห์ (ต.โพนางดำตก), อ.เมืองสิงห์บุรี พรหมบุรี และอินทร์บุรี (วัดสิงห์ วัดเสือข้าม) จ.สิงห์บุรี, อ.ป่าโมก และไชโย (วัดไชโย) จ.อ่างทอง , อ.พระนครศรีอยุธยา บางบาล ผักไห่ (ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง) และเสนา (ต.หัวเวียง) จ.พระนครศรีอยุธยา, อ.เมืองปทุมธานี และสามโคก จ.ปทุมธานี, อ.ปากเกร็ด (ต.ท่าอิฐ) อ.เมืองนนทบุรี (ต.ไทรม้า และบางไผ่) จ.นนทบุรี ให้ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และติดตามข่าวสารจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง

“แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ จ.ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี ปทุมธานี นนทบุรี อุทัยธานี ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง 7 จังหวัด ได้ประสานทุกจังหวัดให้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ล่วงหน้าแล้ว ขอให้ประชาชนขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และติดตามข่าวสารจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด ย้ำประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1567 ตลอด 24 ชม. ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ระดมกำลังเพื่อช่วยคลี่คลายความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนโดยเร็ว”


ส่วนกรณีมีกระแสข่าวว่า มวลน้ำมหาศาลกำลังเคลื่อนตัวกระจายไปตามเส้นทางต่างๆ นั้น นายจิรายุ กล่าวว่า สทนช. และกรมชลประทาน ชี้แจงว่า ปัจจุบันสถานการณ์น้ำที่ จ.เชียงใหม่ มีแนวโน้มลดลง คาดว่าระดับน้ำจะกลับเข้าสู่ตลิ่งในวันพรุ่งนี้ (7 ต.ค.) และปริมาณน้ำส่วนนี้จะไหลต่อเนื่องเข้าสู่พื้นที่ อ.สารภี และเข้าสู่เขต ต.อุโมงค์ อ.เมือง จ.ลำพูน ลงสู่ลำน้ำแม่กวง แล้วจึงไหลผ่านตัวเมืองลำพูน ก่อนไหลกลับลงสู่แม่น้ำปิงอีกครั้ง ที่บ้านสบทา อ.ป่าซาง ซึ่งขณะนี้มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ อ.สารภี จ.เชียงใหม่ บางพื้นที่ เช่น ต.หนองผึ้ง ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 0.8-1.50 เมตร จ.เชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำในจุดที่มีน้ำท่วมขัง เร่งระบายน้ำสู่พื้นที่ตอนล่าง ส่วนพื้นที่ อ.เมืองลำพูน (ต.เหมืองง่า อุโมงค์ ริมปิง ประตูป่า เวียงยอง หนองช้างคืน ต้นธง บ้านแป้น) จ.ลำพูน ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 0.3-0.5 เมตรแล้ว คาดการณ์ระดับน้ำท่วมสูงสุดบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำใน จ.ลำพูน อาจสูงได้ถึง 0.8-1.5 เมตร กรมชลประทานได้กำจัดวัชพืชในทางน้ำ และเตรียมการติดตั้งเครื่องสูบน้ำสำหรับการเร่งระบายน้ำในพื้นที่ โดยให้สามารถระบายน้ำได้เท่ากับที่ จ.เชียงใหม่ สูบระบายน้ำลงมา

สำหรับการเดินทางไปเส้นทางภาคเหนือ มีการปรับการให้บริการ เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมเชียงใหม่ขยายวงกว้าง นายจิรายุ กล่าวว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้กำหนดจุดรับ-ส่งผู้โดยสารที่สถานีนครลำปาง สถานีลำพูน และสถานีขนส่งอาเขต (เก่า) จ.เชียงใหม่ โดยสายเหนือเปิดให้บริการเฉพาะเส้นทางกรุงเทพอภิวัฒน์-นครลำปาง-กรุงเทพอภิวัฒน์ เพราะสถานีเชียงใหม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ขณะนี้ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ ผู้โดยสารที่ไม่ประสงค์เดินทางช่วงสถานีนครลำปาง-เชียงใหม่-นครลำปาง สามารถขอคืนค่าโดยสารได้ที่สถานีทุกแห่งทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทรศัพท์ 1690 หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ คาดการณ์อีก 2 วัน จะสามารถเปิดทำการได้ตามปกติ

นายจิรายุ ยังกล่าวถึงการช่วยเหลือประชาชนและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยที่ จ.เชียงราย ว่า เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนยังคงปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่ อ.แม่สาย ที่ถูกน้ำท่วมอีกระลอก ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการ ได้เปิดศูนย์อาชีวะอาสา ร่วมด้วยช่วยประชาชน ณ วัดผาสุการาม บ้านไม้ลุงขน และชุมชนเหมืองแดง ต.แม่สาย เพื่อให้บริการซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้าและรถจักรยานยนต์ที่เสียหายจากน้ำท่วม โดยวันนี้ (6 ต.ค.67) พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานของศูนย์ฯ พบว่ามีประชาชนเข้ารับบริการอย่างต่อเนื่อง จึงขยายเวลาให้บริการไปจนถึงวันที่ 15 ตุลาคมนี้


“หลังจาก ศธ. เปิดจุดซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้าและรถจักรยานยนต์ ได้รับการตอบรับดีมาก สร้างความพอใจให้ประชาชนอย่างมาก จากเดิมจะปิดศูนย์ฯ วันพรุ่งนี้ (7 ต.ค.) ก็มีแผนขยายเวลาให้บริการจนถึงวันที่ 15 ตุลาคมนี้ เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้มากที่สุด และอาจขยายเวลาเพิ่มเติมอีก” นายจิรายุ กล่าว

ประธาน ศปช.ส่วนหน้า ติดตามการสร้างบ้านน็อกดาวน์ ที่บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร จ.เชียงราย

นายจิรายุ ยังกล่าวว่า วันนี้ (6 ต.ค.67) น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ส่วนหน้า (ศปช.ส่วนหน้า) จ.เชียงราย ลงพื้นที่ติดตามการสร้างบ้านน็อกดาวน์ให้ผู้ประสบอุทกภัย ที่บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร อ.เมืองเชียงราย หลังบ้านเรือนถูกน้ำในลำน้ำกกล้นตลิ่งหลากเข้าซัดเสียหายหลายหลังคาเรือน โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้สั่งการให้เรือนจำกลางเชียงราย นำเจ้าหน้าที่พร้อมผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ใกล้พ้นโทษ ร่วมสร้างบ้านน็อกดาวน์ให้ผู้ประสบอุทกภัย มีเป้าหมายสร้างเสร็จหลังแรกในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ และจะเร่งดำเนินการสร้างหลังต่อๆ ไป เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบอุทกภัย

ระดมทีมเข้าช่วยเหลือดูแลสุขภาพช้างในศูนย์บริบาลช้าง

นายจิรายุ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทีมสัตวแพทย์ของสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ร่วมกับหน่วยงานสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ได้เข้าช่วยเหลือช้างที่ศูนย์บริบาลช้าง ต.กื้ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ หลังระดับน้ำในพื้นที่ลดลง โดยมีช้างคงเหลือ 116 เชือก (เพศเมีย 106 เชือก, เพศผู้ 10 เชือก) จากจำนวน 118 เชือก เบื้องต้นทุกเชือกอาการปกติ แต่ก็มีแผนฟื้นฟูและเฝ้าระวังโรคหลังน้ำท่วม นอกจากนี้ยังมีทีมสัตวแพทย์เข้าให้คำแนะนำกับปางช้างที่อยู่ตามลำน้ำ และช่วยดูแลรักษาหากมีช้างเจ็บป่วย รวมทั้งสนับสนุนอาหาร วัสดุอุปกรณ์ควบคุมช้าง สำหรับช้างที่ล้ม 2 เชือก สาเหตุมาจากไหลไปกับกระแสน้ำ แล้วกระแทกโขดหิน จนจมน้ำ พบซากที่บริเวณอุโมงค์น้ำ ตามที่เป็นข่าว.-319-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

น่านยังอ่วม บางจุดน้ำท่วมสูงเกือบ 2 เมตร

น่าน 25 ก.ค. – เข้าสู่วันที่ 3 น้ำท่วมใหญ่เป็นประวัติการณ์ของเมืองน่าน แม้ระดับน้ำลดลงบ้างแล้ว แต่ในตัวเมือง-เขตเศรษฐกิจยังท่วมสูง บางจุดระดับน้ำเกือบ 2 เมตร ขณะที่ “บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์” นำทีมกู้ภัยฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวเข้าช่วยเหลือชาวบ้าน .-สำนักข่าวไทย

มีผลทันที! ประกาศกฎอัยการศึก 8 อำเภอ “จันทบุรี-ตราด”

25 ก.ค.- กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ประกาศใช้กฎอัยการศึกบางพื้นที่ มีผลทันที กองทัพเรือ โดย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด “ประกาศใช้กฎอัยการศึก” บางพื้นที่ ดังนี้ ตามที่ได้มีประกาศคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ลงวันที่ 19 กันยายน 2549 ให้ใช้กฎอัยการศึกทั่วราชอาณาจักร ตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน 2549 เวลา 21.05 นาฬิกา ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการเลิกใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ และให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่ ลงวันที่ 31 ธันวาคม 2550 นั้น โดยที่ปรากฏว่าประเทศกัมพูชาได้ใช้กำลังและอาวุธรุกรานเข้ามาในราชอาณาจักรไทยตลอดแนวชายแดน จึงมีความจำเป็นโดยมิอาจหลีกเลี่ยงได้ที่ต้องใช้กำลังทหาร ตำรวจ พลเรือน ตลอดจนประชาชนชาวไทยทุกคน เพื่อป้องกันประเทศให้พ้นจากภัยคุกคามอันมีที่มาจากภายนอกราชอาณาจักรดังกล่าว เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยของชาติและบูรณภาพแห่งดินแดน ตลอดจนชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนชาวไทย และจำเป็นต้องประกาศใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 176 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประกอบกับมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พุทธศักราช 2457 จึงให้ใช้กฎอัยการศึกในบางเขตพื้นที่เพิ่มเติม ดังต่อไปนี้ ข้อ 1 จังหวัดจันทบุรี อำเภอเมืองจันทบุรี […]

จรวด BM-21 ตกในพื้นที่สุรินทร์ 6 ลูก เร่งอพยพคนเพิ่ม

สุรินทร์ 25 ก.ค. – กระสุนของฝั่งกัมพูชามาตกไกลกว่าเหตุปะทะปี 2554 ตามที่เจ้าหน้าที่คาดการณ์ ล่าสุดมีจรวด BM-21 จำนวน 6 ลูก ตกในพื้นที่ อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เตรียมอพยพประชาชนไปยังที่ปลอดภัยกว่า .-สำนักข่าวไทย

สดุดี 3 ทหารกล้า สมรภูมิปราสาทตาควาย

25 ก.ค.- กองทัพภาคที่ 2 สดุดี 3 ทหารกล้า สละชีพ สมรภูมิปราสาทตาควาย หลังกัมพูชายิงจรวด BM-21 หน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ยืนยันมีทหารไทยเสียชีวิต 3 นาย จากการปฏิบัติหน้าที่เมื่อช่วงเช้าวันนี้ที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ หลังกัมพูชายิงจรวดหลายลำกล้อง BM-21 ซึ่งกัมพูชานำไปจอดไว้ในพื้นที่ชุมชน โรงเรียน และวัด เพื่อเป็นโล่กำบัง โดยทหารที่เสียสละเพื่อประเทศชาติ ได้แก่ 1.สิบเอกนพดล บุญเลิศ 2.สิบเอก กฤษฎา น้อยโคตร 3.สิบเอก จิรายุ สิงห์อ้น กองร้อยลาดตระเวนระยะไกล ที่ 6 กองพลทหารราบที่ 6 ร้อย.ลว.ไกล 6 และมีสิบเอกสุทธิชัย เรื่อเรือง ได้รับบาดเจ็บ -สำนักข่าวไทย