พาณิชย์มั่นใจส่งออกอาหารไทยปีนี้โตร้อยละ 8

กรุงเทพฯ 15 มี.ค. – ปลัดพาณิชย์มั่นใจส่งออกอาหารไทยปีนี้โตร้อยละ 8 เตรียมจัดงาน THAIFEX – World of Food ASIA  ตอกย้ำของดีอาหารไทย คาดตลอดการจัดงานมียอดขาย 11,500 ล้านบาท


นางนันทวัลย์ ศกุนตนาค ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า งานแสดงสินค้าอาหาร หรืองาน THAIFEX – World of Food ASIA  ปีนี้ กระทรวงพาณิชย์ยังร่วมมือกับภาคเอกชนจัดขึ้นต่อเนื่อง โดยเพิ่มพื้นที่การจัดงานและขยายวันเจรจาออกไปอีก 1 วัน เพื่อเปิดโอกาสให้เอสเอ็มอีไทยได้เจรจากับผู้ประกอบการอุตสาหกรรมอาหารจาก 40 ประเทศทั่วโลกที่ตอบรับเข้าร่วมงาน โดยตั้งเป้าผู้เข้าชมงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 และมั่นใจไทยยังครองแชมป์ผู้จัดงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มนานาชาติที่ใหญ่และครบวงจรที่สุดในเอเชีย

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์มั่นใจว่าจุดแข็งไทยจากความหลากหลายของประเภทอาหาร รวมถึงเครื่องปรุงและส่วนผสมต่าง ๆ ที่ได้มาตรฐานและมีความคิดสร้างสรรค์ รวมทั้งงานแสดงสินค้าอาหารยังเป็นเวทีสำคัญที่จะได้พัฒนาศักยภาพความสามารถทางการแข่งขัน และส่งเสริมการส่งออกอาหารไทยไปยังตลาดใหม่ ๆ ให้เพิ่มขึ้นจะสามารถผลักดันมูลค่าการส่งออกสินค้าอาหารปีนี้ขยายตัวเพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 8 หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 27,400 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากปี 2560 มีมูลค่ามากกว่า 26,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น 10.75 ล้านคนในอุตสาหกรรมเกษตรและประมง และที่สำคัญยังเป็นโอกาสของผู้ประการธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องทั้งธุรกิจโรงแรม ธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศจะได้มาเลือกสินค้าวัตถุดิบ และอาหารสำเร็จรูปจากทั่วโลกได้ภายในงานเดียว โดยคาดว่าตลอดการจัดงานจะมีมูลค่าการซื้อขายทันทีภายในงานและคำสั่งซื้อล่วงหน้าใน 1 ปี รวมทั้งยอดจำหน่ายปลีกประมาณ 11,500 ล้านบาท จากการจัดงานปีที่ผ่านมามีมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท


อย่างไรก็ตาม กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศยังคงร่วมมือกับพันธมิตรทั้งหอการค้าไทยและโคโลญเมสเซ่ ประเทศเยอรมนี ผู้นำจัดงานแฟร์ด้านอาหารชั้นนำของโลก เตรียมจัดงานแสดงสินค้าอาหาร หรืองาน THAIFEX – World of Food ASIA ประจำปี 2018  ซึ่งปีนี้จะยังตอกย้ำความเป็นผู้นำของการจัดงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มนานาชาติที่ใหญ่และครบวงจรที่สุดในเอเชีย โดยเพิ่มพื้นที่จัดงานเป็น 100,000 ตารางเมตร จากเดิมประมาณ 70,000 ตารางเมตร รวมทั้งขยายวันเจรจาธุรกิจเป็น 4 วัน จากเดิม 3 วัน ทำให้มีผู้ประกอบการทั้งไทยและต่างประเทศ กว่า 40  ประเทศทั่วโลก เข้าร่วมแสดงสินค้ากว่า 2,500 ราย ในจำนวนนี้เป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีประมาณ 432 ราย และเป็นผู้ประกอบการใหม่อีก 200 ราย ขณะที่ผู้ซื้อจากต่างประเทศตอบรับเข้าร่วมงานหลายประเทศ เช่น สหรัฐ ออสเตรเลีย  ตะวันออกกลาง สหภาพยุโรป และแอฟริกา เป็นต้น โดยตลอดการจัดงานตั้งแต่วันที่ 29 พฤษภาคมจนถึงวันที่ 2 มิถุนายน 2561 ศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ได้เพิ่มวันเจรจาเป็นระหว่างวันที่ 29 พฤษภาคมถึง 1 มิถุนายน และวันจำหน่ายปลีก วันที่ 2 มิถุนายน คาดว่าจะมีผู้เข้าขมงานเพิ่มขึ้นร้อยละ 10 จากปีที่ผ่านมา มีผู้เข้าชมงานกว่า 150,000 ราย. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง