7 ต.ค. – กรมชลประทาน จัดการจราจรน้ำระหว่างเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ เพื่อลดผลกระทบต่อพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยาตอนล่าง
นายธเนศร์ สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา กล่าวว่า ได้ใช้เขื่อนเจ้าพระยาหน่วงน้ำจากตอนบนไว้ที่หน้าเขื่อน เพื่อควบคุมการระบายที่อัตรา 2,199 ลบ.ม./วินาที ไว้ให้นานที่สุด แต่ถ้าน้ำจากแม่น้ำยมที่ท่วม จ.สุโขทัย ไหลลงมาเติมในระยะต่อไป เขื่อนเจ้าพระยาอาจต้องปรับเพิ่มการระบายอีกครั้ง แต่จะไม่ให้เกิน 2,400 ลบ.ม./วินาที
เมื่อเขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายน้ำ ทำให้ต้องจัดการจราจรน้ำเพื่อลดผลกระทบต่อพื้นที่เจ้าพระยาตอนล่าง ด้วยการลดการระบายจากเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ลงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมา วันนี้ปรับลดจาก 200 ลบ.ม./วินาที เป็น 150 ลบ.ม./วินาที จากนั้นเช้าวันพรุ่งนี้ ผ8 ต.ค.) จะปรับลดการระบายเป็น 100 ลบ.ม./วินาที แล้วคงการระบายในอัตราดังกล่าวไว้
สำหรับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่าน อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เฉลี่ย 1,990 ลบ.ม. ยังน้อยกว่าความจุลำน้ำที่ 3,500 ลบ.ม./วินาที ดังนั้น น้ำที่ระบายจากเขื่อนเจ้าพระยาจะไม่ทำให้ระดับน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาที่ไหลผ่านกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพิ่มสูงขึ้นอย่างแน่นอน แต่พื้นที่ริมแม่น้ำหรือในพื้นที่ที่มีระดับตลิ่งต่ำจะได้รับผลกระทบในช่วงที่มีน้ำทะเลหนุนสูง
กรมชลประทานประสานกับกรุงเทพมหานคร บริหารจัดการน้ำ เร่งระบายออกทะเล เพื่อพร่องน้ำให้คลองต่างๆ รองรับน้ำจากฝนอาจตกลงมา.-สำนักข่าวไทย