ระเบิดศึกฟุตบอลเยาวชน 8 คน “GLO CUP 2025” เฟ้นเด็กไทย 7 ภาคทั่วประเทศ ลุ้นเก็บตัวที่ประเทศญี่ปุ่น 6 เดือน

2 พ.ค.68-สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล (GLO) ร่วมกับมูลนิธิพัฒนาฟุตบอลไทย ร่วมยืนยันความพร้อมจัดการแข่งขันฟุตบอลเยาวชน 8 คน ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย “GLO CUP 2025 THAILAND CHAMPIONSHIP” รุ่นอายุไม่เกิน 13 ปี และ รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี เงินรางวัลรวมกว่า 1 ล้านบาท พร้อมมอบโอกาสพิเศษให้เด็กไทย ต่อยอดพัฒนาด้วยการไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่ประเทศญี่ปุ่น ตามแนวทาง Japan Way กับ สโมสร “อวิสป้า ฟุกุโอกะ” ทีมชั้นนำของเจลีก (J league) ที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นเวลา 6 เดือน  


ฟุตบอลเยาวชน GLO CUP 2025 เป็นการแข่งขันฟุตบอล 8 คน รุ่นอายุไม่เกิน 13 ปี และ รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี ครอบคลุมทั้ง 7 ภูมิภาคทั่วประเทศรวม 672 ทีม เพื่อสร้างโอกาสให้กับสังคม ทั้งยังเป็นการนำรูปแบบและกติกาการแข่งขันที่เหมาะสมกับการพัฒนาฟุตบอลไทยแบบยั่งยืน รวมถึงพัฒนาศักยภาพของเยาวชนไทยในแบบที่ถูกต้อง

สำหรับรูปแบบการแข่งขันนั้นจะแบ่งออกเป็น 7 ภาค เปิดรับสมัครระหว่างวันที่ 3-19 พฤษภาคม 2568 รอบภาค ภาคละ 48 ทีม คัดหาตัวแทนภาคเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศประเทศไทยรวม 32 ทีม ในแต่ละรุ่น นอกจากนี้ยังมีการเฟ้นหา GLO STAR นักฟุตบอลฝีเท้าดีที่มีแววในการพัฒนาต่อยอดจำนวน 30 คน  (รุ่นละ 15 คน) เพื่อเข้าแคมป์เก็บตัวระหว่างวันที่ 29 กันยายนถึง 13 ตุลาคม พ.ศ. 2568 และคัดหา 6 คนสุดท้ายคว้าโอกาสพิเศษเดินทางไปร่วมฝึกซ้อมฟุตบอล และฝึกด้านระเบียบวินัยซึ่งเป็นรากฐานของการเป็น นักฟุตบอลอาชีพ กับ อวิสปา ฟุกุโอกะ สโมสรระดับเจลีก 1 ลีกสูงสุดของญี่ปุ่น เป็นเวลา 6 เดือน  


โดยมีมูลนิธิพัฒนาฟุตบอลไทย นำโดย “เดอะ ตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ตำนานกองหน้าไทยตลอดกาล และตำนานทีมชาติไทย พร้อมทีมงานอีกมากมาย มาร่วมคัดเลือกอย่างมีมาตรฐาน เป็นธรรม และเคร่งครัดตามเกณฑ์พิจารณา ทั้งยังมีโอกาสกระทบไหล่ซุปเปอร์สตาร์วงการฟุตบอลไทยอย่าง เจ-ชนาธิป สรงกระสินธิ์ และ มุ้ย- ธีรศิลป์ แดงดา ที่พร้อมให้คำแนะนำในฐานะรุ่นพี่ที่เคยไปสร้างชื่อในเวทีเจลีกมาก่อนหน้า

นายลวรรณ แสงสนิท ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานกรรมการสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวว่า นอกจากภารกิจในการนำส่งรายได้เข้ารัฐ สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลยังให้ความสำคัญต่อการดูแลสังคม โดยเฉพาะการให้โอกาส และการสร้างอนาคตให้กับเด็กไทย ซึ่งจะเป็นกำลังหลักของประเทศชาติต่อไปในอนาคต โดยการจัดแข่งขัน GLO CUP 2025 จะจัดขึ้นทั่วทั้ง 7 ภูมิภาค คาดว่าจะมีผู้เข้าแข่งขันทั้งผู้เล่น และผู้ฝึกสอนกว่า 15,000 คน เป็นการส่งเสริมเยาวชนให้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ หันมาออกกำลังกาย และห่างไกลจากการพนัน และมากกว่านั้น คือ การมอบโอกาสและพัฒนาสุดยอดนักเตะไทยแห่งอนาคตคนใหม่

“ปัจจุบันปัญหาที่เกี่ยวข้องกับเด็ก และเยาวชน นั้นยังเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไขโดยเฉพาะการเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการพนัน และ ยาเสพติด ดังนั้น การให้เด็กและเยาวชนได้ใช้เวลาว่างในการออกกำลังกาย ทำให้สุขภาพแข็งแรง และสามารถลดเวลาการเข้าถึงอบายมุขต่าง ๆ ได้ โดยฟุตบอลเป็นกีฬาที่ยอดนิยมที่เด็กให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก GLO CUP 2025 จึงเป็นเวทีให้เด็กเยาวชนทั่วประเทศได้ใช้ในการแสดงความสามารถ”


นอกจากนี้ ฟุตบอล GLO CUP 2025 เป็นการแข่งขันฟุตบอลระดับประเทศ ที่ทุกคนมีโอกาสพัฒนาตัวเองต่อยอดเพื่อเป็นนักฟุตบอลอาชีพและเป็นกำลังสำคัญของชาติในอนาคต โดยจะส่งเยาวชนที่มีความสามารถผ่านการคัดเลือกจากผู้เชี่ยวชาญซึ่งเป็นระดับตำนานทีมชาติไทยอย่าง “เดอะ ตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน พร้อมทีมงานที่มีเกณฑ์การคัดเลือกอย่างเคร่งครัดเพื่อ ไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นเวลา 6 เดือน ตามแนวทาง Japan Way ในระดับเยาวชน U13 และ U15 กับสโมสรชั้นนำของเจลีกอย่าง อวิสปา ฟุกุโอกะ ที่ถือเป็นแหล่งผลิตนักฟุตบอลคุณภาพของญี่ปุ่นสู่เวทียุโรป และมีอะคาเดมีที่ได้รับคําชมจากเจลีกว่ามีแนวทางการพัฒนาที่เยี่ยม ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญที่หาได้ยาก

“ในรายการนี้เรายังได้รุ่นพี่นักฟุตบอลดังระดับทีมชาติไทยอย่าง  เจ-ชนาธิป สรงกระสินธิ์ และ  มุ้ย- ธีรศิลป์ แดงดา ที่จะให้คำแนะนำเยาวชนของเราในฐานะรุ่นพี่ที่เคยไปสร้างชื่อในเวทีเจลีกของญี่ปุ่นมาก่อนหน้านี้ ซึ่งถือเป็นการเตรียมความพร้อมที่ดีก่อนเด็กที่ได้รับการคัดเลือกจะเดินทางไปพบกับประสบการณ์จริงด้วยตัวเอง”

ด้าน “เดอะตุ๊ก” ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ประธานมูลนิธิพัฒนาฟุตบอลไทยและกรรมการสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ในฐานะประธานจัดการแข่งขัน GLO Cup 2025 กล่าวถึงการแข่งขันครั้งนี้ว่า  GLO Cup 2025 จะเป็นสิ่งที่ช่วยผลักดันการพัฒนาเด็กไทย และจะเป็นการช่วยเฟ้นหาเด็กฝีเท้าดีใหม่ ๆ เข้าสู่ทีมชาติชุดยู 17 ชิงแชมป์โลก ซึ่งจะมีการจัดแข่งขันทุกปี ซึ่งทางมูลนิธิพัฒนาฟุตบอลไทย ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ภายใต้แนวคิดทำอย่างไรให้ฟุตบอลไทยพัฒนา ซึ่งมูลนิธิพัฒนาฟุตบอลไทยต้องการจะจัดการแข่งขันในรูปแบบใหม่ เพราะเด็กไทยจะต้องปลูกฝังให้มีวิธีคิดในการเล่น  

“อย่างในรุ่น 13 ปี เราพยายามปลูกฝังให้เริ่มเล่นจากฟุตบอล 8 คน ที่ตั้งเกมจากแดนหลัง เพราะว่าทั้งในญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ มีความนิยมกันมาก เพราะถือว่าให้เด็กได้มีโอกาสได้สัมผัสได้บอลได้มากขึ้น เป็นการโชว์ทักษะมากขึ้น แต่เรามีการเพิ่มวิธีการ Build Up จากแดนหลัง คือ ผู้รักษาประตู บอลออกจากเท้า จะต้องส่งให้กองหลัง Build Up ขึ้นมา ห้ามเตะเกินครึ่งสนาม แล้วอย่างที่สอง คือ เรื่องของการเข้าทำประตู เราให้โหม่งได้ แต่เป็นลักษณะโหม่งย้อน ห้ามโหม่งทำประตู เพราะว่าเราอยากให้ผู้เล่นแถวสองเข้าไปซัพพอร์ต เพราะว่าผู้เล่นบ้านเรา การซัพพอร์ตช่วยเหลือซึ่งกันและกันค่อนข้างมีปัญหา ในเรื่องของการสร้างสรรค์เกมรุก เลยเป็นกุศโลบายในการที่จะวางกฎระเบียบ เพื่อให้เด็กได้มีวิธีคิดมากขึ้น มีประโยชน์ในการเล่นมากขึ้น”

ส่วนรุ่น 15 ปี จะเป็นฟุตบอล 8 คนเหมือนกัน แต่ว่าจะมีการ Build Up จากแดนหลัง เพราะเราต้องการให้เป็นบอลเท้าสู่เท้า เล่นด้วยความรวดเร็ว แต่สามารถโหม่งทำประตูได้ จะได้มีวิธีการเล่นใหม่ๆ ที่นอกกรอบ  มีวิธีการเล่นที่ทันสมัยขึ้น เลยให้การสนับสนุนขึ้นมา”

ซึ่ง โรงเรียนที่เข้ามาแข่งขัน จะได้ทุนการศึกษาทุกโรงเรียนด้วย รวมทั้งค่าเดินทาง ในรอบสุดท้าย และจะคัดเด็กอายุ 13 ปี 3 คน รุ่นอายุ 15 ปี 3 คน ไปทำการฝึกซ้อมที่ ประเทศญี่ปุ่น โดย สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล จะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายทั้งหมด และถ้าเด็กสามารถต่อยอดได้ พัฒนาได้ มีสโมสรให้ความสนใจ ทางสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล และมูลนิธิพัฒนาฟุตบอลไทยจะพูดคุยกับสโมสรที่สนใจเรื่องโอกาสในการเซ็นสัญญา รวมถึงเรื่องการศึกษาที่จะต้องไปจัดการที่นั่นด้วย ควบคู่กับการประเมินผลงานผลงานของเด็กด้วยในการเก็บตัวว่า พอไปอยู่ต่างประเทศแล้ว ผลงานเป็นแบบไหนอย่างไร”

“นอกจากนี้ โรงเรียนที่เด็กผ่านเข้าไปฝึกซ้อมที่ญี่ปุ่น ก็จะมีการมอบเงินทุนการศึกษาให้กับโรงเรียนนั้นๆ ด้วยที่สามารถพัฒนาเด็กได้ดี และแน่นอนว่าเด็กๆในกลุ่มนี้ที่เรามุ่งมั่นในการพัฒนาเขาจะกลายเป็นกำลังสำคัญของทีมชาติไทยในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฟีฟ่าได้ตัดสินใจขยายการจัดแข่งขันฟุตบอลเยาวชน

ชิงแชมป์โลก รุ่นอายุไม่เกิน 17 ปี (FIFA U-17 World Cup) ให้ครอบคลุม 48 ทีมและจัดขึ้นเป็นประจําทุกปีแทนที่จะเป็นทุกสองปี ทำให้เรามีเป้าหมายที่จะต้องพาทีมชาติไทยเข้าร่วมทัวร์นาเมนต์นี้ให้ได้”

สำหรับฟุตบอล GLO CUP 2025 ยังมีเงินสนับสนุนและเงินรางวัลให้แต่ละทีมรวมแล้วกว่า 1,000,000 บาท แบ่งเป็น 

1. ทีมรอบภาค 24 ทีม (2 รุ่น) รุ่นอายุไม่เกิน 13 ปี และรุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี

เงินบำรุงทีม ทีมละ 5,000 บาท

2. ทีมที่ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย (2 รุ่น)

เงินบำรุงทีม ทีมละ 10,000 บาท

3. ทีมรอบสุดท้าย (2 รุ่น)

– ทีมชนะเลิศ จำนวน 300,000 บาท                                               

– รองชนะเลิศอันดับที่ 1 จำนวน 100,000 บาท                           

– รองชนะเลิศอันดับที่ 2 จำนวน 50,000 บาท      

– รองชนะเลิศอันดับที่ 3 จำนวน 20,000 บาท 

สำหรับ การแข่งขันฟุตบอลเยาวชน 8 คน ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย “GLO CUP 2025 THAILAND CHAMPIONSHIP” ประจำปี 2568 รุ่นอายุไม่เกิน 13 ปี และ รุ่นอายุไม่เกิน 15 ปี เปิดรับสมัครระหว่าง วันที่ 3-19 พฤษภาคม 2568 โดยสามารถติดต่อดาวน์โหลดใบสมัครได้ที่ glocup.com/register หรือติดตามข้อมูลข่าวสารได้ทาง Facebook Fanpage สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล หรือสอบถามรายละเอียด  โทร. 088-617-5678

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบแล้วบ้าน “พระอลงกต” ที่ขอนแก่น ชาวบ้านเผยเป็นคนใจดี

ขอนแก่น 25 ส.ค. – พบแล้วบ้านของ “พระอลงกต” ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง ชาวบ้านเผย “พระอลงกต” เป็นคนใจดี กลับมาแจกเงินทุกปี พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจและสงสาร เพราะเที่เคยสัมผัสเป็นคนใจดี ทีมข่าวตรวจสอบข้อมูลเพื่อตามหาบ้านของพระอลงกต รู้ว่าเป็นคน จ.ขอนแก่น ตั้งแต่กำเนิด สืบค้นที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน พบระบุว่าบ้านเกิดของหลวงพ่ออลงกต อยู่ใน อ.เมือง จ.ขอนแก่น ตรวจสอบพบว่าเป็นบ้านพักข้าราชการของกรมทางหลวง และไปพบบ้านของพ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ซึ่งทุกคนไม่ได้เรียกว่าพระอลงกต แต่จะคุ้นเคยเรียกกันว่าพระจอร์จ และนิสัยของพระพระอลงกตมีแต่เรื่องราวดีๆ มอบให้กับสังคม พระอลงกตจะแวะเวียนมาบอกบุญเสมอปีละครั้ง ในช่วงวันเกิดที่โรงเรียนแก่นนคร ที่พระอลงกตเคยศึกษา อย่างช่วงที่พ่อเฉย พ่อของพระอลงกต ยังมีชีวิต พ่อเฉยจะทำว่าวให้เด็กๆ ละแวกนี้เล่น เป็นที่รักของคนในชุมชนเช่นกัน พี่สาวของพระอลงกต ขายข้าวแกงอยู่ตรงข้ามบ้านพักข้าราชการ ซึ่งบ้านของครอบครัวพระอลงกต จะอยู่ติดกับรั้วของสำนักงานทางหลวง แต่พอครอบครัวพระอลงกตเกษียณก็พากันย้ายออกไปอยู่ที่อื่น บ้านพักปัจจุบันนี้ไม่มีใครอยู่ และบ้านส่วนตัวก็ไม่มีใครอยู่อาศัยเช่นกัน พระอลงกตออกจากบ้านไปช่วงปี 2527 แต่พระอลงกตจะกลับมาที่บ้านส่วนตัวทุกปี หลังจากเป็นเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เพื่อมาทำบุญวันเกิดโรงเรียนแก่นนคร มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กๆ เสมอ […]

ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์”

กทม. 24 ส.ค.-ตำรวจแจ้งข้อหาเมาแล้วขับ “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่า ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยโวยวายและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ คาดน่าจะเกิดจากมึนเมา กรณีนักแสดงสาว “มารี เบรินเนอร์” ขับรถหรูเจอด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์แล้วไม่ยอมเป่าวัด ส่วนเพื่อนชายที่มาด้วยได้ลงจากรถมาโวยวายขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของตำรวจ ทาง พ.ต.อ.เจษฎา ยางนอก ผกก.สน.วังทองหลาง เผยว่า เมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สน.วังทองหลาง ได้ตั้งด่านตรวจวัดแอลกอฮอล์ ที่ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ช่วงเวลาประมาณ 02.00-04.00 น. ได้ขอตรวจรถยนต์ยี่ห้อปอร์เช่ สีเขียว ปรากฏว่ามี น.ส.มารี เบรินเนอร์ นักแสดงสาว เป็นผู้ขับขี่ และมีนายอัศม์กรณ์ โดยสารมาด้วย ซึ่งนั่งข้างหน้า และมีผู้หญิงมาด้วยอีก 2 คน เมื่อขอตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ นายอัศม์กรณ์ กลับโวยวาย ขัดขวางไม่ให้ตรวจ และมีการด่าทอด้วยคำที่หยาบคาย แต่ไม่ได้มีการทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ ในที่สุดตำรวจได้คุมตัวทั้งหมดมายัง สน.วังทองหลาง พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาเมาแล้วขับ กับนางสาวมารี เนื่องจากนางสาวมารี ไม่ยินยอมเป่าเครื่องตรวจวัดแอลกอฮอล์ จากนั้นนางสาวมารี ได้ยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 20,000 บาท […]

“คาจิกิ” ทวีกำลังเป็นพายุไต้ฝุ่น ส่งผลให้ไทยฝนตกเพิ่มทุกภาค

กรุงเทพฯ 24 ส.ค.- กรมอุตุฯ ออกประกาศระบุ ช่วงเช้าที่ผ่านมา พายุโซนร้อน “คาจิกิ” ในทะเลจีนใต้ ได้ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น เตือน 57 จังหวัด เฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมาก ตั้งแต่วันที่ 24-27 ส.ค.68 นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า พายุโซนร้อน “คาจิกิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ทวีกำลังแรงเป็นพายุไต้ฝุ่น “กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย และมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนเข้าสู่อ่าวตังเกี๋ย ก่อนจะขึ้นฝั่งตอนบนของ ประเทศเวียดนาม และ สปป.ลาว ในช่วงวันที่ 25–26 สิงหาคมนี้ ขอบด้านหน้าของพายุ เริ่มส่งผลกระทบต่อไทยตั้งแต่วันนี้ โดยเฉพาะพื้นที่ด้านตะวันออกของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีเมฆฝนเพิ่มขึ้น จากนั้นจะมีฝนตก ก่อนขยายไปยังภาคกลาง รวมทั้ง กรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคตะวันออก และ ภาคใต้ ในช่วงวันถัดไป กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนว่า อิทธิพลของพายุ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ที่มีกำลังแรง จะทำให้มีฝนตกเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะ […]

“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดี เป็นคลิปตกแต่งเสียง

ทำเนียบ 24 ส.ค.-“จิรายุ” ย้ำคลิป “นั่งลงลูก” ในห้องพิจารณาคดีศาล รธน. ที่ “ชวน” ได้ยินเป็นคลิปตกแต่งเสียง ฟังกี่รอบก็ชัดว่า “นั่งลงครับ” เตือนประชาชนบิดเบือนข้อมูลใส่ร้าย อย่าโพสต์ ไม่ชัวร์ อย่าแชร์ นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี อดีตประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ กล่าวถึง กรณีมีการบิดเบือนคำพูดในวันสืบพยานของนายกรัฐมนตรี โดยหลังจากนายกรัฐมนตรีกล่าวคำสาบานตนแล้ว ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญท่านหนึ่งได้กล่าวคำว่า “นั่งลงครับ” แต่กลับมีกระบวนการนำไปบิดเบือนและตกแต่งเสียง โดยกล่าวหาว่า ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพูดว่า “นั่งลงลูก“ ซึ่งเป็นการบิดเบือน ขณะเดียวกัน ยังพบว่าอดีตประธานรัฐสภา นายชวน หลีกภัย ได้สัมภาษณ์ให้ความเห็นในกรณีดังกล่าวหลายประเด็น ซึ่งอาจเป็นไปได้ว่า นายชวน หลีกภัย อาจจะยังไม่ได้ฟังคลิปเต็มๆ จริงๆ ในวันดังกล่าว หรือไม่ก็อาจจะได้ฟังจากคลิปที่ถูกบิดเบือนและตกแต่ง ซึ่งความเป็นจริงการบันทึกเสียงทั้งหมดหรือการกล่าวบนบัลลังก์ คนที่นั่งอยู่ในห้องพิจารณาก็ได้ยินตรงกันว่า “นั่งลงครับ” ทั้งสิ้น นายจิรายุ กล่าว ตนในฐานะเคยดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระ องค์กรอัยการฯ ติดตามการทำงานกระบวนการยุติธรรมมาโดยตลอด ไม่มีเหตุผลใดๆ ในกระบวนการยุติธรรมที่จะใช้คำพูดในลักษณะเช่นนี้ […]

ข่าวแนะนำ

แจงยิบข้อดี MOU43 กรอบแนวทางสำรวจปักปันเขตแดน

กต. 25 ส.ค.- อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ แจงละเอียดยิบข้อดี MOU43 ใช้เป็นกรอบแนวทางการสำรวจปักปันเขตแดน เพื่อทำแผนที่ใหม่ร่วมกันตามหลักสากล เตือนยกเลิกหนีแผนที่ 1 : 200,000 ไม่พ้น และจะวนมาทำ MOU กันใหม่ นายเบญจมินทร์ สุกาญจนัจที อธิบดีกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับนายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ อธิบายถึงที่มาของบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกระหว่างไทยกับกัมพูชา หรือ MOU 43 ว่าเป็นเอกสารพื้นฐานของกรอบการเจรจา ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบกปี 2543 หรือ MOU2543 หรือ MOU43 อธิบดีกรมสนธิสัญญาฯ มั่นใจว่า ประเทศไทยได้เปรียบจาก MOU43 เนื่องจาก MOU43 เป็นการกำหนดกรอบความตกลง และกลไกการปักปันเขตแดน เพื่อร่วมกันสำรวจ-จัดทำหลักเขตแดน เพื่อให้ได้แผนที่ที่นำมาใช้ได้จริง โดยใช้หนังสือสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1904 และ 1907 เป็นเอกสารประกอบ เนื่องจาก หนังสือสัญญาดังกล่าวได้พูดถึงคณะกรรมการปักปันเขตแดน เพื่อให้ไปทำแผนที่ตามหลักสันปันน้ำ แม่น้ำ และแนวเส้นตรง […]

“ภูมิธรรม” รับหนักใจ “กัมพูชา” ตกลงกันแล้วไปพูดอีกอย่าง

ทำเนียบ 25 ส.ค.- “ภูมิธรรม” บอก ประชุม RBC กองทัพภาค 2 เป็นเรื่องเขตแดน ยอมรับหนักใจ “กัมพูชา” ตกลงกันแล้วไปพูดอีกอย่าง ย้ำไม่ยอมให้ใครรุกล้ำอธิปไตย มองเรื่องเขตแดน ไม่เคยจบง่ายบางประเทศใช้เวลาเป็น 100 ปี อย่าไปกังวลใจ ถ้ายังยืนหยัดผลประโยชน์ชาติ พร้อมยกนาฬิกาข้อมือ ก่อนแซวตัวเอง “วันนี้วันที่เท่าไหร่ ดูเวลาทุกวัน จะพ้นตำแหน่งแล้ว” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค RBC ไทย-กัมพูชาในส่วนของกองทัพภาคที่2ในวันที่ (27 ส.ค.) จะมีการเสนอเงื่อนไขเหมือนกับการประชุม RBC ของกองทัพภาคที่ 1 หรือแตกต่างกันหรือไม่ว่า ก็ไม่มี เป็นการต่อเนื่อง จากการประชุม RBC ครั้งที่แล้ว แต่อาจจะแตกต่างกันบ้างของแต่ละสภาพพื้นที่และสภาพปัญหา และพื้นฐานจะเป็นการประชุมต่อเนื่องจากครั้งก่อน เป็นเรื่องระดับแม่ทัพไปคุยกัน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเส้นแดน ทำอย่างไรที่จะทำให้ได้ข้อสรุปที่ตรงกันมากที่สุด ส่วนแนวโน้มน่าจะมีสัญญาณที่ดีใช่หรือไม่ เพราะการประชุมครั้งก่อนฝ่ายกัมพูชารับเงื่อนไข แต่การประชุมที่กองทัพภาคที่2 มีเรื่องรั้วลวดหนาม ที่แตกต่างกับกองทัพภาคที่ 1 […]

ชื่นชมผ้าไทยลายกริพเพน

25 ส.ค. – ผ้าไทยลาย “กริพเพน” ออกแบบโดยได้แรงบันดาลใจจากเครื่องบินขับไล่กริพเพน ของกองทัพอากาศไทย ที่ไม่เพียงสะท้อนถึงความงดงามทางวัฒนธรรม แต่ยังประกาศถึงความกล้าหาญและหัวใจนักสู้ของชนชาติไทย เพจกรุงเก่าของชาวสยาม และคุณ Kamon Wan เผยแพร่ภาพผ้าไทยลายเครื่องบินรบกริพเพน โดยกองทัพอากาศ รายงานว่าแนวคิดนี้เกิดขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากเครื่องบินกริพเพน ที่มาร่วมพิทักษ์แผ่นดินไทย ชายแดนไทย-กัมพูชา และถูกถ่ายทอดลงบนผ้าไหมสุรินทร์อันเลื่องชื่อ ผสาน “ความแข็งแกร่ง” ของนักรบกับ “ความงาม” แห่งภูมิปัญญาไทยได้อย่างทรงพลัง ภายใต้คอนเซ็ปต์ “แม่ย่านางกริพเพน” ศิลป์และศรัทธาได้รวมเป็นหนึ่ง ที่ไม่เพียงสะท้อนถึงความงดงามทางวัฒนธรรม แต่ยังประกาศถึงความกล้าหาญและหัวใจนักสู้ของชนชาติไทย นี่คือผลงานที่ย้ำเตือนว่าไทยมิได้มีเพียงกำลังปกป้องผืนแผ่นดิน แต่ยังรักษารากเหง้าวัฒนธรรมอันงดงามไว้คู่กัน เพื่อบอกชัดแก่โลกว่าเราคือประเทศไทยผู้สืบสานวัฒนธรรม ที่จะไม่มีวันให้ใครมาย่ำยี ผู้สื่อข่าวรายงานจากกรุงสตอกโฮล์ม สวีเดน ว่าผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารสวีเดนประจำประเทศไทย และเจ้าหน้าที่ของ SAAB สวีเดน ได้เห็นแล้วปลื้มใจมากที่คนไทยมีความรู้สึกที่ดีกับเครื่องบินกริพเพน และนับเป็นแนวคิดที่สร้างสรรค์ กองทัพอากาศมีกำหนดที่จะลงนามในสัญญาจัดซื้อเครื่องบิน Gripen C/D กับ FMV และ SAAB สวีเดน ในวันนี้ (25 สิงหาคม) นำโดย พล.อ.อ.พันธ์ภักดี พัฒนกุล […]

“คาจิกิ” ขึ้นฝั่งเวียดนามบ่ายนี้ ไทยเตรียมรับฝนหนัก​ 25-27​ ส.ค.

กรุงเทพฯ​ 25 ส.ค.​ – กรมอุตุฯ อัปเดตเส้นทางพายุไต้ฝุ่น “คาจิกิ” คาดขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน ช่วงบ่ายถึงค่ำ วันนี้​ เตือนทั่วไทยฝนฟ้าคะนองเพิ่ม ขณะที่ภาคอีสาน​ตอน​บน​และ​ภาคเหนือ​ เตรียมรับมือฝนถล่ม ช่วง 25​ -​ 27​ ส.ค.​นี้ นายสมควร ต้นจาน ผู้​อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ศูนย์กลางพายุไต้ฝุ่น​คาจิกิอยู่ห่างจากเมืองวิญ ประเทศเวียดนาม ประมาณ 150 กม. เคลื่อนตัวทางตะวันตกค่อนไปทางเหนือเล็กน้อย คาดว่า​ขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบนช่วง​บ่าย​ถึง​ค่ำ​วันนี้​ และเข้าสู่ สปป ลาว ตามลำดับ เมื่อ​ขึ้นฝั่ง​พายุ​จะ​เริ่ม​อ่อนกำลัง​ลง​ โดยเมื่อเข้า​สู่ประเทศ​ไท​ยจะเป็น​หย่อมความ​กด​อากาศ​ต่ำ​ แต่ไม่รุนแรง​เท่าพายุ​วิภา ทั้งนี้​ ช่วงวันที่ 25–27 ส.ค. 68 ประเทศ​ไท​ยจะมีฝนตก​เพิ่ม​ เริ่มจาก​ขอบของ​พายุ​ ประกอบกับกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดเข้าหาศูนย์กลางของพายุ ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตก​หนัก​ถึง​หนัก​มาก​ โดยเฉพาะ​ภาค​ตะวันออก​เฉียง​เหนือ​ตอน​บน​และ​ภาคเหนือ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​ขอให้​ประชาชนติดตามประกาศแจ้ง​เตือน​ลักษณะ​อากาศ​อย่างใกล้ชิด.​ 512​ – สำนักข่าว​ไทย​