ศปช.ย้ำพื้นที่เสี่ยงท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ย้ายของขึ้นที่สูง

กรุงเทพฯ 6 ต.ค. – ศปช. ย้ำประชาชนในพื้นที่เสี่ยงท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ย้ายของขึ้นที่สูง ด้านกรมชลฯ เร่งระบายน้ำเชียงใหม่ต่อเนื่อง ก่อนที่น้ำจะไหลเข้าพื้นที่ อ.สารภี และบางตำบลของ จ.ลำพูน ขณะที่ ศธ.ขยายเวลาซ่อมเครื่องใช้ที่แม่สาย ถึงกลางเดือนนี้


นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรีและโฆษกศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) และ ศปช.ส่วนหน้า จังหวัดเชียงราย ย้ำเตือนประชาชนในบริเวณพื้นที่ลุ่มริมน้ำท้ายเขื่อนเจ้าพระยา รวม 11 จังหวัด ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ภายหลังเขื่อนเจ้าพระยาปรับการระบายน้ำ มาอยู่ที่อัตรา 2,200 ลบ.ม./วินาที ตั้งแต่เวลา 16.00 น. วันนี้ (6 ต.ค.67) และยังคงการระบายน้ำที่อัตราดังกล่าว โดยเฉพาะพื้นที่เสี่ยง 7 จังหวัด ได้แก่ คลองโผงเผง คลองบางบาล แม่น้ำน้อย และพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกันน้ำบริเวณ จ.ชัยนาท อ.สรรพยา และวัดสิงห์ (ต.โพนางดำตก), อ.เมืองสิงห์บุรี พรหมบุรี และอินทร์บุรี (วัดสิงห์ วัดเสือข้าม) จ.สิงห์บุรี, อ.ป่าโมก และไชโย (วัดไชโย) จ.อ่างทอง , อ.พระนครศรีอยุธยา บางบาล ผักไห่ (ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง) และเสนา (ต.หัวเวียง) จ.พระนครศรีอยุธยา, อ.เมืองปทุมธานี และสามโคก จ.ปทุมธานี, อ.ปากเกร็ด (ต.ท่าอิฐ) อ.เมืองนนทบุรี (ต.ไทรม้า และบางไผ่) จ.นนทบุรี ให้ขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และติดตามข่าวสารจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องพร้อมให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มกำลัง

“แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ จ.ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง สุพรรณบุรี ปทุมธานี นนทบุรี อุทัยธานี ลพบุรี พระนครศรีอยุธยา กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ โดยเฉพาะในพื้นที่เสี่ยง 7 จังหวัด ได้ประสานทุกจังหวัดให้เตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ล่วงหน้าแล้ว ขอให้ประชาชนขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และติดตามข่าวสารจากหน่วยงานราชการอย่างใกล้ชิด ย้ำประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลือ สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1567 ตลอด 24 ชม. ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ระดมกำลังเพื่อช่วยคลี่คลายความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชนโดยเร็ว”


ส่วนกรณีมีกระแสข่าวว่า มวลน้ำมหาศาลกำลังเคลื่อนตัวกระจายไปตามเส้นทางต่างๆ นั้น นายจิรายุ กล่าวว่า สทนช. และกรมชลประทาน ชี้แจงว่า ปัจจุบันสถานการณ์น้ำที่ จ.เชียงใหม่ มีแนวโน้มลดลง คาดว่าระดับน้ำจะกลับเข้าสู่ตลิ่งในวันพรุ่งนี้ (7 ต.ค.) และปริมาณน้ำส่วนนี้จะไหลต่อเนื่องเข้าสู่พื้นที่ อ.สารภี และเข้าสู่เขต ต.อุโมงค์ อ.เมือง จ.ลำพูน ลงสู่ลำน้ำแม่กวง แล้วจึงไหลผ่านตัวเมืองลำพูน ก่อนไหลกลับลงสู่แม่น้ำปิงอีกครั้ง ที่บ้านสบทา อ.ป่าซาง ซึ่งขณะนี้มีน้ำท่วมขังในพื้นที่ อ.สารภี จ.เชียงใหม่ บางพื้นที่ เช่น ต.หนองผึ้ง ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 0.8-1.50 เมตร จ.เชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำในจุดที่มีน้ำท่วมขัง เร่งระบายน้ำสู่พื้นที่ตอนล่าง ส่วนพื้นที่ อ.เมืองลำพูน (ต.เหมืองง่า อุโมงค์ ริมปิง ประตูป่า เวียงยอง หนองช้างคืน ต้นธง บ้านแป้น) จ.ลำพูน ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 0.3-0.5 เมตรแล้ว คาดการณ์ระดับน้ำท่วมสูงสุดบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำใน จ.ลำพูน อาจสูงได้ถึง 0.8-1.5 เมตร กรมชลประทานได้กำจัดวัชพืชในทางน้ำ และเตรียมการติดตั้งเครื่องสูบน้ำสำหรับการเร่งระบายน้ำในพื้นที่ โดยให้สามารถระบายน้ำได้เท่ากับที่ จ.เชียงใหม่ สูบระบายน้ำลงมา

สำหรับการเดินทางไปเส้นทางภาคเหนือ มีการปรับการให้บริการ เนื่องจากสถานการณ์น้ำท่วมเชียงใหม่ขยายวงกว้าง นายจิรายุ กล่าวว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้กำหนดจุดรับ-ส่งผู้โดยสารที่สถานีนครลำปาง สถานีลำพูน และสถานีขนส่งอาเขต (เก่า) จ.เชียงใหม่ โดยสายเหนือเปิดให้บริการเฉพาะเส้นทางกรุงเทพอภิวัฒน์-นครลำปาง-กรุงเทพอภิวัฒน์ เพราะสถานีเชียงใหม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ขณะนี้ไม่สามารถเปิดให้บริการได้ ผู้โดยสารที่ไม่ประสงค์เดินทางช่วงสถานีนครลำปาง-เชียงใหม่-นครลำปาง สามารถขอคืนค่าโดยสารได้ที่สถานีทุกแห่งทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ โทรศัพท์ 1690 หรือเฟซบุ๊กแฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย ตลอด 24 ชั่วโมง ทั้งนี้ คาดการณ์อีก 2 วัน จะสามารถเปิดทำการได้ตามปกติ

นายจิรายุ ยังกล่าวถึงการช่วยเหลือประชาชนและฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัยที่ จ.เชียงราย ว่า เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนยังคงปฏิบัติหน้าที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะที่ อ.แม่สาย ที่ถูกน้ำท่วมอีกระลอก ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการ ได้เปิดศูนย์อาชีวะอาสา ร่วมด้วยช่วยประชาชน ณ วัดผาสุการาม บ้านไม้ลุงขน และชุมชนเหมืองแดง ต.แม่สาย เพื่อให้บริการซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้าและรถจักรยานยนต์ที่เสียหายจากน้ำท่วม โดยวันนี้ (6 ต.ค.67) พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานของศูนย์ฯ พบว่ามีประชาชนเข้ารับบริการอย่างต่อเนื่อง จึงขยายเวลาให้บริการไปจนถึงวันที่ 15 ตุลาคมนี้


“หลังจาก ศธ. เปิดจุดซ่อมแซมเครื่องใช้ไฟฟ้าและรถจักรยานยนต์ ได้รับการตอบรับดีมาก สร้างความพอใจให้ประชาชนอย่างมาก จากเดิมจะปิดศูนย์ฯ วันพรุ่งนี้ (7 ต.ค.) ก็มีแผนขยายเวลาให้บริการจนถึงวันที่ 15 ตุลาคมนี้ เพื่อช่วยเหลือประชาชนให้มากที่สุด และอาจขยายเวลาเพิ่มเติมอีก” นายจิรายุ กล่าว

ประธาน ศปช.ส่วนหน้า ติดตามการสร้างบ้านน็อกดาวน์ ที่บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร จ.เชียงราย

นายจิรายุ ยังกล่าวว่า วันนี้ (6 ต.ค.67) น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะประธานศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม ส่วนหน้า (ศปช.ส่วนหน้า) จ.เชียงราย ลงพื้นที่ติดตามการสร้างบ้านน็อกดาวน์ให้ผู้ประสบอุทกภัย ที่บ้านกะเหรี่ยงรวมมิตร อ.เมืองเชียงราย หลังบ้านเรือนถูกน้ำในลำน้ำกกล้นตลิ่งหลากเข้าซัดเสียหายหลายหลังคาเรือน โดย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ได้สั่งการให้เรือนจำกลางเชียงราย นำเจ้าหน้าที่พร้อมผู้ต้องราชทัณฑ์ที่ใกล้พ้นโทษ ร่วมสร้างบ้านน็อกดาวน์ให้ผู้ประสบอุทกภัย มีเป้าหมายสร้างเสร็จหลังแรกในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ และจะเร่งดำเนินการสร้างหลังต่อๆ ไป เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบอุทกภัย

ระดมทีมเข้าช่วยเหลือดูแลสุขภาพช้างในศูนย์บริบาลช้าง

นายจิรายุ กล่าวเพิ่มเติมว่า ทีมสัตวแพทย์ของสถาบันคชบาลแห่งชาติ ในพระอุปถัมภ์ฯ องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ ร่วมกับหน่วยงานสังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ในพื้นที่ จ.เชียงใหม่ ได้เข้าช่วยเหลือช้างที่ศูนย์บริบาลช้าง ต.กื้ดช้าง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ หลังระดับน้ำในพื้นที่ลดลง โดยมีช้างคงเหลือ 116 เชือก (เพศเมีย 106 เชือก, เพศผู้ 10 เชือก) จากจำนวน 118 เชือก เบื้องต้นทุกเชือกอาการปกติ แต่ก็มีแผนฟื้นฟูและเฝ้าระวังโรคหลังน้ำท่วม นอกจากนี้ยังมีทีมสัตวแพทย์เข้าให้คำแนะนำกับปางช้างที่อยู่ตามลำน้ำ และช่วยดูแลรักษาหากมีช้างเจ็บป่วย รวมทั้งสนับสนุนอาหาร วัสดุอุปกรณ์ควบคุมช้าง สำหรับช้างที่ล้ม 2 เชือก สาเหตุมาจากไหลไปกับกระแสน้ำ แล้วกระแทกโขดหิน จนจมน้ำ พบซากที่บริเวณอุโมงค์น้ำ ตามที่เป็นข่าว.-319-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

แก๊งมอดไม้เหิม! โค่นป่า 40 ไร่ “เขาชะเมา” เหลือแต่ตอ

ระยอง 3 มิ.ย.- แก๊งมอดไม้เหิมเกริม ลักลอบโค่นป่าเกือบ 40 ไร่ กลางเขตป่าสงวนแห่งชาติ เขาชะเมา จ.ระยอง เหลือแต่ตอไม้ ชาวบ้านโวยไร้เจ้าหน้าที่ดูแล ผู้สื่อข่าวรับร้องเรียนจากชาวบ้านว่ามีการลักลอบตัดไม้ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ พิกัด ม.3 บ้านเขาพัง ถนนเขาชะเมา-แก่งหางแมว ช่วงหลัก รย.4060 กม.ที่ 8 ต.ห้วยทับมอญ อ.เขาชะเมา จ.ระยอง จึงลงพื้นที่ตรวจสอบ เบื้องต้นพบภาพชวนสะเทือนใจ พื้นที่กว่า 37-40 ไร่ถูกโค่นต้นไม้จนโล่งเตียนเหลือเพียงตอไม้เบญจพรรณ ต้นยางพาราถูกโค่นราบเป็นหน้ากลอง พื้นที่กลายเป็น “เขาหัวโล้น” ไร้เงาไม้ยืนต้น ด้าน นายบุญธรรม ผู้ใหญ่บ้าน บอกว่า พื้นที่ทั้งหมดในหมู่บ้านรวมถึงจุดที่เกิดเหตุอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ตามระเบียบให้ชาวบ้านใช้ประโยชน์ทำกินได้ ห้ามแพ้วถาง ตัดไม้โดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ โดยหน่วยงานที่รับผิดชอบ คือ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ 1 ระยอง 1 (รย.1) สังกัดกรมป่าไม้ ซึ่งรับผิดชอบดูแลป่าทั่วทั้ง อ.เขาชะเมาและอ.แกลง ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้พยายามติดต่อหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ […]

ชาวบ้านให้กำลังใจทหาร เชื่อพื้นที่อ้างสิทธิเป็นของไทย

อุบลราชธานี 3 มิ.ย.- ชาวบ้านแปดอุ้ม ยอมรับกังวลสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมให้กำลังใจทหารทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย นางดำ วัย 66 ปี ชาวบ้านแปดอุ้ม ตำบลโดมประดิษฐ์ อำเภอน้ำยืน จังหวัดอุบลราชธานี ยอมรับตอนนี้ครอบครัวอยู่อย่างกังวลกับสถานการณ์ แต่ยังอุ่นใจที่ทหารเข้ามาในพื้นที่ปกป้องรักษาอธิปไตยไทย พร้อมเล่าอีกว่าเมื่อก่อนเคยขึ้นไปด้านบน เห็นคูเลตของกัมพูชาขยับเข้ามาเรื่อยๆ ทั้งที่แนวเขตแบ่งตามแนวสันปันน้ำไทย-กัมพูชา ส่วนจุดปะทะล่าสุดยืนยันว่าเป็นของไทย ชาวบ้านรู้กันตั้งแต่บรรพบุรุษรุ่นทวดทำเกษตรทำไร่บริเวณนั้น ตนเองก็เคยขึ้นไปทำไร่กันสนุกสนานในพื้นที่นั้นจนถึงเนิน 500 นางดำ ยังเล่าต่อไปว่า เดิมทีหมู่บ้านแปดอุ้ม ไม่ได้อยู่ด้านล่าง แต่อยู่บนเขา ใกล้จุดปะทะ แต่ในปี 2520 คอมมิวนิสต์เวียดนามและเขมรแดงเป็นพันธมิตรกันสู้รบกับรัฐบาลกัมพูชา ทางเขมรแดงได้เข้ามาต้อนชาวบ้านแปดอุ้มไปเป็นทหาร ส่วนบ้านแปดอุ้มปัจจุบันเป็นหมู่บ้านที่ทางการไทยจัดสรรให้ชาวบ้านใหม่ในปี 2522 โดยให้ชาวบ้านที่อยู่ด้านบนลงมาอยู่ด้านล่าง ด้านนายทอน อายุ 86 ปี ชาวบ้านแปดอุ้มอีกคน บอกว่า ติดตามข่าวสารทางทหาร ทราบข่าวลือของแม่ทัพภาคที่ 2 จึงอยากให้กำลังใจทหาร ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักรักษาลูกหลานทหารไทย .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ​ชี้​ต้องยึดสันติวิธี ปมไทย-กัมพูชา

สนามหลวง 3 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” ​ชี้​ปมไทย-กัมพูชา ต้องยึดสันติวิธี หลีกเลี่ยงความรุนแรง​ คำนึงถึงชีวิต-​ความสูญเสีย ขณะที่ทหารพร้อมยึดมั่นรักษาอธิปไตย ส่วนกัมพูชาเตรียมนำเรื่องขึ้นศาลโลก ให้เป็นเรื่องของการเจรจา ย้ำ​ใช้สงคราม​เป็นมาตรการสุด​ท้าย นายภูมิธรรม​ เวชยชัย​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม​ กล่าวถึง จุดยืนของไทยต่อสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา ว่า​ ตนได้บอกไปหลายครั้งแล้ว คือยึดมั่นแนวทางแก้ไขแบบสันติวิธี พยายามหลีกเลี่ยงความรุนแรง และยึดมั่นในการรักษาอธิปไตย และผลประโยชน์ของประชาชน ที่ผ่านมาเราได้พยายามแสดงจุดยืนเหล่านี้ และพยายามหาช่องทางในการเจรจา เพื่อหาทางยุติได้อย่างสงบ ขณะเดียวกันเราก็ไม่ประมาท มีการประสานงานกันอย่างทั่วถึงตลอดเวลากับทางกองทัพ กองทัพภาค ผู้บัญชาการทหารบก​ กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ สิ่งที่เราทำขณะนี้ในแง่ของกองทัพ เราเตรียมความพร้อม เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศ เท่าที่ตรวจดูในรายละเอียดต่างๆ มีการวางกำลังที่สามารถปกป้องอธิปไตยของประเทศได้โดยมั่นใจ และกองทัพก็ได้มีการเตรียมการอย่างเหมาะสม ไม่มีความบกพร่อง ส่วนเรื่องของการเจรจา​ นายภูมิธรรม​ ยืนยันว่า​ เราได้มีการพูดคุยกันมาตลอด ทั้งกระทรวงกลาโหม​ กองทัพ​ และกระทรวงการต่างประเทศ ว่าสิ่งที่เราอยากจะแก้ไขปัญหา ต้องคุยกันภายในให้เป็นเอกภาพ เมื่อวานนี้ก็ได้มีการพูดคุยกันตลอดทั้งวัน “สิ่งที่สำคัญก็คือ เราจะใช้มาตรการในการใช้ความรุนแรง หรือสงคราม จะเป็นมาตรการสุดท้าย […]

South Korea's presidential election voting place

เกาหลีใต้เลือกตั้ง ปธน.หลังการเมืองวุ่นหลายเดือน

โซล 3 มิ.ย.- ชาวเกาหลีใต้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันนี้ หลังจากการเมืองตกอยู่ในความวุ่นวาย นับตั้งแต่อดีตประธานาธิบดีประกาศใช้กฎอัยการศึกเมื่อเดือนธันวาคมปีก่อน ผู้มีสิทธิออกเสียงเลือกตั้ง 44.39 ล้านคน ในเกาหลีใต้เริ่มออกไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีตามหน่วยเลือกตั้งต่าง ๆ ทั่วประเทศในวันนี้ ที่เปิดให้ลงคะแนนตั้งแต่เวลา 06.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 2 ชั่วโมง ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติของเกาหลีใต้ส่งกำลังตำรวจทั้งหมด 28,590 นายไปประจำการตามคูหาเลือกตั้งทั้ง 14,295 แห่งทั่วประเทศเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย การลงคะแนนจะเสร็จสิ้นในเวลา 20.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น คาดว่าจะทราบผลเลือกตั้งได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังปิดหีบ โดยเมื่อวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ที่แล้ว มีการจัดให้ลงคะแนนเลือกตั้งล่วงหน้า มีผู้ออกไปใช้สิทธิลงคะแนนมากกว่า 15 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 34.74 สูงที่สุดเป็นอันดับ 2 นับตั้งแต่เริ่มให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าได้ตั้งแต่ปี 2557 การเลือกตั้งประธานาธิบดีเกาหลีใต้ต้องจัดขึ้นก่อนกำหนดเดิมที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 มีนาคม 2570 หลังเกิดความวุ่นวายทางการเมืองนานหลายเดือน จากการที่นายยุน ซ็อก ยอล อดีตประธานาธิบดี ประกาศใช้กฎอัยการศึกเป็นเวลาสั้นๆ เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ทำให้เขาถูกถอดถอนออกจากตำแหน่งในเวลาต่อมา หลายฝ่ายมองว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นการลงประชามติต่อการกระทำของนายยุน มากกว่าการชูนโยบายแข่งขันกันของผู้สมัครชิงตำแหน่ง […]