AMER 7 ประโยชน์ไทย “สร้างชื่อ-แชร์ข้อมูลพลังงานเพื่ออนาคต”

 


 


กรุงเทพฯ 29  ต.ค.-  วันที่ 1 -3 พ.ย. 2560 ประเทศไทยโดยกระทรวงพลังงาน
เป็นเจ้าภาพในการประชุมโต๊ะกลมระดับรัฐมนตรีพลังงานเอเชีย
 
(ASIAN Ministerial Energy Roundtable : AMER)
ครั้งที่ 7
โรงแรมแชงกรีล่า กรุงเทพฯ ไทยได้ประโยชน์ทั้งสร้างชื่อเสียงและได้ข้อมูลพลังงานทั้งจากประเทศผู้ผลิตและผู้บริโภคพลังงานในเอเชีน

 

       การประชุม AMER 7
เป็นหารือระดับรัฐมนตรีพลังงานของชาติสมาชิกในเอเชียร่วมกับผู้นำองค์กรระหว่างประเทศ
ภายใต้แนวคิด
Global Energy Markets in Transition : From Vision to Action หรือการเปลี่ยนผ่านตลาดพลังงานโลก
จากวิสัยทัศน์สู่การปฏิบัติ โดยชาติในเอเชีย ประกอบด้วย
ประเทศผู้ขายน้ำมันในกลุ่มตะวันออกกลางและกลุ่มประเทศผู้ซื้อน้ำมันรายใหญ่
 
รวมทั้งชาติในอาเซียนจะร่วมกันแสดงทัศนะต่อสถานการณ์พลังงาน
ประเด็นสำคัญ
3 ด้าน คือ ตลาดน้ำมัน (Oil
Market)
ตลาดก๊าซธรรมชาติ (Gas Market) และการเปลี่ยนผ่านพลังงานไปสู่ทางเลือกการใช้พลังงานทดแทน
โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่เปลี่ยนผ่าน (
Disruptive Technology)




       สำนักข่าวไทย ได้สัมภาษณ์ คุณทวารัฐ  สูตะบุตร
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.)
       ถึงการจัดงานในครั้งนี้

 

โลกเห็นความสำคัญชาติเอเชีย จึงเป็นที่มาของ AMER

               การประชุม AMER หรือ  ASIAN Ministerial Energy Roundtable เป็นกรอบการประชุมแบบหลวมๆ
ที่จะเชิญ รัฐมนตรีพลังงาน ในทุกประเทศของทวีปเอเชียมาพบกัน ผู้จัดหลักคือองค์กรระหว่างประเทศ
 International Energy Forum หรือ IEF
ซึ่งเป็นองค์กรพี่องค์กรน้องกับ OPEC

    วัตถุประสงค์หลักขององค์กรนี้
คือ ต้องการสร้างเวทีในการพูดคุยระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายพลังงาน
โดยเฉพาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ เพราะฉะนั้น
IEF เปรียบเหมือนแกนกลางในการที่จะจัดเวทีประชุมลักษณะนี้
ซึ่งจัด
2 ระดับ คือ  ระดับโลก คือเชิญทุกประเทศ ปีละครั้ง โดย IEF
ก็จะเชิญประเทศยักษ์ใหญ่ต่างๆ แต่ IEF มีความสนใจพิเศษในทวีปเอเชีย
เพราะทวีปเอเชียมีลักษณะพิเศษ คือ มีทั้งผู้ผลิตรายใหญ่ คือ กลุ่มตะวันออกกลาง
และผู้ใช้รายใหญ่ คือ กลุ่ม จีน ยุโรป อาเซียน เพราะฉะนั้น
IEF ถึงริเริ่มกรอบพูดคุยพิเศษขึ้นมาประมาณ 10 ปีที่แล้ว
เป็นกรอบเฉพาะทวีปเอเชีย

