รวบแล้วมือปาหินใส่รถ ย่านบางนา-ตราด อ้างขาดสติเพราะดื่มเหล้า

2 พ.ค. – รวบแล้วมือปาหินใส่รถประชาชน ย่านบางนา-ตราด อ้างขาดสติเพราะดื่มเหล้า พบประวัติเคยถูกจับมาแล้ว 12 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 13

จากกรณีเจ้าของรถยนต์วอลโว่สีดำ เข้าแจ้งความกับตำรวจ สน.บางนา ว่ามีก้อนปูนตกใส่กระจกหน้ารถได้รับความเสียหาย บริเวณถนนบางนา-ตราด มุ่งหน้าแยกบางหน้า ก่อนต่อมาตำรวจจะตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบว่ามีชายคนหนึ่งถือถุงพลาสติกบรรจุก้อนปูนขนาดใหญ่ขึ้นไปบนสะพานลอย ก่อนปาใส่รถของประชาชน ตำรวจ สน.บางนา จึงออกหมายจับตามภาพกล้องวงจรปิด

จากนั้นตำรวจได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดีว่าชายตามภาพกล้องวงจรปิดคือ นายชลัด อายุ 45 ปี มีที่อยู่ตามบัตรประชาชนอยู่ที่ซอยเสรีไทย 43 แขวงคลองกุ่ม เขตบึงกุ่ม กรุงเทพมหานคร โดยหลบหนีไปนอนอยู่บริเวณหน้าร้านขายของ แยกถนนนวมินทร์ตัดถนนประเสริฐมนูญกิจ แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม ตำรวจจึงไปจับกุมตัว ก่อนคุมตัวไปสอบสวนที่ สน.บางนา โดยมี พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมสอบปากคำ

ระหว่างควบคุมตัว นายชลัดยอมรับว่าก่อเหตุจริง เพราะดื่มเหล้าขาวขนาดเท่าขวดเครื่องดื่มชูกำลัง ทำให้ขาดสติ ประกอบกับมีอาการเครียดที่หาเงินไม่ได้ จะระบายด้วยการปาก้อนปูนใส่รถประชาชน ส่วนก้อนปูนหยิบมามาจากข้างทาง ไม่ได้เตรียมการมาแต่แรก โดยประมาณบ่าย 3 โมง ของวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา เดินออกจากซอยไทยสมุทร ไปขึ้นรถสองแถวหน้าปากซอย แล้วไปลงที่ปากซอยบางนา-ตราด 46 จากนั้นถือถุงบรรจุก้อนปูนขึ้นไปบนสะพานลอยฝั่งเคหะบางนา โดยสวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า และปาหินลงมาใส่รถประชาชน 2 ก้อน และโดนรถประชาชนทั้ง 2 ก้อน ก่อนจะเดินลงจากสะพานลอยและขึ้นรถมินิบัสสีส้มหลบหนีไป และไปก่อเหตุอีกครั้งในเวลาประมาณ 6 โมงเย็น ที่สะพานลอยหน้าห้างเมกะ บางนา โยนหินใส่รถประชาชนไปอีก 2 ก้อน ก่อนหลบหนีกลับมาที่ย่านเสรีไทย กระทั่งถูกจับกุม

ทั้งนี้ ระหว่างสอบปากคำ นายชลัด ยืนยันว่าวันเกิดเหตุไม่ได้เสพยาเสพติด แต่ตำรวจพบประวัติเคยถูกจับคดีเสพยาเสพติด 10 ครั้ง และลักขโมยของอีก 2 ครั้ง การถูกจับกุมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 13 ยืนยันว่าไม่เคยก่อเหตุปาหินใส่รถประชาชนมาก่อน และไม่ได้ลอกเลียนแบบเหตุการณ์ที่ถนนพระราม 2 เพราะไม่มีทีวีดูข่าว และไม่มีเงิน เป็นเพียงคนเร่ร่อน พร้อมยกมือไหว้ขอโทษผู้เสียหาย

ขณะที่นางสาวอรสินี อายุ 20 ปี ผู้เสียหาย ขอบคุณตำรวจที่สามารถจับกุมตัวคนร้ายได้อย่างรวดเร็ว ยืนยันว่าไม่เชื่อว่าผู้ต้องหาจะไม่ตั้งใจ เพราะจากกล้องหน้ารถที่จับภาพไว้ได้พบว่าผู้ต้องหามีการเล็งหินก่อนปา

เบื้องต้น พล.ต.ต.นพศิลป์ เปิดเผยว่า คดีนี้เป็นคดีร้ายแรง เบื้องต้นพนักงานสอบสวนจะแจ้งข้อหาพยายามฆ่า ซึ่งจะทำให้ผู้ต้องหาถูกจำคุกหลายปี โดยจะนำตัวไปฝากขังต่อศาลอาญาพระโขนง ในวันอาทิตย์ที่ 4 เมษายนนี้.-สำนักข่าวไทย