รร.พลาซ่าฯ 10 ต.ค. – รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจไทยมั่นใจแม้เศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่แต่เศรษฐกิจเอเชียจะเป็นประเทศที่น่าสนใจลงทุน ย้ำไทยวางแผนดึงลงทุนจากจีนและอีกหลายประเทศ
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีเศรษฐกิจ กล่าวในการสัมมนา “Sino-Thai Business Investment Forum 2016” ว่า เศรษฐกิจโลกปัจจุบันยังไม่ฟื้นตัว เห็นได้จากเศรษฐกิจสหรัฐและยุโรปยังคงชะลอตัวต่อเนื่อง ส่งผลให้เศรษฐกิจในเอเชียเป็นที่น่าสนใจ เพราะเศรษฐกิจของประเทศขนาดใหญ่อย่างจีนและอินเดียมีการเติบโตรวดเร็วและต่อเนื่อง ขณะที่การค้าเสรีเป็นปัจจัยสำคัญทำให้เอเชียมีความแข็งแกร่งทางการค้ามากขึ้น และจะสามารถกลายเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจโลกได้ในอนาคต
ทั้งนี้ หากดูตลาดอาเซียนมีการเติบโตต่อเนื่องด้วยเช่นกัน โดยจีดีพีมีมูลค่า 2.5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้เห็นว่าตลาดอาเซียนเป็นประตูการค้าการลงทุนที่ดีในอนาคตได้โดยเฉพาะประเทศไทย แม้ว่าจะมีปัญหาการเมืองในช่วงที่ผ่านมา แต่ขณะนี้รัฐบาลภายใต้การนำพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีที่ได้เข้ามาบริหารประเทศในช่วง 2 ปีผ่านมาได้พยายามปฎิรูปประเทศทุกด้าน ทั้งการลดความเหลื่อมล้ำ การพัฒนาอุตสาหกรรมเด่น การส่งเสริมเทคโนโลยีเพื่อการผลิต และการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ จากก่อนเข้ามาบริหารประเทศจีดีพีเติบโตเพียงแค่ร้อยละ 0.8 แต่ปีที่ผ่านมาเติบโตถึงร้อยละ 2.8 และปีนี้จะเติบโตร้อยละ 3.2-3.5
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลได้วางกรอบ 5 ปีข้างหน้าไทยจะมีการลงทุนของรัฐและเอกชนรวมกันสูงถึง 12,000-15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งการลงทุนใหญ่ที่สุด คือ โครงการระเบียงเศรษฐกิจด้านตะวันออก หรืออีสเทิร์น อีโคโนมิค คอริดอร์ ดังนั้น จึงอยากจะเห็นต่างชาติโดยเฉพาะจีนเข้ามาร่วมเป็นคู่ค้าคู่ลงทุนกับไทยในทุก ๆ ระดับ โดยเฉพาะการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่ไทยกำลังพัฒนาขณะนี้ หากดูตัวเลขการลงทุนจากจีนที่ทางกระทรวงพาณิชย์ของจีนเปิดเผยออกมาในช่วง 7 เดือนแรกปีนี้เข้ามาลงทุนในไทย 525 บริษัท คิดเป็นเม็ดเงินลงทุนกว่า 2,150 ล้านบาท เป็นอันดับ 2 รองจากประเทศญี่ปุ่น และเชื่อว่าจากความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมานานจะทำให้การค้าและการลงทุนระหว่างกันเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว โดยเฉพาะการลงทุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทยที่จีนสนใจที่จะเข้ามาลงทุนกับไทยอย่างมากได้
ทั้งนี้ จากการนำคณะเยือนฝรั่งเศสและเยอรมนีสัปดาห์ที่ผ่านมาถือประสบผลสำเร็จอย่างสูง และได้รายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบแล้วว่านักลงทุนทั้ง 2 ประเทศจะนำทัพมาเยือนในประเทศไทย เพื่อเปิดทางเข้ามาลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น และไทยเปิดโอกาสให้ทุกประเทศที่สนใจที่จะเข้ามาลงทุนโครงการโครงสร้างพื้นฐานไทยโดยเปิดโอกาสทุกประเทศเข้ามายื่นซองประมูลในโครงการต่าง ๆ ได้อย่างเต็มที่และไม่จำกัดประเทศใดประเทศหนึ่งเท่านั้น
นายเฉียน เหวินฮุย ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษา ธนาคาร ไอซีบีซี กล่าวว่า ไทยเป็นหนึ่งในประเทศยุทธศาสตร์ One belt One Road ซึ่งจะเกิดการลงทุน 1.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ในอนาคตไทยจะเป็นส่วนหนึ่งในยุทธศาสตร์ทางทะเลของจีน หากรัฐและเอกชนของไทยเตรียมรับมือและปรับความพร้อมในการรับโอกาสที่จะเข้ามาถึงไทย โดยเฉพาะนักลงทุนจีนที่จะเข้ามาลงทุนในไทย เชื่อว่าเศรษฐกิจของไทยและจีนจะขับเคลื่อนไปด้วยกันได้ .-สำนักข่าวไทย