ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

“วราวุธ” ลั่นเก็บกู้ระเบิดไม่ใช่หน้าที่ของทหารไทย

พม. 12 ก.ย.-“วราวุธ” ลั่นเก็บกู้ระเบิดไม่ใช่หน้าที่ของทหารไทย บอกกัมพูชาเป็นคนวางก็ต้องกู้เอง แนะเปิดด่านชายแดนตรวจสอบคนเข้าออกให้ชัด ฝาก พม. ดูแลกลุ่มเปราะบาง นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) ในฐานะหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ที่กำลังจะมีการเปิดด่านบริเวณจังหวัดจันทบุรี-ตราด ว่า มีความกังวลพอสมควร เพราะการที่จะให้คนต่างชาติเข้ามา โดยเฉพาะประเทศกัมพูชาต้องตรวจสอบให้ดีว่าเป็นบุคคลจำพวกใดและมีวัตถุประสงค์ใด เพราะการที่รับคนเข้ามาจำนวนมากเกินไปจะเป็นผลร้าย หรือแม้แต่การที่ระบุว่าจะร่วมกันเก็บกู้ทุ่นระเบิด ก็เป็นสิ่งที่แปลกใจทั้งในฐานที่เป็นคนไทย และหัวหน้าพรรค ซึ่งจะต้องเป็นกำลังใจให้ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ในการทำหน้าที่บริเวณตะเข็บชายแดนไทย-กัมพูชาเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน นายวราวุธยังกล่าวอีกว่า บริเวณตามแนวตะเข็บชายแดนพบกลุ่มเปราะบางมากพอสมควร คงต้องฝากเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ของ พม. ในการดูแลพี่น้องกลุ่มเปราะบาง การทำแผนที่ที่กำหนดไว้ในการอพยพและดูแลกลุ่มคนเปราะบาง โดยประสานงานกับฝ่ายความมั่นคง และฝ่ายปกครอง เพื่อนำอุปกรณ์และข้าวของเครื่องใช้ รวมถึงดูแลให้อยู่ในพื้นที่ปลอดภัย โดยมีการอำนวยความสะดวกอย่างครบครัน “ผมยังสงสัยว่าทำไมทหารไทยต้องไปกู้ทุ่นระเบิด เพราะเราไม่ได้เป็นคนไปวาง ทำไมต้องมาร่วมกัน และต้องให้ฝ่ายเขมรผู้ที่วางทุ่นระเบิดไปกู้เสีย ดังนั้นการที่จะปิดด่านไว้เช่นนี้เพื่อรักษาไว้ซึ่งอธิปไตยและพี่น้องประชาชน เป็นส่ิงที่พวกเราชาวชาติไทยพัฒนาให้ความสำคัญที่สุด ถ้าหากว่าความปลอดภัยไม่มีแล้ว อธิปไตยไม่มีแล้ว ก็ที่จะมีเศรษฐกิจที่ดี ก็จะไม่เกิดประโยชน์ ขอเป็นกำลังใจให้ทหารหาญ แล้วก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการกู้ทุ่นระเบิดอย่าเอาทหารไทยไปกู้เลย เพราะมันไม่ใช่เรื่องของเรา” นายวราวุธ […]

“เสธ.เบิร์ด” เปิดหน้า 6 ผบ.หน่วยกัมพูชา สั่งวางทุ่นระเบิด

กทม. 11 ก.ย.- “เสธ.เบิร์ด” เปิดหน้า 6 ผบ.หน่วยกัมพูชา คุมพื้นที่ สั่งวางทุ่นระเบิดสังหารทำร้ายทหารไทย พร้อมย้ำมุมมอง-ท่าทีกองทัพไทยต่อเขมร ยันลอบกัด ประท้วงไม่เคยเป็นผล พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร โพสต์เฟซบุ๊กว่า เสธ.ทหารย้ำ กองทัพภาค 2 รับลูกทันที พร้อมโพสต์คำกล่าวของ พล.อ.มนัส จันดี เสนาธิการทหาร ระหว่างลงพื้นที่ตรวจแนวชายแดนโดยเฉพาะจุดที่ทหารไทยเหยียบระเบิดทั้ง 6 จุด ว่า “ในเมื่อเขมรลอบกัด หนังสือประท้วงไม่มีผล ตอบโต้ทันทีได้สัดส่วน เรารู้พิกัดทางทหรของกำลังที่เผชิญหน้าอยู่แล้ว” พร้อมกันนั้น ยังได้เปิดภาพและชื่อของทหารกัมพูชาวางระเบิดสังหารบุคคล โดยเนื้อหาระบุถคง ผบ.หน่วยพื้นที่กำลังเผชิญหน้าของเขมร ทั้ง6จุดที่ทหารไทยเหยียบระเบิดมีดังนี้ -ครั้งที่ 1 บริเวณเนิน 481 ซึ่งเป็นพื้นที่ช่องบก อ.น้ ายืนฯ (เมื่อ 16 ก.ค.68) ทกพ.ที่วางกำลังเผชิญหน้า คือ พัน.สสน.392 สน. โดยมี พ.ต. ชุน […]

“มาริษ” คุย ICRC ยื่นหลักฐานกัมพูชาใช้โล่มนุษย์-วางทุ่นระเบิดเกิดเหตุซ้ำ

สวิตเซอร์แลนด์ 28 ส.ค.-“มาริษ” คุย ICRC ยื่นหลักฐานกัมพูชาใช้โล่มนุษย์-วางทุ่นระเบิดเกิดเหตุซ้ำ ยันละเมิดสิทธิมนุษยชนสากล ยกกรณีบ้านหนองจานเป็นพื้นที่ที่ไทยช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมร่วมกับ ICRC ยุคสงครามกลางเมือง ประธาน ICRC ชื่นชมไทยใช้ความอดทนอดกลั้น ยึดมั่นกรอบกฎหมายระหว่างประเทศ ผ้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 28 ส.ค. ตามเวลาท้องถิ่นสวิตเซอร์แลนด์ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบ นางมีรยานา สปอลยาริส เอ็กเกอร์ (Mirjana Spoljaric Egger) ประธานคณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (ICRC) นายมาริษเปิดเผยภายหลังการหารือว่าวันนี้ได้นำหลักฐานที่ไทยยื่นประท้วงกัมพูชาต่อรัฐภาคีในอนุสัญญาออตตาวา ที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ขณะเดียวกันตนได้อธิบายถึงสิ่งที่ไทยประสบปัญหากับกัมพูชาโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน การบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร และวันนี้มาใช้ข้อมูลเพิ่มเติมกรณีที่กัมพูชาใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์กดดันประเทศไทย ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศทุกอย่าง นายมาริษ ได้ย้ำต่อประธาน ICRC ว่าไทยดำเนินมาตรการทุกอย่าง ทั้งมาตรการทางต่างประเทศและมาตรการทางทหาร สอดคล้องกับกฏบัตรสหประชาชาติและกฎหมายระหว่างประเทศทุกประการ และการเดินทางมาครั้งนี้เป็นเครื่องยืนยันว่า ประเทศไทยใช้วิธีตอบสนองกับช่องทางในการสื่อสารที่เป็นทางการเท่านั้น ซึ่งประธาน ICRC ได้ชื่นชมที่ไทยใช้ความอดทนอดกลั้น ซึ่งจากสิ่งต่างๆ ที่ไทยทำ ทำให้การเดินทางมากรุงเจนีวาในครั้งนี้ได้รับการยอมรับว่าไทยยึดมั่นในกรอบจารีตประเพณีของประชาคมโลก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ […]

“แม่พลทหารอดิศร” เผยลางบอกเหตุก่อนลูกเหยียบทุ่นระเบิดขาขาด

โคราช 28 ส.ค. – “แม่พลทหารอดิศร” เศร้า ลูกเหยียบทุ่นระเบิดสูญเสียขา แต่ภูมิใจทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย เผยลางบอกเหตุ ลูกทำชายผ้าถุงแม่ที่พกติดตัวหล่นหาย ขณะลาดตระเวน ที่บ้าน ต.ทุ่งสว่าง อ.ประทาย จ.นครราชสีมา ของพลทหารอดิศร ป้อมกลาง หรือโก้ อายุ 22 ปี ที่เหยียบกับระเบิดขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย ได้รับบาดเจ็บขาขวาท่อนล่างขาด มีญาติพี่น้องมาให้กำลังใจพ่อแม่ของพลทหารอดิศร เป็นจำนวนมาก นางเสาวลักษณ์ แม่ของพลทหารอดิศร เล่าด้วยน้ำตานองหน้าว่า ตนมีลูกชาย 2 คน พลทหารอดิศร เป็นลูกชายคนเล็ก ลูกจับใบแดงและเข้ารับราชการเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2567 ก่อนไปปฏิบัติหน้าที่ที่ชายแดน จ.สุรินทร์ โดยก่อนไปตนได้ตัดชายผ้าถุงให้ลูกชายพกติดตัวไว้ เพื่อเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ ให้แคล้วคลาดปลอดภัยในการปฏิบัติหน้าที่ แต่เมื่อประมาณ 3 วันที่ผ่านมา ลูกชายโทรศัพท์มาหาบอกว่าทำชายผ้าถุงแม่หล่นหายขณะออกลาดตระเวน ตนเลยบอกว่าไม่เป็นไรหรอก แม่เป็นกำลังใจให้ลูก ให้ลูกเข้มแข็งนะ จนกระทั่งเมื่อวาน (27 ส.ค.) ได้รับแจ้งข่าวว่าลูกเหยียบกับระเบิด ทุกคนในครอบครัวตกใจมาก แต่ปลื้มใจที่ลูกชายทำหน้าที่ทหารได้อย่างเต็มความสามารถ ชาวบ้านยันไม่เชื่อใจกัมพูชา จะทำตามข้อตกลง […]

“ภูมิธรรม” ชี้ทุ่นระเบิดเก่าหรือใหม่ พิสูจน์กันที่หลักฐาน

ทำเนียบ 28 ส.ค.- “ภูมิธรรม” ชี้ ต้องพิสูจน์กันที่หลักฐาน ทุ่นระเบิดเก่าหรือใหม่ หลังกัมพูชาแถลงแสดงความเสียใจแต่โต้เป็นทุ่นระเบิดเก่า ระบุ ยังไม่ได้รับรายงาน “ผบ.ทสส.” มีแนวคิดสร้างรั้วถาวรบ้านหนองจาน บอก หากเขตแดนชัดก็สร้างได้ แต่ต้องไปว่ากันในวงประชุมจีบีซี นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พลทหารเหยียบทุ่นระเบิดสังหารบุคคล บริเวณปราสาทตาควาย ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งพบว่าเป็นระเบิดใหม่ ว่า ตอนนี้ก็ยังมีการถกเถียงกันอยู่ แต่ตนได้พูดคุยกับ พลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแล้ว ท่านบอกว่าเรื่องนี้ต่างฝ่ายต่างเก็บหลักฐาน โดยจะนำเข้าไปสู่วงประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป หรือ จีบีซี ที่จะมีการประชุมกันในวันที่ 10 กันยายนนี้ ซึ่งเป็นเรื่องตกค้างตั้งแต่ครั้งที่แล้ว แต่เขาปฏิเสธและตอนนี้เพิ่งจะยอมรับให้เข้าไปเป็นหนึ่งในประเด็นที่จะพูดคุยในวงประชุมดังกล่าว ส่วนที่เมื่อคืนนี้ฝ่ายกัมพูชาออกมาแถลงแสดงความเสียใจ แต่ยืนยันว่าระเบิดที่พลทหารเหยียบนั้นเป็นระเบิดเก่าไม่ใช่ของใหม่ที่กัมพูชาไปวางไว้ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ก็อยู่ที่ข้อเท็จจริงและหลักฐาน เมื่อถามว่า ไทยจะยกระดับมาตรการให้มากกว่านี้หรือไม่ เนื่องจากมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำได้แค่ประท้วง นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องเข้าใจในกระบวนการแก้ไขปัญหาระหว่างประเทศ ซึ่งเมื่อเราทำตามกระบวนการทั้งหมด นานาชาติก็ชื่นชมในสิ่งที่เราทำ […]

ทบ.แจงหลักฐานชัดทุ่น PMN-2 เป็นของใหม่ จี้เขมรหยุดปฏิเสธ

28 ส.ค.- ทบ.ชี้แจงหลักฐานวางทุ่น PMN-2 เป็นของใหม่ ไม่ใช่ตกค้างจากสงคราม จี้กัมพูชาเคารพกติกาสากล หยุดปฏิเสธ หลังพบคลิป-ภาพชัด มีการวางทุ่น PMN-2 จริง จากกรณีเมื่อ 27 ส.ค. 68 ที่กระทรวงกลาโหมกัมพูชา ออกมาปฏิเสธต่อเหตุการณ์ที่ทหารไทยได้รับบาดเจ็บจากทุ่นระเบิด โดยระบุว่า กัมพูชายืนยันว่าไม่ได้มีการใช้หรือวางทุ่นระเบิดใหม่ และยังคงปฏิบัติตามพันธกรณีในอนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลนั้น พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ออกมาตอบโต้ว่า บริเวณพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา จะมีผู้เกี่ยวข้องอยู่เพียงสองฝ่ายคือไทยและกัมพูชา ซึ่งที่ผ่านมา มีเพียงฝ่ายไทยที่เป็นผู้ประสบเหตุมาโดยตลอด ประกอบกับเมื่อวันที่ 4 ส.ค.68 จากการสถาปนาความมั่นคงโดยหน่วยทหารช่าง บริเวณพื้นที่ภูมะเขือมีการตรวจพบทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งที่เตรียมไว้รอนำไปติดตั้ง และที่ติดตั้งแล้ว บริเวณแนววางกำลังเดิมของฝ่ายกัมพูชาเป็นจำนวนมาก อีกทั้งเมื่อวันที่ 22 ส.ค. 68 มีการตรวจพบทหารกัมพูชา 2–3 นาย แต่งกายในลักษณะหน่วย BHQ ปฏิบัติการดักซุ่มตรวจการณ์ฝ่ายไทย บริเวณทิศตะวันตกของเนิน 350 ใกล้ปราสาทตาควาย จึงได้ยิงขับไล่ไป เมื่อเข้าทำการตรวจสอบพื้นที่ […]

“มาริษ” คุยรัฐภาคีออตตาวา วอนใช้กรอบกลไกเรียกกัมพูชาแจงปมทุ่นระเบิด

นครเจนีวา 27 ส.ค. –“มาริษ” คุยรัฐภาคีออตตาวา ยื่นประท้วงอย่างเป็นทางการ พร้อมมอบหลักฐานฟ้องกัมพูชาละเมิดอนุสัญญาฯ ล่าสุดทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดรายที่ 6 วอนใช้กรอบออตตาวาเรียกเขมรแจง ขณะที่หลายประเทศชื่นชมไทย ปฏิบัติตามกติการะหว่างประเทศ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เดินทางไปที่สำนักงานใหญ่องค์การสหประชาชาติ พบหารือกับนางสาวอิชิกาวะ โทมิโกะ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรญี่ปุ่นประจำการประชุมด้านการลดอาวุธ ประธานการประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ครั้งที่ 22 (อนุสัญญาออตตาวา) และนางสาวแคโรลีน-เมลานี เรกิมบัล หัวหน้าสำนักงานกิจการลดอาวุธแห่งสหประชาชาติ (UNODA) ณ นครเจนีวา ซึ่งเป็นการประชุมร่วมกัน 3 ฝ่าย ในฐานะผู้มีส่วนเกี่ยวข้องภายใต้อนุสัญญาออตตาวาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล เพื่อชี้แจงถึงสถานการณ์ระหว่างไทย-กัมพูชา และรายงานข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการใช้ทุ่นระเบิดของฝ่ายกัมพูชาที่เป็นการละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ทั้ง 3 ฝ่ายได้ใช้เวลาในการหารือร่วมกันประมาณ 40 นาที จากนั้น นายมาริษได้เข้าร่วมหารือกับสมาชิกรัฐภาคีตามอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล โดยมีผู้เข้าร่วมการประชุมประมาณ 14 คน อาทิ เอกอัครราชทูตฝรั่งเศส, นอร์เวย์, เยอรมนี, เบลเยียม และผู้แทนของสหภาพยุโรป เป็นต้น โดยในกลุ่มนี้ มีประเทศผู้บริจาคแก่กัมพูชา ในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดด้วย นายมาริษ […]

