8 เดือนแรกปี 68 ร้องเรียนออนไลน์พุ่ง 2.7 หมื่นเรื่อง

กรุงเทพฯ 17 ก.ย. – ETDA ชี้ 8 เดือนแรกปี 68 ร้องเรียนออนไลน์พุ่ง 2.7 หมื่นเรื่อง “สินค้าออนไลน์–เว็บเถื่อน” ครองแชมป์ แก้ไขแล้วกว่า 98% เร่งปิดช่องมิจฉาชีพด้วยกลไกร่วมกำกับภายใต้กฎหมาย DPS สร้างคุ้มกันคนไทยรู้ทันภัยออนไลน์


ดร.ชัยชนะ มิตรพันธ์ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ ETDA (เอ็ตด้า) เปิดเผยว่า จากข้อมูลของศูนย์ช่วยเหลือและจัดการปัญหาออนไลน์ หรือ1212 ETDA ในช่วง 8 เดือนแรก (เดือน มกราคม-สิงหาคม) ของปี 2568 พบ เรื่องเรียนปัญหาออนไลน์ที่ผู้บริโภคร้องเรียนผ่านช่องทางรับเรื่องของ 1212 ETDA สูงถึง 27,332 เรื่อง โดยเรื่องที่ได้รับการร้องเรียนมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ ปัญหาซื้อขายสินค้าออนไลน์ 10,306 เรื่อง คิดเป็นร้อยละ 41.79 รองลงมาได้แก่ปัญหาเว็บไซต์ผิดกฎหมายอยู่ที่ 9,090 เรื่อง (ร้อยละ 36.87) ขณะที่มีผู้ขอคำปรึกษาแนวทางเอกสารในการแจ้งเรื่อง รวมถึงปัญหาอื่น ๆ 2,460 เรื่อง (ร้อยละ 9.98) ปัญหาด้านการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลร้อยละ 1,421 เรื่อง (ร้อยละ 5.76) และปัญหาด้านการประกอบธุรกิจอย่างไม่เป็นธรรมอยู่ที่ 1,382 เรื่อง (ร้อยละ 5.60)

เมื่อย้อนดูสถิติ 2 ปีก่อนหน้า แม้ยอดเรื่องร้องเรียนปัญหาออนไลน์จะมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยปี 2566 มีทั้งหมด 45,181 เรื่องและปี 2567 มีทั้งหมด 35,358 เรื่อง แต่เมื่อเทียบช่วง 8 เดือนแรกของปี 2568 กับปี 2567 กลับพบว่า เรื่องร้องเรียนปัญหาออนไลน์ เพิ่มขึ้นถึง 4,574 เรื่อง หรือคิดเป็นร้อยละ 20.10 สะท้อนให้เห็นว่า ท่ามกลางการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเทคโนโลยีและการทำธุรรมออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มดิจิทัลที่เข้าถึงได้ง่ายและสะดวกนี้ ผู้บริโภคยังคงต้องเผชิญกับภัยออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความซับซ้อนของกลลวงในโลกออนไลน์ที่เหล่ามิจฉาชีพได้มีการปรับเปลี่ยนและพัฒนารูปแบบการหลอกลวงใหม่ ๆ โดยอาศัยช่องว่างของเทคโนโลยีอย่าง AI Deepfake ที่ปลอมเสียง ปลอมหน้า เป็นเจ้าหน้าที่มาหลอกประชาชน รวมไปถึงข้อจำกัดด้านความรู้เท่าทัน หรือ AI and Digital Literacy ของผู้บริโภคเอง โดยกลลวงที่ต้องจับตาและเฝ้าระวังเป็นพิเศษในปีนี้ คือ ปัญหาหลอกซื้อขายออนไลน์ โดยเฉพาะสินค้าปลอม ไม่ได้มาตรฐาน ปัญหาการหลอกลงทุนหรือหลอกทำงานออนไลน์ ทั้ง การทำงานออนไลน์ในหรือต่างประเทศ การลงทุนหุ้น, คริปโทเคอร์เรนซี, แชร์ลูกโซ่ในรูปแบบใหม่ๆ รวมไปถึงการหลอกให้กู้เงินด่วนออนไลน์ แล้วหลอกเก็บค่าธรรมเนียมก่อนแต่ไม่ปล่อยกู้เงินจริง เป็นต้น


ETDA ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจบริการดิจิทัล อย่าง ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล ที่ผนวกบทบาทของ 1212 ETDA ช่องทางกลางรับเรื่องร้องร้องเรียนและช่วยแก้ปัญหาภัยออนไลน์จากบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล ภายใต้กฎหมาย DPS ได้บูรณาการการทำงานร่วมกับพาร์ทเนอร์อื่นๆ อย่างใกล้ชิด ทั้งการเชื่อมระบบแจ้งความออนไลน์กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขยายความร่วมมือกับกรมการค้าต่างประเทศ, กรมพัฒนาธุรกิจการค้าและแพลตฟอร์มดิจิทัล (Facebook, TikTok) ยกระดับการคุ้มครองผู้ใช้งานในมิติต่าง ๆ โดย 1212 ETDA ไม่เพียงรับเรื่องร้องเรียน แต่ยังช่วยประสาน ส่งต่อเคสให้ได้รับความช่วยเหลือและแก้ปัญหาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้แล้วเสร็จถึง 26,794 เรื่อง หรือคิดเป็นร้อย 98.03 ของเรื่องร้องเรียนทั้งหมดในเดือน มกราคม-สิงหาคม 2568 ส่งผลให้ประชาชนที่เข้ามาใช้บริการมีความพึงพอใจสูงถึงร้อยละ 95.14

นอกจากนี้ ยังเดินหน้าอย่างต่อเนื่องเพื่อยกระดับการทำธุรกรรมออนไลน์ผ่านบริการแพลตฟอร์มดิจิทัลของคนไทยให้ปลอดภัย น่าเชื่อถือ ด้วยการเร่งเครื่องกลไกร่วมกำกับ ร่วมกับหน่วยงานกำกับดูแลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล ภายใต้ประกาศฯ และข้อเสนอแนะต่างๆ ที่พร้อมใช้งานแล้ว อาทิ คู่มือการพิสูจน์และยืนยันตัวตนเพื่อลงทะเบียนผู้ใช้บริการบนแพลตฟอร์มดิจิทัล คู่มือการดูแลโฆษณาออนไลน์บนแพลตฟอร์มดิจิทัล คู่มือการดูแลเกี่ยวกับการขายสินค้าที่ต้องมีมาตรฐานของสินค้าบนบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล และ ขมธอ. 32-2565 ว่าด้วยการรวบรวม กลั่นกรอง และเผยแพร่รีวิว ของผู้บริโภคบนช่องทางออนไลน์ รวมไปถึง ประกาศฉบับใหม่ที่ครอบคลุมทั้งแพลตฟอร์มประเภท Online Marketplace และ Ride Sharing เพื่อกำหนดหน้าที่เพิ่มเติมให้กับแพลตฟอร์มที่เข้าข่ายให้มีทิศทางการกำกับดูแลบริการของตนเอง (Self-Regulation) อย่างเป็นระบบ รวมถึงเดินหน้าแคมเปญ “DPS Trust Every Click” เปิดพื้นที่แลกเปลี่ยนมุมมองจากทุกภาคส่วน เพื่อสร้างการรับรู้และร่วมพัฒนากลไกความร่วมมือในการผลักดันให้เกิดระบบนิเวศดิจิทัลที่ปลอดภัย พร้อมขยายผลการใช้ประกาศฯ และคู่มือต่างๆ ภายใต้กฎหมาย DPS เพิ่มมากขึ้น เพื่อยกระดับกลไกการกำกับดูแลบริการแพลตฟอร์มที่ทุกคนมีส่วนร่วม ควบคู่กับการ ‘สร้างภูมิคนไทยรู้ทันปัญหาออนไลน์’ ให้กับประชาชนทุกกลุ่มทั่วประเทศ ผ่านกิจกรรมการลงพื้นที่ร่วมกับพาร์ทเนอร์ ตลอดจนสื่อประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ ที่ทุกคนเข้าถึงได้

สำหรับผู้บริโภคที่ประสบปัญหาจากการใช้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล หรือถูกหลอกลวงทางออนไลน์ สามารถร้องเรียนและขอรับคำปรึกษาเพื่อให้เข้าถึงกระบวนการดูแลช่วยเหลือได้เร็วขึ้น ได้ที่สายด่วนของศูนย์ 1212 ETDA ที่เบอร์ 1212 หรือ Line : @1212ETDA ได้ตลอด 24 ชั่วโมง หรือติดตามความเคลื่อนไหวเพิ่มเติมได้ที่ เพจเฟซบุ๊ก ETDA Thailand. -516-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]