        โดยการเชิญ
รมว.พลังงานของทุกประเทศในเอเชีย ประมาณ
31 – 32 ประเทศ
มาพบกันหรือพูดคุยกันเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์แบบเป็นกันเอง ไม่เป็นทางการนัก ไม่มีสนธิสัญญาใดๆที่ต้องลงนาม
แต่เป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ แล้วก็เป็นการมองภาพอนาคต
ทั้งระยะใกล้และระยะไกลว่า ทิศทางพลังงานในมุมมองของแต่ละคนเห็นเป็นอย่างไร
เพราะมุมมองผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ ผู้ผลิตก๊าซรายใหญ่อาจจะมีอีกมุมมองนึง
ในขณะที่ผู้ใช้รายใหญ่อาจจะมีอีกมุมมองนึง ถ้ามุมมองต่างกัน
ปฏิบัติต่างกันในบางกรณี อาจจะทำให้ตลาดปั่นป่วนได้
เพราะฉะนั้นการมีโอกาสได้พูดคุยกันก็จะเป็นโอกาสที่จะทำให้เกิดความเข้าใจตรงกัน
และทำให้ตลาดพลังงานในทวีปเอเชียไม่มีความผันผวนมากนัก

 

ไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุม AMER เป็นครั้งแรก ในการประชุม
ครั้งที่ 7

 

        ครั้งนี้ เป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่จัดประชุม
AMER  โดย ธรรมเนียมปฏิบัติก็จะจัดทุก 2 ปี โดยสลับกันเป็นเจ้าภาพระหว่างของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่
เช่น กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง แล้วกลุ่มผู้ใช้รายใหญ่ก็คือ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย
อาเซียน สลับกันไปมา เมื่อครั้งที่แล้ว ครั้งที่ 6 จัดที่กรุงโดฮา นครรัฐกาตาร์ แล้วก็ประเทศไทย รับเป็นเจ้าภาพจัดครั้งนี้ จึงขอเชิญชวนให้คนไทยมีส่วน่รวมในการต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง
ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทย
อีกมุมหนึ่งก็จะทำให้ประเทศเหล่านี้เห็นศักยภาพของประเทศไทยด้วย ส่วนที่ว่าประเทศไทยจะได้อะไร
ก็ชัดเจนครับ ได้ข้อมูลข่าวสาร
แล้วเราก็จะเอาข้อมูลข่าวสารนี้มาแปลงเป็นนโยบายรองรับอนาคตได้

“ภาพอนาคตพลังงานของโลก
ผมเชื่อว่าจะเกี่ยวข้องกับทวีปเอเชียค่อนข้างมาก
เพราะประเทศเอเชียค่อนข้างใช้พลังงานเยอะ เราก็จะมีนวัตกรรมใหม่ๆในการที่จะคิดค้นพลังงานใหม่ๆในอนาคตเช่นเดียวกัน
เพราะฉะนั้นอนาคตจะอยู่ที่ทวีปนี้ครับ”

 

ศตวรรษนี้ เป็นยุคทองของทวีปเอเชีย

            ศตวรรษนี้
เป็นยุคทองของทวีปเอเชีย ส่วนหนึ่งเพราะว่า ทวีปเอเชียตลอดหลาย
10 ปีที่ผ่านมา
มีหลายๆประเทศที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ไม่นับ ญี่ปุ่น เมื่อ
30 ปีที่แล้ว ประเทศที่ตามมา เช่น เกาหลี ไต้หวัน ฮ่องกง รวมถึง 5 เสือ ในอาเซียนก็พัฒนามาตลอด 20 ปี จน 10 ปีให้หลังนี้เห็นความเปลี่ยนแปลงอันโดดเด่นของประเทศจีน และอินเดีย
ทำให้ภาพของอนาคตของโลกหลายส่วนจะถูกกำหนดด้วยประเทศในเอเชีย
ในอดีตการกำหนดชะตาโลก ส่วนใหญ่จะอยู่กับประเทศตะวันตก ไม่ว่าจะเป็น อเมริกา
หรือยุโรป แต่ในอนาคต ผมเชื่อเหลือเกินว่า ประเทศต่างๆในทวีปเอเชีย
จะมีอิทธิพลเพิ่มมากขึ้น ในอดีตภาพของการค้าพลังงาน จะเป็นภาพของการไหลเข้าออกจากตะวันออกกลาง
ไปสู่ประเทศตะวันตก เช่น ยุโรป และสหรัฐอเมริกา
แต่ปัจจุบันเส้นทางการซื้อขายพลังงานได้เปลี่ยนแปลงไป เส้นทางการค้าพลังงานหลัก
เช่น น้ำมันและก๊าซจะไหลมาทางทิศตะวันออกมากกว่าตะวันตก คือ
ไหลจากตะวันออกกลับมาสู่ประเทศยักษ์ใหญ่ในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะจีน อินเดียญี่ปุ่น
เกาหลีและอาเซียน ดังนั้นการโอนถ่ายครั้งนี้จะมีอิทธิพลต่อชะตาโลกในอนาคต

 

Global Energy Markets in Transition : From Vision to Action

          Theme การประชุมAMER
7 จะพูดคุยกัน “Global Energy Transition” หรือ
การเปลี่ยนผ่านพลังงาน
“From vision to action” จากวิสัยทัศน์สู่การปฏิบัติจริง
เพราะปัจจุบันในช่วงเวลา
3 – 5 ปีที่ผ่านมา
เราเห็นภาพชัดเจนแล้วครับว่า
การใช้พลังงานของโลกจะเริ่มมีทิศทางที่จะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมค่อนข้างมาก
เปลี่ยนแปลงจากการพึ่งพาน้ำมันเป็นส่วนใหญ่ เริ่มหาเชื้อเพลิงทดแทนเพิ่มมากขึ้น
เชื้อเพลิงทดแทนอันดับ
1 เลย คือ ก๊าซธรรมชาติ
ถัดจากก๊าซธรรมชาติก็จะมีพลังงานทดแทนในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสายลม แสงแดด
พลังงานแห่งอนาคต ทั้งไฟฟ้าและไฮโดรเจน
เพราะฉะนั้นการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้จะมีอิทธิพลต่อการกำหนดชะตาโลกในอนาคต
ส่วนใหญ่การเปลี่ยนผ่านก็จะมีภาพของการวิจัยที่ยังไม่สามารถจับต้องได้
การประชุมครั้งนี้จะเป็นการแชร์ประสบการณ์หรือนำประสบการณ์ของแต่ละประเทศ
มาพูดคุยกันว่า แนวทางการปฏิบัติได้จริงของแต่ละประเทศ
มีการดำเนินการที่แตกต่างกันอย่างไร


พระวิสัยทัศน์ ในหลวง ร.9 นำพาไทยสู่พลังงานทดแทน

                                        

            ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งในไม่กี่ประเทศในทวีปเอเชียซึ่งมีการปฏิบัติจริงและมีการริเริ่มการเปลี่ยนผ่านยุคของการใช้พลังงานมานานพอสมควรแล้ว
เราเริ่มจากขั้นตอนแรกเลยก็คือ การเปลี่ยนผ่านจากยุคน้ำมันเพียงอย่างเดียว
มาเป็นยุคที่เริ่มผสมเชื้อเพลิงชีวภาพ หรือ น้ำมัน ที่มาจากไบโอ ตอนนี้น้ำมันในประเทศกว่าร้อยละ
90 ทุกหยด มีน้ำมันไบโอผสม เพราะพระวิสัยทัศน์ของในหลวงรัชกาลที่
9 “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” ที่ทรงส่งเสริมผลผลิตด้านเกษตรกรรมของประเทศไทย
สามารถแปลงและสร้างมูลค่าเพิ่มเป็นพลังงานได้ เพราะฉะนั้นจะเห็นว่าจากพระวิสัยทัศน์นั้น
นำมาสู่ภาคปฏิบัติ ประเทศไทยทำได้แล้ว และเราอยากแชร์ประสบการณ์อันนี้ให้กับประเทศในทวีปเอเชียด้วยเช่นกัน
ประเทศอื่นๆก็มี
Action ที่แปลงมาจากวิสัยทัศน์ หรือ Vision อื่นด้วยเช่นกัน เช่น ประเทศจีน เค้าเริ่มแปลงวิสัยทัศน์ว่า
ในอนาคตจะพึ่งพาน้ำมันและก๊าซ ถ่านหินมากไม่ได้นัก
เค้าเริ่มแปลงสภาพยานยนต์ของเค้าในอนาคต เป็นยานยนต์ไฟฟ้า
แต่ละประเทศอาจจะมีแรงบันดาลใจแตกต่างกัน
Vision แตกต่างกัน

 “ประเทศไทยเราเป็นหนึ่งในประเทศอาเซียน
ผมมั่นใจว่าเราเป็น
TOP 5 ของประเทศเอเชีย
ในการที่จะริเริ่มและผลักดัน ขับเคลื่อนพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด
ส่วนหนึ่งแรงบันดาลใจมาจากพระวิสัยทัศน์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่
9

 

ตลาดน้ำมัน (Oil Market) – —

  
ในช่วงที่ผ่านมามีการรวมตัวกันอย่างแนบแน่นเพิ่มขึ้นของชาติสมาชิกโอเปก
รวมทั้งสถานการณ์ที่ไม่สงบในหลายพื้นที่ ที่คาดว่าจะมีผลต่อราคาน้ำมัน
ในขขณะเดียวกันข้อกำหนดเรื่องมาตรฐานน้ำมันเรือเดินสมุทรที่ลดปริมาณค่ากำมะถันให้น้อยลงก็มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการใช้พลังงาน
ซึ่งเรือเดินสมุทรอาจเปลี่ยนจากน้ำมันเตา หรือดีเซลกำมะถันสูง ไปสู่กำมะถันต่ำ
หรืออาจจะเปลี่ยนไปใช้ก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ
LNG มากขึ้น การหารือเรื่องตลาดน้ำมันจะทำให้ทราบแนวคิดของผลิตและผู้ใช้

-ตลาดก๊าซธรรมชาติ (Gas Market)

        ก๊าซ LNG หรือก๊าซธรรมชาติเหลว
เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนผ่านของพลังงานในยุคปัจจุบัน
เพราะว่าในอดีตก๊าซธรรมชาติ มักจะถูกใช้ในประเทศที่ผลิตได้
การค้าระหว่างประเทศน้อยมาก จนมีเทคนิคการแปลงก๊าซนั้นเป็นของเหลว
แล้วนำของเหลวนั้นเข้าตู้เย็น ไปยังประเทศผู้นำเข้าได้ ปัจจุบันสภาพการเปลี่ยนผ่าน
คือ มีแหล่งที่จะผลิตก๊าซ
LNG มากขึ้นและตลาดของผู้ที่ต้องการ
LNG ก็ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด มีหลายประเทศที่ต้องการ LNG
เข้าไปเสริมการใช้ก๊าซธรรมชาติในประเทศเค้า 1 ในนั้นก็คือประเทศไทย
เพราะฉะนั้นการเปลี่ยนผ่านคราวนี้
LNG เริ่มจะมีการค้าขายมากขึ้น
สภาวะการค้าขายคล้ายน้ำมันมากขึ้น ซึ่งสภาวะนี้จะเกิดขึ้นในทวีปเอเชีย
เพราะว่าผู้ผลิตรายใหญ่ คือ การ์ตา ผู้ใช้รายใหญ่ คือ จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน
และมีไทย สิงคโปร์เพิ่มขึ้นมา กลายเป็น
Destination หลัก
ของแหล่งก๊าซ
LNG เหล่านี้ เพราะฉะนั้น ทิศทางของ LNG
จะมีอิทธิพลต่อเนื่องไปอย่างน้อย 10 ปีข้างหน้า
จะมีอิทธิพลมากในทวีปเอเชีย

-การเปลี่ยนผ่านพลังงานไปสู่ทางเลือกการใช้พลังงานทดแทน
โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่เปลี่ยนผ่าน (
Disruptive Technology) 

