กทม. 6 เม.ย.-เข้าสู่วันที่ 10 ค้นหาผู้ประสบภัยในซากตึก สตง.ถล่ม “ผู้ว่าฯ ชัชชาติ” คาดโซน C น่าจะพบผู้เสียชีวิตมากที่สุด เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตบริเวณนี้ประมาณ 10-20 ร่าง ด้าน “ช่างเบิร์ด” ที่ทำงานวางระบบไฟฟ้า เผยเจรจากับบริษัทผู้จ้างมาแล้ว 3 ครั้ง แต่จนถึงวันนี้ยังไม่ได้รับเงินที่ค้างอยู่
ย้อนไทม์ไลน์การเจอชิ้นส่วนศพ ล่าสุดเมื่อเวลา 22.15 น. พบชิ้นส่วน 2 ชิ้น เป็นท่อนบนและท่อนล่าง ในโซน B ต่อมาเวลา 01.15 น. เจอชิ้นส่วนที่คาดว่าเป็นมือ (โซน B) 06.23 น. เจอครึ่งบน ไม่ทราบเพศ (โซน C) 06.59 น. เจอศีรษะ (โซน B) มีการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลแล้วว่าเป็นผู้เสียชีวิต 2 ราย จากเหตุการณ์นี้

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยความคืบหน้าล่าสุดว่า ตอนนี้จากการประเมินคาดว่า จุดที่น่าจะพบผู้เสียชีวิตมากที่สุดอาจจะเป็นบริเวณโซน C จึงจะใช้เครื่องจักรหนักเข้าไปค้นบริเวณนี้ เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตอยู่บริเวณนี้ประมาณ 10-20 ร่าง ยังไม่พบสัญญาณชีพ และการร้องขอความช่วยเหลือ
สำหรับมาตรการค้นหาผู้สูญหายในอาคาร สตง. ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมายังคงทำงานไม่หยุด ชิ้นส่วนที่เจอเมื่อคืน ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นบุคคลเดียวกันหรือไม่ ต้องให้เจ้าหน้าที่ทำการตรวจอัตลักษณ์บุคคลเสียก่อน สำหรับวันนี้ก็ยังคงใช้แผนเดิม คือให้เครื่องจักรหนักทำการขุดเจาะรื้อถอนซากอาคารออกไป เมื่อพบโพรงก็จะส่งชุด K9 และเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินเข้าไปตรวจสอบ ส่วนเครื่องจักรหนักก็จะหยุดทำงานทันที เพื่อความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่และสุนัข K9

ขณะเดียวกัน นายฐิติพงศ์ โพธิพรหม หรือ ช่างเบิร์ด บอกว่า ตนทำงานวางระบบไฟฟ้าให้กับอาคาร สตง.แห่งใหม่ ตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 ถึงมกราคม 2568 ที่ผ่านมา เคยมีการเจรจากับบริษัทผู้จ้างมาแล้ว 3 ครั้ง พร้อมทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษร แต่บริษัทก็ยังไม่ยอมจ่ายค่าจ้าง จนตนและผู้รับเหมารายอื่นต้องประท้วงไปเมื่อต้นเดือนที่แล้ว และมีการทำสัญญาเป็นลายลักษณ์อักษรอีกหนึ่งครั้ง โดยระบุในสัญญาว่าจะจ่ายเงินในวันที่ 24 มีนาคม 2568 แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้รับเงินที่ค้างอยู่อีกเช่นเดิม เมื่อสอบถามไปยังบริษัทผู้ว่าจ้างก็ระบุว่า สตง. ยังไม่เซ็นอนุมัติเงินให้กับบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ทำให้บริษัทผู้ว่าจ้างไม่มีเงินมาจ่ายให้กับผู้รับเหมา
อีกทั้งยังเคยเข้าไปร้องกับกรมคุ้มครองแรงงาน แต่ถูกปฏิเสธ อ้างว่าตนไม่ใช่ลูกจ้าง แต่เป็นผู้รับเหมา จึงไม่สามารถดำเนินการได้ เช่นเดียวกันกับที่ สน.บางซื่อ ที่เคยไปแจ้งความด้วย วันนี้ตนและผู้รับเหมารายอื่น รวมกว่า 10 ราย จึงได้เดินทางมาเพื่อพูดคุยไกล่เกลี่ยกับบริษัทผู้ว่าจ้าง ซึ่งก็ยังไม่ทราบว่าผลการเจรจาจะเป็นอย่างไร
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ 200,000 บาท ร่วมกับสุนัขทรงเลี้ยง “คุณเอ็มไอซิกซ์” เพื่อช่วยเหลือเป็นค่ารักษาพยาบาลและค่าอาหารเสริมให้กับสุนัข K9 ขององค์การสุนัขกู้ภัยแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย ที่ร่วมปฏิบัติภารกิจค้นหาผู้สูญหายในเหตุการณ์ครั้งนี้ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้.-สำนักข่าวไทย