“มาริษ” จ่อคุยวงใหญ่รัฐภาคี “ออตตาวา” โน้มน้าวกัมพูชากู้ทุ่นระเบิด

สวิตเซอร์แลนด์ 27 ส.ค.-“มาริษ” เดินสายพบข้าหลวงใหญ่ยูเอ็น เจนีวา รายงานข้อเท็จจริง “กัมพูชา” ละเมิดสิทธิมนุษยชน-สังหารพลเรือน-ใช้ข่าวปลอมสร้างโฆษณาชวนเชื่อ จ่อคุยวงใหญ่รัฐภาคี “ออตตาวา” ให้โน้มน้าวกัมพูชากลับมากู้ทุ่นระเบิด-หยุดละเมิดกฎหมายระหว่างประเทศ ที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าพบหารือต่อ นางนาดา อัล-นาชิฟ (Nada Al-Nashif) รองข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ เพื่อแสดงข้อมูลหลักฐานและชี้แจงข้อเท็จจริง ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างไทยกับกัมพูชา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ได้เคยยื่นหนังสือได้มีหนังสือถึงเลขาธิการสหประชาชาติจัดส่งข้อมูลเกี่ยวกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชาในอาณาเขตของประเทศไทยไปแล้ว เป็นไปตามพันธะกรณีภายในอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคลหรืออนุสัญญาออตตาวา ขณะที่การเข้าพบรองข้าหลวงใหญ่ฯ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศในวันนี้ เป็นการดำเนินการเพิ่มเติมเพื่อแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของไทยในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาอย่างสันติ ผ่านช่องทางทางการทูตตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศและกฎบัตรของสหประชาชาติ โดยได้ยื่นหลักฐานทั้งเอกสารและหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่สามารถพิสูจน์ข้อเท็จจริงได้ เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ทราบว่ามีการปฏิบัติการที่ละเมิดสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศอย่างร้ายแรงซึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศไทยไม่สามารถยอมรับได้ ทั้งการโจมตีแบบไม่เลือกเป้า การโจมตีในเขตพื้นที่พลเรือน การใช้ทุนระเบิดสังหารบุคคล และการใช้พลเรือนเป็นโล่มนุษย์ ซึ่งขัดต่อข้อตกลงระหว่างประเทศหลายฉบับ โอกาสนี้ รองข้าหลวงใหญ่ฯ ได้กล่าวแสดงความขอบคุณ ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยเดินทางมาด้วยตัวเอง ทำให้สามารถพูดคุยสอบถามได้โดยตรง และเป็นการแสดงความจริงใจและจริงจังในการแก้ไขปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชนตลอดแนวพรมแดนระหว่างไทยกับประเทศกัมพูชา นอกจากนั้นยังมีหนังสือตอบกลับเพื่อเน้นย้ำความสำคัญเกี่ยวกับการใช้การสื่อสารในทางโฆษณาชวนเชื่อ (Propaganda) เพื่อสร้างความขัดแย้งในหมู่ประชาชน ทำให้เกิดความแตกแยกปลุกปั่นให้เกิดสถานการณ์ที่เลวร้ายมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ […]

มทภ.2 ประณามกัมพูชา หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิด

กทม. 27 ส.ค.- มทภ.2 ประณามกัมพูชา ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง-อนุสัญญาออตตาวาไม่หยุด หลังทหารไทยเหยียบกับระเบิดข้อเท้าขาด 1 นาย ชี้ทุ่นระเบิดมีโครงสร้างพลาสติก เครื่องตรวจหาไม่เจอ เมื่อวันที่ 26 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวประณามกัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิงและอนุสัญญาออตตาวา ต่อเนื่อง หลังวันนี้ เวลาประมาณ 15.45 น. เกิดเหตุ พลทหาร อดิศร ป้อมกลาง สังกัด กองพันทหารราบที่ 1 กรมทหารราบที่ 23 เหยียบกับระเบิด ขณะปฏิบัติหน้าที่ในพื้นที่ปราสาทตาควาย อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เบื้องต้นได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาขวาท่อนล่างขาด หน่วยในพื้นที่ได้เข้าดำเนินการช่วยเหลือ และนำส่งเพื่อรับการรักษาแล้ว พล.ท.บุญสิน ระบุว่า เนิน 350 ปราสาทตาควาย เป็นพื้นที่ที่ทหารกัมพูชาวางกำลังหนาแน่น และมีทุ่นระเบิดรอบพื้นที่ โดยวันนี้ทหารไทยออกลาดตระเวน ซึ่งเครื่องตรวจวัตถุระเบิดตรวจหาไม่เจอ เนื่องจากทุ่นระเบิดดังกล่าวโครงสร้างเป็นพลาสติก คาดเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่ เบื้องต้นได้ทำหนังสือประท้วงไปทางฝ่ายกัมพูชาแล้ว และเตรียมกำหนดแผนทางการทหารต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

“มาริษ” จ่อบินเจนีวา แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี

สวีเดน 24 ส.ค.-“มาริษ” เตรียมบินเจนีวาต่อ แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี-องค์การสิทธิมนุษยชน-กาชาด ย้ำไทยรักสันติ ทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ ฟ้องเขมรใช้ทุ่นระเบิด-โจมตีพลเรือนไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าหลังการเยือนสวีเดนอย่างเป็นทางการแล้วจะเดินทางไปเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการคือ ไปชี้แจงให้กับประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคีให้เข้าใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งกัมพูชาใช้ยุทธศาสตรฺของการใช้ วัตถุระเบิดสังหารบุคคน ที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และอนุสัญญาออตตาวาและในโอกาสนี้จะพบกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่สืทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหาร การละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ของกัมพูชา รวมทั้งการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (icrc )ก็ได้ออกมาพูดชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยอย่างมาก และไม่สนับสนุนให้มีการใช้สงครามข่าวสารในการต่อสู้ โดยใช้พลเรือนเป็นตัวกระทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน ซึ่งในโอกาสนี้ตนจะได้พบปะกับประธาน crc พอดี ซึ่งเคยพบกันที่กรุงเทพมหานครแล้ว และทางประธานทราบว่าตนจะมาเจนีวาก็สามารถมาพูดคุยกันต่อได้ ซึ่งจะได้อธิบายทั้ง 2 ประการเหล่านี้เพราะ icrc เป็นองค์กรหลักที่ดูกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งสามองค์กรที่เราวางกลยุทธ์ จะเข้ามาพูดคุย ชี้แจงก็เพื่อยืนยัน ใน ท่าทีบทบาท ของประเทศไทยที่ชัดเจนว่าเราเป็นประเทศ ที่รักสันติ เราต้องการ แก้ไขปัญหาระหว่างกันอย่างสันติวิธี แต่ต้องมีความจริงใจ […]

สว.วุฒิพงศ์ ปิ๊งไอเดีย “รองเท้านิลมังกร” ลดความรุนแรงจากแรงระเบิด

รัฐสภา 22 ส.ค.-สว.วุฒิพงศ์ ปิ๊งไอเดีย “รองเท้านิลมังกร” หวังลดความรุนแรงจากแรงระเบิดเขตชายแดนไทย-กัมพูชา คาดลดแรงกระแทกได้ 70% จ่อส่งต้นแบบให้แม่ทัพภาคที่ 2 สัปดาห์หน้า น.ต.วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ สว. ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การทหาร และประธานคณะอนุกมธ.ด้านไซเบอร์และเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ วุฒิสภา แถลงกรณีต้นแบบรองเท้านิลมังกร (สไปเดอร์บูท) เพื่อลดแรงระเบิด ว่า จากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาทหารไทยจำนวนมากที่สูญเสียขาจากทุ่นระเบิดของกัมพูชาส่งผลให้เกิดความสะเทือนใจกับประชาชน รวมถึงขวัญและกำลังใจของทหารแนวหน้า ทำให้มีการแชร์รองเท้าที่เคยใช้ระหว่างสงครามรัสเซียและยูเครน ซึ่งตนและทีมงานได้ไปค้นคว้าพบว่าสิ่งประดิษฐ์เหล่านี้ถูกคิดค้นมาตั้งแต่ก่อนปี 2000 แล้วโดยประเทศแคนาดา ซึ่งมีโมเดลชัดเจนที่ยูเครนนำไปใช้ เราจึงถอดแบบมาจากสิ่งประดิษฐ์นั้น น.ต.วุฒิพงศ์ กล่าวต่อว่า เราได้ใช้เครื่องพิมพ์แบบสามมิติและประสานงานกับโรงงานที่พิมพ์สามมิติปรากฏว่าโรงงานเหล่านั้น พร้อมจะสนับสนุน โดยไม่คิดมูลค่า ทั้งการออกแบบการประกอบเป็นรูปร่างเหมือนที่เห็นต้นแบบในวันนี้ แต่ยังไม่แล้วเสร็จดีต้องรออีกประมาณหนึ่งสัปดาห์ จึงจะได้ต้นแบบออกมา ซึ่งจะเปลี่ยนต้นแบบโดยใส่ไฟเบอร์กลาสที่จะมีความแข็งแรงที่สามารถต้านแรงระเบิดได้ สิ่งเหล่านี้ได้พิสูจน์แล้วในสงครามรัสเซียยูเครน ซึ่งเดิมทหารยูเครนและชาวบ้านขาขาดไปประมาณ 2 หมื่นคน แต่เมื่อมีรองเท้านี้คนยูเครนขาขาดไม่ถึง 10 คนต่อปี ซึ่งใช้แล้วจะสามารถลดแรงปะทะได้มาก “หากใส่รองเท้าคอมแบททหาร เมื่อถูกระเบิด จะโดนตัดที่ข้อเท้าพอดี แต่ถ้าใช้รองเท้านิลมังกร ซึ่งเป็นรองเท้าที่ถูกยกพื้นขึ้นมา จะทำให้หน่วยลาดตระเวนนั้นไม่บาดเจ็บหรือบาดเจ็บเล็กน้อย ไม่ถึงขั้นขาขาด […]

1 2 3 6
...