พบร่างผู้เสียชีวิตแล้ว 83 ราย คาดกู้ซากตึก สตง.แล้วเสร็จ พ.ค.นี้

กรุงเทพฯ 2 พ.ค. – ภารกิจกู้ซากตึก สตง.ถล่ม ล่าสุดพบร่างผู้เสียชีวิตรวม 83 ราย เหลือยังสูญหายอีก 11 ราย คาดภารกิจแล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคมนี้


นายสุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กรุงเทพมหานคร (สปภ.) แถลงความคืบหน้าการค้นหาผู้เสียชีวิตจากอาคาร สตง.ถล่มว่า เมื่อวานนี้ (1 พ.ค.) เจ้าหน้าที่พบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 13 ราย และมีอีก 2 ราย อยู่ระหว่างรอการยืนยันอัตลักษณ์บุคคล ขณะนี้การทำงานเร่งค้นหาอยู่ในโซน D2 ซึ่งเชื่อมต่อกับโซน C และเป็นทางเชื่อมไปยังอาคารด้านหลังและลานจอดรถ โดยยังไม่สามารถเข้าถึงชั้นใต้ดินได้ทั้งหมด คาดว่าบริเวณทางเดินชั้น 3 อาจมีความลึกลงไปอีก 2-3 เมตร และเชื่อว่าอาจพบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมในบริเวณนี้

ขณะเดียวกันยังสามารถเปิดโซนบริเวณใต้ดินและเข้าถึงบริเวณปล่องลิฟต์ได้แล้ว โดยเฉพาะช่วงทางเชื่อมระหว่างอาคารชั้น 3 กับอาคารที่ถล่มลง บริเวณโซน C และอาคาร B ซึ่งเป็นทิศทางหลบหนีของผู้ประสบเหตุ โดยเชื่อว่าบางรายอาจติดค้างอยู่บริเวณบันได ขณะที่บางส่วนอาจหนีออกมาทัน และกระจายตัวอยู่บริเวณโถงด้านหน้าและขอบอาคาร โดยข้อมูลจากผู้รับเหมายืนยันว่ามีเจ้าหน้าที่ทำงานอยู่ในบริเวณโซน D ก่อนเกิดเหตุ สอดคล้องกับการพบร่างผู้เสียชีวิตเมื่อวานนี้


ขณะที่วันนี้ พฐ. และตำรวจ สน.บางซื่อ ได้เข้าเก็บเสาปูนอาคารและผนังช่องลิฟทต์ เหล็ก บริเวณช่องตัวอาคารลิฟต์ ที่คาดว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ตึกถล่ม ส่วนที่ดีเอสไอและพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ ต้องการเก็บหลักฐานบริเวณปล่องลิฟต์ ซึ่งถือว่ามีรายละเอียดสำคัญมากกว่าตรงจุดอื่น ทางเจ้าหน้าที่จะมีการกั้นพื้นที่ดังกล่าวไว้ เพื่อให้เข้าตรวจสอบ จะยังไม่รื้อถอน

ข้อมูลจากกองอำนวยการร่วม ระบุว่าขณะนี้มีผู้ประสบเหตุรวม 103 ราย แบ่งเป็นผู้เสียชีวิต 83 ราย บาดเจ็บ 9 ราย และสูญหาย 11 ราย ซึ่งยังอยู่ระหว่างการติดตามและยืนยันตัวตน

แม้จะสามารถระบุตัวผู้ประสบเหตุได้ครบ 103 รายแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดพื้นที่เข้าค้นหาได้ครบทุกโซน จึงต้องดำเนินการต่อเนื่องเพื่อความรอบคอบ และตรวจสอบว่ามีผู้สูญหายเพิ่มเติมจากยอดที่แจ้งไว้หรือไม่ โดยต้องรอการยืนยันจากพนักงานสอบสวนอีกครั้ง


ส่วนการการค้นหาและรื้อถอนซากอาคารได้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคมนี้ หากยืนยันว่าไม่มีผู้ประสบภัยตกค้างในพื้นที่จะเสนอรายงานต่อผู้อำนวยการเขตจตุจักร เพื่อพิจารณายกเลิกการประกาศเขตบรรเทาสาธารณภัย และคืนพื้นที่ให้กับเจ้าของอาคาร.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งความผู้ว่าสตง.

2 พิธีกรดังเข้าแจ้งความกล่าวโทษผู้ว่าฯ สตง. เหตุตึก สตง.ถล่ม

สองพิธีกรชื่อดัง เข้าแจ้งความกล่าวโทษ ผู้ว่าฯ สตง. และอดีตผู้ว่าฯ สตง. เหตุตึก สตง.แห่งใหม่ถล่ม แต่ไม่มีใครรับผิดชอบ มองอาจไม่ชอบมาพากล หวั่นเวลาผ่านไปเอาผิดใครไม่ได้

ก้อนปูนตกใส่รถ

กทพ. แจงก้อนปูนตกใส่รถผู้ใช้ทาง มีคนโยนลงมาจากสะพานลอย

กทพ. ชี้แจงกรณี ก้อนปูนตกใส่รถผู้ใช้ทาง ไม่ได้เกิดจากการกระเทาะของโครงสร้างทางพิเศษบูรพาวิถี แต่มีผู้โยนลงมาจากสะพานลอย จ่อประสานตำรวจตามตัวดำเนินคดี

ปล่อยกู้ดอกโหด

บุกทลาย “บ้านเสี่ยโน้ต” ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยมหาโหด 1,825% ต่อปี

ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) บุกทลาย “บ้านเสี่ยโน้ต” ปล่อยเงินกู้เฉพาะผู้หญิง คิดดอกเบี้ยมหาโหดร้อยละ 1,825 ต่อปี ไม่จ่ายโดนข่มขู่ประจานไม่เลือกหน้า

ข่าวแนะนำ

ภาคใต้ฝนเพิ่ม ส่วนไทยตอนบนยังมีฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรง

กรมอุตุฯ เตือนภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและตกหนักบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง ยังคงมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง อากาศร้อนตอนกลางวัน กรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 60% ของพื้นที่

รวบแล้วมือปาหินใส่รถ ย่านบางนา-ตราด อ้างขาดสติเพราะดื่มเหล้า

รวบแล้วมือปาหินใส่รถประชาชน ย่านบางนา-ตราด อ้างขาดสติเพราะดื่มเหล้า พบประวัติเคยถูกจับมาแล้ว 12 ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 13

แม่เปิดใจทั้งน้ำตา จำใจปล่อย “น้องการ์ตูน” ไปอย่างสงบ

เปิดใจทั้งน้ำตา “แม่น้องการ์ตูน” เหยื่อกระบะตีนผี เตรียมถอดเครื่องช่วยหายใจลูก หลังยื้อมานาน 11 ปี ขณะที่คู่กรณีไม่เคยเหลียวแล และยังใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย

รวบแล้วโจรชิงทอง 102 บาท กลางห้างดัง อ.แม่สอด จ.ตาก

รวบแล้วโจรสวมชุดไรเดอร์บุกเดี่ยวจี้ชิงทอง 102 บาท จากร้านทองในห้างดัง อ.แม่สอด จ.ตาก ขยายผลตามรวบภรรยาได้ที่บ้านพักใน อ.เมือง จ.ตาก