“เอกนัฏ” เปิดใจ ปัดขัดแย้ง “พีระพันธ์ุ” หลังไขก๊อกเลขาฯ รทสช.

รัฐสภา 17 ก.ย.- “เอกนัฏ” เปิดใจ ไม่มีความขัดแย้ง “พีระพันธ์ุ” หลังไขก๊อกเลขาฯ รทสช. เผยคุย อนุทิน ตลอด พร้อมฝากก๊วน สส.ชุมพร หลังเปิดอกอยากไปร่วมงานด้วย บอกหากทำงานการเมืองต่อ “ภูมิใจไทย” เป็นทางเลือกหนึ่ง เหตุจุดยืนตรงกัน


นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีกระแสข่าวลาออกจากเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่า ช่วงเช้าที่ผ่านมาได้ยื่นหนังสือเพื่อลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรค ซึ่งได้พูดคุยกับนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติเรียบร้อยแล้ว และยืนยันว่าตนกับทางนายพีระพันธ์ุ ไม่มีความขัดแย้งส่วนตัว และมองว่านายพีระพันธ์ุ เป็นนักการเมืองน้ำดีคนหนึ่ง แต่ว่าในบทบาทของตนที่ทำหน้าที่เลขาธิการพรรคและ กก.บห. ในภายหลังมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ซึ่งได้นำไปปรึกษากับทางด้านนายพีระพันธ์ุแล้ว แต่หากจะให้ทำงานต่อในสภาวะความคิดเห็นที่แตกต่างกัน คาดว่าจะไม่เป็นผลดีต่อพรรค ตนจึงยินดีลาออกเพื่อให้ กก.บห.พรรคมีเอกภาพมากกว่านี้

“ผมและนายพีระพันธุ์ยังมีความรู้สึกที่ดีต่อกัน ในชีวิตการเมืองตั้งแต่มีการตั้งพรรครวมไทยสร้างชาติ และในฐานะที่ดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคมา 3 ปี ผมกับนายพีระพันธุ์ก็มีความประทับใจอยู่เยอะ แต่การทำงานของผมในฐานะเลขาธิการพรรค ในช่วงหลัง โดยเฉพาะช่วงที่มีกระแสข่าวคลิปเสียง และช่วงของการโหวตนายกรัฐมนตรีคนที่สาม 32 เริ่มมีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ด้วยการทำงานที่ระยะเวลาอีก 4-5 เดือนจะมีการเลือกตั้งใหม่ ถ้าหากยังปล่อยให้เป็นสภาพแบบนี้ต่อไปคงไม่เป็นผลดีต่อทางพรรคแน่นอน วันนี้ลาออกจากตำแหน่งเลขาธิการพรรค แต่ก็ยังเป็นสมาชิกพรรคอยู่ และก็ยังดำรงตำแหน่ง สส. แม้ไม่ได้เป็นรัฐมนตรีก็ยังสานต่อภารกิจที่ยังคงค้างไว้ที่อยู่ในกระทรวงอุตสาหกรรม เช่น ร่างพระราชบัญญัติโรงงาน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. …” นายเอกนัฎ กล่าว


เมื่อถามถึงกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพร่วมรับประทานอาหารร่วมกันกับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี นายเอกนัฏ กล่าวว่า ตนกับนายอนุทิน ได้มีการพูดคุยกันตลอดเวลาอยู่แล้ว เพราะเราเคยร่วมรัฐบาลกันมาก่อน 2 ปี นายอนุทินเป็นคนขออนุญาตมาพูดคุยด้วย เนื่องจากทราบว่าตนและกลุ่ม สส.ชุมพร จะไปทานข้าวกัน ซึ่งนายอนุทินถามว่าอยู่ที่ไหน และขออนุญาตมาร่วมพูดคุยด้วย ส่วนเรื่องที่มีหารือในวงทานข้าว นายชุมพล จุลใส พร้อมด้วยกลุ่ม สส.ที่ไปร่วมทานข้าว เปิดเผยว่าอยากไปทำงานร่วมกับทางพรรคภูมิใจไทย ซึ่งตนก็ไม่ได้ขัดข้องอะไร โดยเมื่อวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา ก็ได้ส่งต่อให้กับทางด้านนายอนุทินเรียบร้อยแล้ว และก็ขอให้พรรคภูมิใจไทยดูแล สส.ด้วย

เมื่อถามย้ำว่าในวงทานข้าวนายอนุทิน ได้ทาบทามมาร่วมงานในพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ก็คุยกัน เพราะนายอนุทินมาคุยกันอย่างเปิดเผย

“จริงๆ ถ้าผมจะทำการเมืองต่อ พรรคภูมิใจไทยก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง จุดยืนไม่ต่างกัน ที่อยากทำงานปกป้องสถาบันเสาหลักของชาติ ผมว่าอยู่ในใจผมอยู่แล้ว แต่รายละเอียดการทำงานก็ต้องให้โอกาสผมตัดสินใจพิจารณาก่อน เป็นเพราะผมไม่เคยทำอย่างอื่นนอกจากเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ” นายเอกนัฏ กล่าว


เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่จะย้ายไปอยู่พรรคภูมิใจไทยนั้น นายเอกนัฏ กล่าวว่า วันนี้ตนยังเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติอยู่ ยืนยันยังไม่ไปไหน เป็นเพียงการลาออกจากกรรมการบริหารพรรค แต่ในอนาคตมีความเป็นไปได้ทั้งหมด ตนเองอาจจะหยุดและไปทำอย่างอื่นก็ได้ เพราะมีเอกชนมาทาบทามตนเองเยอะ หลังจากที่ใช้ชีวิตด้านการเมืองมากกว่า 20 ปี ถ้าเบื่อก็อาจจะไปทำอย่างอื่น ไม่ได้ขัดข้อง ซึ่งเรื่องการตัดสินใจค่อยว่ากันอีกทีตอนนี้ทางเลือกยังมีอีกหลายทาง และพรรคประชาธิปัตย์ก็ยังไม่ได้เลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ เป็นพรรคซึ่งอยากให้รอฟังเพราะว่าเป็นพรรคเดิมที่ตนเคยอยู่มาก่อน ยังมีความรักและความผูกพันธ์

เมื่อถามถึงกรณีที่หลายฝ่ายมองว่าถึงจุดแตกหักอวสานของพรรครวมไทยสร้างชาติแล้ว นายเอกนัฏ กล่าวว่า ตนไม่อยากให้คิดเช่นนั้น ย้ำว่าตนยังรักพรรครวมไทยสร้างชาติอยู่ ด้วยความปรารถนาดีจริงๆ ตนอยากให้มีพรรครวมไทยสร้างชาติอยู่ ไม่อยากให้มองว่าจะทำให้พรรคแตก การที่ตนออกจากพรรครวมไทยสร้างชาติ ด้วยเสียงของ กก.บห. ที่แตกออกเป็น 2 ข้าง และไม่ใช่ครั้งแรก มีหลายเรื่อง ตนคิดว่าทำให้ตรงไปตรงมา ขยับออกให้ชัดเจนดีกว่า อีกทั้ง ตนก็ยังไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่ได้พูดคุยกับหัวหน้าเพื่อยื่นใบลาออก แต่เจตนาไม่อยากให้พรรคแตก อยากทำงานการเมืองต่อกับพรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ในพื้นที่เมื่อวันนี้มีความชัดเจนว่า 4-5 เดือนจะถึงกำหนดการเลือกตั้งใหม่ ทุกทีมก็มีอิสระที่จะตัดสินใจ ว่าจะไปที่ไหน เราไม่ได้ปิดกั้น

“ผมยังรักและผูกพันกับพรรครวมไทยสร้างชาติอยู่ พูดตามตรงเป็นไปได้ ไม่ได้อยากไปไหนเลย แม้ว่าวันนี้จะออกจากกก.บห.พรรค ก็ยังไม่ได้อยากไปไหน ขอให้เวลาตัดสินใจหน่อย” นายเอกนัฏ กล่าว

เมื่อถามถึงกระแสข่าวว่าจุดที่ทำให้พรรคแตกหักนั้น มาจากการโหวตนายกรัฐมนตรี นายเอกนัฏ กล่าวว่า ตนไม่ได้อยากพูดให้มีความรู้สึกไม่ดีต่อกัน เอาเป็นว่าไม่มีฝั่งไหนที่คิดผิดหรือถูกในทางการเมือง แต่มีความคิดเห็นที่ไม่ตรงกัน ในเรื่องของการแสดงจุดยืน สำหรับตนคิดว่าทุกคนต้องมีความชัดเจนในจุดยืน ตนไม่ชอบทำอะไรที่ เก้ๆ กังๆ กล้าๆ กลัวๆ ที่ผ่านมามีส่วนหนึ่งใน กก.บห.ที่คิดว่าควรจะงดออกเสียง แต่ตนคิดว่าในสถานการณ์บ้านเมืองที่ยุบสภาก็ไม่ได้ แล้วต้องเลือกซ้ายหรือขวานั้น ตนจะไม่ใช่ประเภทที่ทิ้งไว้ระหว่างทางหรืออยู่ตรงกลาง ตนคิดว่าต้องไปทางใดทางหนึ่ง จึงโหวตให้นายอนุทิน แต่ไม่ได้เข้าร่วมรัฐบาล คล้ายกับพรรคประชาชน ไม่ได้มีการไปต่อรองเรื่องตำแหน่ง และตนพูดในที่ประชุม กก.บห. รวมถึงที่ประชุมสส.ชัดเจน ว่า การตัดสินใจที่โหวตนายกฯครั้งนี้เป็นคนละเรื่องกับการตัดสินใจที่จะเข้าหรือไม่เข้าร่วมรัฐบาล ไม่เกี่ยวข้องกับการไปรับตำแหน่งในคณะรัฐมนตรี แต่ในกก.บห. ก็มีความคิดเห็นที่แตกต่างกัน แต่บางครั้งเวลาที่มีจุดยืนทางการเมืองที่มีความสำคัญ และมีความคิดเห็นที่ไม่เหมือนกัน คงจะไม่เป็นผลดี ตนคิดว่าคนใดคนหนึ่งต้องไขก๊อก หากไม่มีใครออกตนก็ยินดีที่จะออก ไม่ได้ติดอะไร

เมื่อถามถึงโผ ครม.ที่มี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ไปร่วมเป็นรัฐมนตรีด้วย มั่นใจในคุณสมบัติหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ขอไม่วิจารณ์ดีกว่า ย้ำว่าตนยังเป็น สส.อยู่ และการโหวตไม่ใช่เป็นการเข้าร่วมรัฐบาล จริงๆวันนี้เราเป็นฝ่ายค้าน ฉะนั้น เราต้องทำหน้าที่ของเราให้เต็มที่ ส่วนหนึ่งคือเรื่องกฎหมายที่ยังมีเรื่องร่างพ.ร.บ.โรงงานค้างอยู่ และอีกส่วนคือทำหน้าที่ตรวจสอบรัฐบาล ในฐานะ สส. อำนาจการตั้ง ครม. ไม่ใช่ของตน แต่อำนาจการตรวจสอบเป็นของสภาฯ หากมีการตั้งคนที่ไม่มีคุณสมบัติหรือคุณสมบัติไม่พร้อมมา เราก็เต็มที่แน่นอน ไม่มีคำว่าเกรงใจใคร ตนทำหน้าที่ของตนเหมือนเดิมในฐานะ สส.คนหนึ่ง

เมื่อถามว่า หากผู้ที่มีรายชื่อไปร่วมเป็นรัฐมนตรีไม่ผ่าน และมีการทาบทามพร้อมที่จะไปเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า “เหนื่อยแล้วครับ ผมพูดจริงๆว่าอีกแค่ 4 เดือน ก็จะไปเลือกตั้ง สำหรับผมที่คิดอยู่คือการมองข้ามไปช็อตการเลือกตั้งว่าเราจะขับเคลื่อนงานการเมืองอย่างไรให้เป็นที่พอใจของประชาชน และ 1 ปีที่ผ่านมากับการเป็นรัฐมนตรีผมพอใจแล้ว หากคิดว่าจะเป็นรัฐมนตรีต่อเรื่อยๆ เป็นรัฐมนตรีตลอดปีตลอดชาติ เป็นไปไม่ได้ ผมได้ทำแล้วหลายเรื่อง ผมไม่คิดว่าหากมีโอกาสกลับไปเป็นรัฐมนตรี ผมพอใจแล้วกลับ 1 ปีที่ผมทำ และจะทำหน้าที่สส.ให้ดีที่สุด ผมยังมีภารกิจคือดันร่างพ.ร.บ.โรงงานให้สำเร็จในสภาชุดนี้ ” -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]