ชัวร์ก่อนแชร์: ยามรณะ Fentanyl แค่แตะ ก็โอเวอร์โดส จริงหรือ?

18 กันยายน 2568
แปลและเรียบเรียงบทความ : อดิศร สุขสมอรรถ
ตรวจทานและพิสูจน์อักษร : คมส์ธนนท์ ศุขอัจจะสกุล


ข้อมูลน่าสงสัย :

มีข้อมูลเท็จเกี่ยวกับการระบาดของ Fentanyl ยาบรรเทาปวดที่ถูกใช้เป็นสารเสพติดในสหรัฐอเมริกา เมื่อมีการเผยแพร่ความเชื่อว่าอันตรายของยา Fentanyl ส่งผลกระทบต่อร่างกายแค่เพียงสัมผัสหรือสูดดมเท่านั้น จนกลายเป็นความเชื่อที่ส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจระหว่างการจับกุมการค้ายา Fentanyl ที่กำลังระบาดในสหรัฐฯ


บทสรุป :

1.Fentanyl ไม่ซึมผ่านผิวหนัง
2.สูดดม Fentanyl ปริมาณน้อยไม่เป็นอันตราย
3.การกังวล Fentanyl เกินจริงขัดขวางการช่วยเหลือผู้เสพยาเกินขนาด

FACT CHECK : ตรวจสอบข้อเท็จจริง :


ความเชื่อว่าแค่การสัมผัสยา Fentanyl ก็ส่งผลกระทบต่อร่างกาย เริ่มเป็นที่กล่าวถึงตั้งแต่ปี 2013 เมื่อหนังสือพิมพ์ Montreal Gazette รายงานข่าวการกวาดล้างโรงงานผลิตสารเสพติดในเมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา สามารถยึดอุปกรณ์ผลิตยาเสพติดและสารตั้งต้นยาเสพติดหลายชนิด รวมถึง Fentanyl แต่ปรากฏว่ามีเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นายที่ล้มป่วยจากกาตรวจยึดครั้งนั้น หนึ่งรายต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลจากอาการเกี่ยวกับหัวใจ ส่วนอีก 3 รายที่สวมหน้ากากและถุงมือระหว่างปฏิบัติหน้าที่ก็เกิดผืนขึ้นตามแขน

ต่อมาในปี 2017 ที่รัฐโอไฮโอ มีเหตุการณ์ที่ คริส กรีน ตำรวจนอกเครื่องแบบและเจ้าหน้าที่อีก 2 นาย ทำการสอบสวนอดีตนักโทษซึ่งพกพาสารเสพติดรวมถึงยา Fentanyl ภายในรถยนต์ ระหว่างตรวจสอบ คริส กรีน พบว่าเสื้อของตนเปื้อนผงแป้งสีขาว และทำการปัดผงออกจากเสื้อด้วยมือเปล่า

หนึ่งชั่วโมงต่อมา คริส กรีน มีอาการเหงื่อออกมาก กระสับกระส่าย และรู้สึกไม่สบาย จนถูกนำตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลในฐานะผู้ป่วยจากการใช้ยาเกินขนาด ต่อมาผู้ต้องสงสัยถูกดำเนินคดีในข้อหาเป็นผู้ค้าและครอบครองยาเสพติด รวมถึงข้อหาทำร้ายเจ้าหน้าที่เนื่องจากเชื่อว่าจงใจให้ คริส กรีน สัมผัสกับยา Fentanyl จนเป็นอันตราย

2 เหตุการณ์ดังกล่าว นำไปสู่ความเชื่อผิด ๆ ว่า การสัมผัสหรือสูดดมยา Fentanyl เพียงเล็กน้อยก็เป็นอันตรายถึงชีวิต

Fentanyl ไม่ซึมผ่านผิวหนัง

แม้อัตราการเสียชีวิตจากการใช้ยา Fentanyl ในสหรัฐฯ จะสูงอย่างต่อเนื่องทุกปี แต่ไม่เคยมีรายงานพบการเสียชีวิตจากการสัมผัสหรือสูดดมยา Fentanyl โดยไม่ตั้งใจมาก่อน

ไซมอน แท็กเซล หัวหน้าทีมแพทย์ฉุกเฉินและนักดำน้ำเพื่อความปลอดภัยสาธารณะ ยืนยันว่า แพทย์และนักพิษวิทยาต่างลงความเห็นเป็นเอกฉันท์ว่า การสัมผัสยา Fentanyl ไม่ทำให้เป็นอันตรายแต่อย่างใด เพราะหากเกิดเหตุการณ์เช่นนั้น กลุ่มคนที่ผลิตยา ค้ายา และเสพยา ต้องได้รับผลกระทบเพียงแค่การสัมผัสยา Fentanyl ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เกิดขึ้น

มีการอ้างว่า ยา Fentanyl สามารถซึมผ่านผิวหนังได้ เนื่องจากมีการใช้ยา Fentanyl แบบแผ่นแปะสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการเจ็บปวดเรื้อรัง แต่แท้จริงแล้วยา Fentanyl ไม่สามารถซึมผ่านผิวหนังได้

แผ่นแปะ Fentanyl จะประกอบด้วยเจลแอลกอฮอล์เฉื่อยที่ผสม Fentanyl ในปริมาณที่กำหนด ซึ่งยาถูกออกแบบมาให้ค่อย ๆ ซึมผ่านผิวหนัง โดยจะออกฤทธิ์นาน 48-72 ชั่วโมง แต่กว่าจะออกฤทธิ์ต้องใช้เวลานานถึง 13 ชั่วโมง ทำให้ผลจากการสัมผัสยา Fentanyl จากแผ่นแปะจะไม่เกิดขึ้นอย่างฉับพลันเช่นกัน

แชด ซาโบรา ผู้เชี่ยวชาญและที่ปรึกษาด้านนโยบายปราบปรามสิ่งเสพติด สาธิตการสัมผัสเฮโรอีนที่ผสมสาร Fentanyl ด้วยมือเปล่า เพื่อยืนยันถึงความปลอดภัยของการสัมผัสยา Fentanyl

สูดดม Fentanyl ปริมาณน้อยไม่เป็นอันตราย

ความเชื่อว่าการอยู่ใกล้กับยา Fentanyl อาจเป็นอันตรายจากการสูดดมสาร Fentanyl ที่ปนเปื้อนอยู่ในอากาศที่หายใจ เป็นความเข้าใจผิดที่มาจากเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจรัสเซียใช้ก๊าซปราบปรามกลุ่มกบฏเชเชนที่ก่อเหตุจับตัวประกันที่โรงละครในกรุงมอสโกเมื่อปี 2002 จนเป็นเหตุให้ผู้ก่อการร้ายเสียชีวิตทั้งหมด 40 ราย และมีตัวประกันเสียชีวิตถึง 132 ราย

การตรวจสอบสารปนเปื้อนบนเสื้อผ้าและตัวอย่างปัสสาวะจากตัวประกันที่รอดชีวิตในห้องปฏิบัติการของอังกฤษเมื่อปี 2012 พบว่า ก๊าซที่ใช้ในเหตุการณ์ครั้งนั้นมีส่วนผสมของสาร Remifentanil และ Carfentanil ซึ่งมีความรุนแรงมากกว่าสาร Fentanyl ประมาณ 2 เท่า และ 100 เท่าตามลำดับ

แต่ในเหตุการณ์ปกติ อันตรายจากการสูดดมสาร Fentanyl ที่ลอยในอากาศเกิดขึ้นได้ยากมาก เพราะจำเป็นต้องสูดดมสาร Fentanyl ปริมาณสูงในระยะเวลานานนับชั่วโมง ร่างกายจึงจะมีปริมาณ Fentanyl ในกระแสเลือดมากพอที่จะส่งผลเสียต่อร่างกายได้

ความกังวลเกินกว่าเหตุต่อ Fentanyl

ดร.ไรอัน มาริโน นักพิษวิทยาทางการแพทย์ รองศาสตราจารย์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเคสเวสเทิร์นรีเซิร์ฟ ในรัฐโอไฮโอ วิเคราะห์ว่า อาการของเจ้าหน้าที่อ้างว่าเกิดอาการโอเวอร์โดสจากการสัมผัสยา Fentanyl ทั้งการหายใจถี่ขึ้น เหงื่อออกมากขึ้น และมีอาการวิตกกังวล แท้จริงแล้ว เป็นอาการที่ตรงกันข้ามกับการได้รับยา Fentanyl เกินขนาดอย่างสิ้นเชิง เพราะอาการโอเวอร์โดสจากยา Fentanyl คือการทำให้ผู้ป่วยหายใจช้าลง

แม้จะมีการอ้างว่าผู้ป่วยเหล่านั้นอาการดีขึ้นเมื่อได้รับยา Naloxone ยารักษาอาการโอเวอร์โดสจากยาโอปิออยด์ แต่ ดร.ไรอัน มาริโน แย้งว่า ถ้าผู้ป่วยซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่เหล่านั้นยังสามารถใช้ยา Naloxone ด้วยตนเองได้ ก็ไม่น่าใช่อาการโอเวอร์โดสจากยา Fentanyl เพราะหากเป็นจริง พวกเขาจะต้องหมดสติจนไม่สามารถรักษาอาการดังกล่าวด้วยตนเองได้

ดร.ไรอัน มาริโน ประเมินว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่เหล่านั้นคืออาการตื่นตระหนกและวิตกกังวล ที่ส่งผลให้พวกเขาหายใจถี่ขึ้นและเหงื่อออกมากขึ้น และแนะนำให้เจ้าหน้าที่ที่พบเพื่อนร่วมงานที่มีอาการดังกล่าว คอยดูแลด้วยการให้เขาตั้งสติและหายใจลึก ๆ เพื่อให้เกิดความผ่อนคลาย ซึ่งจะได้ผลดีกว่าการใช้ยา Naloxone เกินความจำเป็น

ข้อเสียของการกังวล Fentanyl เกินจริง

ระหว่างปี 2022-2033 มีการระดมทุนจากพลเมืองใน 8 รัฐเป็นเงินกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อใช้เป็นงบประมาณจัดชื้อชุดป้องกันอันตรายและถุงมือชนิดพิเศษเพื่อป้องกันอันตรายจากการสัมผัสยา Fentanyl โดยเฉพาะ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญแย้งว่าถุงมือยางไนไตรล์ที่ใช้ในทางการแพทย์ก็เพียงพอสำหรับการสัมผัสยา Fentanyl อย่างปลอดภัย โดยไม่จำเป็นต้องทุ่มงบประมาณโดยไม่จำเป็น

ข้อมูลพบว่ามีความพยายามเพิ่มโทษให้กับผู้จงใจทำให้เจ้าหน้าที่มีอาการโอเวอร์โดสจากการสัมผัสยา Fentanyl ซึ่งผู้เชี่ยวชาญมองว่าเป็นเพียงข้อกล่าวหาที่อุปโลกน์ขึ้นมาจากความกลัวที่ไม่มีหลักฐานยืนยันทางวิทยาศาสตร์

ปัญหาที่ร้ายแรงที่สุด คือความเชื่อดังกล่าวจะทำให้เจ้าหน้าที่เกิดความลังเลในการช่วยเหลือผู้ป่วยที่เกิดอาการโอเวอร์โดสจากการใช้ยา Fentanyl ซึ่งส่วนใหญ่จำเป็นต้องได้รับการกู้ชีพและช่วยเหลือด้านการหายใจอย่างเร่งด่วน ความล่าช้าของการช่วยเหลืออันเกิดจากความเข้าใจผิดอาจทำให้โอกาสรอดชีวิตของผู้ป่วยลดน้อยลงในช่วงเวลาวิกฤต

ข้อมูลอ้างอิง :

https://www.mcgill.ca/oss/article/medical-critical-thinking/you-wont-die-touching-fentanyl
https://www.science.org/content/blog-post/fainting-fentanyl-exposure-nope
https://www.npr.org/sections/shots-health-news/2025/04/03/nx-s1-5349514/misinformation-about-fentanyl-exposure-threatens-to-undermine-overdose-response

ดูข่าวเพิ่มเติม

หากได้รับอะไรมา อย่าเพิ่งแชร์ต่อ ส่งมาตรวจสอบกับ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์”
LINE :: @SureAndShare หรือคลิก http://line.sure.guru
FB :: https://www.facebook.com/SureAndShare
YouTube :: https://www.youtube.com/@SureAndShare
Twitter :: https://www.twitter.com/SureAndShare
IG :: https://instagram.com/SureAndShare
Website :: http://www.ชัวร์ก่อนแชร์.com
TikTok :: https://www.tiktok.com/@sureandshare

สมัครรับฟรี ชัวร์ก่อนแชร์ Newsletter ส่งถึงกล่องอีเมลของคุณทุกสัปดาห์ :: https://i.sure.guru/sureandshareNewsletter

หมายเหตุ : โฆษณาที่ปรากฏอยู่บนหน้าเว็บไซต์นี้ แสดงผลโดยอัตโนมัติจากบริษัทผู้ให้บริการโฆษณา ไม่ใช่การสนับสนุนหรือส่งเสริมจากศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์แต่อย่างใด

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ธปท.ย้ำเร่งปลดล็อกบัญชีผู้บริสุทธิ์ ทำให้ร้านค้ามั่นใจ

กรุงเทพฯ 15 ก.ย. – ธปท. ย้ำทุกหน่วยงานร่วมกำหนดเงื่อนไขปลดล็อกบัญชีไม่มีเอี่ยวบัญชีม้า สิ้นเดือน ก.ย.นี้ เพื่อให้ร้านค้ามั่นใจรับโอนเงินซื้อสินค้า นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีในช่วงเดือนกันยายน 68 ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มในช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบในบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขร่วมกันให้เสร็จภายในสิ้นเดือน ก.ย.นี้ “ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้กับผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่นวงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้า ที่มีการซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้า ให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง ถึง 1 […]

ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ”

กทม. 15 ก.ย.-ครอบครัวชินวัตร ถึงเรือนจำคลองเปรม เข้าเยี่ยม “ทักษิณ” หลังครบ 5 วันกักโรค และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติเข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทำเรื่องขอเข้าเยี่ยมนายทักษิณ ที่เรือนจำกลางคลองเปรม หลังครบ 5 วัน การกักตัวเฝ้าระวังโรคโควิด-19 และกรมราชทัณฑ์ อนุญาตให้ญาติตามรายชื่อ 10 คน และทนายความ เข้าเยี่ยมได้วันนี้เป็นวันแรก โดยก่อนหน้านี้ พันตำรวจโท เชน กาญจนาปัจจ์ โฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่าอาการของนายทักษิณ โดยรวมดีขึ้น ความดันสูงก่อนหน้านี้ลงมาอยู่ในเกณฑ์ปกติ ซึ่งการเข้าเยี่ยมจะเป็นการพูดคุยผ่านกระจกใส เพื่อความปลอดภัย ล่าสุด ครอบครัวชินวัตรเดินทางมาถึงเรือนจำคลองเปรมแล้ว นำโดยคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์, น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ ลูกสาวคนโต และ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุม เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน

บช.ก. 15 ก.ย. – “บิ๊กเต่า” เปิดคดีใหม่ พระวัดดังเมืองปทุมธานี เอี่ยวเงินวัดโยงสีกาเยอรมัน ฝากให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหาย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) เปิดเผยถึงกระแสข่าวพระวัดดังจังหวัดปทุมธานี ที่มีความเกี่ยวข้องกับเงินวัดจำนวน 12.2 ล้านบาท ที่โอนเข้าบัญชีสีการายหนึ่ง ว่า เรื่องนี้ทราบว่ามีคนแจ้งความและเป็นคดีความอยู่ที่กองบังคับการปราบปรามแล้ว ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ และได้ข้อมูลที่น่าสนใจมากพอสมควร ซึ่งสีกาคนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับสีกาที่ทางตำรวจเพ่งเล็งอยู่หรือไม่จะต้องตรวจสอบในประเด็นนี้ด้วย แต่คดีนี้หลักๆ จะดูที่เส้นทางการเงินของบัญชีวัด หากพบใครเกี่ยวข้องก็จะต้องดำเนินการ ส่วนกรณีที่ทนายอนันต์ชัย ไชยเดช ประธานมูลนิธิทนายกองทัพธรรม นำหลักฐานออกมาโพสต์ผ่านโซเชียลนั้น ก็ถือว่ามีประโยชน์ต่อรูปคดี ส่วนจะเรียกเข้าสอบหรือไม่นั้นอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานสอบสวน ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานเรื่องนี้จะชัดเจน มีรายงานว่าผู้ที่เกี่ยวข้องในเรื่องนี้พบว่ามี 8 คน รวมพระด้วยเป็น 9 คน จึงอยากฝากถึงพระว่า ให้มาชี้แจงความบริสุทธิ์ หากไม่มาจะเสียหายเนื่องจากมีหลักฐานจำนวนมาก.-419-สำนักข่าวไทย

บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินแก๊งคอลเซ็นเตอร์

กทม. 16 ก.ย.-บุกห้ามยายวัย 83 โอนเงินให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์เกือบ 5 ล้าน แต่ยายไม่ฟัง ไม่เชื่อว่าโดนหลอก ไล่ตำรวจกลับไป แถมโทรฟ้องมิจฉาชีพว่าตำรวจมากวน สุดท้ายเข้าแจ้งความแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.พระโขนง ตะโกนคุยกับคุณยายวัย 83 ปี ข้ามรั้วประตูบ้าน ว่า อย่าโอนเงินให้มิจฉาชีพอีก หลังธนาคารพบความผิดปกติ เนื่องจากคุณยายถอนเงินออกมาหลายล้านบาท จึงประสานงานไปที่ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441 ให้แจ้งมายังตำรวจนครบาล เพื่อตรวจสอบการโอนเงินของคุณยายโดยด่วน ปรากฏว่า เมื่อตำรวจมาถึงบ้าน คุณยายไม่เชื่อ แถมยังคุยโทรศัพท์กับตำรวจปลอมในมือถือตลอดเวลา แล้วไม่เชื่อว่า ตำรวจที่มาหน้าบ้านเป็นตำรวจจริง จนตำรวจตัวจริงอ่อนใจ ทำได้เพียงแค่ประสานงานผู้นำในชุมชนให้ช่วยดูแลคุณยาย และเตือนเรื่องนี้ ล่าสุดคุณยายมาแจ้งความแล้ว เมื่อวันที่ 13 กันยายน แต่ยังไม่ได้เงินคืน ข้อมูลของตำรวจพบว่า คุณยายโอนเงินไปทั้งหมด 5 ครั้งครั้งแรกวันที่ 3 กันยายน ฝากเงินสดเข้าบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง 3.5 ล้านบาทวันที่ 4 กันยายน โอนเงินสดไป 400,000 บาทวันที่ […]

ข่าวแนะนำ

ปิดล้อมกว่า 8 ชม. จับหนุ่มคลั่งควงปืนสงครามขู่ยิง ตร.

ศรีสะเกษ 17 ก.ย. – พ่อค้ายาเสพติดคลุ้มคลั่ง ควงปืนสงคราม AK-47 ขู่ยิงเจ้าหน้าที่ หลังถูกชุดปฏิบัติการ 238 พิทักษ์นครลำดวน สนธิกำลังตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบ้านเป้าหมายพื้นที่ อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ เกลี้ยกล่อมนานกว่า 8 ชั่วโมง สุดท้ายทนแรงกดดันไม่ไหว ยอมวางอาวุธมอบตัวแต่โดยดี เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อมนายวีระศักดิ์ อายุ 35 ปี มีประวัติพัวพันการค้ายาเสพติด ครอบครองอาวุธสงคราม และยังเป็นบุคคลตามหมายจับของศาลจังหวัดสุรินทร์ ซึ่งวิ่งเข้าไปหลบภายในบ้าน ต.หนองกุง อ.โนนคูณ จ.ศรีสะเกษ หลังตำรวจแสดงตัวเข้าตรวจค้น เพราะได้รับการร้องเรียนจากชาวบ้านว่าเป็นเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญในพื้นที่ มีพฤติกรรมอุกอาจ แต่นายวีระศักดิ์กลับวิ่งไปหยิบอาวุธปืนสงคราม AK-47 ออกมาขู่เจ้าหน้าที่ พร้อมตะโกนด้วยเสียงดุดันว่าถ้าเข้ามาจะยิง จากนั้นรีบหลบกลับเข้าไปในบ้าน เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ปิดล้อมบริเวณโดยรอบอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันเหตุร้าย บรรยากาศตึงเครียด เจ้าหน้าที่พยายามใช้ยุทธวิธีเจรจาเกลี้ยกล่อม ทั้งให้พ่อแม่และญาติสื่อสารทางโทรศัพท์ หวังให้ผู้ต้องหายอมมอบตัวแต่ไม่เป็นผล เนื่องจากนายวีระศักดิ์ยังอยู่ในอาการคลุ้มคลั่งจากการเสพยาบ้า ถือปืนพร้อมยิงตลอดเวลา นานกว่า 8 ชั่วโมง […]

ช่องโดนเอาว์เจอ PMN-2 อีก 8 ทุ่น ทบ.ชี้เขมรยังละเมิดข้อตกลง

17 ก.ย.- ทบ. แจงตรวจพบ PMN-2 เพิ่มเติมอีก 8 ทุ่นบริเวณช่องโดนเอาว์ จ.ศรีสะเกษ ชี้กัมพูชายังคงละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ย้ำควรรับผิดชอบและร่วมแก้ไขปัญหาอย่างจริงใจ วันนี้ (17 ก.ย.68) ที่กองบัญชาการกองทัพบก พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่ากองทัพบกได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่ 2 ภายหลังจากที่กำลังพลกองร้อยทหารราบที่ 132 ฐานปฏิบัติการชนะศึก ได้ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อเสริมภารกิจด้านความมั่นคงในพื้นที่ช่องโดนเอาว์ ฐานปฏิบัติการชนะศึก อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ วานนี้ (16 ก.ย.68) โดยได้ตรวจพบทุ่นระเบิดสังหารบุคคลแบบ PMN-2 จำนวน 8 ลูก มีสภาพใหม่ ติดตั้งในลักษณะพร้อมทำงาน ซึ่งทางหน่วยได้ทำการเก็บกู้รื้อถอนและนำเก็บเพื่อรอการทำลายเป็นที่เรียบร้อย สำหรับการตรวจพบระเบิดดังกล่าว เป็นเครื่องยืนยันว่าฝ่ายกัมพูชายังคงมีความพยายามอย่างไม่ลดละในการใช้อาวุธต่อกำลังของฝ่ายไทย ซึ่งถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงอย่างชัดเจน และเป็นพฤติกรรมที่สวนทางกับข้อตกลงที่กัมพูชาได้ให้ไว้ในที่ประชุม GBC เมื่อวันที่ 10 ส.ค.68 ที่ผ่านมา ในเรื่องความร่วมมือที่จะดำเนินการเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งจากนี้กองทัพบกจะนำหลักฐานที่ได้ตรวจพบทั้งหมดในพื้นที่ รวบรวมนำส่งให้ส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อร้องเรียนตามกระบวนการในเวทีสากลต่างๆ ต่อไป รวมทั้งขอความร่วมมือกัมพูชา […]

ไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เขมรป่วนไม่เลิก

17 ก.ย.- เปิดไทม์ไลน์เหตุเผชิญหน้า “บ้านหนองหญ้าแก้ว” เจ้าหน้าที่ใช้แก๊สน้ำตา-กระสุนยาง หลังชาวเขมรชุมนุมประท้วง ก่อความวุ่นวาย ล่าสุดสถานการณ์ทั่วไปอยู่ในความควบคุม แต่กลุ่มชาวกัมพูชายังคงปักหลักใกล้แนวชายแดน.-สำนักข่าวไทย

ทำเนียบฯ เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่

ทำเนียบ 17 ก.ย.- ทำเนียบรัฐบาล เตรียมพร้อมสถานที่รับนายกฯ-ครม.ใหม่ ถ่ายรูปติดบัตร ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาลได้จัดเตรียมสถานที่สำหรับถ่ายรูปติดบัตรประจำตัวของคณะรัฐมนตรี ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอน และยังมีการตัดแต่งต้นไม้ บริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาล และตัดหญ้าด้านหน้าตึกไทยคู่ฟ้า เพื่อเตรียมพื้นที่สำหรับการถ่ายรูปหมู่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ตั้งแต่เมื่อวานนี้ (16 ก.ย.) นอกจากนี้ ยังมีความเคลื่อนไหวที่ตึกบัญชาการ 1 ซึ่งเป็นห้องทำงานของรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ที่ผ่านมา และวันนี้มีการส่งทีมงานเข้ามาดูห้องทำงานภายในตึกบัญชาการ 1 ด้วย สำหรับตำแหน่งว่าที่รองนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลอนุทิน มีชื่อทั้งหมด 7 คน ได้แก่ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง, ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายพัฒนา พร้อมพัฒน์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข, นายสุชาติ ชมกลิ่น รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ รองนายกรัฐมนตรี และนายโสภณ​ ​ซา​รัมย์​ รอง​นายก​รัฐมนตรี​ ขณะที่ตำแหน่งว่าที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี […]