นิวยอร์ก 5 พ.ค.- ผลการศึกษาใหม่ปรับเพิ่มประมาณการผู้เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในสหรัฐเกือบสองเท่าเป็นเกือบ 135,000 คน ภายในต้นเดือนสิงหาคม เนื่องจากมีการผ่อนคลายมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคมมากขึ้น
สถาบันการวัดและการประเมินสุขภาพของมหาวิทยาลัยวอชิงตันแถลงว่า ผลการศึกษาใหม่คาดว่ารัฐส่วนใหญ่ในสหรัฐจะมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เพิ่มขึ้นอันเป็นผลจากการผ่อนคลายคำสั่งอยู่บ้านและปิดธุรกิจที่คาดว่าจะมีขึ้นใน 31 รัฐภายในวันที่ 11 พฤษภาคม โดยคาดว่าการระบาดในหลายรัฐจะยืดเยื้อไปตลอดฤดูร้อนนี้ ยอดผู้เสียชีวิตสะสมในสหรัฐจะมีตั้งแต่ 95,092 คน ไปจนถึง 242,890 คน ภายในวันที่ 4 สิงหาคม แต่แนวโน้มที่เป็นไปได้มากที่สุดคือ 134,475 คน ซึ่งเป็นช่วงกลาง ๆ เพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าจากที่ประมาณการเมื่อวันที่ 29 เมษายนว่า จะมีผู้เสียชีวิตตั้งแต่ 59,330 คน ไปจนถึง 114,200 คน และน่าจะอยู่ที่ 72,400 คน ซึ่งเป็นช่วงกลาง ๆ ผลการศึกษาระบุว่า การที่คนมีปฏิสัมพันธ์กันมากขึ้นจะทำให้มีการแพร่เชื้อมากขึ้น จากเดิมที่คิดว่าจำนวนผู้ติดเชื้อจะลดลงเพราะอากาศอุ่นขึ้น มีการตรวจหาเชื้อทั่วถึงขึ้น และมีการตามพบผู้ใกล้ชิดผู้ติดเชื้อแต่เนิ่น ๆ
ตัวเลขนี้สอดคล้องกับการคาดการณ์เป็นการภายในของรัฐบาลสหรัฐที่หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์และแหล่งข่าวรอยเตอร์เปิดเผยว่า รัฐบาลคาดว่าจะมีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจากวันละ 2,000 คนในปัจจุบันเป็นวันละ 3,000 คนภายในสิ้นเดือนนี้ และจะมีผู้ป่วยใหม่เพิ่มขึ้นจากวันละ 25,000 คนในปัจจุบันเป็นวันละ 200,000 คนภายในสิ้นเดือนนี้ โฆษกทำเนียบขาวปฏิเสธว่า ไม่ใช่การคาดการณ์ของรัฐบาล ขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์เปลี่ยนแปลงตัวเลขอยู่ตลอดเวลา เขากล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า คงจะมีคนเสียชีวิตไม่ถึง 100,000 คน แต่ยอมรับเมื่อวันอาทิตย์ว่า อาจจะมีตั้งแต่ 75,800 คนถึง 100,000 คน.-สำนักข่าวไทย