“สาธิต” ชื่มชมภูเก็ตคุมโควิดระบาดได้ดี เตรียมเปิดเมืองปลอดภัย

ภูเก็ต 14 พ.ค.- รมช.สธ. ลงจังหวัดอันดามันมอบนโยบาย “เปิดเมืองภูเก็ตอย่างปลอดภัยได้มาตรฐาน” ชื่นชมผู้ว่าฯ ทีมงานบริหารจัดการคุมโควิด-19 ระบาดได้ดี ตัวเลขติดเชื้อเป็น 0 มาแล้ว 13 วัน ย้ำเปิดเมืองต้องขับเคลื่อนตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข เพื่อสร้างความเชื่อมั่นนักท่องเที่ยวทั่วโลก





วันนี้ (14 พ.ค.) ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดภูเก็ต นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นพ.บัญชา ค้าของ รองอธิบดีกรมอนามัย และคณะ ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานป้องกันควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด 19) มอบนโยบายเตรียมความพร้อมเปิดเมืองภูเก็ตอย่างปลอดภัยได้มาตรฐาน ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้ให้ความสำคัญในการสร้างความเข้มแข็งการป้องกันและควบคุมโรค เพื่อให้ภูเก็ตเป็นจังหวัดต้นแบบทั้งในระยะที่มีโควิด 19 ระบาด และในระยะยาว เนื่องจากภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีสถิตินักท่องเที่ยวมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ในภูมิภาค


นายสาธิต กล่าวชื่นชมทีมงานของจังหวัดภูเก็ตด้วยว่า มีสมรรถนะในการบริหารจัดการ ทั้งการควบคุมป้องกันโรคด้วยการค้นหาผู้ป่วยเชิงรุก การดูแลแยกกักผู้ป่วยในโรงพยาบาล ในโรงแรมหรือสถานที่ปรับเป็นสถานที่แยกดูแลผู้ป่วย ทำให้จัดการสถานการณ์ได้เร็ว สามารถนำบทเรียนมาวางระบบในระยะยาวให้ภูเก็ตเป็นจังหวัดที่มีความมั่นคงด้านท่องเที่ยว และให้ยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ ณ ด่านทางเข้าและออก ทั้งทางอากาศ ทางบก และทางน้ำ มีระบบการประสาน การติดตาม การควบคุม และเชื่อมกับฐานข้อมูลสาธารณสุขอย่างชัดเจน   

“ทุกจังหวัดทั่วประเทศทำงานหนักในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 แต่ที่หนักสุดในภาคใต้ คือภูเก็ต เพราะต้องดำเนินการภายใต้แรงกดดัน เนื่องจากเป็นจังหวัดที่มีโครงสร้างในการรองรับนักท่องเที่ยวหลายสัญชาติ เป็นจังหวัดที่ถูกจับตามองในแง่ของการแข่งขันด้านการท่องเที่ยว จำเป็นต้องสร้างความเชื่อมั่น ยอมรับว่าภูเก็ตทำงานและสร้างความเข้าใจกับประชาชนได้เป็นอย่างดีจนถึงขั้นเปิดเมืองอย่างปลอดภัย เพราะได้รับความร่วมมือจากประชาชนอย่างเต็มที่ จึงเป็นที่มาของการเดินทางมาให้กำลังใจ และที่ต้องขอชื่นชมเป็นพิเศษคือ พี่น้อง อสม.ที่ได้รับการยอมรับในพี่น้องคนไทยทั่วประเทศและองค์การอนามัยโลก(WHO) ให้การยอมรับ”

นายสาธิต กล่าวอีกว่า ตัวเลขผู้ติดเชื้อของจังหวัดภูเก็ตเป็น 0 ติดต่อกัน 13 วันแล้ว และจังหวัดเตรียมเปิดเส้นทางการบิน 16 พ.ค.นี้  เมืองท่องเที่ยวต้องการความเชื่อมั่น เพราะฉะนั้นการเปิดเมืองอย่างปลอดภัยต้องขับเคลื่อนไปตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวทั่วโลก ส่วนกรณีพบผู้ติดเชื้อ 4 ราย เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น แต่ภายหลังมีผลตรวจออกมายืนยันเป็นลบ ข้อผิดพลาดเกิดจากเครื่องตรวจโพซิทีปเออร์เร่อ ซึ่งการตรวจเพื่อยืนยันว่ามีการติดเชื้อหรือไม่นั้นใช้หลักเกณฑ์ธรรมดาว่า ถ้าการตรวจครั้งแรกมีข้อสงสัย และการตรวจครั้งที่ 2 ผลที่ออกมายังต่างกัน ก็จะตรวจครั้งที่ 3 ก็ได้รับการยืนยันจากศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ภูเก็ตว่าเป็นลบ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ

ฝุ่น กทม.

แดงเกือบทั้งกรุง คุณภาพอากาศวิกฤติ ฝุ่น PM 2.5 กระทบต่อสุขภาพ

คุณภาพอากาศกรุงเทพฯ วิกฤติต่อเนื่อง เช้านี้ฝุ่น PM 2.5 อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 67 พื้นที่ คุณภาพอากาศจะแย่แบบนี้ไปถึงสัปดาห์หน้า

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน