
ดินถล่ม


ระทึก! ดินถล่มทับ จนท.เทศบาลฯ ขณะขุดท่อระบายน้ำ
เชียงใหม่ 10 ก.ย. – นาทีชีวิต ทีมกู้ภัยเร่งขุดดินช่วยเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองดอนแก้ว ถูกดินและแผ่นปูนถล่มทับ ระหว่างขุดท่อระบายน้ำบริเวณห้วยตึงเฒ่า จ.เชียงใหม่ เคราะห์ดีช่วยได้ทัน นำตัวส่งโรงพยาบาล เมื่อเวลา 11.36 น. วันที่ 10 กันยายน 2568 ทีมกู้ภัยดอนแก้ว ร่วมกับทีมกู้ภัยมนุษย์และสัตว์ ได้รับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่เทศบาลเมืองดอนแก้ว ประสบอุบัติเหตุขณะปฏิบัติหน้าที่บริเวณห้วยตึงเฒ่า โครงการหลุมขนมครก อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ผู้บาดเจ็บเป็นชายอายุประมาณ 50 ปี ลงไปตรวจสอบการขุดท่อระบายน้ำใต้ถนน เพื่อเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ หลังปริมาณน้ำในห้วยตึงเฒ่ามีจำนวนมาก เสี่ยงท่วมพื้นที่ร้านค้าของประชาชน ระหว่างปฏิบัติงานเกิดเหตุดินและแผ่นปูนถนนถล่มทับร่างจนจมอยู่ใต้ดิน ก่อนที่รถแบ็กโฮจะพยายามตักดินและแผ่นปูนที่ทับศีรษะและแขนออก จากนั้นผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ก็รีบเข้าไปช่วย พร้อมแจ้งกู้ภัยช่วยเหลือ ใช้เวลาประมาณ 20 นาที สามารถนำร่างผู้บาดเจ็บขึ้นมาได้ อยู่ในสภาพสะลึมสะลือ ก่อนเร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลนครพิงค์. – สำนักข่าวไทย

ส่องเส้นทางดินถล่ม อนาคตชาวบ้านปางอุ๋ง
เชียงใหม่ 30 ส.ค. – เหตุดินโคลนถล่มบ้านปางอุ๋ง หมู่บ้านกลางหุบเขา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ สร้างความเสียหายอย่างหนัก โดยพบดินโคลนถล่มจากดอยที่อยู่ห่างจากหมู่บ้านกว่า 1 กิโลเมตร และถล่มลงในหมู่บ้านจากหลายทิศทาง จนมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 8 ราย สูญหายอีก 1 คน ชาวบ้านอีกมากมายแทบสิ้นเนื้อประดาตัว หลายคนหวาดผวาไม่กล้ากลับไปอยู่ในชุมชนอีก.-สำนักข่าวไทย

พบร่างผู้สูญหายเหตุดินถล่มบ้านปางอุ๋งเพิ่มอีก 2 รวมเสียชีวิต 7 ราย
เชียงใหม่ 30 ส.ค. – เจ้าหน้าที่นำสุนัข K9 เร่งค้นหาผู้สูญหายจากดินถล่มบ้านปางอุ๋ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ พบร่างเพิ่มอีก 2 ราย ยอดผู้เสียชีวิตพุ่งเป็น 7 ราย และยังสูญหายอีก 2 คน กำลังทหารกรมรบพิเศษที่ 5 พร้อมด้วยทหารหน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 32 พร้อมทีมกู้ภัยและอาสาสมัครนับร้อนาย รวมทั้งสุนัข K9 อีก 4 ตัวทั้ง นารี สีนวล ลิลลี่และซาฮาร่า ซึ่งผ่านการฝึกกู้ภัยและเคยผ่านการปฏิบัติงานค้นหาผู้สูญหายในช่วงอาคาร สตง. ถล่มมาแล้ว ออกค้นหาผู้สูญหายจากดินถล่ม ในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่กลางหุบเขาในตำบลแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ หลังดินโคลนถล่มเมื่อ 5 วันที่แล้ว ท่ามกลางความหวังของญาติพี่น้องผู้สูญหาย แต่ซากปรักหักพังดินโคลนที่ทับถมกันสูงกว่า 1 เมตร เป็นอุปสรรคสำหรับการค้นหา แต่ในที่สุดทีมค้นหาได้พบศพผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 2 ราย เป็นหญิงชาวไทใหญ่วัย 25 ปี และเด็กชายวัย 6 […]

สุนัข K9 ช่วยค้นหา 3 ผู้สูญหายดินถล่มบ้านปางอุ๋ง
เชียงใหม่ 29 ส.ค. – เจ้าหน้าที่ยังเร่งนำสุนัขกู้ภัย K9 ช่วยค้นหาผู้สูญหายอีก 3 คน จากดินโคลนถล่มที่บ้านปางอุ๋ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ หลังพบผู้เสียชีวิตแล้ว 6 ราย ขณะที่ชาวบ้านยังเดือดร้อนหนัก หลายคนยังไร้ที่อยู่อาศัย เข้าสู่วันที่ 3 หลังดินโคลนถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่ในหุบเขา ในตำบลแม่ศึก อำเภอแม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ซึ่งยังเต็มไปด้วยเศษซากความเสียหายจากดินโคลนถล่ม โดยตลอดทั้งวัน ทหารหน่วยรบพิเศษพร้อมหน่วยทหารพัฒนา ทีมกู้ภัยและอาสาสมัครนับร้อยคน เดินหน้าค้นหาผู้สูญหายที่เหลืออีก 3 คน โดยนำน้องศรีนวลและน้องนารี สุนัข K9 เข้าไปช่วยดมกลิ่นค้นหาผู้สูญหายด้วย แต่เป็นไปอย่างยากลำบากเพราะเต็มไปด้วยเศษซากไม้และดินโคลนที่ทับถมสูงกว่า 1 เมตร ต้องใช้เครื่องจักรเปิดเส้นทาง เน้นจุดที่พบร่างของผู้เสียชีวิต 2 รายล่าสุดเมื่อวานนี้ ทำให้ตอนนี้มีผู้เสียชีวิตรวม 6 ราย สูญหาย 3 คน และมีผู้บาดเจ็บอีกกว่าสิบราย บ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง ชาวบ้านกว่า 300 คนได้รับความดือดร้อนอย่างหนัก หลายคนบ้านพังเสียหายไม่สามารถเข้าไปอาศัยได้ ต้องไปอาศัยในศูนย์พักพิงชั่วคราวที่โรงเรียนปางอุ๋ง […]

ทส.แจงดินถล่มปางอุ๋ง เตือนล่วงหน้าแล้ว ระดับสีแดง ย้ำเฝ้าระวังทุกพื้นที่เสี่ยง
อุบลราชธานี 28 ส.ค. – “เฉลิมชัย” ห่วงปัญหาดินถล่ม เหตุที่ปางอุ๋ง ไม่มีใครอยากให้เกิด ย้ำให้ความสำคัญเตือนภัย พร้อมเร่งติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดมวลดินทั่วประเทศ ขณะที่กรมทรัพยากรธรณีชี้ปางอุ๋งเสี่ยงระดับสีแดง เตือนภัยล่วงหน้าแล้ว แต่ขณะเกิดเหตุเป็นยามดึก ในระยะยาวพื้นที่เสี่ยงสูง อาจต้องพิจารณาย้ายชุมชนออก แต่ไม่ใช่เรื่องง่าย นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวถึงเหตุการณ์ดินถล่มทับหมู่บ้านปางอุ๋ง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 4 คน สูญหายอีก 5 คน นับเป็นโศกนาฏกรรมทางธรณีพิบัติภัยที่สร้างความสูญเสียครั้งใหญ่ โดยพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตเสี่ยงภัยระดับสีแดงสูงสุด ทั้งน้ำป่าไหลหลากและดินถล่ม นับแต่เข้ารับตำแหน่ง ได้ให้ความสำคัญกับการแจ้งเตือนล่วงหน้าอย่างทันเหตุการณ์ และเร่งรัดการติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดการเคลื่อนตัวของมวลดิน ซึ่งเพิ่งได้รับงบประมาณมาไม่นาน และมีแผนขยายการติดตั้งในพื้นที่เสี่ยงทั่วประเทศ สำหรับเหตุการณ์ครั้งนี้น่าเศร้าสลดและไม่มีใครอยากให้เกิด แต่เป็นเพราะดินอุ้มน้ำไว้มาก เมื่อเกิดฝนตกหนักจากพายุคาจิกิจึงเกิดเหตุขึ้น นายพิชิต สมบัติมาก อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เปิดเผยว่า หมู่บ้านปางอุ๋งตั้งอยู่ในเขตเสี่ยงภัยดินถล่มระดับสีแดงสูงมาก โดยกรมฯ ได้จัดตั้งวอร์รูมร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) และส่งสัญญาณแจ้งเตือนผ่านระบบ Cell Broadcast แล้ว แต่เหตุเกิดขึ้นเวลาตี 2 ประกอบกับฝนตกหนักจากอิทธิพลพายุคาจิกิ […]

ดินถล่มหมู่บ้าน อ.แม่แจ่ม ตาย 3 สูญหาย 6
เชียงใหม่ 27 ส.ค. – ฝนที่ตกหนักจากฤทธิ์ของพายุ “คาจิกิ” ทำให้เกิดดินถล่มในหมู่บ้านปางอุ๋ง ซึ่งอยู่บนดอยสูง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย และยังสูญหายอีก 6 ราย สภาพหมู่บ้านเต็มไปด้วยดินโคลนที่ถล่มลงมาทับบ้านเรือนเสียหายนับร้อยหลัง. – สำนักข่าวไทย

จับตา “คาจิกิ” หลายจังหวัดภาคเหนือเตรียมรับมือน้ำท่วมดินถล่ม
25 ส.ค. – หลายจังหวัดทางภาคเหนือ โดยเฉพาะพื้นที่ซึ่งเคยเผชิญน้ำท่วมครั้งใหญ่ทั้งน่าน ชายแดนแม่สาย เชียงราย และเชียงใหม่ ต่างเร่งเตรียมรับมือพายุคาจิกิ ซึ่งคาดว่าจะส่งผลกระทบชัดเจนตั้งแต่พรุ่งนี้ นอกจากเสี่ยงจะเกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากแล้ว บางพื้นที่ยังเสี่ยงดินโคลนถล่มด้วย โดยเฉพาะหมู่บ้านใกล้เชิงเขาที่จังหวัดน่าน ซึ่งเกิดดินสไลด์จนกระทบบ้านเรือนนับสิบหลังก่อนหน้านี้ ตอนนี้ต้องอพยพชาวบ้านกว่า 20 ครอบครัวออกจากพื้นที่เพื่อความปลอดภัยแล้ว .-สำนักข่าวไทย

รู้จัก “คลาวด์เบิร์สต์” แบบง่าย ๆ
ฮ่องกง 18 ส.ค.- นักวิชาการในฮ่องกงอธิบาย “คลาวด์เบิร์สต์ (cloudburst)” ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนักในช่วงเวลาสั้นๆ ราวกับฟ้ารั่ว และเพิ่งเกิดขึ้นกับหลายประเทศในเอเชียใต้ที่ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม คร่าชีวิตคนรวมกันมากกว่า 430 คนแล้ว ศาสตราจารย์กิตติคุณจอห์นนี เฉิน คณะพลังงานและสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยซิตียูนิเวอร์ซิตีออฟฮ่องกง อธิบายให้เข้าใจอย่างง่ายๆ ว่าสาเหตุที่เรียกว่า “คลาวด์เบิร์สต์” หรือ “เมฆระเบิด” เพราะมีฝนจำนวนมากตกลงมาจากเมฆในเวลาสั้นๆ อาจจะราว 10-20 นาที แท้จริงแล้วคลาวด์เบิร์สต์ คือ พายุฝนฟ้าคะนองที่สะสมละอองน้ำไว้เป็นจำนวนมากแล้วกลายเป็นฝน ตกกระหน่ำในช่วงเวลาสั้นๆ คล้ายกับการระเบิด ยิ่งเป็นพื้นที่เทือกเขา คลาวด์เบิร์สต์ยิ่งมีความรุนแรง เนื่องจากอากาศร้อนจะยิ่งลอยตัวสูงขึ้นจากการปะทะกับเทือกเขา ส่งผลให้พายุฝนฟ้าคะนองเกิดได้เร็วขึ้นและรุนแรงขึ้น เมื่อกลายเป็นฝน จึงตกกระหน่ำรุนแรงมากยิ่งขึ้นไปอีก ศ.กิตติคุณเฉิน อธิบายว่า เหตุที่คลาวด์เบิร์สต์ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม ปัจจัยแรกเกิดจากฝนตกลงมาเร็วมากจนแม่น้ำลำคลองรองรับไม่ทันจึงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน ปัจจัยที่สองเกิดจากหลายพื้นที่มีการตัดไม้ทำลายป่า ดินที่ไม่มีต้นไม้ปกคลุมจึงถูกน้ำฝนชะจนถล่มลงมา ศ.กิตติคุณเฉิน กล่าวว่า หากมองในระดับโลกแล้ว มีแนวโน้มว่าโลกจะมีฝนตกหนักมากยิ่งเพราะภาวะโลกร้อนจะทำให้ละอองน้ำเข้าไปอยู่ในชั้นบรรยากาศมากยิ่งขึ้น หากมองในระดับภูมิภาค โดยเฉพาะในเขตเมืองและเมืองระดับมหานคร ฝนจะยิ่งตกหนักมาก เนื่องจากอาคารต่างๆ ดูดซับความร้อนจากแสงอาทิตย์ กิจกรรมของมนุษย์มีส่วนทำให้โลกร้อน และการปล่อยมลพิษที่ทำให้เมฆยิ่งจับตัวกันมากยิ่งขึ้น ศ.กิตติคุณเฉิน เตือนว่า […]

“ฟ้ารั่ว” ในเอเชียใต้ ตายเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 430 คน
เปชวาร์ 17 ส.ค. – ยอดผู้เสียชีวิตล่าสุดจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในปากีสถาน อินเดีย และเนปาล จากคลาวด์เบิร์สต์ (cloudburst) ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่ฝนตกหนักมากในช่วงเวลาสั้นๆ หรือที่เรียกว่า ฟ้ารั่ว เพิ่มขึ้นรวมกันเป็นมากกว่า 430 คนแล้ว สำนักงานจัดการภัยพิบัติจังหวัดไคเบอร์ปักตุนควาที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของปากีสถาน แจ้งว่า นับจนถึงวันเสาร์ได้รับรายงานยืนยันว่ามีผู้เสียชีวิตแล้ว 307 คน และมีผู้สูญหายอีกจำนวนมาก ถนนหลายสายถูกตัดขาด บ้านเรือนเสียหายหนัก จากน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มที่เกิดขึ้นทางตอนเหนือของจังหวัด เจ้าหน้าที่กู้ภัยประมาณ 2,000 คน กำลังดำเนินการกู้ร่างผู้เสียชีวิตจากซากปรักหักพังของบ้านเรือนและดินโคลน และปฏิบัติการบรรเทาทุกข์ในพื้นที่ 10 หมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบ แต่ฝนที่ยังคงตกต่อเนื่อง ดินถล่มในหลายพื้นที่ และถนนถูกน้ำกัดเซาะ เป็นอุปสรรคสำคัญในการส่งความช่วยเหลือ โดยเฉพาะการขนส่งเครื่องจักรหนักและรถพยาบาลเข้าพื้นที่ เนื่องจากถนนหลายสายไม่สามารถใช้การได้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องเดินเท้าเพื่อเข้าไปปฏิบัติการกู้ภัยในพื้นที่ห่างไกล ขณะเดียวกัน สำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติของปากีสถานแจ้งว่า มีผู้เสียชีวิตเพิ่ม 9 คน ในดินแดนแคชเมียร์ ส่วนที่อยู่ในความปกครองของปากีสถาน และอีก 5 คน ในดินแดนกิลกิต-บัลติสถาน ทางตอนเหนือ ในจำนวนนี้รวมถึงนักบิน 2 คน ที่เสียชีวิตเมื่อเฮลิคอปเตอร์ของรัฐบาลท้องถิ่น ประสบอุบัติเหตุตก […]

ฝนตกหนักญี่ปุ่น-จีน
โตเกียว 11 ส.ค.- ภูมิภาคทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่นเผชิญเหตุฝนตกหนักและดินถล่ม ขณะที่ทางการจีนรับมือเหตุฝนตกหนักและน้ำท่วมในมณฑลเสฉวน และเร่งค้นหาผู้สูญหายจากภัยพิบัติในมณฑลกานซู่ เกิดฝนตกหนักในภูมิภาคคิวชู ทางตะวันตกเฉียงใต้ของญี่ปุ่นในวันนี้ ส่งผลให้เกิดเหตุดินถล่มและน้ำท่วมเป็นวงกว้าง รวมทั้งต้องหยุดพักการให้บริการรถไฟโดยสารหัวกระสุนบนเกาะคิวชูเป็นการชั่วคราว สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นประกาศเตือนภัยฝนตกหนักในหลายเมืองทั่วจังหวัดคุมาโมโตะ โดยในรอบ 24 ชั่วโมงนับจนถึงเวลา 15.30 น.ตามเวลาท้องถิ่น วัดปริมาณฝนในเมืองคุมาโมโตะ เมืองเอกของจังหวัดได้มากถึง 379.5 มิลลิเมตร ทางการแจ้งว่า ได้รับรายงานผู้สูญหาย 4 คน ขณะเดียวกันที่มณฑลเสฉวน ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เผชิญเหตุฝนตกหนักตลอดช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยที่เมืองเมี่ยนจู เจ้าหน้าที่ประกาศเตือนภัยสีเหลือง ให้ประชาชนเฝ้าระวังอันตรายจากภัยพิบัติทางธรณีวิทยาและภัยพิบัติน้ำป่าไหลหลากจากหุบเขา พร้อมกับได้อพยพประชาชนที่อยู่ในจุดเสี่ยงภัยในเมืองเมี่ยงจูและพื้นที่ใกล้เคียงมากกว่า 200 คน เพื่อพาออกไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย และยังระงับบริการเดินรถไฟโดยสารจากเมืองเฉิงตู เป็นบางเที่ยว เนื่องจากผลกระทบของพายุฝนฟ้าคะนองรุนแรง เจ้าหน้าที่ขอให้ประชาชนวางแผนการเดินทางและติดตามข่าวสารด้านตารางเดินรถไฟอย่างใกล้ชิด เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตามมา ส่วนความคืบหน้าปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันในมณฑลกานซู่ ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีนที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 13 คน และยังมีผู้สูญหายอยู่ 30 คน ทีมกู้ภัยยังคงค้นหาอย่างต่อเนื่อง สถานีโทรทัศน์ซีซีทีวีของรัฐบาลจีนรายงานว่า ภัยพิบัติน้ำท่วมในมณฑลนี้ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เสี่ยงมากเกือบ 10,000 คน.-820(814).-สำนักข่าวไทย

ฝนตกหนักทำให้เกิดน้ำท่วม-ดินถล่มในญี่ปุ่น
โตเกียว 8 ส.ค. – สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นได้ออกประกาศพิเศษเตือนภัยจากฝนตกหนักในจังหวัดคาโงะชิมะ บนเกาะคิวชู ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น และแนะนำให้ประชาชนอยู่ภายในที่พักอาศัย สำนักงานอุตุนิยมวิทยาระบุว่า ฝนตกหนักในภูมิภาคคิวชู รวมถึงจังหวัดคาโงะชิมะ จะยังคงมีต่อเนื่องไปจนถึงวันอาทิตย์ สถานีโทรทัศน์ของบรรษัทกระจายเสียงและแพร่ภาพแห่งญี่ปุ่น หรือ เอ็นเอชเค รายงานว่า ปริมาณน้ำฝนในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ในเมืองคิริชิมะ สูงเกิน 500 มิลลิเมตรแล้ว และทางการท้องถิ่นได้ออกคำเตือนให้อพยพประชาชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ ที่เมืองไอระ เกิดเหตุดินถล่มเนื่องจากฝนตกหนักสร้างความเสียหายแก่บ้านเรือน ขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงค้นหาหญิงวัย 30 ปีรายหนึ่งที่ยังคงสูญหายไป นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ของญี่ปุ่น กล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงโตเกียวว่า รัฐบาลจะใช้มาตรการทุกวิถีทางเพื่อรับมือ รวมถึงการให้ข้อมูล การสนับสนุนการอพยพ และการปฏิบัติการกู้ภัย.-813.-สำนักข่าวไทย