พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก
นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหาย
ซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร
สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่
เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์
เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย เป็นบุคคลที่รักพรรคประชาธิปัตย์มาก คงไม่คิดไปไหน ขออย่ามองลึกเช่นนี้
เมื่อถามย้ำว่าจะแพแตกหรือไม่ นายชัยชนะ ย้อนถามว่าจะแตก ได้อย่างไร เมื่อทุกคนยืนยันว่ายังอยู่กับพรรค ส่วนคนที่ไป ก็ถือว่าไป
ส่วนกรณีที่มีสส.บางส่วนไป โหวตให้กับ นายอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกรัฐมนตรี ทางพรรคจะมีการดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ในพรรคยังไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกัน แต่เห็นว่าคนที่ตัดสินใจแล้วบอกว่าเป็นเอกสิทธิ์ของ สส.ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีนั้น แม้ตามรัฐธรรมนูญ จะถือเป็นเอกสิทธิ์ของ สส. แต่ทุกคนก็ต้องคิดให้ได้ว่า การที่เราจะได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เรามาในนามพรรค หากเราไม่ทำตามมติพรรค ต่อไปจะมี สส.ในนามพรรคทำไม ก็ควรเป็น สส.อิสระไปเลย จึงเน้นย้ำ ฝากรัฐบาลใหม่ว่าในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ควรเขียนข้อนี้ให้ชัดเจนว่าในการ ลงมติ ไว้วางใจหรือไม่ไว้วางใจ หรือการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี ต้องโหวตตามมติพรรคกัน หากไม่ทำตามมติพรรค ต่อไป ใช้เอกสิทธิ์กันทุกคนก็ไปตั้งกลุ่มก๊วน ไปจัดตั้งรัฐบาลกันได้ ทำให้การเมืองอ่อนแอทำให้ระบอบประชาธิปไตยอ่อนแอ
เมื่อถามย้ำว่า นายชัยชนะ ยังคงยืนหยัดอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ต่อหรือไม่ นายชัยชนะ กล่าวว่า ตนเกิดที่พรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันยังอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ไปไหน เติบโตอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งบางคนกินบุญ จากพรรคประชาธิปัตย์มากกว่าตน แต่พอออกไปก็ยังมาพูดวิจารณ์พรรคทุกวัน ซึ่งพรรคไม่ได้ผิดอะไรพรรคเป็นองค์กร ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารทุก 4 ปีอยู่แล้ว ซึ่ง ผู้บริหารบางคน ที่เข้ามาคงถูกใจเราบ้าง ไม่ถูกใจเราบ้าง แต่เราต้องอยู่ภายใต้องค์กรนี้ให้ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายเฉลิมชัย ได้ยื่นหนังสือลาออก จากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ลงวันที่ 12 ก.ย.68 โดยที่ไม่ได้แจ้งสส.และ กรรมการบริหารพรรค แต่มีรายงานว่ายังไม่ได้ยื่นการลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคแต่อย่างใด.-1-312.-สำนักข่าวไทย