กกบ. มีมติ บังคับใช้ IFRS9 ม.ค.63

นนทบุรี 17 ก.ค. – กกบ.มีมติบังคับใช้ IFRS9 ใหม่ในวันที่ 1 ม.ค.63 ย้ำต้องการให้ทุกฝ่ายมีความพร้อมมากขึ้นและจะเป็นผลต่อภาคธุรกิจโดยรวมของประเทศ


นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุม คณะกรรมการกำกับดูแลการประกอบวิชาชีพบัญชี หรือ กกบ. ว่า ที่ประชุมมีมติเลื่อนการใช้มาตรฐานทางบัญชี IFRS9 จากเดิมวันที่ 1 มกราคม 2562 ออกไปอีก 1 ปี เป็นวันที่ 1 มกราคม 2563 เพื่อให้แต่ละหน่วยงานที่กำกับและบริษัทเอกชนที่เข้าข่าย มีเวลาในการเตรียมพร้อม 

อย่างไรก็ตามได้มอบหมายให้คณะกรรมการแต่ละฝ่าย กลับไปทำแผนโดยละเอียดถึงแนวทางกำกับดูแล เพื่อนำมาเสนอในที่ประชุมอีกครั้งในเดือนถัดไป สำหรับการบังคับใช้มาตรฐานทางบัญชีใหม่ IFRS9 นั้น จะบังคับใช้เฉพาะบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ที่มีประมาณ 700-800 บริษัท ซึ่งจะส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน โดยบริษัทที่มีความพร้อมสามารถเริ่มใช้มาตรฐานทางบัญชีใหม่ดังกล่าวได้โดยไม่ต้องรอจนถึงปี 63 ซึ่งขั้นตอนหลังจากนี้ สภาวิชาชีพบัญชีจะนำเข้าสู่กระบวนการ เพื่อประกาศบังคับใช้ตามกฎหมายต่อไป 


ส่วนความกังวลถึงการบังคับใช้ จะทำให้ผู้ประกอบการรายย่อย หรือ เอสเอ็มอี เข้าถึงสินเชื่อยากขึ้นนั้น มองว่าเป็นคนละประเด็น เนื่องจากการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงิน จะพิจารณาตามภาวะเศรษฐกิจและความสามารถในการชำระหนี้ของลูกหนี้แต่ละราย  พร้อมมองว่าการเลื่อนการบังคับใช้จากเดิมออกไปอีก 1 ปีนั้น จะไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนโดยเฉพาะต่างชาติ เพราะจะมีการจัดทำแผนหรือแนวทางปฏิบัติก่อนการบังคับใช้อย่างเป็นรูปธรรมออกมาให้ทราบ

นางสาวอุษณีย์ ลิ่วรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ สายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส กว่าวว่า กกบ.เลื่อนใช้ IFRS9 ไปอีก 1 ปี เป็นไปตามคาด ทั้งนี้ มองว่าไม่ได้มีผลกระทบอย่างใดกับกลุ่มแบงก์ เนื่องจากขณะนี้แบงก์ส่วนใหญ่เริ่มดำเนินการตามมาตรฐานบัญชีดังกล่าวมา 2 ปีแล้ว แม้ว่าจะประกาศเลื่อนไป แต่การจัดทำบัญชีในปี 2561-2562 ก็ยังต้องทำเหมือนเดิม เป็นความต่อเนื่องที่ต้องทำอยู่แล้วก่อนจะใช้จริงในต้นปี 2563 รวมทั้งการเลื่อนออกไป 1 ปี ถือว่าไม่ได้มีผลกระทบทำเกิดการเปลี่ยนแปลงแต่อย่างใด เพราะไม่ได้เลื่อนนาน 

สำหรับกลุ่มเช่าซื้อนั้น ในส่วนของรายใหญ่ไม่ว่าจะเป็น SAWAT และ MTC ก็มีการเตรียมการให้เป็นไปตามมาตรฐานบัญชี IFRS9 มาแล้วเช่นกัน จึงไม่กังวล แต่ที่กังวลจะเป็นเช่าซื้อรายเล็กที่อาจจะเพิ่งเริ่มเก็บข้อมูล เพื่อจัดทำบัญชีในปีนี้ เช่น S11 และ LIT เป็นต้น.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง