น้ำท่วมหน้า รพ.สุโขทัย เริ่มคลี่คลาย

สุโขทัย 8 ต.ค. – สถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองสุโขทัย เริ่มคลี่คลาย ด้านโรงพยาบาลสุโขทัย เปิดประตูหน้าให้รถทุกชนิดเข้า-ออกได้แล้ว ขณะที่ สทนช.-กรมชลประทาน ระดมทุกมาตรการลดปริมาณน้ำลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง


วานนี้ (7 ต.ค.) ระดับน้ำที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้โรงพยาบาลสุโขทัย ต้องนำกระสอบทรายบิ๊กแบ็กมาปิดกั้นขวางทางน้ำ บริเวณด้านหน้าทางเข้า-ออก ล่าสุดสถานการณ์คลี่คลายแล้ว ประชาชนสามารถใช้บริการโรงพยาบาลสุโขทัยได้ตามปกติ

สทนช.ประสานกรมชลฯ ป้องกันลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) กล่าวว่า ขณะนี้ สทนช. ประสานกับกรมชลประทาน เพื่อป้องกันพื้นที่เศรษฐกิจในเขตตัวเมืองสุโขทัย รวมถึงการรับน้ำเข้าแก้มลิงทุ่งทะเลหลวง ที่ขณะนี้มีปริมาณน้ำมาก


การระบายน้ำจากทุ่งลุ่มต่ำต่างๆ ในพื้นที่ จ.พิษณุโลก และพิจิตร โดยเฉพาะทุ่งบางระกำ ที่มีปริมาณน้ำเกินความจุ ได้ปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนสิริกิติ์ให้อยู่ในอัตรา 5 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน ไปจนถึงวันที่ 13 ตุลาคมนี้ เพื่อลดปริมาณน้ำในแม่น้ำน่าน ซึ่งจะช่วยให้สามารถระบายน้ำออกจากทุ่งได้ดีขึ้น

ส่วนน้ำที่ท่วมในลุ่มน้ำปิงบริเวณ จ.เชียงใหม่ และลำพูน จะไหลลงสู่เขื่อนภูมิพล จ.ตาก ไม่ส่งผลกระทบต่อปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา โดยประเมินว่าน้ำที่จะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยาที่ จ.นครสวรรค์ จะสูงสุดวันพรุ่งนี้ (9 ต.ค.) ในอัตรา 2,500 ลบ.ม.ต่อวินาที ได้ประสานให้ใช้บึงบอระเพ็ดแก้มลิงหน่วงน้ำแม่น้ำน่านที่ไหลมาจาก จ.พิษณุโลก และพิจิตร เข้าไปเก็บไว้ ก่อนที่จะไหลลงสู่แม่น้ำเจ้าพระยา

น้ำแม่น้ำเจ้าพระยาจะมีน้ำจากแม่น้ำสะแกกรังไหลมาสมทบ ทำให้มีน้ำไหลเข้าเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 2,700 ลบ.ม.ต่อวินาที คาดว่าเป็นอัตราสูงสุดของฤดูฝนนี้แล้ว


โดยกรมชลประทานจะพยายามคงอัตราการระบายท้ายเขื่อนเจ้าพระยาไม่ให้เกิน 2,200 ลบ.ม.ต่อวินาที เพื่อป้องกันผลกระทบต่อประชาชนท้ายเขื่อนให้ได้มากที่สุด ยกเว้นมีฝนตกเพิ่ม อาจปรับการระบายเป็นไม่เกิน 2,400 ลบ.ม.ต่อวินาที

นายธเนศร์ สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักการระบายและอุทกวิทยา กรมชลประทาน กล่าวว่า วันพรุ่งนี้ (9 ต.ค.) กรมชลประทานจะทยอยปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ลงอีกจาก 100 ลบ.ม.ต่อวินาที เหลือ 50 ลบ.ม.ต่อวินาที จากนั้นจะปรับลดการระบายน้ำอีกครั้งในวันถัดไป (10 ต.ค. ) เหลืออัตรา 10 ลบ.ม.ต่อวินาที เพื่อลดปริมาณน้ำที่จะไหลลงไปสมทบกับแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นการลดผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่างในเขตกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล ซึ่งในช่วงวันที่ 13-24 ตุลาคม จะได้รับอิทธิพลจากภาวะน้ำทะเลหนุนสูง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