ฟิลิปปินส์

จีนกล่าวหาฟิลิปปินส์ในวันนี้ว่า ยั่วยุสร้างปัญหาในพื้นที่ทะเลจีนใต้ โดยมีสหรัฐคอยหนุนหลัง หลังจากที่เมื่อสัปดาห์ก่อนรัฐบาลปักกิ่งและมะนิลาต่างกล่าวหากันไปมา

เนโกรสโอกซีเดนตัล 11 ธ.ค.- หลายเมืองในจังหวัดเนโกรสโอกซีเดนตัล ทางตอนกลางของฟิลิปปินส์ ถูกปกคลุมด้วยเถ้าถ่านหนาจนกลายเป็นสีเทา หลังจากภูเขาไฟคันลาออน (Kanlaon) ปะทุเมื่อวันจันทร์ ภูเขาไฟคันลาออนเป็นภูเขาไฟสูงที่สุดบนเกาะเนโกรสที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของฟิลิปปินส์ ได้ปะทุเป็นครั้งที่ 2 ของปีนี้ พ่นเถ้าถ่านสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าถึง 4 กิโลเมตรเมื่อเวลา 15.00 น.วันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเวลา 14.00 น.วันเดียวกันตามเวลาไทย เถ้าถ่านเหล่านี้ตกลงมาปกคลุมท้องถนน อาคาร บ้านเรือน และสิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ จนเป็นสีเทาไปหมด สถาบันภูเขาไฟวิทยาและแผ่นดินไหววิทยาฟิลิปปินส์ได้ยกระดับเตือนภัยเป็นระดับ 3 จากทั้งหมด 5 ระดับ โดยระดับ 3 หมายถึงมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นจากธารลาวาไหลเข้าทำลายชุมชน และการปะทุพ่นเถ้าถ่านซ้ำอีกในช่วงหลายสัปดาห์จากนี้ไป ทำให้ต้องจัดกำลังเจ้าหน้าที่ฉุกเฉินเข้าไปอพยพผู้คนที่อาศัยใกล้ภูเขาไฟ โดยประเมินว่ามีผู้ได้รับผลกระทบราว 54,000 คน.-812(814).-สำนักข่าวไทย  

มะนิลา 10 ธ.ค.- สถาบันภูเขาไฟวิทยาและแผ่นดินไหววิทยาแห่งฟิลิปปินส์ประกาศเตือนว่า ภูเขาไฟคันลาออน (Kanlaon) ทางตอนกลางของประเทศได้ปะทุที่ปล่องภูเขาไฟเมื่อช่วงบ่ายของวันจันทร์ พร้อมกับพ่นเถ้าถ่านและก๊าซขึ้นสู่ท้องฟ้า สำนักข่าวซินหัวของทางการจีนรายงานอ้างสถาบันฯ ว่า การปะทุดังกล่าวก่อให้เกิดกลุ่มควันขนาดใหญ่พวยพุ่งสูงถึง 3,000 เมตรเหนือปล่องอย่างรวดเร็ว และลอยไปทางทิศตะวันตกค่อนไปทางตะวันตกเฉียงใต้ เป็นการปะทุแบบแมกมาทิก (Magmatic Eruption) ที่เกิดจากการปลดปล่อยความดันของก๊าซภายในหินหนืดหรือแมกมา และอาจลุกลามสู่การปะทุที่รุนแรงยิ่งขึ้นอีก สถาบันฯ ได้ยกระดับเตือนภัยเป็นระดับ 3 จากทั้งหมด 5 ระดับ พร้อมกับแนะนำให้ประชาชนที่อยู่ในรัศมี 6 กิโลเมตรจากยอดภูเขาไฟอพยพออกจากพื้นที่ดังกล่าว และเตรียมพร้อมสำหรับการอพยพเพิ่มเติม ภูเขาไฟคันลาออน ซึ่งทอดตัวอยู่ระหว่างจังหวัดเนกรอส โอเรียนทัลและเนกรอส โอกซีเดนทัลบนเกาะเนกรอส เป็นหนึ่งในภูเขาไฟที่ยังคุกรุ่นมากที่สุดของฟิลิปปินส์ ซึ่งปะทุขึ้นครั้งล่าสุดเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา.-814.-สำนักข่าวไทย

มะนิลา 4 ธ.ค.- รองประธานาธิบดีซารา ดูเตอร์เต ของฟิลิปปินส์ถูกสมาชิกสภายื่นคำร้องถอดถอนออกจากตำแหน่งเป็นฉบับที่ 2 ในวันนี้ หลังจากถูกภาคประชาสังคมยื่นคำร้องถอดถอนฉบับแรกเมื่อวันจันทร์ กลุ่มสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ฝ่ายซ้ายยื่นถอดถอนรองประธานาธิบดีดูเตอร์เต โดยกล่าวหาเธอว่า ทรยศต่อความไว้วางใจของประชาชน กรณีใช้จ่ายงบประมาณจำนวน 612.5 ล้านเปโซ (ราว 360 ล้านบาท) โดยมิชอบ, สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในสังกัดปลอมแปลงรายงานเพื่อปกปิดการใช้จ่ายเงิน โดยมิชอบ และไม่ไปชี้แจงเรื่องงบประมาณต่อรัฐสภา ก่อนหน้านี้เมื่อวันจันทร์กลุ่มภาคประชาสังคม แกนนำทางศาสนาและอดีตเจ้าหน้าที่ได้ร่วมกันยื่นคำร้องขอถอดถอนนางดูเตอร์เตฉบับแรกโดยกล่าวหาว่า ไร้ความสามารถ รับสินบน และร่ำรวยโดยผิดปกติในขณะดำรงตำแหน่ง ทั้งนี้ กระบวนการถอดถอนนางดูเตอร์เตในสภาจะต้องเริ่มจาก สส.อย่างน้อย 1 ใน 3 จากทั้งหมด 308 คนลงมติสนับสนุนคำร้อง เพื่อส่งต่อไปยังสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่จะเปิดประชุมการไต่สวนถอดถอน ซึ่งต้องได้เสียงอย่างน้อย 2 ใน 3 จากทั้งหมด 23 คน หากตัดสินว่ามีความผิดจริง สว.จะถอดถอนเธอออกจากตำแหน่งและประกาศให้ขาดคุณสมบัติที่จะรับตำแหน่งราชการ นอกจากนี้รองประธานาธิบดีดูเตอร์เต วัย 46 ปี ที่เป็นบุตรคนที่ […]

ศูนย์วิจัยธรณีศาสตร์ของเยอรมนี (German Research Center for Geosciences) รายงานว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.6 ที่บริเวณภาคเหนือของฟิลิปปินส์ในวันนี้

พันธมิตรกลุ่มภาคประชาสังคมในฟิลิปปินส์ยื่นคำร้องในวันนี้ขอให้ถอดถอนรองประธานาธิบดีซารา ดูเตอร์เต ออกจากตำแหน่ง จากข้อกล่าวหาว่า

ธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือเอดีบี (ADB) เรียกร้องให้รัฐบาลในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ดำเนินความริเริ่มหลากหลายอย่าง เพื่อให้ภูมิภาคนี้มีความมั่นคงทางสังคมที่คำนึงถึงเพศสภาพ

