“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ชายแดนสันติ

จีน 15 ส.ค.-“มาริษ” ตอบรับคำเชิญ “หวังอี้” ร่วมถก 3 ฝ่าย จีน-ไทย-กัมพูชา แก้ปัญหาชายแดนอย่างสันติ พร้อมขอบคุณที่เห็นความจำเป็นในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เห็นพ้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ตอบรับคำเชิญของ นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน ในการเข้าร่วมจิบน้ำชาและหารืออย่างไม่เป็นทางการระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศจีน ไทย และกัมพูชา ในห้วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ กรอบความร่วมมือแม่โขง – ล้านช้าง (Mekong – Lancang Cooperation) หรือ MLC ครั้งที่ 10 ณ เมืองอันหนิง มณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยนายมาริษ ได้แสดงความขอบคุณต่อบทบาทที่สร้างสรรค์ของจีน ในการสนับสนุนการแก้ไขปัญหาระหว่างไทย-กัมพูชาอย่างสันติ ผ่านกลไกทวิภาคีต่างๆ และการบังคับใช้ให้เกิดการดำเนินการตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยได้รับการสนับสนุนของอาเซียน พร้อมยังได้เน้นย้ำถึงความจำเป็นเร่งด่วน ที่ไทย-กัมพูชา ต้องร่วมมือกันในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดน ซึ่งทุกฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันถึงความจำเป็นที่จะต้องหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่คลาดเคลื่อนในสื่อโซเชียล เนื่องจากเป็นก้าวสำคัญในการลดความตึงเครียด และฟื้นฟูความเป็นปกติสุขในพื้นที่ชายแดน นอกจากนี้ นายมาริษ ยังได้กล่าวขอขอบคุณ นายหวัง อี้ […]

เปิดภาพแฉทหารเขมรวางทุ่นระเบิดฝั่งไทย คาดเป็นระเบิด PMN-2

14 ส.ค. – เพจกองทัพบก ทันกระแส โพสต์คลิปวิดีโอ พร้อมข้อความ “ถ้าคิดว่ามันใช่ อย่าปล่อยผ่าน ช่วยแชร์ ช่วยโพสต์ให้โลกรู้” โดยในคลิปปรากฏภาพทหารกัมพูชาสวมกางเกงลายพราง เสื้อยืดคอกลมสีเขียว รองเท้าแตะ กำลังวางทุ่นระเบิดและเอาดินกลบ ในพื้นที่ที่ทหารไทยลาดตระเวน คาดว่าเป็นระเบิด PMN-2 โดยมีเพื่อนทหารกัมพูชาถ่ายคลิปไว้ ซึ่งคลิปนี้ลงวันที่ 21 ก.ค. 68 .-สำนักข่าวไทย

กต. จ่อเชิญทูต 50 ประเทศผู้บริจาคกรอบออตตาวาพิสูจน์ข้อเท็จจริงทุ่นระเบิด

กทม. 13 ส.ค.- ผู้ช่วย รมต.กต. เผยเตรียมเชิญทูต 50 ประเทศผู้บริจาคในกรอบอนุสัญญาออตตาวา ชี้แจง 15 ส.ค.นี้ ก่อนพาลงพื้นที่ 16 ส.ค. พิสูจน์ข้อเท็จจริง ชี้เหตุทุ่นระเบิดเกิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า สะท้อนกัมพูชาไม่จริงใจแก้ปัญหา ละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ลั่น กต.จะดำเนินการทูตอย่างถึงที่สุด นายรัศม์ ชาลีจันทร์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่พลกองร้อยทหารพรานรวม 7 นาย ซึ่งทำการลาดตระเวนในพื้นที่ช่องจุบตะโมก ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เมื่อวันที่ 12 สิงหาคมที่ผ่านมาว่า กระทรวงการต่างประเทศ ได้ประท้วงไปยังฝั่งกัมพูชา และเร่งดำเนินการประท้วงตามช่องทางทางการทูตที่เกี่ยวข้องแล้ว และในวันศุกร์ที่ 15 สิงหาคมนี้ กระทรวงการต่างประเทศ จะเชิญผู้แทนทางการทูตจากกว่า 50 ประเทศ ซึ่งประกอบด้วยประเทศผู้บริจาคในกรอบอนุสัญญาออตตาวา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มารับฟังการบรรยายสรุปในเรื่องดังกล่าว จากนั้นในวันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม 2568 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ จะนำคณะผู้แทนทางการทูตดังกล่าว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อให้รับทราบข้อเท็จจริงจากผู้ปฏิบัติในพื้นที่โดยตรง ซึ่งที่ผ่านมา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ […]

“จิรายุ” เรียกร้องรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา เร่งสอบกัมพูชาละเมิดข้อตกลง

ทำเนียบ 13 ส.ค.-รัฐบาล ระบุ “เพ็ญโบนา” โทรโข่งเขมรหลังออกแถลงการณ์ปฏิเสธแถว่ากับระเบิดไม่ใช่ของกัมพูชา ด้าน “จิรายุ” ย้อนถามเมื่อบอกว่าไม่ใช่ แล้วทำไมจึงไม่ยอมรับข้อตกลงหยุดยิง 7 ส.ค. เรื่องข้อตกลงเก็บกวาดทุ่นระเบิด พร้อมเรียกร้องให้รัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา เร่งสอบเส้นทางการเงินผู้ซื้อและผู้ขาย รู้แน่เขมรมีกี่หมื่นลูก นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ คณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) กล่าวถึงกรณีนายเพ็ญ โบนา โฆษกรัฐบาลกัมพูชา แถลงในวันนี้ (13 สิงหาคม 2568) ตอบโต้กรณีทหารไทยเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล โดยยังปฏิเสธหน้าตายว่า กัมพูชาไม่เคยมีและวางทุ่นระเบิดใหม่ และปฏิบัติตามอนุสัญญาออตตาวาอย่างเคร่งครัด นั้น นายจิรายุ กล่าวว่า การที่รัฐบาลกัมพูชาออกมาโต้แย้งในประเด็นนี้ ก็ยิ่งทำให้เห็นถึงความไม่จริงใจและเป็นการโกหกรายวัน เพราะหากเป็นอย่างที่โฆษกรัฐบาลกัมพูชาพูดนั้น เหตุใดกัมพูชาจึงไม่รับข้อตกลงหยุดยิงเมื่อวันที่7สิงหาคม 2568 ประเทศมาเลเซีย ที่ไทยยื่นข้อเสนอสำคัญ 2 ข้อ คือ1.เรื่องการจัดการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ค้ามนุษย์ และข้อที่2.ให้มีการเก็บกู้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เพราะข้อที่ 2 นี้เห็นได้อย่างชัดเจนว่าขัดแย้งกับสิ่งที่รัฐบาลกัมพูชาพูดในวันนี้ อย่างสิ้นเชิงเพราะถ้าตนเองไม่ได้เป็นผู้วางกับระเบิด เหตุใดจึงไม่รับข้อตกลงนี้ นายจิรายุ กล่าวว่า ขอเรียกร้องไปยังรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา ขอให้เปิดประชุมเร่งด่วนเพื่อพิจารณากรณีกัมพูชาละเมิดข้อตกลงสนธิสัญญาดังกล่าวในเรื่องของกับระเบิดบุคคล เพื่อไม่ให้เกิดความสูญเสียใดๆอีก […]

รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจปมทุ่นระเบิด ร้องประชาคมโลกกดดันกัมพูชา

13 ส.ค.- รัฐบาลไม่นิ่งนอนใจกรณีกัมพูชาใช้กับระเบิดต่อทหารไทยอย่างไร้มนุษยธรรม พร้อมร้องประชาคมโลกกดดันกัมพูชาให้ถึงที่สุด นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า รัฐบาลขอแสดงความเสียใจและห่วงใยอย่างยิ่งต่อเหตุการณ์ที่พี่น้องทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของฝ่ายกัมพูชา ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนในเขตแดนไทย เหตุการณ์ดังกล่าวถือเป็นการละเมิดอธิปไตยไทยอย่างชัดเจน ขัดต่ออนุสัญญาออตตาวา และเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม นายจิรายุ กล่าวว่า พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบ.ทก. ยืนยันว่า รัฐบาลจะดูแลและเยียวยากำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บทุกนายอย่างเต็มที่ เพื่อให้ได้รับการรักษาและสวัสดิการอย่างสมเกียรติและเหมาะสม พร้อมย้ำว่าฝ่ายความมั่นคงไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์นี้ และจะดำเนินมาตรการทุกวิถีทางเพื่อปกป้องอธิปไตยและความมั่นคงของแผ่นดินไทย นอกจากนี้ รัฐบาลขอเรียกร้องต่อประชาคมโลกให้ร่วมกันกดดันรัฐบาลกัมพูชา เพื่อเร่งรัดความร่วมมือในการเก็บกู้กับระเบิดโดยทันที และขอให้รัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวาทบทวนการให้ความช่วยเหลือที่ไม่ก่อให้เกิดผลรูปธรรม พร้อมพิจารณามาตรการอื่นที่จำเป็นเพื่อยุติการสูญเสียครั้งใหม่จากการกระทำที่ไร้ความปรานี -สำนักข่าวไทย

แม่แทบช็อก ไม่ได้คุยลูกชายวันเดียว รู้ข่าวเหยียบทุ่นระเบิด

13 ส.ค. – แม่แทบช็อก เผยไม่ได้คุยกับลูกชายวันเดียว รู้ข่าวเหยียบทุ่นระเบิดบาดเจ็บสาหัสที่ข้อเท้าซ้าย ขณะลาดตระเวนบริเวณปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ เหตุการณ์ทหาร 7 นาย ลาดตระเวนบริเวณปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ แล้วเหยียบทุ่นระเบิดของกัมพูชา ที่ลอบวางไว้ จนทำให้ สิบเอก ธีรพล เพียขันที ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 บาดเจ็บสาหัสที่ข้อเท้าซ้าย รักษาที่โรงพยาบาลพนมดงรัก อาการพ้นขีดอันตรายแล้ว พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า ได้ไปตรวจสอบตามแนววางลวดหนามบริเวณปราสาทตาเมือนธม ซึ่งจุดที่ทหารลาดตระเวนอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำ ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้ากัมพูชาจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่า ช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่ากัมพูชาสลักลอบมาวางกับระเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิงเพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอน หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล ซึ่ง พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก ได้ขอข้อมูลเร่งด่วนเพื่อทำการประท้วงฝ่ายกัมพูชาต่อไป และจะนำเรื่องนี้ พูดในที่ประชุม RBC ไทย-กัมพูชาครั้งต่อไปด้วย […]

กต.ประณามกัมพูชาใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชี้ละเมิดอธิปไตย

กรุงเทพฯ 9 ส.ค. – กระทรวงการต่างประเทศ ประณามกัมพูชา ใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ชี้เป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย ขัดต่อหลักการพื้นฐานที่สำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศ เมื่อเวลา 16.32 น. กระทรวงการต่างประเทศ โพสต์เฟซบุ๊ก แถลงการณ์เรื่องการประท้วงต่อเหตุการณ์ครั้งที่ 3 ในการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ของทางฝ่ายกัมพูชา โดยมีเนื้อหาระบุว่า ไทยประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย ขัดต่อหลักการพื้นฐานที่สำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศ ไทยเรียกร้องให้กัมพูชาหยุดการกระทำที่ละเมิดอนุสัญญาออตตาวาโดยทันที และให้ความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เพื่อมนุษยธรรมตามแนวชายแดน ตามที่นายกรัฐมนตรีของทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกัน ภายในกรอบทวิภาคี และตามที่ฝ่ายไทยได้เสนอต่อที่ประชุม GBC ที่ผ่านมา แต่ฝ่ายกัมพูชาไม่ตอบสนอง.-สำนักข่าวไทย

“สุรเดช” แนะใช้เทคโนโลยีจากออสเตรเลียช่วยเก็บทุ่นระเบิดแนวชายแดน

กทม. 9 ส.ค.-“สุรเดช” แสดงความเสียใจ 3 นายทหารเหยียบทุ่นระเบิดซ้ำอีก ร้องรัฐบาลอย่าเอาชีวิตทหารแขวนบนเส้นด้าย แนะนำเทคโนโลยีทันสมัยจากออสเตรเลียมาช่วยเก็บทุ่นระเบิดแนวชายแดน ยุฟ้องต่างประเทศให้เห็นความไม่จริงใจของเขมร จี้อย่ายอมเจรจาหากไม่ร่วมมือปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นายสุรเดช ยะสวัสดิ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐให้สัมภาษณ์ถึงเจ้าหน้าที่ทหารเหยียบกับระเบิดที่บริเวณรอยต่อช่องโดเอาว์-กฤษณา จังหวัดศรีสะเกษเมื่อช่วงเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมาว่า ส่วนตัวตนต้องขอแสดงความเสียใจกับทหารทั้ง 3 นายที่เหยียบกับระเบิดจนได้รับบาดเจ็บ และขอเรียกร้องไปยังรัฐบาล โดยเฉพาะกระทรวงการต่างประเทศให้สื่อสารไปยังประเทศต่างๆ ทั้งประเทศมาเลเซียซึ่งเป็นประเทศตัวกลางในการประสานให้ไทยและกัมพูชาได้พูดคุยเพื่อทำข้อตกลงในการหยุดยิงกัน รวมถึงประเทศสหรัฐอเมริกาและจีนที่เข้ามาร่วมสังเกตการณ์ในการทำข้อตกลง13 ข้อเมื่อวันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมาด้วย นายสุรเดช กล่าวว่าข้อตกลง 13 ข้อแต่มี 2 ข้อที่ทางกัมพูชาไม่ยอมรับคือการร่วมกันเก็บกู้ทุ่นระเบิดและการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ซึ่งในเรื่องของทุ่นระเบิดที่ยังคงฝังอยู่นั้น ในเมื่อเราไม่สามารถไว้วางใจกัมพูชาได้ เราก็ต้องมาเก็บกู้ของเราเองก่อน และในสถานการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจอย่างนี้เราควรจะต้องมีอุปกรณ์หรือเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งในหลายประเทศก็มีอุปกรณ์ที่ทันสมัย เท่าที่ตนติดตามข่าวประเทศที่มีเทคโนโลยีที่น่าสนใจคือประเทศออสเตรเลีย ซึ่งในทางทหารเราก็มีสัมพันธ์ที่ดีกับทางออสเตรเลียอยู่แล้ว สถานทูตออสเตรเลียประจำประเทศไทยเราก็มีอยู่ ดังนั้นเราก็สามารถประสานกับทางสถานทูตได้เลย โดยอาจจะขอให้ผู้เชี่ยวชาญของเขามาดูสถานที่พร้อมนำอุปกรณ์หรือเทคโนโลยีตรวจจับทุ่นระเบิดมาแสดงให้เราดูก่อนก็ได้ ซึ่งเทคโนโลยีนี้จะเป็นลักษณะเหมือนกับสนามแม่เหล็กที่สามารถจะเช็คสิ่งที่เป็นโลหะได้ว่า อยู่จุดไหนและพื้นที่ไหนที่มีทุ่นแม่เหล็กอยู่จำนวนมากหรือน้อย นอกจากนี้ยังมีวิธีการใช้โดรนเข้ามาตรวจสอบในพื้นที่ที่เป็นภูเขาที่จำเป็นต้องใช้โดนเข้าไปตรวจสอบด้วย ตนคิดว่า เราต้องรีบทำเพราะไม่เช่นนั้นทหารเราจะอันตราย “เรื่องนี้เป็นเรื่องของชีวิตคน ชีวิตทหาร เครื่องไม้เครื่องมือที่เรามีอยู่ในปัจจุบันอาจจะยังไม่ทันสมัยพอ ผมจึงอยากเสนอให้รัฐบาลพิจารณาเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน เพราะเราไม่สามารถที่จะเอาชีวิตทหารไปแขวนอยู่บนเส้นด้ายที่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อไหร่ ได้อีกแล้ว เราต้องระมัดระวังความปลอดภัยให้กับทหารของเรา ด้วยการมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยเข้ามาช่วยด้วย” […]

ทหารเหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวน เจ็บ 3 นาย

ศรีสะเกษ 9 ส.ค. – กำลังพล ร้อย.ร.111 เหยียบกับระเบิด ขณะลาดตระเวน บาดเจ็บ 3 นาย โดย “จ.ส.อ.ธานี” หัวหน้าชุด ข้อเท้าซ้ายท่อนล่างขาด ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 แถลงสถานการณ์การตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา ประจำวันที่วันที่ 9 สิงหาคม 2568 ถึงเวลา 11.00 น. โดยมีรายละเอียด ดังนี้ เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2568 เวลา 10.00 น. ร้อย.ร.111 ได้นำกำลังพลลาดตระเวนเส้นทาง เพื่อวางลวดหนามป้องกันพื้นที่ บริเวณรอยต่อ โดนเอาว์-กฤษณา จ.ศรีสะเกษ โดยมี จ.ส.อ.ธานี พาหา เป็นหัวหน้าชุด และกำลังพล 2 นาย โดยระหว่างตรวจสอบเส้นทางได้เหยียบกับระเบิด เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 นาย (ส.1 […]

Thai military convoy in Surin

ชี้สถานการณ์ไทย-กัมพูชาเป็นมากกว่าเรื่องดินแดน

นิวยอร์ก 27 ก.ค.- นิตยสารไทม์ของสหรัฐลงบทความวิเคราะห์สถานการณ์ไทยกับกัมพูชาในขณะนี้ว่า เป็นเรื่องอื่นที่มีความสำคัญมากกว่าเรื่องดินแดน บทความของชาร์ลี แคมป์เบลล์ บรรณาธิการอาวุโสระบุว่า เหตุทะเลาะเบาะแว้งเรื่องดินแดนที่เกิดขึ้นทั่วโลก เห็นได้ชัดว่ามีเหตุจำนวนมากที่เป็นการเบี่ยงเบนด้วยกระแสคลั่งชาติ (jingoistic distraction) แม้เหตุเหล่านี้อาจเกิดขึ้นได้เองตามธรรมชาติ แต่การปะทะที่ยืดเยื้อมักเกิดขึ้นจากจุดประสงค์ที่ชัดเจน บทความเล่าถึงการปะทะที่เกิดขึ้นใกล้ปราสาทตาเมือนธมเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ทำให้พลเรือนในไทยเสียชีวิต 1 คน ทหารเสียชีวิต 1 นาย เป็นเหตุให้มีการตอบโต้กันทั้งทางการทหารและทางการทูตจนถึงขณะนี้ นายแคมป์เบลล์ระบุว่า ปัญหาบริเวณชายแดนที่ทั้ง 2 ประเทศมีพรมแดนติดกันยาว 817 กิโลเมตรไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่สิ่งที่ทำให้ทุกคนงุนงงกับการปะทะล่าสุด คือ การที่สองตระกูลทรงอิทธิพลทางการเมืองของสองประเทศกลับกลายมาเป็นปรปักษ์กัน ทั้งที่เคยสนิทสนมกันมาก่อน ผู้เขียนชี้ว่า มีปัจจัยไม่กี่อย่างที่จูงใจอย่างชัดเจนให้นายฮุน เซน อดีตผู้นำกัมพูชาทำให้เหตุทะเลาะครั้งนี้ยืดเยื้อ หนึ่งในนั้น คือ สภาพเศรษฐกิจกัมพูชาขณะนี้ไม่ดีนัก เขาอาจใช้โอกาสนี้เปิดทางให้นายฮุน มาเนต บุตรชายได้แสดงความเป็นผู้นำในฐานะนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้นายฮุน เซนยังอาจต้องการเบี่ยงเบนเรื่องที่บุตรชายล้มเหลวในการแก้ปัญหา “โรคหลอกลวงระบาด” (scamdemic) ตามที่สหประชาชาติเรียกขาน ประเมินกันว่า ธุรกิจผิดกฎหมายในกัมพูชา ทั้งบ่อนกาสิโน การค้ามนุษย์ และแก๊งคอลล์เซ็นเตอร์ครองสัดส่วนถึงร้อยละ […]

ความขัดแย้งไทย-กัมพูชาอาจบานปลายได้

ปักกิ่ง 25 ก.ค. – ผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการทหารของจีนกล่าววานนี้ว่า การปะทะกันระหว่างไทยกับกัมพูชากำลังทวีความรุนแรงขึ้นด้วยการนำอาวุธหนัก เช่น เครื่องบินรบและปืนใหญ่จรวดมาใช้ หลังเกิดเหตุการณ์ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดนที่มีข้อพิพาท พร้อมกับเตือนถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดความรุนแรงยิ่งขึ้นระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้านที่ต่างก็เป็นมิตรประเทศของจีน จาง จุนเซ่อ ผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการทหารของจีน กล่าวกับโกลบอล ไทมส์ (Global Times) หนังสือพิมพ์ภาษาอังกฤษของทางการจีนในวันพฤหัสบดีว่า การที่กองทัพไทยนำเครื่องบินขับไล่ เอฟ-16 มาใช้และกัมพูชานำเครื่องยิงจรวดมาใช้ แสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาที่กำลังย่ำแย่ลง ซึ่งมีความเสี่ยงที่จะบานปลายต่อไป จากมุมมองทางทหารแล้ว ประเทศไทยได้มีความได้เปรียบเนื่องจากมีอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัยกว่า นายจางกล่าวว่า ทั้งประเทศไทยและกัมพูชาเป็นเพื่อนบ้านที่เป็นมิตรของจีน และสถานการณ์ที่อาจจะบานปลายนี้ไม่เป็นผลดีต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง หรือต่อทั้งภูมิภาค วิธีที่ดีที่สุดคือการแก้ไขปัญหาอย่างสันติผ่านการเจรจา สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า สาเหตุของการปะทะล่าสุดเกิดจากทุ่นระเบิด โดยไทยกล่าวหากัมพูชาในสัปดาห์นี้ว่าวางทุ่นระเบิดในพื้นที่พิพาทซึ่งทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ ในขณะที่กัมพูชาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวและกล่าวว่าทหารลาดตระเวณออกจากเส้นทางที่ตกลงกันไว้และเหยียบทุ่มระเบิดเก่าที่หลงเหลือมาจากสงครามในกัมพูชา สำหรับจีนมีส่วนร่วมอย่างแข็งขันในการช่วยเหลือประเทศต่างๆ รวมถึงกัมพูชาในการแก้ไขปัญหาทุ่นระเบิด ซึ่งจางกล่าวว่าเป็นการแสดงความรับผิดชอบของจีนในการปกป้องสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค ในปี 2567 มหาวิทยาลัยวิศวกรรมกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนได้จัดหลักสูตรเก็บกู้ระเบิดสองหลักสูตรสำหรับบุคลากรจากกัมพูชาและลาว ที่เป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากทุ่นระเบิด กองทัพจีนให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อความร่วมมือระหว่างประเทศในการเก็บกู้ระเบิด ตลอดระยะเวลากว่า 20 ปีที่ผ่านมา จีนได้ฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญด้านการเก็บกู้ระเบิดกว่า 700 คนจากกว่า 20 ประเทศ และส่งกลุ่มผู้เชี่ยวชาญไปต่างประเทศเพื่อดำเนินการสอนภาคสนามหลายครั้ง.-813.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาโต้ไทย อ้างทหารเหยียบระเบิด รุกล้ำกัมพูชา

24 ก.ค. – กัมพูชาโต้ไทย ปฏิเสธข้อกล่าวหาอย่างสิ้นเชิง อ้างทหารเหยียบระเบิด รุกล้ำกัมพูชา เตือนไทยมาโดยตลอดว่า พื้นที่ดังกล่าวยังคงมีทุ่นระเบิดตกค้างจากสงคราม “ฮุน เซน” ประธานวุฒิสภาของกัมพูชา แชร์โพสต์จาก เพจทางการของกระทรวงกลาโหมกัมพูชา ที่โพสต์ข้อความ ระบุพลเอกหญิง มะลิ โสเจียตา รองเลขาธิการ และโฆษกกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา แถลงการณ์ปฏิเสธข้อกล่าวหาอย่างสิ้นเชิงจากฝ่ายไทย ซึ่งไร้ซึ่งมูลความจริง กรณีเหตุการณ์ทหารไทย ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดกับระเบิดในหมู่บ้านอันเซ ตำบลเจียมก์ซาน อำเภอเจียมก์ซาน จังหวัดพระวิหาร ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2025 กระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ขอแสดงจุดยืนปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ปราศจากข้อเท็จจริงจากฝ่ายไทย เกี่ยวกับเหตุการณ์ทหารไทย 5 นาย ได้รับบาดเจ็บจากกับระเบิด ในพื้นที่หมู่บ้านอันเซ ตำบลเจียมก์ซาน อำเภอเจียมก์ซาน จังหวัดพระวิหาร ประเทศกัมพูชา เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2025 กัมพูชา ได้ย้ำเตือนฝ่ายไทยมาโดยตลอดว่า พื้นที่ดังกล่าวยังคงมีทุ่นระเบิดที่ตกค้างจากสงคราม ซึ่งยังไม่ได้รับการเก็บกู้ และได้เรียกร้องให้ฝ่ายไทย หลีกเลี่ยงการใช้เส้นทางลาดตระเวน ในลักษณะที่ขัดแย้งกับข้อตกลงบันทึกความเข้าใจปี 2000 […]

1 2 3 4
...