รัฐบาล เร่งเพิ่มตลาดส่งออกอาหารของไทย

ทำเนียบ 25 พ.ย.-นายกฯ ให้ความสำคัญสินค้าเกษตรประเภทอาหารของไทย เพิ่มตลาดส่งออก ดูแลสินค้า ปกป้องกลไกราคาในประเทศ คงมาตรฐานการส่งออกสินค้าไทย เชื่อมั่นตัวเลขการส่งออกสินค้าประเภทอาหารไทยจะเพิ่มขึ้นอีกอย่างต่อเนื่อง

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากข้อมูลของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสถาบันอาหาร พบตัวเลขการส่งออกอาหารไทยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2566 มีมูลค่าถึง 1.16 ล้านล้านบาท คาดการณ์ว่าทั้งปี 2566 จะส่งออกได้ 1.55 ล้านล้านบาท ซึ่งจะมากกว่าปี 2565 ร้อยละ 5.5 ทั้งนี้โฆษกรัฐบาลเชื่อว่าจากการดำเนินนโยบายของรัฐบาลอย่างเป็นระบบ ตัวเลขการส่งออกสินค้าประเภทอาหารของไทยจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง


โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้ความสำคัญกับการดำรงชีวิต ความสะดวกสบาย ผลประกอบการของประชาชนทุกสาขาอาชีพ โดยในปี 2566 ไทยได้รับการจัดให้เป็นประเทศผู้ส่งออกอาหารอันดับที่ 12 ของโลก ปรับตัวดีขึ้น 3 อันดับ จากเมื่อปี 2565 ไทยอยู่อันดับที่ 15 ของโลก

ทั้งนี้ ความท้าทายหนึ่งของโลกที่เป็นที่สนใจคือ Food Security ความปลอดภัยด้านอาหาร โดยเฉพาะประเทศที่ส่งออกอาหารคู่แข่งกับไทยเริ่มปรับนโยบายลดการส่งออกสินค้าบางชนิด เช่น ข้าว และน้ำมันพืช โดยโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีระบุว่า นายกรัฐมนตรีมีวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนต่อความท้าทายนี้ ต้องการใช้ความท้าทายด้านอาหารที่เกิดขึ้นในโลกเป็นจุดได้เปรียบของไทยในการส่งออกสินค้าประเภทอาหาร เพิ่มแต้มต่อทางธุรกิจให้กับประเทศ วางยุทธศาสตร์ครัวไทย ครัวโลก พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้เพิ่มการดูแลเกษตรกรด้วยการป้องกัน ให้ความปลอดภัย ไม่ให้มีสินค้าปศุสัตว์เถื่อนเข้ามาในประเทศ เพื่อควบคุมกลไกราคา คงมาตรฐานสินค้าเกษตรไทยในเวทีโลก และปกป้องพี่น้องเกษตรกรไทยทุกคน


“นายกรัฐมนตรีดำเนินการเพื่อเกษตรกรด้านสินค้าประเทศอาหารของไทยอย่างเป็นระบบ เพิ่มตลาดการส่งออกด้วยการเจรจากับมิตรประเทศที่มีความต้องการ เป็นตลาดศักยภาพสูง ตรวจสอบดูแลสินค้าเถื่อน สินค้าลักลอบ ไม่ได้มาตรฐานในประเทศ เพื่อปกป้องการบริโภคของประชาชน ปกป้องเกษตรกรจากการถูกเอาเปรียบ และพร้อมกันนั้น เพื่อเพิ่มมาตรฐาน ความน่าเชื่อถือให้กับสินค้าไทยเมื่อส่งออกไปยังประเทศอื่นให้เป็นไปตามมาตรฐานโลก” นายชัย กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