กองทัพไทยแจงข้อเท็จจริงปมทุ่นระเบิดชายแดนไทย–กัมพูชา

17 ส.ค.- กองทัพไทย ชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีทุ่นระเบิดชายแดนไทย–กัมพูชา หลังสื่อออนไลน์ของฝ่ายกัมพูชาเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2568 พลตรี วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า ตามที่มีการเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือนในสื่อออนไลน์ของฝ่ายกัมพูชาเกี่ยวกับทุ่นระเบิดที่ตรวจพบในพื้นที่ชายแดนไทย–กัมพูชา ขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องต่อสังคม ดังนี้ จากเหตุการณ์ที่กำลังพลไทย 5 นาย ประสบเหตุเหยียบทุ่นระเบิดในพื้นที่ชายแดน ผลการตรวจพิสูจน์โดยเจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) ยืนยันว่าเป็นทุ่นระเบิดสังหารบุคคลชนิด PMN-2 “ใหม่ทั้งหมด” ที่ถูกวางแบบพร้อมใช้งาน โดยมีการถอดอุปกรณ์ Safety และกลบพรางอย่างแนบเนียน สภาพทุ่นมีความใหม่ ตัวอักษรคมชัด และเมื่อรื้อถอนพบว่าสปริง เข็มแทงชนวน และชิ้นส่วนภายในอยู่ในสภาพใหม่สมบูรณ์ ไม่ใช่ทุ่นเก่าตามที่ฝ่ายกัมพูชากล่าวอ้าง นอกจากนี้ บริเวณภูมะเขือยังตรวจพบทุ่นระเบิดอยู่ในสองลักษณะ โดยลักษณะแรกคือทุ่น PMN-2 ที่ยังไม่ได้ใช้งาน หางปลา (safety pin) ยังคงติดอยู่ครบถ้วน สะท้อนให้เห็นว่ากัมพูชามีทุ่นชนิดนี้ไว้ครอบครองเพื่อเตรียมใช้งาน ซึ่งถือว่าละเมิดอนุสัญญาออตตาวาโดยตรง และมีหลักฐานเชื่อมโยงว่าทุ่นเหล่านี้ถูกนำไปใช้งานจริงในหลายพื้นที่ รวมถึงกรณีที่ทำให้ทหารไทยได้รับบาดเจ็บ ส่วนอีกลักษณะหนึ่งเป็นทุ่นที่รื้อถอนขึ้นจากพื้นดินในสภาพที่ถูกวางใช้งานแล้ว อยู่ในสภาพพร้อมทำงาน บางลูกมีร่องรอยของเข็มแทงชนวนที่เริ่มทำงานแต่ยังไม่สมบูรณ์ การรื้อถอนดำเนินการโดยทหารราบเพื่อรวบรวมไว้ และต่อมาส่งให้เจ้าหน้าที่ TMAC […]

วอนทั่วโลกจับตากัมพูชา หลังวางทุ่นระเบิดไม่หยุด

ทำเนียบ 14 ส.ค.- ไทยวอนทั่วโลกจับตากัมพูชา หลังวางทุ่นระเบิดใส่ทหารไทยไม่หยุด ขณะที่ กต. เตรียมนำคณะทูตลงพื้นที่อุบลราชธานีและศรีสะเกษ เสาร์นี้ ด้านกองทัพพร้อมนำคณะผู้สังเกตการณ์ทางทหารลงพื้นที่ 18 ส.ค. ชี้กัมพูชาต้องหยุดละเมิดสิทธิมนุษยชนและอธิปไตยไทยทันที นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า รัฐบาลไทย ขอชี้แจงข้อเท็จจริงต่อประชาคมโลก เพื่อให้ กัมพูชาให้ยุติพฤติกรรม ลอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ อนุสัญญาออตตาวา จริยธรรมและหลักมนุษยธรรมขั้นพื้นฐานอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ รัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศ เตรียมนำคณะทูตโดยเฉพาะผู้แทนจากสถานทูตประเทศที่เป็นภาคีของ Ottawa Convention ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี และจังหวัดศรีสะเกษ ในวันเสาร์ที่ 16 สิงหาคม 2568 โดยคณะจะเดินทาง ไปยังจังหวัดอุบลราชธานี และเดินทางต่อไปยังผามออีแดง จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อรับฟังการบรรยายสรุป และการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดของหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรมที่ 2 ในพื้นที่ภูมะเขือ ก่อนเดินทางไปตรวจพื้นที่ความเสียหายพลเรือน ที่บ้านหนองเม็ก ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ โรงเรียนภูมิซรอลวิทยา พร้อมรับฟังบรรยายสรุปจากผู้แทน นอกจากนี้ ในส่วนของกองทัพไทย ได้วางกำหนดการในการนำคณะผู้สังเกตการณ์ทางทหารชั่วคราว […]

7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ตลอดคืน “ไม่มีการปะทะ”

ทำเนียบ 13 ส.ค.- สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา 7 จังหวัด ตั้งแต่เวลา 18.00 น. ถึงเช้าวันนี้ “ไม่มีการปะทะ” วันนี้ (13 สิงหาคม 2568) เวลา 07.00 น. นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย – กัมพูชา (ศบ.ทก.) เปิดเผยว่า ตั้งแต่ช่วงค่ำของวันอังคารที่ 12 สิงหาคม 2568 จนถึงเช้าวันนี้ (วันพุธที่ 13 สิงหาคม 2568 เวลา07.00 น.) เหตุการณ์บริเวณพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา 7 จังหวัด ไม่มีการปะทะ      โดยกองทัพไทย ยังคงวางกำลังตามแนวที่มั่นอย่างแข็งขันใน 11 พื้นที่ใน 7 จังหวัด และพร้อมตอบโต้หากถูกรุกล้ำอธิปไตยทันที โดยฝ่ายไทย ยังยึดมั่นปฏิบัติตามข้อตกลงของการประชุม GBC ที่ผ่านมา […]

ย้ำไทยไม่เคยมีระเบิด MK-84 โจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหาร

ทำเนียบรัฐบาล 11 ส.ค.- ย้ำไทยไม่เคยมีระเบิด MK-84 ยันปฏิบัติการแบบสากล ทหารไทยโจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหารเท่านั้น นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และกรรมการศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา (ศบ.ทก.) ปฏิเสธกรณีรัฐบาลกัมพูชานำคณะผู้ช่วยทูตทหารต่างประเทศประจำกัมพูชา ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายในจังหวัดอุดรมีชัยของกัมพูชา แล้ว อ้างว่าพื้นที่ดังกล่าวเกิดจากการโจมตีของฝ่ายไทย ยืนยัน ไทยไม่มีระเบิด MK-84 และไม่โจมตีใส่เป้าหมายพลเรือน ปฏิบัติการเฉพาะเป้าหมายทางทหารนั้น นายจิรายุ เปิดเผยว่า กองทัพไทย ยืนยันพื้นที่ที่กัมพูชานำเสนอเป็นบริเวณเป้าหมายทางทหาร มีกองกำลังทหารกัมพูชาปฏิบัติการอยู่ และพื้นที่อยู่ใกล้แนวชายแดนไทย–กัมพูชาเพียงไม่กี่กิโลเมตร ซึ่งไทยโจมตีเฉพาะในพื้นที่ปฏิบัติการเท่านั้น ต่างจากกัมพูชาที่มุ่งโจมตีเป้าหมายพลเรือนของไทยนอกเขตพื้นที่การรบ หลายจุดมีระยะห่างจากแนวรบไกลถึง 30 กิโลเมตร ในส่วนของระเบิด MK-84 ที่กัมพูชาอ้างว่าพบนั้น กองทัพอากาศไทยได้เคยออกมายืนยันแล้วว่าเป็น “ข่าวปลอม” โดยไทยไม่เคยจัดซื้อระเบิดจากแหล่งที่ถูกกล่าวอ้าง และการจัดซื้อยุทโธปกรณ์ทุกชนิดของไทยดำเนินการผ่านพันธมิตรด้านความมั่นคงที่ได้รับการรับรองเท่านั้น ซึ่งควรจะให้ องค์กรที่เป็นกลางและมีความน่าเชื่อถือในระดับนานาชาติ เป็นผู้ตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อความโปร่งใสและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า การปฏิบัติการทางอากาศของไทยเป็นการใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎบัตรสหประชาชาติ และอยู่ภายใต้กฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด มุ่งโจมตีเฉพาะเป้าหมายทางทหาร และจำกัดวงการทำลายให้อยู่ในพื้นที่ปฏิบัติการเท่านั้น ต่างจากกัมพูชาที่มุ่งโจมตีเป้าหมายพลเรือนของไทยนอกเขตพื้นที่การรบ “รัฐบาลไทยยืนยันชัดว่าไทยยึดมั่นในหลักสากล ไม่ใช้กำลังกับเป้าหมายพลเรือน และจะปกป้องประชาชนและอธิปไตยของประเทศอย่างเต็มที่” นายจิรายุกล่าว -สำนักข่าวไทย

กองทัพไทยตำหนิกองทัพกัมพูชาทอดทิ้งทหารให้รบลำพัง

30 ก.ค.- กองทัพไทย ผิดหวังรัฐบาลกัมพูชา ปฏิเสธข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในแนวหน้า ตำหนิกองทัพกัมพูชาทอดทิ้งทหารให้รบโดยลำพัง พลตรี วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ออกมาแสดงความผิดหวังต่อคำแถลงของกระทรวงการต่างประเทศและความร่วมมือระหว่างประเทศกัมพูชา ซึ่งได้ออกแถลงการณ์เมื่อค่ำวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 โดยชี้แจงและแสดงจุดยืนต่อกรณีดังกล่าว ดังนี้ การที่ฝ่ายกัมพูชาปฏิเสธข้อเท็จจริงดังกล่าว มิใช่เพียงการเพิกเฉยต่อหลักฐานที่ปรากฏ แต่ยังบั่นทอนความเชื่อมั่นของกลไกสันติภาพในเวทีโลก ทั้งนี้ กองทัพไทยพร้อมให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ต่อกลไกผู้สังเกตการณ์ที่เป็นกลาง และยืนยันข้อเท็จจริงบนหลักฐานที่ตรวจสอบได้ เพื่อพิสูจน์ให้ประชาคมโลกเห็นว่า กองทัพไทยปฏิบัติตามคำมั่นอย่างเคร่งครัด “ไม่ใช่แค่ออกมาพูดว่า “มุ่งมั่นและแน่วแน่” แต่พิสูจน์ได้ด้วยการกระทำ พฤติกรรมดังกล่าว มิใช่แค่ละเมิดคำสั่ง แต่ยังสะท้อน “สัญญาณอันตราย” ว่ากองทัพกัมพูชาขาดความสามารถในการจัดการกำลังพลในยามวิกฤต ในขณะที่รัฐบาลกัมพูชากล่าวอ้างถึง “ความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่” เพื่อสันติภาพในทุกบรรทัดของแถลงการณ์ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 29 กรกฎาคม 2568 ชี้ให้เห็นว่าเป็นการปฏิบัติที่ไม่ได้หวังผลทางยุทธวิธี แต่เป็นการ “เรียกร้อง” จากความรู้สึกถูกทอดทิ้ง ไม่มีเสบียง ไม่มีการหมุนเวียนกำลัง และขาดสิ่งอำนวยความสะดวกขั้นพื้นฐานในการดำรงชีพ สะท้อนว่ากองทัพกัมพูชาคือระบบอำนาจนิยมที่สร้างจากความหวาดกลัวและไร้มนุษยธรรม กองทัพไทยขอเรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาและกองทัพกัมพูชา “หันกลับไปดูแลทหารของตัวเอง” ก่อนที่จะกล่าวหาใคร ๆ ว่าบิดเบือนความจริง พฤติกรรมการแสดงออกที่เกิดขึ้น แสดงว่าพวกเขาเหนื่อยล้า […]

“พล.อ.เกรียงไกร” มั่นใจกองทัพไทยตรึงพื้นที่สำคัญได้

รัฐสภา 29 ก.ค.- “พล.อ.เกรียงไกร” ยืดอก มั่นใจ “กองทัพไทย” ตรึงพื้นที่สำคัญได้ ชี้ภูมะเขือ – ปราสาทตาควาย จุดสำคัญทางยุทธศาสตร์ทหาร ต้องชิงความได้เปรียบ บอกสู้รบย่อมมีสูญเสีย แต่ต้องไม่เสียเปล่า มองเจรจาไทย – กัมพูชามีสัญญาณบวก หวังสถานการณ์ดีขึ้น พร้อมจี้รัฐทบทวน MOU 43 – 44 พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา และอดีตแม่ทัพภาคที่ 4 ตรวจเยี่ยม และให้กำลังใจสมาชิกวุฒิสภา และข้าราชการสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ซึ่งมาบริจาคเลือด เพื่อช่วยเหลือให้ผู้ประสบเหตุในสถานการณ์ปะทะชายแดนไทย – กัมพูชา พร้อมกล่าวว่า ได้มีการประสานงานจากสถาบันพยาธิวิทยา กรมการแพทย์ทหารบก เพื่อเข้ามารับบริจาคเลือด แม้ขณะนี้สภากาชาดไทย ซึ่งเป็นหน่วยรับบริจาคโดยตรง จะมีการเปิดรับบริจาคเลือดอยู่แล้ว แต่ในสถานการณ์ขณะนี้ ที่ยังมีปฏิบัติการทางทหารในพื้นที่ชายแดนที่ยังมีต่อเนื่อง ซึ่งถ้าหากติดตามสถานการณ์ จากการพูดคุยเจรจาซึ่งตกลงว่า จะมีการหยุดยิงในช่วงเที่ยงคืน แต่ปัจจุบันก็ทราบกันดีว่า ยังไม่มีการหยุดยิง จึงตระหนักถึงพื้นที่เกิดเหตุ และมองว่าน่าจะช่วยเหลือประชาชน เจ้าหน้าที่แนวหน้าได้ นอกจากการรับบริจาคเลือด ก็ยังมีการประชุม ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย […]

กองทัพไทยย้ำ! ใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล

29 ก.ค.- กองทัพไทยย้ำ! ใช้สิทธิป้องกันตนเองตามกฎหมายสากล เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติและประชาชน หลังกัมพูชาจงใจละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ทำลายความเชื่อมั่นในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน ตามที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาได้ตกลงร่วมกันในการยุติการสู้รบทางทหารบริเวณแนวชายแดน โดยมีผลตั้งแต่เวลา 24.00 น. ของวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เพื่อเปิดทางสู่สันติภาพและความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อนบ้านนั้น วันที่ 29 กรกฎาคม 2568 พลตรี วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ระบุกองทัพไทย ได้รับการยืนยันว่า ฝ่ายไทยได้ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด หยุดยิงทุกพื้นที่ทันทีที่ถึงกำหนดเวลา โดยยึดมั่นในคำมั่นสัญญาที่รัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันให้ไว้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาหลังจากกำหนดหยุดยิง ฝ่ายกัมพูชายังคงใช้อาวุธยิงเข้ามาในเขตแดนของประเทศไทยอย่างต่อเนื่องในหลายจุด ถือเป็นการกระทำที่ จงใจละเมิดข้อตกลง และบ่อนทำลายความเชื่อมั่น ที่ควรมีต่อกันในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน กองทัพไทย ขอประณามพฤติกรรมดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชา และขอยืนยันว่า ประเทศไทยมีความจำเป็นต้องใช้มาตรการโต้กลับ ภายใต้สิทธิในการป้องกันตนเองตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ทั้งนี้ ไทยมิได้ใช้กำลังเพื่อรุกราน แต่เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ และความปลอดภัยของประชาชน “เมื่อเราหยุด แต่เขาไม่หยุด…โลกต้องได้รับรู้ว่า กัมพูชาคือผู้ละเมิดข้อตกลงอย่างต่อเนื่อง และเป็นฝ่ายที่ไม่เคารพกติกาสากล ไม่ยึดถือข้อตกลงระหว่างประเทศใด ๆ ที่ได้ประกาศไว้ในเวทีระดับโลก และเป็นภัยต่อความมั่นคงของภูมิภาคและของโลก” การยอมรับพฤติกรรมเช่นนี้ เท่ากับเปิดช่องให้ความอยุติธรรมกลายเป็นบรรทัดฐานในระบบระหว่างประเทศ […]

ไทม์ไลน์สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ฝั่งสุรินทร์

27 ก.ค. – กองทัพไทย ไล่ไทม์ไลน์สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ฝั่ง จ.สุรินทร์ วันที่ 27 ก.ค.68 พลตรีวิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยไทม์ไลน์สถานการณ์ชายแดนไทย–กัมพูชา ฝั่ง จ.สุรินทร์ วันที่ 27 ก.ค. 68 04.30–04.40 น. – เสียงปืนดังจากฝั่งกัมพูชา ยิงเข้ามายังพื้นที่ “ปราสาทตาควาย” ฝั่งไทย ยิงตอบโต้เป็นระยะจากทั้งสองฝ่าย และสถานการณ์ขยายไปถึงบริเวณ “ช่องจอม”05.30 น. – BM-21 ยิงใส่ฝั่งไทย / ฝ่ายไทยใช้อาวุธตอบโต้06.40 น. – กระสุนปืนใหญ่ตกใส่บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ จ.สุรินทร์ เกิดเพลิงไหม้07.50 น. – ทางทหารกัมพูชายิงจรวด BM-21 ลงมาในพื้นที่ อ.ช่องจอม จ.สุรินทร์ บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย .-313-สำนักข่าวไทย

เฝ้าระวัง “ขีปนาวุธ PHL-03” กองทัพไทยพร้อมรับมือ

26 ก.ค.- “กองทัพภาค 2” แจ้งเตือนประชาชนเฝ้าระวัง “ขีปนาวุธ PHL-03” วิถีไกล 130 กม. ยืนยันกองทัพมีแผนรองรับสถานการณ์ แนะติดตามการแจ้งเตือนจากทางการใกล้ชิด เพจเฟซบุ๊กกองทัพภาคที่ 2 โพสต์ข้อความแจ้งเตือนเฝ้าระวัง “ขีปนาวุธ PHL-03” เป็นระบบขีปนาวุธที่มีความสามารถในการยิงหลายลูกพร้อมกันในระยะทางไกลถึง 130 กิโลเมตรจากตำแหน่งยิง ขีปนาวุธชนิดนี้สามารถทำลายที่หมายทางยุทธศาสตร์ และที่ตั้งกำลังทางทหาร ซึ่งกองทัพได้เตรียมการรองรับสถานการณ์ ในการปฏิบัติตามแผนพิทักษ์พื้นที่ส่วนหลัง และมีเครื่องมือในการทำลายขีปนาวุธชนิดนี้ แต่เพื่อไม่ประมาทในการป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของพลเรือน ขอให้ระมัดระวังการถูกโจมตีที่ไม่พึงประสงค์นี้ ขอให้ประชาชนไม่ตื่นตระหนก และติดตามการแจ้งเตือนจากทางการ

OR มอบถุงยังชีพแก่กองทัพไทย ส่งช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม จ.น่าน

กรุงเทพฯ 25 ก.ค. – OR มอบถุงยังชีพ 1,000 ถุง ให้แก่กองบัญชาการกองทัพไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย จ.น่าน รวมทั้งช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่อื่นๆ พล.อ.นพดล ปิ่นทอง ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย รับมอบถุงยังชีพจำนวน 1,000 ถุง จาก ม.ล.ปีกทอง ทองใหญ่ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เพื่อส่งต่อความช่วยเหลือไปยังประชาชนผู้ประสบภัยพิบัติในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ โดยในเบื้องต้นจะนำไปแจกจ่ายให้แก่ผู้ประสบอุทกภัยในจังหวัดน่าน ซึ่งกำลังได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงในขณะนี้ ทั้งนี้ OR ยังคงติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ และพันธมิตรในพื้นที่ เพื่อให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ และขอเป็นส่วนหนึ่งในการส่งต่อพลังใจ เพื่อให้ทุกภาคส่วนสามารถร่วมฝ่าฟันวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน. -517-สำนักข่าวไทย

ผบ.ทสส. สั่งใช้แผน “จักรพงษ์ภูวนารถ” ผบ.ทบ.คุมบัญชาการ

24 ก.ค.- ผบ.ทสส. สั่งกองทัพบกใช้แผน “จักรพงษ์ภูวนารถ” มี “ผบ.ทบ.” เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ สามารถสั่งใช้กำลังทางบก-ร้องขอกำลังทางอากาศและทางเรือ เพื่อสนับสนุนภารกิจ พลตรีวิทัย ลายถมยา โฆษกกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชาที่ขยายความรุนแรง มีการเปิดฉากการยิงโดยกำลังทหารฝั่งกัมพูชา ในหลายพื้นที่ ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตนั้น โดยการปฏิบัติทางทหาร ตามพระราชบัญญัติการจัดระเบียบราชการ กระทรวงกลาโหมพุทธศักราช 2551 มาตรา 39 มอบอำนาจให้ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเป็น ผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการทางทหาร ได้สั่งการให้กองทัพบกใช้แผน “จักรพงษ์ภูวนารถ” ซึ่งเป็นแผนเผชิญเหตุ ตามแผนป้องกันประเทศฝั่งตะวันออก โดยมีผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ มีอำนาจในการบัญชาการและการใช้กำลังทางบก และร้องขอการสนับสนุนกำลังทางอากาศ และทางเรือ เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติของกำลังทางบก ตามแผนเผชิญเหตุ โดยการปฏิบัติการทางทหาร มี 2 ขั้น คือ ขั้นปกติ ขั้นปฏิบัติการ ปัจจุบันอยู่ในขั้นการปฏิบัติการ โดยใช้อาวุธยิงสนับสนุนของกองทัพภาคที่ 2 และการยิงสนับสนุนทางอากาศจากกองทัพอากาศ โดยมีเป้าหมายคือ ที่ตั้งกองกำลังทหารฝ่ายกัมพูชา เพื่อระงับเหตุการณ์ โดยไม่มีการใช้อาวุธต่อเป้าหมายฝ่ายพลเรือนกัมพูชาแต่อย่างใด ทั้งนี้ หากไม่สามารถระงับสถานการณ์ความรุนแรงหรือการใช้กำลังของฝ่ายตรงข้าม […]

ทบ.​ คุยสื่อฯ​ ปรับทิศทางข่าวสู้สงครามไอโอกัมพูชา​

กองทัพบก 23 ก.ค.- ทบ.​ คุยสื่อฯ​ ปรับทิศทางข่าวสู้สงครามไอโอกัมพูชา​ ยัน​ ผบ.ทบ.​ อยู่เบื้องหลัง​ ไม่ใช่นักรบห้องแอร์​ ย้ำให้ความสำคัญ​ พร้อมเปิดตัว “องค์​ขาว​-​องค์​ดำ”​ สู้ศึก​ ด้าน “เสธ.เบิร์ด​” ท่องบทละแวกก็หอกข้างแคร่​ ​พลเอกพนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก หรือ ผบ. ทบ. ได้มอบหมายให้​ พลโทอานุภาพ​ ศิริมณฑล​ เจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารบก​ พลตรีวันชนะ​ สวัสดี​ รองโฆษกกองทัพไทย​ พลตรีวินธัย สุวารี​ โฆษกกองทัพบก​และทีมโฆษก​ ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับสื่อมวลชนในการเสนอข่าวชายแดนไทย​ -​ กัมพูชา​ โดยพลโทอานุภาพ​ กล่าวว่าว่า​ ผบ.ทบ.ได้ฝากข้อความโดยระบุว่า​ ภัยคุกคามที่เกิดขึ้นปัจจุบันเป็นรูปแบบหลายมิติ ซึ่งบางครั้งก็ยังไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อน ส่งผลความมั่นคงของประเทศ​ ดังนั้นความรับผิดชอบทหารโดยตรงอยู่แล้วอย่างปฏิเสธไม่ได้ แต่อยากให้สื่อมวลชนให้ความร่วมมือ​ เพราะปัจจุบันมีการต่อสู้ในโซเชียลมีเดีย​ มีอิทธิพล​ต่อการปฏิบัติงานของทหาร​ คงไม่ตำหนิ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล​ กระทรวงการต่างประเทศ​ เพราะมีขีดความสามารถและข้อจำกัด ฉะนั้นเราต้องทำงานร่วมกัน​ ในเวลานี้คงไม่สามารถว่าใครได้ แต่เราจะต้องมีความอดทนอดกลั้น หลายคนบอกว่าจะอดทนไปถึงไหน​ แต่ถ้าเข้าใจ​เพราะเราเป็นทหาร​ […]

1 2 3 8
...