“ปานเทพ” ชี้หาก “หมอบุญ” ไม่ผิดต้องกลับมาแสดงความบริสุทธิ์สู้คดี

ม.ธรรมศาสตร์ 24 พ.ย. – “ปานเทพ” ชี้หาก “หมอบุญ” ไม่ผิดต้องกลับมาแสดงความบริสุทธิ์สู้คดี แต่กลับมีพฤติกรรมหลบหนี ห่วงถูกดองหลังหลายคดีในมือดีเอสไอไม่คืบหน้า


นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต เปิดเผยกรณีคดีของ นพ.บุญ วนาสิน หรือหมอบุญ หลอกลงทุน 7,500 ล้านบาท ว่าขณะนี้มีการอ้างการเซ็นลายเซ็นปลอมหลายชั้น โดยไม่ใช่แค่ภรรยาหรือลูก แต่ยังมีการแอบอ้างว่ามีการปลอมลายเซ็นของหมอบุญด้วย สิ่งเหล่านี้เป็นข้ออ้างเพื่ออำพรางคนที่ไปเซ็น หรืออาจจะมีการปลอมกันจริงก็ต้องมีการแสวงหาข้อเท็จจริงกันต่อไป แต่หมอบุญกลับ มีพฤติกรรมหลบหนีหายไป โดยไม่ได้อยู่ในประเทศไทย ซึ่งหากบริสุทธิ์จริงควรจะปรากฏตัวเพื่อสู้คดี ขณะเดียวกันเป็นที่น่าสงสัยว่า หมอบุญ วัย 86 ปี จะต้องการเอาทรัพย์สินจำนวนมากเหล่านี้ไปทำอะไร ไม่คุ้มค่ากับชีวิตของผู้สูงวัย ให้กลับมายอมรับความจริงดีกว่า เพื่อจะได้ให้ผู้เสียหายได้รับการเยียวยา

นายปานเทพ กล่าวอีกว่า ในส่วนความเสียหายตอนนี้เป็นเงิน 7,500 ล้านบาท แต่ในความเป็นจริงมูลค่าความเสียหายอาจจะมากถึง 10,000 ล้านบาท เพราะมีในส่วนของการกู้เงินเพิ่มเข้ามา ส่วนตัวผู้เสียหายเองก็มีความหลากหลาย ตั้งแต่เศรษฐีใหญ่ รวมไปถึงประชาชนทั่วไป ยังไม่นับผู้ถือหุ้นที่กระทบกระเทือนไปตามๆ กัน


นายปานเทพ กล่าวอีกว่า ในเรื่องนี้มีจุดที่ตนเป็นกังวล คือเรื่องการดำเนินงานของกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ที่มีหลายคดีไปกองอยู่ที่นั่น ไม่ว่าจะเป็นคดีในตลาดบริษัทหลักทรัพย์ที่เข้าเกณฑ์หลายบริษัท กรณีที่ทำแพลตฟอร์มขายคริปโตฯ แล้วผิดกฎหมาย พอดีไปกองอยู่ที่ดีเอสไอและยังไม่มีความคืบหน้า รัฐบาลจึงควรทบทวนถึงองค์กรเหล่านี้ที่มีการทำคดีล่าช้า ทำให้เกิดความเป็นห่วงว่าถ้าคดีใดไปถึงที่ดีเอสไอแล้วจะถูกล็อกเอาไว้เป็นปีๆ แล้วจะทำอย่างไรถึงจะทำให้เกิดความรัดกุม มีประสิทธิภาพและเป็นธรรมมากขึ้น ไม่อย่างนั้นประชาชนเดือดร้อนแล้วก็พึ่งพาใครไม่ได้เสียที

นายปานเทพ ระบุอีกว่า ในส่วนคดีของหมอบุญ ชัดเจนแล้วว่ามีการปลอมแปลงเอกสารและเอาเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์ ซึ่งมีความคล้ายกับคดีของทนายตั้ม ที่บอกว่ามีโครงการแต่ไม่ได้ลงทุนในโครงการ และมีการนำเงินไปใช้อย่างอื่น แต่คดีของหมอบุญใหญ่กว่า และมีความเกี่ยวข้องกับผู้คนจำนวนมาก ซึ่งคดีที่มีมูลค่าความเสียหายจำนวนมากนี้ก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดการเตะถ่วงวิ่งเต้นกันหรือไม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ประชาชนต้องจับตามอง.-319-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เหล้าเถื่อนลาว

เสียชีวิตรายที่ 6 คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว

คลัสเตอร์เหล้าเถื่อนในลาว มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเสียชีวิตเพิ่มรายที่ 6 เป็นหญิงชาวออสเตรเลีย เสียชีวิตขณะรักษาตัวในไทย

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษา ทบ.

ย้ายเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก ช่วยปฏิบัติราชการที่กองบัญชาการกองทัพบก หลังถูกร้องทำร้ายร่างกายผู้ใต้บังคับบัญชา พร้อมช่วยเจ้าทุกข์ย้ายหน่วยตามร้องขอ

ไฟไหม้โรงงานพัดลม เผาวอดเสียหายกว่า 50 ล้าน

ไฟไหม้โรงงานผลิตพัดลมรายใหญ่ จ.สมุทรสาคร ระดมรถดับเพลิงระงับเหตุ กว่า 5 ชม. จึงควบคุมไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นเสียหายกว่า 50 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

“ทนายสายหยุด” จ่อถอนตัวคดีตั้ม หวั่นติดร่างแห

“ทนายสายหยุด” เตรียมถอนตัวเป็นทนายให้ “ตั้ม” เผยในมือมีแต่พยานเท็จ ปิดบังข้อเท็จจริง เสี่ยงเป็นผู้ร่วมกระทำผิด

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ “ธัญพร มุ่งเจริญพร” เข้าป้าย

ศึกชิงนายก อบจ.สุรินทร์ ลุ้นกันจนนาทีสุดท้าย “ธัญพร มุ่งเจริญพร” พลิกชนะ “พรชัย มุ่งเจริญพร” แชมป์เก่าแบบขาดลอย คว้าเก้าอี้มาครอง นั่งนายก อบจ.หญิงคนแรกของจังหวัด

เลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าคึกคัก

ภาพรวมการใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.อุดรธานี ครึ่งวันเช้าค่อนข้างคึกคัก มีประชาชนทยอยใช้สิทธิต่อเนื่อง ยังไม่มีรายงานการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง

ปชช.ตื่นตัวใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ท่ามกลางสายฝน

ชาวนครศรีธรรมราช ตื่นตัวออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ. ท่ามกลางสายฝน กกต.เผยภาพรวมครึ่งวันเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ยังไม่มีรายงานการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง