บอร์ด กฟผ. โยกย้ายผู้บริหารจัดทัพรับเทคโนโลยีใหม่


กรุงเทพฯ 24 ก.ค.-บอร์ด กฟผ.โยกย้ายผู้บริหาร
จัดทัพปรับโครงสร้างองค์กรใหม่รับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี และสร้างคนรับไม้
หลังผู้ว่าฯการคนปัจจุบันครบวาระ ธ.ค.63


               นายวิฑูรย์
กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ในฐานะประธาน คณะกรรมการ
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ วานนี้(23
ก.ค.) เห็นชอบการโยกย้ายระดับผู้บริหาร กฟผ.
ซึ่งเป็นไปตามแผนงานการปรับโครงการสร้างองค์กรที่ คณะกรรมการเห็นชอบไปก่อนหน้านี้ที่ปรับระดับรองตามสายงาน
12 สายงานเหลือ 8 สายงาน ซึ่งจะทำให้การทำงานลดความซ้ำซ้อน
เพิ่มความสามารถทางการแข่งขันรองรับการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีใหม่
Disruptive Technology อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งที่เห็นชอบ
วานนี้ มีการปรับตำแหน่งหมุนเวียนและตั้งรองผู้ว่าการจำนวน
13 คนใหม่ ก็เพื่อเป็นการเตรียมพร้อมองค์กร ที่
จะรองรับการสรรหาผู้ว่าคนใหม่ แทนคนปัจจุบันก่อนที่จะครบวาระ เดือน. ธันวาคม2563 ประมาณ
6 เดือน จึงเตรียมพร้อมนำระดับผู้ช่วยขึ้นมาเป็นระดับรองเพื่อสร้างทีมงานใหม่เพราะมีอายุงาน
3-4 ปี ขณะที่รองอาวุโสสังกัดผู้ว่าการเป็นการตั้งขึ้นมาเพราะเหลืออายุงานเพียง
1 ปีเท่านั้นคือจะเกษียณปี 2562ประมาณ 3 คนและเมื่อถึงเวลารองตำแหน่งนี้ก็คงจะหมดไป  

             “การปรับโครงสร้างและการแต่งตั้งผู้บริหารก็เป็นการเตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันของ
กฟผ. ซึ่ง ในอนาคต พนักงาน กฟผ.จะเหลือประมาณ 15,000 คน จากที่ปัจจุบันมีกว่า 22,000
คน โดยจำนวนพนักงานจะลดลงตามธรรมชาติจากการเกษียณอายุตามวาระ ซึ่งในช่วงปี
2561 – 2566 มีผู้เกษียณประมาณ 6,900 คน ดังนั้น
จึงไม่มีความจำเป็นใดๆ ที่จะต้องปลดพนักงาน และ กฟผ. จะยังคงเปิดรับสมัครพนักงานใหม่ในสาขาวิชาชีพที่มีความจำเป็นเหมาะสม
 และในแต่ละปีก็จะเปิดให้พนักงานสมัครโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด
 (Early Retirement)”นายวิฑูรย์ กล่าว  

             
นายสหรัฐ บุญโพธิภักดี รองผู้ว่าการพลังงานหมุนเวียนและพลังงานใหม่
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในฐานะโฆษก กฟผ.  กล่าวว่า 
การที่แต่งตั้งผู้บริหาร กฟผ.ซึ่งมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2561 นี้ จะเห็นได้ว่า
มี
รองผู้ว่าการประจำสำนักผู้ว่าการ 4 คน โดย 3
คน
 อยู่ ที่ กฟผ. และอีก 1 เป็นกรรมการ ผู้จัดการ บริษัท กฟผ.อินเตอร์เนชั่นเนล
จำกัด
 ( EGATi )โดยรองผู้ว่าการฯทั้ง 3 คน
ทางผู้ว่าการ กฟผ.

จะมอบหมายงานให้ เพราะแต่ละคนมีประสบการณ์มากในแต่ละด้าน มาช่วยงาน กฟผ.ที่ต้องเผชิญความท้าทาย(
challenge) มากมาย เช่น การพัฒนาโรงไฟฟ้าเสร็จทันกำหนด งบไม่บานปลาย,
งานนวัตกรรม การแปลงสิ่งประดิษฐ์ งานวัจัย หรือผลงาน โครงการ
Move World Together ไปเป็นสินค้าทำมาหากินได้


             โดย กฟผ. หรือ
สนับสนุนชุมชนให้ผลิตไปจำหน่ายมีรายได้เพิ่มในชุมชน หรือจะไปตั้งเป็น
บริษัทวิสาหกิจเพื่อสังคม
Social Enterprise  พร้อมทั้งสนับสนุน งานชุมชนที่ควรจะเติบโตทางเศรษฐกิจ อาชีพ
ไปพร้อมกับการเติบโตของโรงไฟฟ้า กฟผ.
Growing Together  ตามแนวคิด CSV-Creating
Share Value (
สร้างคุณค่าร่วมกัน)
ตามแนวคิด
SDG-Sustainable
Development Goals
ของ
สหประชาชาติ (
UN)  ภายในปี ค.ศ.2030 ซึ่งตรงกับวิสัยทัศน์ กฟผ.  “Innovate Power Solutions for a Better Life” ชีวิตที่ดีขึ้นของชุมชน/สังคม ชาวบ้านอยู่ได้มีสุข กฟผ.
ก็ได้อยู่รับใช้ประชาชนต่อไป

              “การจัดทัพ กฟผ.ให้มีประสิทธิภาพ
ดีขึ้น ในขณะที่ ระดับรองฯที่ดูแล สำนักผู้ว่าการก็สามารถต่อยอดงาน
CSV ที่ กฟผ.สนับสนุน และมีไอเดียที่ต่อยอดได้ เช่น   รถ EV ดัดแปลง ,หวดนึ่งข้าวเหนียวประหยุดพลังงาน ของน้องๆ
Move World Together และยังมีอีกหลายสิ่งประดิษฐ์จากน้องๆ เราติดเล่นๆ 20:1 คือ 20
สิ่งประดิษฐ์แปลงเป็น 1 สินค้า ก็น่าพอใจกว่าวันนี้ที่สิ่งประดิษฐ์เป็นประกาศในกระดาษ”
นายสหรัฐ กล่าว

 

       สำหรับการปรับตำแหน่งหมุนเวียนและตั้งรองผู้ว่าการจำนวน
13 คนใหม่โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2561 ประกอบไปด้วย

           1.นายสืบพงษ์ บูรณศิรินทร์ รองผู้ว่าการกิจการสังคม เป็นรองผู้ว่าการอาวุโสสังกัดผู้ว่าการ 

          2.นายนิกูล ศิลาสุวรรณ รองผู้ว่าการผลิตไฟฟ้า เป็นรองผู้ว่าการประจำสำนักผู้ว่าการ

          3.
นายกฏชยุตม์ บริบูรณ์จตุพร รองผู้ว่าการพัฒนาโรงไฟฟ้า เป็นรองผู้ว่าการประจำสำนักผู้ว่าการ 

          4.
นางภาวนา อังคณานุวัฒน์ รองผู้ว่าการบริหาร เป็นรองผู้ว่าการบริหาร 

          5.
นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการนโยบาย และแผน เป็นรองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ 

          6.
นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร รองผู้ว่าการพัฒนาธุรกิจ เป็นรองผู้ว่าการธุรกิจเกี่ยวเนื่อง 

          7.
นายภัทรกฤช เตชะศิกานต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการการเงิน เป็นรองผู้ว่าการเงินและบัญชี
(ซีพีเอฟ)


          8.
นายณัฐวุฒิ แจ่มแจ้ง ผู้ช่วยผู้ว่าการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ
ป็นรองผู้ว่าการผลิตไฟฟ้


          9.
นายธวัชชัย จักรไพศาล ผู้ช่วยผู้ว่าการแผนงาน เป็นรองผู้ว่าการเชื้อเพลิง 

          10.
นายเริงชัย คงทอง ผู้ช่วยผู้ว่าการบำรุงรักษาระบบส่ง เป็นรองผู้ว่าการระบบส่ง 

          11.
นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการพลังงานหมุนเวียนและพลังงานใหม่ เป็นรองผู้ว่าการพัฒนาโรงไฟฟ้า
และพลังงานหมุนเวียน
 

          12.
นายบุญทวี กังวานกิจ ผู้ช่วยผู้ว่าการบริหารเชื้อเพลิง เป็นรองผู้ว่าการประจำสำนักผู้ว่าการ 

          13.
นายสันติชัย โอสถภวภูษิต ผู้ช่วยผู้ว่าการวิศวกรรมระบบส่ง เป็นรองผู้ว่าการประจำสำนักผู้ว่าการปฎิบัติงานที่บริษัท
กฟผ.อินเตอร์เนชั่นเนล จำกัด
 

           
นอกจากนี้บอร์ดยังเห็นชอบแต่งตั้นายสมบูรณ์ ดำรงสุสกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบำรุงรักษาเครื่องกล-วิชาการ
เป็นผู้อำนวยการฝ่ายประจำสายงานรองผู้ว่าการพัฒนาธุรกิจมีผลใช้บังคับตั้งแต่
1 ส.ค. 2561 และให้ไปปฏิบัติงานที่บริษัทอีแกท
ไดมอนด์ เซอร์วิส จำกัด มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่
1 ต.ค. 2561
สำนักข่าวไทย
          



ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.สั่งเยียวยา ตรวจสอบเหตุ ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 24 พ.ค. – ลำเลียงร่างตำรวจ 3 นาย เสียชีวิตจาก ฮ.ตก ส่งชันสูตร ด้าน ผบ.ตร.สั่งเยียวยาเต็มที่ ให้เร่งตรวจสอบหาสาเหตุโดยด่วน ช่วงบ่ายของวันนี้ เกิดเหตุ เฮลิคอปเตอร์สำนักงานตำรวจแห่งชาติประสบอุบัติเหตุ ระเบิดกลางอากาศ จนมีตำรวจเสียชีวิต 3 นาย จุดเกิดเหตุอยู่ในพื้นที่ บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ ข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ประสบเหตุเป็นรุ่น เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งเดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี และจะบินกลับที่หน่วย ตชด. จังหวัดกาญจนบุรี อุบัติเหตุในครั้งนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 3 นาย ประกอบด้วยนักบิน 2 คน คือ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ, ร.ต.ท.ทรงพล บุญชัย และ ช่างเครื่อง 1 คน คือ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย สาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้ กำลังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ […]

ฮ.ตำรวจตก จ.ประจวบฯ เสียชีวิต 3 นาย

ประจวบฯ 24 พ.ค. – คืบหน้าเหตุเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ จ.ประจวบฯ พบผู้เสียชีวิต 3 นาย เป็นนักบิน 2 ช่างเครื่อง 1 ความคืบหน้าเฮลิคอปเตอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติตกในพื้นที่ใกล้เคียงวัดหนองพังพวย ต.เกาะหลัก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ จากการตรวจสอบพบว่าเหตุเกิดเมื่อเวลา 13.10 น. มีผู้เสียชีวิต 3 นายคือ พันตำรวจตรีประเทือง ชูเลิศ นักบิน ร้อยตำรวจเอกทรงพล บุญชัย นักบิน และร้อยตำรวจโททินกฤต สุวรรณน้อย ช่างเครื่อง สำหรับภารกิจขึ้นบิน อยู่ระหว่างการตรวจสอบว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ขึ้นจากท่าแร้งไปต่างจังหวัด หรือเป็นเฮลิคอปเตอร์ที่ประจำการในพื้นที่แล้วปฏิบัติภารกิจ ล่าสุดมีภาพผู้เสียชีวิตบางส่วน และบางรายโดดร่มลงจากเฮลิคอปเตอร์ แต่รายละเอียดยังไม่สามารถยืนยันได้ เนื่องจากเหตุการณ์เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายโมงที่ผ่านมา และทุกอย่างยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเป็นเฮลิคอปเตอร์ เบล 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติขึ้นบินจากค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ จ.ชุมพร ปลายทางค่ายนเรศวร จ.ประจวบคีรีขันธ์ ขณะที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้แสดงความเสียใจกับผู้เสียชีวิตทั้ง 3 นายและครอบครัว สั่งการเร่งด่วนให้ช่วยเหลือเยียวยา และตรวจสอบสาเหตุต่อไป.-สำนักข่าวไทย

สายลับไรเดอร์ ตามจับบัญชีม้า แก๊งคอลเซ็นเตอร์

เชียงใหม่ 24 พ.ค.-ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ ปลอมตัวเป็นไรเดอร์ สะกดรอยตามจับ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกนักท่องเที่ยวผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก เปิดให้จองที่พักทิพย์ตามแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในจังหวัด เสียหายมากถึงวันละ 300,000 บาท โดยมีเงินโอนเข้าบัญชีม้าไม่ต่ำกว่า 50 บัญชี แก๊งนี้ทำมาแล้วกว่า 6 เดือน ตำรวจท่องเที่ยวเชียงใหม่ นำหมายจับศาลเชียงใหม่ ติดตามจับกุมนายบุญ (หนุ่มชาติพันธุ์) คาห้องเช่า ใกล้พรมแดน ในพื้นที่อำเภอแม่สาย จังหวัดเชียงราย ผู้ต้องหาตามหมายจับ ข้อหา ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน และความผิดตามพรบ.คอมพิวเตอร์ คดีหลอกลวงทางออนไลน์ พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือ 9 เครื่อง เครื่องนับเงินสด และเงินสดอีกจำนวน 20,000 บาท สมุดบัญชีธนาคาร บัตรกดเงินสด หลายรายการ ซุกซ่อนในตู้เสื้อผ้า นอกจากนี้ ยังขยายผลจับกุมผู้ต้องหา ที่เปิดบัญชีม้า ในการรับโอนเงินได้อีก 3 คน และอยู่ระหว่างขยายผลเพิ่มเติม โดยเฉพาะคนที่จัดหาบัญชีม้า และโทรศัพท์มือถือ สำหรับใช้ในการกระทำความผิดกับผู้ต้องหา ด้าน พันตำรวจโท อวิรุทธ์ สุขแย้ม […]

ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว

ตาก 24 พ.ค.-ทหารเมียนมา ต้านไม่ไหว ฐานเจดีย์ขาวเบอโด้ แตกแล้ว ถึงแม้ว่าทหารเมียนมาจะใช้เครื่องบินมาทิ้งระเบิดตลอดทั้งวัน พ.อ.ณัฐกร เรือนติ๊บ ผู้บังคับการหน่วยเฉพาะกิจราชมนู (ผบ.ฉก.ราชมนู) กองกำลังนเรศวร เปิดเผยถึงสถานการณ์สู้รบบริเวณแนวชายแดน ประเทศเมียนมา ที่ติดอยู่กับประเทศไทย การสู้รบอยู่บริเวณด้านตรงข้าม บ.ห้วยน้ำนัก ม.4 ต.พบพระ อ.พบพระ จ.ตาก ห่างจากแนวชายแดนประมาณ 1 กิโลเมตร โดยหลังจากทหารเมียนมา ใช้อากาศยาน แบบ Y-12 บินตรวจการณ์และทิ้งระเบิด จำนวนประมาณ 30 ลูก โจมตี กกล.KNLA บริเวณพื้นที่โดยรอบ ฐานเจดีย์ขาว บ.เบอโด้ อ.ซูการี จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง สหภาพเมียนมา เพื่อสนับสนุนการป้องกันฐานที่มั่น หลังจากถูก กกล.KNLA ปิดล้อมและโจมตี แต่ก็ไม่สามารถต้านทาน กกล.KNLA ได้ กระทั้งเวลา 19.00 น. กกล.KNLA สามารถเข้าควบคุมฐานเจดีย์ขาว ได้สำเร็จ สามารถตรวจยึดอาวุธและยุทโธปกรณ์ได้หลายรายการ […]

ข่าวแนะนำ

เคลื่อนร่าง 2 นายตำรวจ ฮ.ตก ถึงวัดนวลจันทร์แล้ว

25 พ.ค.- เคลื่อนร่าง 2 นายตำรวจ เหตุ ฮ.ตก จ.ประจวบคีรีขันธ์ ถึงวัดนวลจันทร์แล้ว เตรียมพิธีพระราชทานน้ำหลวงอาบศพ 17.00 น.วันนี้ จากกรณีวันที่ 24 พ.ค. เฮลิคอปเตอร์ รุ่นเบลล์ 212 หมายเลขประจำเครื่อง 2215 ประจำหน่วยบินตำรวจกาญจนบุรี ประสบอุบัติเหตุตกในบริเวณพื้นที่บ้านหนองกก ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นเหตุให้ 3 เจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แก่ พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ (ตำแหน่งนักบิน สบ 2) อายุ 33 ปี ร.ต.อ.ทรงพล บุญชัย (ตำแหน่งนักบิน สบ 1) อายุ 34 ปี และ ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย (ตำแหน่งช่างอากาศยาน สบ 1) อายุ 55 ปี เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทั้งหมด […]

งดเล่นน้ำตกแม่สา หลังฝนตกหนักน้ำขุ่นเชี่ยว

เชียงใหม่ 25 พ.ค.- อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย งดให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำตกแม่สา หลังฝนตกหนักตลอดคืน ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก สำนักทรัพยากรน้ำที่ 1 ออกประกาศเตือนภัยเตรียมพร้อม (ระดับสีเหลือง) ที่บ้านหนองหอย ต.โป่งแยง อำเภอแม่ริม ปริมาณฝนสะสม 12 ชั่วโมง 103. มิลลิเมตร ทำให้ทางนายธงชัย นาราษฎร์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพปุย ได้มีคำสั่ง งดให้นักท่องเที่ยวลงเล่นน้ำตกแม่สา หลังเกิดฝนตกหนักสะสม ทำให้น้ำตกแม่สา มีสีขุ่นแดง กระแสน้ำเชี่ยว ปริมาณน้ำเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเที่ยวชมธรรมชาติได้ตามปกติ แต่ไม่สามารถลงเล่นน้ำได้ เช่นเดียวกับที่อุทยานแห่งชาติออบขาน ประกาศปิดการท่องเที่ยว และพักแรมชั่วคราว สถานการณ์แม่น้ำขาน วันที่ 25 พฤษภาคม 2568 ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติออบขาน ระดับน้ำเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทางอุทยานจะรีบอัปเดตสถานการณ์ให้ทราบอย่างต่อเนื่อง พร้อมแจ้งเตือนประชาชนลุ่มน้ำขานเฝ้าระวังน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะตั้งแต่บ้านห้วยโท้ง ตำบลน้ำบ่อหลวง อำเภอสันป่าตองลงไป เฝ้าระวัง เนื่องจากระดับน้ำที่ผ่านหน้าอุทยานฯ ลงไป มีมวลน้ำจากอำเภอสะเมิง ไหลลงมาเติมต่อเนื่อง .-สำนักข่าวไทย

จนท.ลงพื้นที่เก็บชิ้นส่วน ฮ.ตำรวจตก

ประจวบคีรีขันธ์ 25 พ.ค. – เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่จุดเฮลิคอปเตอร์ตำรวจตก บริเวณ ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เก็บชิ้นส่วนที่กระจัดกระจายตามบ้านเรือนและไร่สวนของชาวบ้าน พร้อมกั้นโดยรอบ ป้องกันผู้ไม่เกี่ยวข้อง บรรยากาศจุดเกิดเหตุเฮลิคอปเตอร์ตำรวจตก พื้นที่หมู่ 1 บ้านหนองกก ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง จัดกำลังดูแลความเรียบร้อยตั้งแต่เกิดเหตุ พร้อมนำโปลิศไลน์มากั้นโดยรอบพื้นที่เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาอย่างเด็ดขาด ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่สารวัตรเวร เจ้าของคดี ลงพื้นที่เก็บรายละเอียดในที่เกิดเหตุอีกครั้ง พร้อมนำทีมชุดพนักงานสอบสวน นำโดรนบินถ่ายภาพมุมสูง เพื่อตรวจสอบว่าชิ้นส่วนของเครื่องบินที่แตกกระจัดกระจายอยู่บริเวณจุดไหนบ้าง ขณะนี้อยู่ระหว่างเจ้าหน้าที่ทยอยเก็บชิ้นส่วนที่ตกกระจัดกระจายตามบ้านเรือนและไร่สวนของชาวบ้าน มารวบรวมไว้บริเวณเต็นท์อำนวยการจุดที่ตัวเครื่องบินตก และรอเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาดำเนินการ ส่วนเศษชิ้นส่วนเครื่องบินบางส่วนที่รวบรวมได้ยังไม่มีการเคลื่อนย้ายแต่อย่างใด ต้องรอคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา หรือต้องรอเจ้าหน้าที่บริษัทผู้ผลิตเครื่องบินมาตรวจอย่างละเอียดก่อน ในส่วนของชาวบ้านที่ได้รับความเสียหายจากชิ้นส่วนเครื่องบินตกใส่หลังคาเสียหายเป็นรู ซึ่งเจ้าหน้าที่เก็บชิ้นส่วนออกไปแล้ว ส่วนชิ้นส่วนหางขนาดใหญ่ที่ตกเฉียดบ้านของชาวบ้านที่อยู่ห่างกันประมาณ 100 เมตร นางใย ชาวบ้านที่ถูกชิ้นส่วนเครื่องบินตกใส่หลังคาเป็นรู เล่าให้ฟังว่า ก่อนจะเกิดเหตุเครื่องบินตกตนเองพร้อมด้วยหลานอีก 2 คน ไปนั่งอยู่หลังบ้าน ต่อมาได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์บินผ่านหลังคาบ้านมา และได้ยินเสียงปะทุ ดังติดต่อกัน 3 ครั้ง ซึ่งเห็นหางเครื่องบินตกลงมาก่อน ก่อนตัวเครื่องบินจะตกลง นอกจากนี้ได้ยินวัตถุชนิดหนึ่งตกลงบนหลังคาบ้าน จึงเข้ามาดูในบ้านพบว่าหลังคาเป็นรู และมีวัสดุตกลงมาอยู่ที่พื้น […]

นึกว่าสงคราม! โจ๋ยกพวกไล่ถล่มปาระเบิด

สมุทรปราการ 25 พ.ค.- แพรกษาเดือด! วัยรุ่นหลายสิบคนยกพวกปาระเบิดกลางถนน กว่า 10 ลูก ถล่มกันจนชาวบ้านผวาต้องหาที่กำบังหนีตาย กล้องวงจรปิดริมถนน ซอยมังกรขันดี ใกล้ตลาดแสงทอง ตำบลแพรกษา อำเภอเมืองสมุทรปราการ จับภาพกลุ่มวัยรุ่น พากันขี่รถจักรยานยนต์แต่งซิ่ง ท่อเสียงดัง ขับวนไปมาภายในซอยดังกล่าว ก่อนเปิดฉากปาระเบิดปิงปองไม่ต่ำกว่า 15 ลูก ใส่กันกลางถนน จนเกิดเสียงดังสนั่น ชาวบ้านหลายคนต้องวิ่งหาที่หลบภัย ขณะที่รถบางคัน ไม่กล้าขับผ่านต้องรีบวนรถกลับ หวั่นโดนลูกหลง กลุ่มวัยรุ่นหลายสิบคน นอกจากจะมีระเบิดปิงปองที่เตรียมมาปาถล่มใส่กันแล้ว ยังมีอาวุธมีดตะขอ ติดมือมาไล่ห้ำหั่นกันอย่างกับสงครามกลางเมือง หลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเศษชิ้นส่วนระเบิดปิงปองแตกกระจายเกลื่อนถนน ส่วนวัยรุ่นที่ยกพวกตีกัน แยกย้ายกันไปก่อนที่เจ้าหน้าที่จะไปถึง ตำรวจกระจายกำลังหาข้อมูล จนทราบว่า มีวัยรุ่นกว่า 20 คน ยกพวกไล่ทำร้ายกัน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ ไปโรงพยาบาลด้วยตัวเอง 2 ราย เจ้าหน้าที่จะเร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามตัวกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย จากการสอบถามผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า ขณะกำลังซื้อข้าวอยู่ตรงตลาดบ่อทอง ได้ยินเสียงระเบิด 3 […]