กรุงเทพฯ 17 ก.ย. – นักลงทุนจับตาเฟด คาดลดดอกเบี้ยอีก ประเมินส่งผลให้ราคาทองคำไปต่อ แนะเล่นสั้น “รอจังหวะปรับฐานลงเข้าซื้อ และขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวสูงขึ้น”
นายพิบูลย์ฤทธิ์ วิริยะผล ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยทองคำ เผยดัชนีความเชื่อมั่นราคาทองคำประจำเดือน ก.ย.68 อยู่ที่ระดับ 76.56 จุด ปรับเพิ่มขึ้น 1.53 จุด หรือคิดเป็น 2.04% จากระดับ 75.03 จุด ในเดือน ส.ค.68 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ นโยบายอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด), แรงซื้อเก็งกำไร, นโยบายทางเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐฯ, การอ่อนค่าของดอลลาร์สหรัฐฯ และความกังวลเศรษฐกิจโลกถดถอย
ขณะที่คาดการณ์ความต้องการซื้อทองคำในช่วงเดือน ก.ย.68 จากกลุ่มตัวอย่างจำนวน 328 ราย ในจำนวนนี้มี 131 ราย หรือเทียบเป็น 40% คาดว่าจะไม่ซื้อทองคำ ส่วนจำนวน 125 ราย หรือเทียบเป็น 38% คาดว่าจะซื้อทองคำ และจำนวน 72 ราย หรือเทียบเป็น 22% ไม่แน่ใจว่าจะซื้อทองคำในเดือนนี้หรือไม่
กลุ่มตัวอย่างที่เป็นผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่และผู้ประกอบกิจการนายหน้าซื้อขายสัญญาซื้อขายล่วงหน้าที่อ้างอิงกับราคาทองคำ จำนวน 12 ราย ในจำนวนนี้มี 7 ราย หรือเทียบเป็น 58% เชื่อว่าราคาทองคำในเดือน ก.ย.68 จะเพิ่มขึ้น และจำนวน 3 ราย หรือเทียบเป็น 25% คาดว่าจะใกล้เคียงกับราคาทองคำในเดือน ส.ค.68 ส่วนจำนวน 2 ราย หรือเทียบเป็น 17% คาดว่าจะลดลง
สำหรับการคาดการณ์กรอบราคาทองคำในเดือน ก.ย.68 ของผู้ประกอบกิจการค้าทองคำรายใหญ่มีมุมมอง ดังนี้ ราคาทองคำตลาดโลก (Gold Spot) ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 3,403-3,690 ดอลลาร์/ออนซ์ ส่วนราคาทองคำแท่งในประเทศความบริสุทธิ์ 96.5% ให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 52,700-55,100 บาท/บาททองคำ และค่าเงินบาทให้กรอบเฉลี่ยบริเวณ 31.30-32.74 บาท/ดอลลาร์
คำแนะนำการลงทุนทองคำในเดือน ก.ย.68 ตลาดยังคงผันผวน อาจเน้นการลงทุนในระยะสั้น เช่น รอจังหวะราคาทองคำปรับฐานลงเพื่อเข้าซื้อ และขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวสูงขึ้น และต้องติดตามผลประชุมเฟดอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับทิศทางดอกเบี้ย รวมถึงปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะความตึงเครียดในตะวันออกกลาง หรือสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน
น.ส.อารีรัตน์ มุราชัย หัวหน้านักวิเคราะห์ บริษัท จีแคป จำกัด หรือ GCAP GOLD เปิดเผยว่า ราคาทองคำในสัปดาห์นี้ยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางเชิงบวก เนื่องจากนักลงทุนทั่วโลกจับตาการประชุมเฟด ในคืนวันที่ 17 ก.ย.68 ที่ตลาดคาด ปรับลดดอกเบี้ย และจับตาอย่างใกล้ชิดเกี่ยวกับคำแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด โดยหากส่งสัญญาณพร้อมผ่อนคลายอย่างจริงจัง ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ ปรับลดลง จะเป็นแรงหนุนโดยตรงต่อราคาทองคำ อย่างไรก็ตาม หากพาวเวลล์ เลือกสื่อสารอย่างระมัดระวังและเดินเกมชะลอการลดดอกเบี้ย ก็อาจกระตุ้นให้เกิดแรงขายทำกำไรในระยะสั้น
อีกทั้งปัจจัย ความเสี่ยงทางการเมือง โดยประธานาธิบดี ทรัมป์ ยังคงเดินหน้ากดดันเฟดให้ลดดอกเบี้ย พร้อมทั้งเพิ่มแรงกดดันต่อเวทีโลก ทั้งการเรียกร้องให้ NATO ใช้มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหญ่ต่อรัสเซีย ทำให้นักลงทุนหันกลับมาถือครองทองคำ ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยมากขึ้น จึงประเมินว่าราคาทองคำในสัปดาห์นี้ ยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิเคราะห์ GCAP GOLD แนะนำกลยุทธ์รอย่อตัวเข้าซื้อที่ $3,630 / $3,600 โดยภาพรวมราคาทองคำยังมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง นักลงทุนที่ยังไม่มีสถานะและรอซื้อเล่นสั้น จะมีแนวรับสำหรับพิจารณาเข้าเก็บที่ $3,630 / $3,600 (ราคาทองคำไทยประมาณ 54,800 / 54,500 บาท) และหากครั้งนี้จะเป็นการย่อแล้วไปต่อ มองว่าการย่อไม่ควรหลุด $3,595 เนื่องจาก หากหลุดการพักตัวจะลึกลงไปอีกระดับ ส่วนเป้าหมายทำกำไรมีโอกาสที่ราคาจะขึ้นทำ All Time High ที่ $3,710–$3,725 (ราคาทองคำไทยอาจอยู่ประมาณ 55,600 / 55,700 บาท) และหากทะลุโซนนี้ไปได้ จะเป็นการเปิดทางให้ราคาพุ่งขึ้นไปได้ถึงระดับ $3,750 (ราคาทองคำไทยอาจอยู่ประมาณ 56,000 บาท). -511-สำนักข่าวไทย