“สมคิด” ส่งสัญญาณ “บิ๊กตู่” ใช้เวทีเอเปคชิงความเป็นผู้นำอาเซียน

กรุงเทพฯ 14 พ.ย.- “ดร.สมคิด” ส่งสัญญาณ “บิ๊กตู่” อาศัยเวทีเอเปคชิงความเป็นผู้นำอาเซียน ดึงไทยอยู่ในสายตาจีน-สหรัฐ แนะ 3 ข้อกระชับความสัมพันธ์ไทย-จีน หยุดการเมืองขัดแย้ง กีฬาสี 15 ปี ทำประเทศเสียหาย


นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ประธานพรรคสร้างอนาคตไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถา “ความสัมพันธ์ไทย-จีน ในบริบทโลกที่เปลี่ยนไป” โดยมีนักธุรกิจไทยเชื้อสายจีน และนักธุรกิจจีนเข้าร่วมรับฟังกว่า 200 คน นายสมคิด กล่าวในการปาฐกถาตอนหนึ่งว่า อนาคตประเทศไทย ไม่ใช่แค่เรื่องเศรษฐกิจ แต่เป็นเรื่องความสัมพันธ์ไทย-จีน ในบริบทโลกที่เปลี่ยนแปลงไป สำหรับความสัมพันธ์ไทย-จีน คนส่วนใหญ่คิดว่าสนิทแนบแน่นเป็นพี่น้องกัน แต่ความเป็นจริงไม่ได้ง่าย ที่แน่นแฟ้นขนาดนั้น ดังนั้น หากคนรุ่นปัจจุบัน สานความสัมพันธ์ จะเป็นประโยชน์ต่อไทยสูงมากในเรื่องการค้า การลงทุน

ในช่วงสัปดาห์นี้มีการประชุมสำคัญ ทั้งการประชุม COP27 การประชุมสุดยอดอาเซียน ที่ประเทศกัมพูชา การประชุม G20 ที่ประเทศอินโดนีเซีย นับว่าทั้งสองเวทีนี้ถือว่าสำคัญที่สุดในภูมิภาค ล้วนเกี่ยวข้องกับประเทศจีน ทั้งเรื่องเศรษฐกิจ การเมือง และการพัฒนาในอนาคต เมื่อประเทศจีนขยับถือเป็นเรื่องใหญ่ ไทยต้องปรับตัวตาม หากไม่กระชับความสัมพันธ์ เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนไทยอาจไม่มีความสำคัญในสายตาจีน ดังนั้น ประเทศไทยต้องใช้เวทีการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (APEC:Asia-Pacific Economic Cooperation) หรือเอเปค เพื่อประกาศความเป็นผู้นำอาเซียน เพื่อให้ประเทศไทยยังอยู่ในสายตาของจีนที่เป็นประเทศมหาอำนาจโลก โดยกระทรวงการต่างประเทศของไทยต้องไปคิดข้อความให้นายกฯ ไทยพูดเพื่อให้เราไม่ตกรุ่น และชิงความเป็นผู้นำในอาเซียนกลับมา เพราะสมัยก่อนผู้นำอาเซียนคือสิงคโปร์และไทย


จึงต้องทำให้ ไทยต้องไม่หลุดแกนกลางของอาเซียน หากหลุดประเทศไทยจะหลุดจากสายตาสหรัฐและจีน เพื่อไม่ให้ทุกอย่างมองว่า จุดไคลแม็คซ์ไปอยู่ที่การประชุม G20 ณ อินโดนีเซีย แต่เป็นเพียงการแวะมากินข้าวเย็นที่ประเทศไทย เพราะการประชุมสุดยอดอาเซียนที่ผ่านมา ที่ประเทศกัมพูชา เป็นเจ้าภาพ สมเด็จฮุนเซนกลายเป็นพระเอก จากการพูดถึงอนุภูมิภาคนี้กำลังถึงทางแยกที่พบความไม่แน่นอนที่สุด ชีวิตคนเป็นล้านคนขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ และปัญญาของผู้นำในภูมิภาค พูดง่ายๆ คือชวนให้ผู้นำมาคุยกัน จึงมองว่าประโยคนี้ไม่น่าใช่ฮุนเซนเป็นคนพูด แต่เป็นการชิงความเป็นผู้นำอาเซียน และอีก 2-3 วัน ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด จะเป็นประธานการประชุม G20 เขาต้องสร้างภาพความเป็นผู้นำอาเซียนด้วยเช่นกัน

“ผมห่วงความสัมพันธ์ไทย-จีน จึงแนะ 3 สิ่งที่ประเทศไทยต้องเร่งทำอย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้หลุดจากสายตาของจีน คือ 1. ต้องกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทย-จีน ให้แน่นแฟ้น 2.สานต่อโครงการ One Belt One Road ให้ประสบความสำเร็จ และ3.ฟื้นคณะกรรมการร่วมไทยจีนให้กลับมาแข็งแรง ที่สำคัญไทยทุกกลุ่มต้อง เลิกความขัดแย้งทางการเมือง หยุดใส่เสื้อเล่นกีฬาสีที่ทำมาตลอด 15 ปี จนกระทั่งประเทศเสียหาย ทุกคนต้องร่วมมือกัน เพราะช่วงเวลาอย่างนี้ถือว่ากำลังอยู่บนทางแยก ถ้าหากทำไม่ดี ไทยจะติดอยู่ในช่วงขาลง และหลุดวงโคจรไปอยู่ดิวิชั่น 2-3 แต่ถ้าหากทำดี ไทยยังมีโอกาสฟื้นกลับมาในสายตาเวทีโลก” ดร.สมคิด กล่าว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

หนุ่มอุดรฯ ดวงเฮง ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ 45 ล้านบาท

สุดเฮง! หนุ่มอุดรฯ ถูกลอตเตอรี่เกาหลีใต้ รับเงินรางวัล 45 ล้านบาท ลูกสาวเผยพ่อเป็นคนชอบทำบุญ ก่อนหน้านี้เพิ่งโทรมาบอกให้ใส่บาตร เชื่อผลบุญหนุนโชคลาภ

สามีภรรยาจากอยุธยารับ “เจ้าจอร์จ” ไปดูแล

สามีภรรยาใจบุญจาก จ.พระนครศรีอยุธยา ขอรับ “เจ้าจอร์จ” สุนัขพันธุ์อเมริกันบูลลี่ ไปอุปการะแล้ว หลังกัดแทะร่างพระเจ้าของที่มรณภาพในกุฏิด้วยโรคประจำตัว

ดีเอสไออนุมัติสืบสวนคดีแตงโม คาดตั้งชุดเริ่มสืบได้ 27 ม.ค.นี้

อธิบดีดีเอสไอ อนุมัติให้สืบสวนคดีแตงโม ว่ามีการบิดเบือนกระบวนการยุติธรรมทางอาญาหรือไม่ และมีบุคคลหรือเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องหรือไม่ คาดเริ่มได้ 27 ม.ค.นี้