กรุงเทพฯ 13 พ.ย. – ประชาชนร้องรัฐปั๊มน้ำมันขายเกรดแพง กรมธุรกิจพลังงานชี้เป็นตลาดเสรี ชาวบ้านต้องสังเกตราคาหน้าปั๊มก่อนใช้บริการ ยืนยันน้ำมันเกรดธรรมดาคุณภาพคับแก้วเพียงพอกับความต้องการใช้ของค่ายรถยนต์
นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) กล่าวว่า ขณะนี้ได้เร่งประสานงานหาทางแก้ปัญหากรณีที่ปั๊มน้ำมันมีการจำหน่ายน้ำมันเกรดพรีเมียมมากขึ้นทั้งกลุ่มเบนซินและดีเซล ที่แพงกว่าเกรดธรรมดา 3-4 บาทต่อลิตร และมีประชาชนร้องเรียนเข้ามา จากการตรวจสอบมีผู้ค้าเกรดพรีเมียมในกลุ่มเบนซิน 2 ราย คือ เชลล์และเอสโซ่ ส่วนดีเซลเกรดพรีเมียมมี 5 ราย ได้ แก่ บางจากฯ ปตท. เอสโซ่ คาลเท็กซ์ และเชลล์ โดยในส่วนของเชลล์ไม่มีการจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ 95 เกรดธรรมดาแต่อย่างใด จำหน่ายแต่เกรดพรีเมียม
ทั้งนี้ การค้าน้ำมันเป็นตลาดเสรี ทางกระทรวงพลังงานไม่ได้ควบคุมราคา ดังนั้น ประชาชนจึงต้องสังเกตราคาหน้าปั๊มก่อนเข้าใช้บริการ อย่างไรก็ตาม ทางกรมฯ พยายามประสานหาทางว่าจะทำอย่างไรให้มีการช่วยเตือนผู้บริโภค มีกฏหมายหรือระเบียบใดมาดูแลได้บ้าง เช่น ป้ายมีข้อสังเกตชัดเจนว่าไม่มีน้ำมันเกรดธรรมดาจำหน่าย พร้อมจะเร่งเผยแพร่ความรู้ให้ประชาชนเข้าใจในรูปแบบหลากหลาย มีการใช้อินโฟกราฟฟิกมาช่วยสร้างความเข้าใจว่า ธพ.ยืนยันว่าน้ำมันเกรดธรรมดามีคุณภาพได้มาตรฐาน ตามที่ ธพ.กำหนดและเป็นที่ยอมรับของค่ายรถยนต์อยู่แล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องเติมน้ำมันเกรดพรีเมี่ยมแต่อย่างใด ผู้บริโภคควรศึกษาข้อมูลให้รอบคอบก่อนตัดสินใจเติมน้ำมันแต่ละชนิด
“มีการหารือกับสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ว่าจะควบคุมราคาน้ำมันเกรดพรีเมียมได้หรือไม่ ได้ คำตอบว่า สคบ.ไม่ได้ดูแล ซึ่ง ธพ.กำลังพิจารณาว่าจะดำเนินการอะไรได้บ้างและจะหารือกับ พล.อ.อนันตพร กาญจนรัตน์ รมว.พลังงาน ว่านโยบายจะดำเนินการอย่างไร เบื้องต้น รมว.พลังงานเร่งให้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจถึงการเลือกใช้น้ำมันมากขึ้น” นายวิฑูรย์ กล่าว
นายวิฑูรย์ ยอมรับว่า น้ำมันเกรดพรีเมี่ยมมีคุณภาพดีกว่าเกรดธรรมดา ต้นทุนสูงกว่า เพราะมีการเติมสารเติมแต่ง หรือ ADDITIVE ลงไป ซึ่งมีการนำเข้าและต้นทุนไม่ได้สูงมาก หากคำนวณเฉพาะค่าสารเติมแต่งบางช่วงอาจจะประมาณ 0.25-0.50 บาท/ลิตร แต่มาตั้งราคาขายสูงเกินไป หรือทางผู้ค้าอาจบวกต้นทุนอื่น ๆ ซึ่งอาจจะเป็นที่ถูกใจของผู้บริโภคบางส่วน และก็เป็นช่องทางที่ผู้ค้าน้ำมันอาจจะหลีกเลี่ยงการแข่งขันกับรายอื่น ๆ ที่มีการใช้ราคาของเกรดธรรมดาเป็นตัวแข่งขัน
สำหรับการค้าน้ำมันเกรดพรีเมี่ยม ทาง ธพ.ได้ขอความร่วมมือให้ผู้ค้าน้ำมันรายงานผลการจำหน่ายตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน 2560 ปรากฏว่าในส่วนของเชลล์ยังไม่รายงานปริมาณปั๊มจำหน่ายที่ชัดเจนทั้งดีเซลและแก๊สโซฮอล์ 95 ส่วนปริมาณน้ำมันที่รายงานตามกฎหมายนั้นเป็นยอดขายรวมทั้งในส่วนการจำหน่ายภาคอุตสาหกรรมและหน้าปั๊ม ซึ่งพบว่าเชลล์ขายแก๊สโซฮอล์ 95 น้อยมาก ซึ่งคาดว่าจะไม่มีการจำหน่ายหน้าปั๊มแต่อย่างใด โดยในส่วนการจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ 95 เกรดธรรมดา เชลล์มียอดขาย 0.21 ล้านลิตร/วัน เกรดพรีเมี่ยม 1.09 ล้านลิตร/วัน รวม 1.31 ล้านลิตร/วัน โดยขายเกรดพรีเมียมในปั๊มทุกแห่งของเชลล์ 507 แห่ง ส่วนเอสโซ่ขาย 121 แห่งจาก ปั๊มรวม 542 แห่ง ยอดขาย 0.06 ล้านลิตร/วัน เกรดธรรมดา 1.66 ล้านลิตร/วันรวม 1.72 ล้านลิตร/วัน
ส่วนการจำหน่ายดีเซลเกรดพรีเมียม ปตท.รายงานแยกการจำหน่ายเป็น 2 บริษัท ผลการรายงาน พบว่าดีเซลพรีเมี่ยม ปตท.ขายในปั๊ม 500 แห่ง จาก 1,729 แห่ง ยอดขาย 0.27 ล้านลิตร/วัน จากยอดรวม 20.13 ล้านลิตร/วัน , ปตท.บริหารค้าปลีกขาย 21 แห่ง จาก 149 แห่ง ยอดขาย 0.01 ล้านลิตร/วัน จากยอดรวม 1.82 ล้านลิตร/วัน , เชลล์มียอดขาย 1.45 ล้าน/วัน จากยอดขายรวม 7.34 ล้านลิตร/วัน ไม่รายงานปริมาณปั๊ม, เอสโซ่ขาย 328 แห่ง จากยอดรวม 542 แห่ง ปริมาณ 0.26 ล้านลิตร/วัน จากยอดรวม 8.6 ล้านลิตร/วัน คาลเท็กซ์หรือเชฟรอน ขาย 154 แห่งจาก 369 แห่ง ยอดขาย0.05 ล้านลิตร/วัน จากยอดรวม 4.65 ล้านลิตร/วัน บางจากฯ ขายในปั๊ม 142 แห่งจาก 1,093 แห่ง ปริมาณ 0.03 ล้านลิตร/วัน จากยอดรวม 8.23 ล้านลิตร/วัน . – สำนักข่าวไทย