พรรคเพื่อไทย 21 ก.ย.-เพื่อไทย ลับมีดเตรียมชำแหละรัฐบาลภูมิใจไทย ล็อกเป้า 2 ประเด็น บริหารราชการแผ่นดิน-คุณสมบัติ รมต. หวั่นรัฐมนตรีปราสาทสายฟ้าคอนเน็กชั่น สร้างปัญหาในการตรวจสอบและดำเนินคดีของหน่วยงานต่างๆ
นายชนินทร์ รุ่งธนเกียรติ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีรัฐบาลชุดใหม่ภายใต้การนำของพรรคภูมิใจไทยว่า รัฐบาลชุดใหม่ควรจะปฏิบัติหน้าที่ด้วยการซื่อสัตย์สุจริต ยึดผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นที่ตั้ง มากกว่าผลประโยชน์ของพวกพ้องหรือมีเจตนาในการเข้ามาสะสางปัญหาคดีที่พรรค ภูมิใจไทยกำลังเผชิญอยู่ เพราะวันนี้สิ่งที่หลายคนมีความกังวลต่อรายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่ปรากฏออกมานั้น คือเรื่องความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และผลประโยชน์ทับซ้อน รวมถึงมีความเชื่อมโยงกับกลุ่มผู้มีอิทธิพลการเมือง ซึ่งไม่ใช่แค่รัฐมนตรีที่เป็นสายล่อฟ้าที่เคยครหาในอดีต แต่ปัจจุบันอาจเรียกว่าเป็นรัฐมนตรีปราสาทสายฟ้าคอนเน็กชั่นที่อาจะเข้าไปสร้างปัญหาในการตรวจสอบและดำเนินคดีของหน่วยงานต่างๆ
นายชนินทร์ กล่าวด้วยว่า พรรค เพื่อไทยได้เตรียม สส. ของพรรคในการรวบรวมข้อมูลต่างๆ ในการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภา โดยแยกออกเป็น 2 กลุ่มหลัก คือ นโยบายนายกรัฐมนตรีจะแถลงต่อรัฐสภา โดยจะลงรายละเอียดเรื่องการบริหารราชการแผ่นดิน ภายในระยะเวลา 4 เดือนตามกรอบที่รัฐบาลได้ทำสัญญากับพรรคประชาชนไว้ รวมถึงเรื่องรัฐธรรมนูญที่จะเปิดทางให้มีการร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับที่จะเกิดขึ้นพร้อมกับการเลือกตั้งครั้งหน้า
นายชนินทร์ กล่าวต่อว่า เรื่องคุณสมบัติของรัฐมนตรีแต่ละคน ความรู้ความสามารถรวมถึงการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ทั้งในคดีการบุกรุกที่ดินเขากระโดง คดีฮั้วสว. รวมถึงรัฐมนตรีคนอื่นๆ ที่มีข้อครหาเรื่องความไม่ซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ จากประชาชนรวมถึงถูกชี้มูลความผิด โดยสำนักงานคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แต่ก็ยังถูกแต่งตั้ง โดยนายกรัฐมนตรีที่มีตั๋วช้างสีส้มจากพรรคปชน. ให้เข้าสู่ตำแหน่ง ซึ่งต้องได้รับการวินิจฉัยในมาตรฐานเดียวกันกับที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยเคยถูกตรวจสอบด้วย
“ประเด็นหลักที่คิดว่าน่าจะเป็นไฮไลท์สำคัญของการอภิปรายวาระการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาครั้งนี้ คือการตั้งคำถามอย่างตรงไปตรงมาว่า การที่พรรคภูมิใจไทยพยายามทุกวิถีทาง ยอมทุกอย่างเพื่อเข้ามาเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อย ในระยะเวลาเพียง 4 เดือนนั้น มีความเกี่ยวข้องอะไรกับคดีฮั้ว สว. และกรณีที่ดินเขากระโดงหรือไม่ เพราะหัวใจสำคัญของสองเรื่องนี้ หากกระบวนการยุติธรรมได้เดินไปตามกลไกระบบปกติ เรื่องนี้อาจไปถึงทำให้ถึงจุดจบของพรรคการเมืองบางพรรคเลยก็ได้” นายชนินทร์ กล่าว.-319.-สำนักข่าวไทย