มะนิลา 25 พ.ย.- ประธานาธิบดีเฟอร์ดินันด์ มาร์กอส จูเนียร์ของฟิลิปปินส์ประกาศจะสู้กลับ หลังจากรองประธานาธิบดีที่มีปัญหากันกล่าวว่า เธอได้สั่งคนให้ลอบสังหารเขาหากเธอถูกสังหาร ประธานาธิบดีมาร์กอส จูเนียร์ วัย 67 ปี กล่าวในการบันทึกเทปถึงประชาชนทั่วประเทศอย่างแข็งกร้าวว่า ถ้อยคำที่มีผู้พูดในช่วงหลายวันมานี้กำลังก่อปัญหา เป็นการใช้คำสาบและคำขู่อย่างไร้ความยั้งคิดว่าจะสังหารคนอื่น หากการวางแผนการลอบสังหารประธานาธิบดีเป็นเรื่องง่ายดายเช่นนั้น แล้วประชาชนคนธรรมดาจะเป็นอย่างไร จึงไม่ควรมองข้ามการวางแผนก่ออาชญากรรมเช่นนี้ ผู้นำฟิลิปปินส์กล่าวโดยไม่ได้ระบุชื่อนางซารา ดูเตอร์เต รองประธานาธิบดีหญิงวัย 46 ปี ที่เป็นผู้สมัครคู่กับเขาในการเลือกตั้งประธานาธิบดีและรองประธานาธิบดีปี 2565 และเป็นบุตรสาวคนโตของอดีตประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต หลังจากที่เธอตอบคำถามระหว่างการแถลงข่าวทางออนไลน์เมื่อวันเสาร์ว่า เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยหรือไม่ว่า เธอได้สั่งให้คนลอบสังหารนายมาร์กอส จูเนียร์ รวมถึงภรรยาของเขาและประธานสภาผู้แทนราษฎร หากเธอถูกลอบสังหาร คำตอบที่ดุดันดังกล่าวสะท้อนถึงความขัดแย้งล่าสุดระหว่างตระกูลมาร์กอสกับตระกูลดูเตอร์เตที่รุนแรงขึ้นนับตั้งแต่ความเป็นพันธมิตรที่เหนียวแน่นของทั้ง 2 ตระกูลพังลง หลังจากที่จับมือกันกวาดชัยชนะในการเลือกตั้งปี 2565 ขณะเดียวกันนักเคลื่อนไหวชาวฟิลิปปินส์กลุ่มหนึ่งได้ชุมนุมเรียกร้องให้สมาชิกสภาเปิดการไต่สวนเพื่อถอดถอนนางดูเตอร์เต จากการใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมและการนำงบประมาณไปใช้จ่ายอย่างไม่เหมาะสม.-814.-สำนักข่าวไทย

มะนิลา 25 พ.ย.- เจ้าหน้าที่กู้ภัย อาสาสมัครและชาวบ้าน ตรวจสอบความเสียหายของบ้านเรือนประชาชนในชุมชนแออัดริมท่าเรือย่านใจกลางกรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์ที่เกิดเพลิงไหม้วานนี้ เจ้าหน้าที่ดับเพลิงใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมงจึงจะสามารถควบคุมเพลิงให้อยู่ในวงจำกัดได้ เพลิงที่ลุกไหม้นานหลายชั่วโมง ส่งผลให้บ้านเรือนนับร้อยหลังที่ปลูกติดกันถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหมด แต่ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บ เนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่สามารถขนทรัพย์สินและอพยพสมาชิกในครอบครัวออกจากชุมชนแออัดก่อนเพลิงจากลามไปทั่วพื้นที่ หลายคนบอกว่าเป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่พวกเขาต้องสูญเสียบ้านและไม่มีที่อยู่อาศัย ทั้งที่อีกไม่กี่สัปดาห์ก็จะถึงเทศกาลคริสต์มาส และที่กังวลมากกว่าคือหลังจากนี้จะไปพักอาศัยที่ใด ทางการกรุงมะนิลายังไม่ได้สอบสวนหาสาเหตุของเพลิงไหม้ ซึ่งที่ผ่านมามักเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร และฟิลิปปินส์ก็มักเกิดเพลิงไหม้ใหญ่ในชุมชนบ่อยครั้ง ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนสิงหาคม เกิดเหตุไฟไหม้อาคารชุดพักอาศัยสูง 5 ชั้นในย่านไชนาทาวน์ของกรุงมะนิลา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 11 ราย.-815(814).-สำนักข่าวไทย

เกิดไฟไหม้ใหญ่เผาบ้านเรือนประชาชนในชุมชนแออัดที่ตั้งอยู่ย่านใจกลางกรุงมะนิลาของฟิลิปปินส์ ในวันนี้

กระทรวงพลังงานของฟิลิปปินส์รายงานว่าฟิลิปปินส์เริ่มต้นก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และกักเก็บพลังงานแบตเตอรี่เมรัลโก เทอร์รา (Meralco Terra)

นักโทษหญิงชาวฟิลิปปินส์ ที่ได้รับการยกเว้นโทษประหารชีวิตในคดียาเสพติดจากรัฐบาลอินโดนีเซียจะถูกส่งตัวให้กลับไปรับโทษในฟิลิปปินส์บ้านเกิด