18 กันยายน 2568
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล
ข้อมูลน่าสงสัย :
มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการระบาดของ Fentanyl ยาบรรเทาปวดที่ถูกใช้เป็นสารเสพติดในสหรัฐอเมริกา เมื่อมีการเผยแพร่ความเชื่อว่าอันตรายของยา Fentanyl ส่งผลกระทบต่อร่างกายแค่เพียงสัมผัสหรือสูดดมเท่านั้น จนกลายเป็นความเชื่อที่ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจระหว่างการจับกุมการค้ายา Fentanyl ที่กำลังระบาดในสหรัฐฯ

บทสรุป :
1.Fentanyl ไม่ซึมผ่านผิวหนัง
2.สูดดม Fentanyl ปริมาณน้อยไม่เป็นอันตราย
3.การกังวล Fentanyl เกินจริงขัดขวางการช่วยเหลือผู้เสพยาเกินขนาด
FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :
ความเชื่อว่าแค่การสัมผัสยา Fentanyl ก็ส่งผลกระทบต่อร่างกาย เริ่มเป็นที่กล่าวถึงตั้งแต่ปี 2013 เมื่อหนังสือพิมพ์ Montreal Gazette รายงานข่าวการกวาดล้างโรงงานผลิตสารเสพติดในเมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา สามารถยึดอุปกรณ์ผลิตยาเสพติดและสารตั้งต้นยาเสพติดหลายชนิด รวมถึง Fentanyl แต่ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นายที่ล้มป่วยจากกาตรวจยึดครั้งนั้น หนึ่งรายต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลจากอาการเกี่ยวกับหัวใจ ส่วนอีก 3 รายที่สวมหน้ากากและถุงมือระหว่างปฏิบัติหน้าที่ก็เกิดผืนขึ้นตามแขน
ต่อมาในปี 2017 ที่รัฐโอไฮโอ มีเหตุการณ์ที่ คริส กรีน ตำรวจนอกเครื่องแบบและเจ้าหน้าที่อีก 2 นาย ทำการสอบสวนอดีตนักโทษซึ่งพกพาสารเสพติดรวมถึงยา Fentanyl ภายในรถยนต์ ระหว่างตรวจสอบ คริส กรีน พบว่าเสื้อของตนเปื้อนผงแป้งสีขาว และทำการปัดผงออกจากเสื้อด้วยมือเปล่า
หนึ่งชั่วโมงต่อมา คริส กรีน มีอาการเหงื่อออกมาก กระสับกระส่าย และรู้สึกไม่สบาย จนถูกนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยจากการใช้ยาเกินขนาด ต่อมาผู้ต้องสงสัยถูกดำเนินคดีในข้อหาเป็นผู้ค้าและครอบครองยาเสพติด รวมถึงข้อหาทำร้ายเจ้าหน้าที่เนื่องจากเชื่อว่าจงใจให้ คริส กรีน สัมผัสกับยา Fentanyl จนเป็นอันตราย
2 เหตุการณ์ดังกล่าว นำไปสู่ความเชื่อผิด ๆ ว่า การสัมผัสหรือสูดดมยา Fentanyl เพียงเล็กน้อยก็เป็นอันตรายถึงชีวิต
Fentanyl ไม่ซึมผ่านผิวหนัง
แม้อัตราการเสียชีวิตจากการใช้ยา Fentanyl ในสหรัฐฯ จะสูงอย่างต่อเนื่องทุกปี แต่ไม่เคยมีรายงานพบการเสียชีวิตจากการสัมผัสหรือสูดดมยา Fentanyl โดยไม่ตั้งใจมาก่อน
ไซมอน แท็กเซล หัวหน้าทีมแพทย์ฉุกเฉินและนักดำน้ำเพื่อความปลอดภัยสาธารณะ ยืนยันว่า แพทย์และนักพิษวิทยาต่างลงความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า การสัมผัสยา Fentanyl ไม่ทำให้เป็นอันตรายแต่อย่างใด เพราะหากเกิดเหตุการณ์เช่นนั้น กลุ่มคนที่ผลิตยา ค้ายา และเสพยา ต้องได้รับผลกระทบเพียงแค่การสัมผัสยา Fentanyl ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เกิดขึ้น
มีการอ้างว่า ยา Fentanyl สามารถซึมผ่านผิวหนังได้ เนื่องจากมีการใช้ยา Fentanyl แบบแผ่นแปะสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บปวดเรื้อรัง แต่แท้จริงแล้วยา Fentanyl ไม่สามารถซึมผ่านผิวหนังได้
แผ่นแปะ Fentanyl จะประกอบด้วยเจลแอลกอฮอล์เฉื่อยที่ผสม Fentanyl ในปริมาณที่กำหนด ซึ่งยาถูกออกแบบมาให้ค่อย ๆ ซึมผ่านผิวหนัง โดยจะออกฤทธิ์นาน 48-72 ชั่วโมง แต่กว่าจะออกฤทธิ์ต้องใช้เวลานานถึง 13 ชั่วโมง ทำให้ผลจากการสัมผัสยา Fentanyl จากแผ่นแปะจะไม่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันเช่นกัน
แชด ซาโบรา ผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาด้านนโยบายปราบปรามสิ่งเสพติด สาธิตการสัมผัสเฮโรอีนที่ผสมสาร Fentanyl ด้วยมือเปล่า เพื่อยืนยันถึงความปลอดภัยของการสัมผัสยา Fentanyl
สูดดม Fentanyl ปริมาณน้อยไม่เป็นอันตราย
ความเชื่อว่าการอยู่ใกล้กับยา Fentanyl อาจเป็นอันตรายจากการสูดดมสาร Fentanyl ที่ปนเปื้อนอยู่ในอากาศที่หายใจ เป็นความเข้าใจผิดที่มาจากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจรัสเซียใช้ก๊าซปราบปรามกลุ่มกบฏเชเชนที่ก่อเหตุจับตัวประกันที่โรงละครในกรุงมอสโกเมื่อปี 2002 จนเป็นเหตุให้ผู้ก่อการร้ายเสียชีวิตทั้งหมด 40 ราย และมีตัวประกันเสียชีวิตถึง 132 ราย
การตรวจสอบสารปนเปื้อนบนเสื้อผ้าและตัวอย่างปัสสาวะจากตัวประกันที่รอดชีวิตในห้องปฏิบัติการของอังกฤษเมื่อปี 2012 พบว่า ก๊าซที่ใช้ในเหตุการณ์ครั้งนั้นมีส่วนผสมของสาร Remifentanil และ Carfentanil ซึ่งมีความรุนแรงมากกว่าสาร Fentanyl ประมาณ 2 เท่า และ 100 เท่าตามลำดับ
แต่ในเหตุการณ์ปกติ อันตรายจากการสูดดมสาร Fentanyl ที่ลอยในอากาศเกิดขึ้นได้ยากมาก เพราะจำเป็นต้องสูดดมสาร Fentanyl ปริมาณสูงในระยะเวลานานนับชั่วโมง ร่างกายจึงจะมีปริมาณ Fentanyl ในกระแสเลือดมากพอที่จะส่งผลเสียต่อร่างกายได้
ความกังวลเกินกว่าเหตุต่อ Fentanyl
ดร.ไรอัน มาริโน นักพิษวิทยาทางการแพทย์ รองศาสตราจารย์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเคสเวสเทิร์นรีเซิร์ฟ ในรัฐโอไฮโอ วิเคราะห์ว่า อาการของเจ้าหน้าที่อ้างว่าเกิดอาการโอเวอร์โดสจากการสัมผัสยา Fentanyl ทั้งการหายใจถี่ขึ้น เหงื่อออกมากขึ้น และมีอาการวิตกกังวล แท้จริงแล้ว เป็นอาการที่ตรงกันข้ามกับการได้รับยา Fentanyl เกินขนาดอย่างสิ้นเชิง เพราะอาการโอเวอร์โดสจากยา Fentanyl คือการทำให้ผู้ป่วยหายใจช้าลง
แม้จะมีการอ้างว่าผู้ป่วยเหล่านั้นอาการดีขึ้นเมื่อได้รับยา Naloxone ยารักษาอาการโอเวอร์โดสจากยาโอปิออยด์ แต่ ดร.ไรอัน มาริโน แย้งว่า ถ้าผู้ป่วยซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่เหล่านั้นยังสามารถใช้ยา Naloxone ด้วยตนเองได้ ก็ไม่น่าใช่อาการโอเวอร์โดสจากยา Fentanyl เพราะหากเป็นจริง พวกเขาจะต้องหมดสติจนไม่สามารถรักษาอาการดังกล่าวด้วยตนเองได้
ดร.ไรอัน มาริโน ประเมินว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่เหล่านั้นคืออาการตื่นตระหนกและวิตกกังวล ที่ส่งผลให้พวกเขาหายใจถี่ขึ้นและเหงื่อออกมากขึ้น และแนะนำให้เจ้าหน้าที่ที่พบเพื่อนร่วมงานที่มีอาการดังกล่าว คอยดูแลด้วยการให้เขาตั้งสติและหายใจลึก ๆ เพื่อให้เกิดความผ่อนคลาย ซึ่งจะได้ผลดีกว่าการใช้ยา Naloxone เกินความจำเป็น
ข้อเสียของการกังวล Fentanyl เกินจริง
ระหว่างปี 2022-2033 มีการระดมทุนจากพลเมืองใน 8 รัฐเป็นเงินกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อใช้เป็นงบประมาณจัดชื้อชุดป้องกันอันตรายและถุงมือชนิดพิเศษเพื่อป้องกันอันตรายจากการสัมผัสยา Fentanyl โดยเฉพาะ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญแย้งว่าถุงมือยางไนไตรล์ที่ใช้ในทางการแพทย์ก็เพียงพอสำหรับการสัมผัสยา Fentanyl อย่างปลอดภัย โดยไม่จำเป็นต้องทุ่มงบประมาณโดยไม่จำเป็น
ข้อมูลพบว่ามีความพยายามเพิ่มโทษให้กับผู้จงใจทำให้เจ้าหน้าที่มีอาการโอเวอร์โดสจากการสัมผัสยา Fentanyl ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่าเป็นเพียงข้อกล่าวหาที่อุปโลกน์ขึ้นมาจากความกลัวที่ไม่มีหลักฐานยืนยันทางวิทยาศาสตร์
ปัญหาที่ร้ายแรงที่สุด คือความเชื่อดังกล่าวจะทำให้เจ้าหน้าที่เกิดความลังเลในการช่วยเหลือผู้ป่วยที่เกิดอาการโอเวอร์โดสจากการใช้ยา Fentanyl ซึ่งส่วนใหญ่จำเป็นต้องได้รับการกู้ชีพและช่วยเหลือด้านการหายใจอย่างเร่งด่วน ความล่าช้าของการช่วยเหลืออันเกิดจากความเข้าใจผิดอาจทำให้โอกาสรอดชีวิตของผู้ป่วยลดน้อยลงในช่วงเวลาวิกฤต
ข้อมูลอ้างอิง :
https://www.mcgill.ca/oss/article/medical-critical-thinking/you-wont-die-touching-fentanyl
https://www.science.org/content/blog-post/fainting-fentanyl-exposure-nope
https://www.npr.org/sections/shots-health-news/2025/04/03/nx-s1-5349514/misinformation-about-fentanyl-exposure-threatens-to-undermine-overdose-response
หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare
สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter