“อนุทิน” มอง วปอ.สำคัญ เห็นต่างนายกฯ ในอดีต

วปอ. 22 ก.ย.-“อนุทิน” มอง วปอ.สำคัญ เห็นต่างนายกฯ ในอดีต ย้ำคอนเนคชันสำคัญ ต้องใช้ประโยชน์ให้ถูกต้อง ลั่นรัฐบาลมีเวลาไม่มาก พร้อมทำตามที่ทุกคนหวัง

นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีในฐานะศิษย์เก่านักศึกษา วปอ. ปี 61 กล่าวระหว่าง ร่วมงานการแถลงผลการศึกษาเพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ชาติของนักศึกษาวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักรรุ่นที่ 67 ว่า “ผมอนุทิน พี่หนู วปอ.61 นกหัวขวานรายงานตัว” ทำให้ผู้อยู่ในห้องประชุมเฮลั่น พร้อมกล่าวต่อว่า พี่ๆ ทั้งหลายที่อยู่ในห้องประชุมนี้กว่า 90% เรารู้จักกันมาก่อน จึงขออนุญาตพบปะทุกคน ในฐานะศิษย์เก่าวปอ. ที่ผ่านมามาทุกปีวปอ. รุ่น 61 และเพราะใกล้จบการศึกษาปี62 ก็ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้ดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข จำได้ว่ามีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา องคมนตรี ซึ่งดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในสมัยนั้น ได้มาฟังผลการแถลงการณ์การศึกษาด้วย และตนก็เป็นคนหนึ่งที่ได้ขึ้นมาแถลงผลการศึกษา ก็เหมือนกับที่นักเรียน 7-8 คน ที่ขึ้นมาแถลงไปเมื่อสักครู่นี้


สำหรับตนมองเห็นคุณค่าการเป็นนักศึกษา วปอ. อย่างมากมาย อาจจะมีมุมมองจากผู้นำรัฐบาลท่านอื่น เพราะถือว่าหลักสูตรนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง และเมื่อสักครู่ได้นั่งฟังการแถลงผลงาน ก็ให้ถือว่าวันนี้รับนโยบายจากนักศึกษาวปอ.ปี 67 และเมื่อได้รับฟังมันก็แปลก เหมือนได้ฟังเพลงพรหมลิขิต “ดลบันดาลชักพา ให้เรามาพบกันทันใด” ทำไมมันช่างเหมือนกับนโยบายตน ที่กำลังจะแถลง อาจจะต่างกันเพียงแค่ถ้อยคำที่บัญญัติไว้แต่ละเรื่องของกรอบความคิด แนวทางและยุทธศาสตร์ ตรงกับแนวทางที่เราจะแถลง จากนี้ไปเราต้องใช้หลักเชิงฟิสิกส์ วิทยาศาสตร์คือจับต้องได้ เทคโนโลยีต้องทันโลกทันสมัย ทันท่วงที ไม่ใช่ล้าหลัง ซึ่ง 4 หลักการที่นักศึกษา วปอ.67 เสนอมาเป็นสิ่งที่จับต้องได้ทั้งหมด จึงคิดว่าอยากมาเรียนรุ่นที่ 67 เพราะคิดว่าแนวทางตรงกับแนวคิดของตน เพราะที่ผ่านมาจะเลือกเดินทางในต้องพิสูจน์ได้ตามหลักวิทยาศาสตร์ และรวมเอาหลักเอ็นเจเนริ่งที่เรียนมานำมาประกอบเพื่อความแข็งแกร่ง ทั้งนี้ในนชีวิตเวลาจะวางแผนอะไร ตนจะยึดหลัก STEM ตามที่นักศึกษาว่ามาและต้องกลับเรียนตรงตรงว่า ไม่เคยพลาดเลย ดังนั้นหลักของคนที่จะโตขึ้นมาเป็นผู้นำประเทศ ทั้งภาคข้าราชการและภาคเอกชน

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า รัฐบาลของตนที่กำลังจะเริ่มทำงาน ต้นสัปดาห์หน้าเป็นต้นไปน่าจะเดินไปในทิศทางเดียวกัน ทำให้วันนี้ต้องรีบมาก่อนเพราะไม่รู้ว่าปีหน้าจะได้มาหรือเปล่า วันนี้จึงต้องมาในฐานะศิษย์เก่า โดยรุ่นปี 61 ของตนไม่มีเพียงแค่ผู้บัญชาการทหารสูงสุด แต่ก็มีครบทุกเหล่าทัพ ตนจะขับเคลื่อนด้วยรัฐบมลด้วยหลัก STECCC ประกอบด้วย


Systematic-ขับเคลื่อนต้องมีระบบ
Thainess-ความเป็นเอกลักษณ์ของไทย เชื่อถือได้ ราคายุติธรรม
Exponentail-ขยายศักยภาพแบบเขย่งก้าวกระโดด เปิดช่องทางให้ไทยไปยืนบนเวทีโลกได้
Connectivity-เชื่อมต่อ สายสัมพันธ์ เงินก็ซื้อไม่ได้
Continuevity-ต่อเนื่องไม่สิ้นสุด
Costructive-คิดเป็นบวก คิดก้าวหน้า

“ประเทศไทยที่เราเบื่อหน่ายจะก้าวหน้าสักที ใครที่เคยดูถูกว่าพลังมวลชนไม่มีความหมาย พูดเลยว่าเปิดด่าน พูดเลยว่าเกี๊ยเซี๊ยะ พูดเลยว่ายอมเขา แล้วท่านจะรู้ว่านรกมีจริง“ นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวต่อว่าแม้ว่ารัฐบาลมีเวลาไม่มาก แต่เราจะทำให้ความคาดหวังของพวกพี่และความตั้งใจของพวกตนไปบรรจบกันที่เป้าหมาย แยกกันเดินรวมกันตี ทหารก็รบไป คิดยุทธศาสตร์ไป ตนก็หาวิธีกดดันกัน วันนี้ยอมไม่ได้บอกว่ามาถึงขนาดนี้แล้วมีแต่เราต้องไล่ตี กำหนดเงื่อนไขเชิงรุก คนที่มีปัญหากับเราต้องยอมรับ


นายกรัฐมนตรี ระบุว่า พี่ ๆ ทุกคนบอกว่าประเทศไทยได้เปรียบทุกประตูทางด้านเศรษฐกิจและแสนยานุภาพ จะให้เราไปเจรจาแล้วจะยอมก่อน เชื่อว่าพวกพี่กับตนสะกดคำพวกนี้ไม่เป็น ตนไม่อยากใช้คำว่าได้เปรียบกับประเทศเพื่อนบ้าน แต่หากเรามีความพร้อมกว่าคนที่มีปัญหาด้วย เราจะต้องใช้ความพร้อมนี้สร้างคุณประโยชน์และสิ่งที่ระเทศต้องการให้มากที่สุดนับจากวันนี้เป็นต้นไปตนในนามรัฐบาล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และฝ่ายปกครองจะใช้แนวทางนี้ในการดำเนินยุทธศาสตร์ต่อกรกับคนที่มีปัญหาอยู่

นายอนุทิน ระบุว่าวันนี้ตนได้พลโทอดุลย์ บุญธรรมเจริญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 เข้ามาช่วยงานกระทรวงกลาโหม ซึ่งความที่เป็นรุ่นเดียวกันกับผู้บัญชาการทหารบก และเป็นรุ่นเดียวกันกับแม่ทัพภาคที่ 2 คนปัจจุบัน ท่านที่กำลังจะเข้ามาปฏิบัติงาน คงจะใช้เวลาส่วนใหญ่ในการแก้ไขปัญหา ชายแดนไทยกัมพูชา และน่าจะทำให้ความกังวลต่างๆ ของพวกเราได้คลายลงไปให้มากที่สุด ดังนั้น วปอ.ต้องมีอยู่ และต้องมีต่อไป คนที่มีประสบการณ์และคุณสมบัติอย่างพวกพี่ๆ ต้องมาอยู่ร่วมกัน และสร้างบ้านแปลงเมือง ให้เจริญก้าวหน้า อย่างไม่มีที่สิ้นสุด.-319.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” รายชื่อตรงตามโผ

กทม. 19 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ ครม. “อนุทิน” นั่งนายกฯ ควบมหาดไทย พร้อมตั้ง รองนายกฯ 6 คน รมต.สำนักนายกฯ 4 คน ขณะรายชื่อตรงตามโผ ไม่มีเปลี่ยนแปลง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ก.ย. 68) เวลา 09.30 น. เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศ สำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี โดยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า ตามที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ตามประกาศลงวันที่ 7 กันยายนพุทธศักราช 2568 แล้วนั้น บัดนี้ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้เลือกผู้ที่สมควรดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีเพื่อบริหารราชการแผ่นดินสืบต่อไปแล้ว อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 158 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทรงพระกรุณาโปรดเก้าแต่งตั้งรัฐมนตรีดังต่อไปนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ […]

“เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง

กรุงเทพฯ 19 ก.ย. – “เจ๊ปอง” น้ำตาคลอ เปิดใจหลังศาลฎีกาตีกลับยกฟ้อง เชื่อ 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต หลังจากนี้จะใช้ชีวิตของตัวเองอุทิศให้ประชาชนและประเทศชาติ ชี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์บ้านเมืองว่าจะออกมาเคลื่อนไหวอีกหรือไม่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก สื่อมวลชนอาวุโส กล่าวขอบคุณกระบวนการยุติธรรม และศาลด้วยที่ความเมตตากับตนเอง ที่ผ่านมาเราต่อสู้ด้วยความบริสุทธิ์ยุติธรรม สำหรับการตัดสินในวันนี้ทำให้รู้สึกโล่งใจ ดีใจทำให้เรารู้ว่าหลังจากนี้เราจะใช้ชีวิตของเราอย่างไรต่อ เพราะถือว่าเป็นคดีสุดท้าย 15 ปีที่ผ่านมา เป็นบทเรียนของชีวิต ต่อจากนี้เป็นต้นไปขอทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน เป็นประโยชน์กับประเทศชาติ มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดชีวิตนี้จะอุทิศให้กับพี่น้องประชาชนและประเทศชาติ พร้อมบอกว่าเป็นคดีสุดท้ายใน 20 ปี ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา เราใช้วิชาชีพของตัวเองใช้ความเชี่ยวชาญของตัวเองรับใช้พี่น้องประชาชน ถือว่าเป็น 20 ปี ที่คุ้มมาก พี่น้องประชาชนให้กำลังใจเราเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะคนที่ร่วมมือกับเราในการแสวงหาข้อมูล เรารู้สึกว่ามีคนรักเรามาก และความจริงมีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น เรานำเสนอความจริง เมื่อถามว่าที่ผ่านรู้สึกอย่างไรได้มีเตรียมใจไว้หรือไม่ น.ส.อัญชะลี ระบุว่า ทุกอย่างเตรียมความพร้อม ทุกอย่างไม่ต้องแอบทำใจ หากเราสู้จนถึงที่สุดแล้วอะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องเกิด ขอบคุณทุกหน่วยงานที่เคยช่วยเหลือทั้งในเรื่องเอกสาร หรืออื่นๆ ส่วนเหตุผลที่ศาลพิจารณายกฟ้องในคดีนี้ คือ ศาลเห็นว่าพยานให้การไม่ตรงกันในหลายประเด็นทั้งพยานวัตถุ […]

ศาลฎีกานัดฟังคำพิพากษาคดีม็อบพันธมิตรบุกยึด NBT ปี51

ศาลอาญา 19 ก.ย. – วันนี้ที่ศาลอาญา รัชดา ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎีกา หรือคดีแกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยหรือ พธม. นำผู้ชุมนุมบุกยึดสถานีโทรทัศน์แห่งประเทศไทย หรือ NBT เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2551 หรือเมื่อ 17 ปีก่อน ในช่วงระหว่างการชุมนุมขับไล่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในขณะนั้น ซึ่งศาลอาญานัดฟังคำพิพากษาในเวลา 10:00 น. โดยคดีดังกล่าวมีจำเลย 4 คน ได้แก่ น.ส.อัญชะลี ไพรีรัก, นายภูวดล ทรงประเสริฐ, นายยุทธิยง ลิ้มเลิศวาที และนายชิติพัทธ์ ลิ้มทองกุล ซึ่งเป็นน้องชายของนายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำ พธม. ทั้งหมดถูกฟ้องในความผิดฐานร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป อั้งยี่ซ่องโจร บุกรุก และทำให้เสียทรัพย์ เนื่องจากปรากฏหลักฐานว่า จำเลยทั้งห้าเป็นระดับหัวหน้าและผู้สั่งการให้กระทำความผิด ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ได้มีจำเลยอีก 1 คน คือ นายสมเกียรติ […]

‘มาครง’ เตรียมเสนอหลักฐานยืนยัน ‘บริฌิตต์’ เป็นหญิงไม่ใช่ชาย

ปารีส 19 ก.ย. – ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ผู้นำฝรั่งเศส และบริฌิตต์ ภริยา เตรียมเสนอหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ต่อศาลสหรัฐเพื่อพิสูจน์ว่าบริฌิตต์เป็นผู้หญิงจริงๆ ไม่ใช่ผู้ชาย ทนายความของประธานาธิบดีมาครงและบริฌิตต์ บอกว่า ทั้งคู่จะยื่นเอกสารเหล่านี้ในคดีหมิ่นประมาทที่ทั้งสองได้ยื่นฟ้อง แคนแดซ โอเวนส์ อินฟลูเอนเซอร์ฝ่ายขวาชาวอเมริกัน ที่เผยแพร่ความเชื่อของตนผ่านทางสื่อและรายการพ็อคแคสต์ของตนเองว่าบริฌิตต์ เกิดมาเป็นผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เธอเสียใจและไม่สบายใจอย่างมากกับข้อกล่าวหาดังกล่าว และเรื่องนี้รบกวนจิตใจของประธานาธิบดีฝรั่งเศส แม้จะไม่ได้ทำให้มาครงสมาธิหลุดจากภารกิจหน้าที่ของเขาในฐานะผู้นำประเทศ แต่มันก็เป็นเรื่องรบกวนจิตใจของคนที่ต้องรับผิดชอบทั้งเรื่องครอบครัวและเรื่องงาน ซึ่งตัวประธานาธิบดีก็ไม่มีข้อยกเว้น ในส่วนของการยื่นหลักฐานต่อศาลนั้น ทนายความของมาครงและภริยาบอกว่า ทั้งคู่พร้อมที่จะแสดงหลักฐานอย่างชัดเจนทั้งในภาพรวมและในรายละเอียด รวมถึงคำให้การจากผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะเป็นลักษณะทางวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ว่าข้อกล่าวหานั้นเป็นเท็จ แม้จะเป็นกระบวนการที่บริฌิตต์จะต้องเผชิญต่อหน้าสาธารณชนอย่างเปิดเผย แต่เธอก็ยินดีที่จะทำ เธอตัดสินใจแน่วแน่แล้วว่าจะทำทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อทำให้เรื่องนี้กระจ่าง สำหรับประเด็นเรื่องบริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ถูกเผยแพร่ครั้งแรกตามสื่อออนไลน์ของฝ่ายขวาและกลุ่มต่อต้านวัคซีนในฝรั่งเศสตั้งแต่ปี 2021 ต่อมา แคนแดซ โอเวนส์ อดีตนักวิจารณ์ของเดลี่ไวร์ (Daily Wire) สำนักข่าวสายอนุรักษ์นิยมของสหรัฐฯ ซึ่งมีผู้ติดตามบนโซเชียลมีเดียหลายล้านคน ได้เผยแพร่มุมมองของตนเองหลายครั้งว่า บริฌิตต์ เป็นผู้ชาย ที่มีชื่อว่า ฌอง-มิเชล ทรอกโนซ์ (Jean-Michel Trogneux) ก่อนที่จะแปลงเพศในเวลาต่อมา ถึงขั้นอ้างว่าเธอพร้อมเดิมพันชื่อเสียงในอาชีพทั้งหมดของเธอกับข้อกล่าวหานี้ ส่งผลให้มาครงและภริยายื่นฟ้องต่อศาลสหรัฐฯ […]

ข่าวแนะนำ

ฝนถล่มเชียงใหม่ ประกาศปิดน้ำตกแม่สา ส่วนวัดผาลาด เตือนน้ำป่าหลาก

เชียงใหม่ 22 ก.ย.-ฝนถล่มเชียงใหม่ อุทยานฯ ดอยสุเทพ-ปุย ประกาศปิดน้ำตกแม่สา อ.แม่ริม ชั่วคราว หลังน้ำป่าไหลหลาก ส่วนวัดผาลาด แจ้งเตือนชาวบ้านรับมือน้ำป่าหลากลงน้ำตกผาลาด ช่วงบ่ายวันนี้ ( 22 กันยายน) เกิดฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดเชียงใหม่ เพจเฟซบุ๊ก อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย ได้โพสต์ข้อความประกาศปิดน้ำตกแม่สา ในอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ชั่วคราว เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว เนื่องจากเกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากลงมาจนน้ำมีสีน้ำตาลขุ่น กระแสน้ำไหลแรงและเชี่ยวกราก โดยจะปิดน้ำตกแม่สาตั้งแต่วันนี้จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ขณะที่พระมหาสง่า ไชยวงค์ เจ้าอาวาสวัดผาลาด ก็ได้โพสต์คลิปภาพวิดีโอ พร้อมข้อความ “มวลน้ำจากยอดดอยกำลังผ่านวัดผาลาด ญาติโยมด้านล่างช่วงนี้ก็เฝ้าไว้เน้อ” ซึ่งทางวัดผาลาดจะมีการแจ้งเตือนชาวบ้านที่อยู่ใกล้ทางน้ำไหลน้ำตกผาลาด และบริเวณเชิงดอยสุเทพในตัวเมืองเชียงใหม่ ให้เฝ้าระวังน้ำป่าที่ไหลผ่านวัดลงสู่ด้านล่างทุกครั้ง สำหรับวัดผาลาดตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นดอยสุเทพ และมีน้ำตกผาลาดไหลผ่านพื้นที่วัดช่วงที่เกิดฝนตกหนัก จะมีน้ำป่าไหลหลากจากบนดอยสุเทพผ่านน้ำตกผาลาด ก่อนจะไหลลงสู่พื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่.-สำนักข่าวไทย

กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ชี้ JBC รับรองแล้ว

กทม. 22 ก.ย.- กองทัพไทย ย้ำบ้านหนองหญ้าแก้วอยู่เขตแดนไทย ไม่ใช่พื้นที่ทับซ้อน ชี้ JBC รับรองแล้ว สอดคล้อง MOU 2543 พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยถึงประเด็นหลักเขตแดนที่ 42 และ 43 ในพื้นที่ อ.โคกสูง จ.สระแก้วว่า หลักเขตแดนที่ 42 ตั้งอยู่ที่บ้านหนองหญ้าแก้ว (บ้านไปรจัน) ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว และหลักเขตแดนที่ 43 ตั้งอยู่ที่บ้านโนนหมากมุ่น ต.โคกสูง อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยการกำหนดแนวเขตแดนในพื้นที่ดังกล่าวเป็นเส้นตรงจากหลักเขตแดนที่ 41 มายังหลักเขตแดนที่ 42 และต่อเนื่องไปยังหลักเขตแดนที่ 43 จากนั้นแนวเขตแดนจะไปตามคลองระลมระสือจนถึงหลักเขตแดนที่ 44 สำหรับกระบวนการสำรวจ ชุดสำรวจร่วมไทย–กัมพูชาได้ดำเนินการตามขั้นตอนที่ 1 ของ TOR คือ การสำรวจสภาพ และที่ตั้งของหลักเขตแดนทั้งหมด 74 หลัก ตั้งแต่ปี พ.ศ. […]

ทีมทนายวัดนาป่าพง หอบเอกสารเข้าพบกองปราบ

22 ก.ย.- ทีมทนายวัดนาป่าพง หอบเอกสารเข้าพบพนักงานสอบสวนกองปราบ ขณะที่สีกาเยอรมนีเตรียมนั่งเครื่องเข้าพบตำรวจ 2 ต.ค.นี้ หลังจากที่นายนันทน อินทนนท์ ทนายความวัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี พร้อมทีมทนายความ ได้มีการตั้งโต๊ะแถลงชี้แจงประเด็นที่ น.ส.ทองใหม่ ขวัญหมื่น หรือ ทนายอุ้ม ทนายความผู้รับมอบอำนาจจากสีกาจากประเทศเยอรมนี เข้ามาร้องเรียนที่กองบังคับการปราบปราม กล่าวหาว่า พระคึกฤทธิ์ ยักยอกเงินวัด ก่อนนำมาฟอกกับมูลนิธิพุทธวจนที่ประเทศเยอรมนีนั้น ความเคลื่อนไหวล่าสุดวันนี้ (22 ก.ย.68) เวลา 10.00 น. ที่กองบังคับการปราบปราม กองกำกับการ 2 นายนันทน อินทนนท์ ทนายความวัดนาป่าพง จ.ปทุมธานี และทีมทนายความ ได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวน โดยนำเอกสารเป็นพยานหลักฐานเกี่ยวกับเส้นเงิน เงินบริจาคภายในวัด มามอบให้กับพนักงานสอบสวน เพื่อชี้แจงในประเด็นต่างๆ โดยใช้เวลาในการชี้แจงกับพนักงานสอบสวนไม่ถึง 1 ชั่วโมง ก่อนจะเดินทางกลับทันที และไม่ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนแต่อย่างใด หลังจากนั้นทีมข่าวได้ติดต่อไปที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงินของวัดนาป่าพง โดยเฉพาะเงินที่เปิดรับบริจาคทั่วประเทศ หากตรวจสอบแล้วพบว่ามีความผิดจริง […]

อยุธยาอ่วม! มัสยิด-บ้านริมน้ำเจ้าพระยา ถูกน้ำท่วมสูง

อยุธยา 22 ก.ย. – จ.พระนครศรีอยุธยา อ่วม! น้ำท่วมขยายวงกว้างครอบคลุม 8 อำเภอ ชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะมัสยิด ระดับน้ำเพิ่มสูงต่อเนื่อง ขณะที่เขื่อนป่าสักชลฯ เตรียมปรับเพิ่มการระบายน้ำอีกตั้งแต่ 24 ก.ย.นี้ เตือนน้ำล้นตลิ่งพื้นที่ลุ่มต่ำท้ายเขื่อน สถานการณ์น้ำท่วมใน จ.พระนครศรีอยุธยา ขยายวงกว้างครอบคลุม 8 อำเภอ 103 ตำบล 626 หมู่บ้าน รวมกว่า 31,227 ครัวเรือน ได้รับผลกระทบ โดยพื้นที่ ต.ภูเขาทอง อ.พระนครศรีอยุธยา ชุมชนริมแม่น้ำเจ้าพระยา โดยเฉพาะมัสยิดดารุซซุนนะห์ ซึ่งอยู่นอกคันกั้นน้ำ ถูกน้ำเอ่อท่วมและระดับน้ำยังเพิ่มสูงต่อเนื่อง ชาวบ้านสัญจรลำบาก บางจุดต้องใช้เรือ ต้องเดินลุยน้ำเข้า-ออกบ้านและมัสยิด ขณะที่องค์การบริหารส่วนตำบลภูเขาทอง เร่งนำไม้มาทำสะพานชั่วคราว ให้ประชาชนเดินเข้ามัสยิดเพื่อประกอบพิธีละหมาดได้ พร้อมเร่งตัดต้นไม้และกำจัดวัชพืช ให้เรือสัญจรได้สะดวก และเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำใกล้ชิด เนื่องจากระดับน้ำเจ้าพระยายังมีแนวโน้มสูงต่อเนื่อง นายธีรยุทร อายุ 43 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า บ้านถูกน้ำท่วมเกือบถึงเอว ลำบากมาก […]