   การเปลี่ยนผ่านพลังงานที่เรียกว่า
เทคโนโลยีแบบก้าวกระโดด หรือ
disruptive technology
หรือเทคโนโลยีที่เข้ามาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ตอนนี้หลายประเทศฟันธงว่า
disruptive
technology ในเรื่องของพลังงาน จะมีองค์ประกอบ 3 เรื่องด้วยกัน คือ 1. พลังงานแสงอาทิตย์
โดยเฉพาะถ้าติดตั้งบนหลังคาบ้าน
2.การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าแทนยานยนต์น้ำมัน
3.ระบบเก็บสะสมพลังงาน 
เพราะเราคาดว่าถ้าเก็บระบบเก็บสะสมพลังงาน
energy storage เก็บพลังงานแสงแดดช่วงกลางวันก็มีเยอะและสามารถมาใช้ตอนกลางคืนได้
ใช้ชาร์จรถไฟฟ้าได้ สิ่งเหล่านี้นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่
สำหรับภาคพลังงานทั้งโลก สำหรับประเทศไทย เริ่มเห็นภาพพลังงานแสงอาทิตย์เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น

รัฐบาลปัจจุบันของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
มีนโยบายสนับสนุนทั้งยานยนต์ไฟฟ้า และการวิจัย
energy storage อย่างเข้มข้น
เพราะฉะนั้น บริบทประเทศไทยทันสมัยไม่แพ้ในหลายๆชาติ
ในการที่จะส่งเสริมนวัตกรรมใหม่ๆ ไม่วาจะเป็นเรื่องยานยนต์ไฟฟ้า
solar
rooftop และ energy storage

“เรื่องที่เราเสนอเป็น TOPIC  หรือหัวข้อในการพูดคุยกัน เพราะว่า
ในมุมมองของประเทศผู้นำเข้า เรามองว่า
3 เรื่องนี้
ถ้าต้นทุนต่ำลงมาอยู่ในระดับที่แข่งขันได้กับการใช้น้ำมันปกติ มันจะเปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือ
นัยยะหนึ่งก็เป็นการส่งสัญญาณบ่งบอกประเทศผู้ผลิตน้ำมันว่า
ถ้าคุณขายน้ำมันหรือก๊าซแพงเกินไป สิ่งเหล่านี้จะมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ประเทศท่านอาจจะล่มจมได้”

เตรียมพร้อมโครงสร้างพื้นฐานรับเทคโนโลยีใหม่

                อีกนัยยะหนึ่งก็ส่งสัญญาณบอกประเทศชั้นนำที่กำลังคิดค้นเทคโนโลยีเหล่านี้ว่า
ถ้าหากเทคโนโลยีเหล่านี้ไม่แข่งกัน ลดต้นทุนก็จะไม่มีวันสู้น้ำมันได้
ประเทศไทยเป็นประเทศที่อยู่ตรงกลาง
เรามีเทคโนโลยีบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า และ
solar rooftop และ energy
storage แต่เราก็อยากจะเป็นประเทศที่แนวหน้าที่เกาะกระแสไปถูกว่าเทคโนโลยีนี้มาแน่
แทนน้ำมันได้แน่ เราก็จะอยู่ค่ายนั้น แต่ถ้าบอกเทคโนโลยีนี้มา
ยังไงน้ำมันก็จะไม่แพงต่อไป
เราก็จะได้เตรียมการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้รองรับได้ทัน
โอกาสนี้จะเป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้เห็นว่า แต่ละประเทศมีมุมมองอย่างไร

ไทยพร้อมต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม AMER 7

                   ทุกประเทศในทวีปเอเชีย
อยากมาประเทศไทย อยากมากรุงเทพฯ อยากมาสัมผัสอาหารไทย มานั่งรถตุ๊กๆในประเทศไทย
เพราะฉะนั้น นอกจาก ประเทศไทยเป็นประเทศศูนย์กลางในการพบปะหารือในเชิงวิชาการแล้ว
ประเทศไทยยังเป็นประเทศที่อยู่บนทางที่จะเลือกตัดสินใจเหมือนกัน
ถึงแม้ปัจจุบันนโยบายเราจะเป็นนโยบายแบบผสมผสาน คือ
ยังให้พลังงานฟอสซิลมีบทบาทสำคัญแต่อีกนัยยะหนึ่ง
ก็ยังมีนโยบายเข้ามาส่งเสริมเพื่อให้เกิดพลังงานรูปแบบใหม่ โดยเฉพาะพลังงานทดแทน
ไม่ว่าจะเป็น
3 เทคโนโลยีที่พูดถึง คือ ยานยนต์ไฟฟ้า(EV) , Solar
Rooftop และ Energy Storage

          “ เราเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีนโยบายขับเคลื่อนประเทศที่โดดเด่น
แต่ว่าเราตอบไม่ได้ว่า
3 อย่างนี้จะแทนน้ำมันได้หรือเปล่า ถ้าแทนได้ ราคาเท่าไหร่
การแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างประเทศผู้ผลิตและผู้ใช้พลังงาน ในเอเชีย สิ่งเหล่านี้ คือสิ่งที่ประเทศไทยจะได้รับจากการเป็นเจ้าภาพการจัดประชุม
AMER 7

 

 

 

 

 

 

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ

กทม. 23 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนัก เตือน 5 จังหวัดเสี่ยงรับมือ เฝ้าระวัง “พายุดีเปรสชัน” มีแนวโน้มทวีกำลังแรงเป็นพายุโซนร้อน กระทบไทย 24-27 ส.ค.นี้ กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดตาก จันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนตกสะสมที่อาจเกิดขึ้นในระยะนี้ไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศลาวตอนบน และเวียดนามตอนบน สำหรับบริเวณทะเลอันดามันตอนบนและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบนมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามและประเทศลาวตอนบน ในช่วงวันที่ 25–26 ส.ค. 68 ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มมากขึ้น กับมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรงบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคเหนือ ในช่วงวันที่ 24–27 ส.ค. 68 -สำนักข่าวไทย

โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊ก ขรก.มหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน

ทำเนียบ 23 ส.ค.- โปรดเกล้าฯ 6 บิ๊กข้าราชการมหาดไทย “ขจรเกียรติ” นั่งอธิบดีกรมที่ดิน ด้าน “เชษฐา” เป็นอธิบดี ปภ. ราชกิจจานุเบกษา ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงมหาดไทย พ้นจากตำแหน่ง และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน 6 ราย ดังนี้ ตั้งแต่วันที่ 21 ส.ค.2568 เป็นต้นไป ประกาศ ณ วันที่ 22 ส.ค.2568 ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี -สำนักข่าวไทย

จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมืองโกงเงินอุดหนุน ก่อนหนีกบดานลาว

22 ส.ค. – ตำรวจภูธรภาค 1 จับอดีตหัวหน้าพรรคการเมือง โกงเงินอุดหนุน 17.6 ล้านบาท หนีกบดานลาว ก่อนจนมุมถูกจับกุมได้ พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (ผบช.ภ.1), พล.ต.ต.นราเดช ทิพย์รักษ์ รอง ผบช.ภ.1, พล.ต.ต.วรชาติ แสนคำ ผบก.สส.ภ.1, พล.ต.ต.ธรรมนูญ เชาวะวนิชย์ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พระพุทธบาท, ตม.จว.หนองคาย, กกต.จว.หนองคาย ร่วมกันจับกุม นายพีระวิทย์ อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ สืบเนื่องจากเมื่อปี 2562 นายพีระวิทย์ เป็นหัวหน้าพรรคการเมือง รับเงินอุดหนุนพรรคการเมือง เพื่อพัฒนาพรรคการเมือง จำนวนประมาณ 17.6 ล้านบาท โดยไม่มีการทำหลักฐานการเบิกจ่าย ทำให้ กกต. เข้าแจ้งความดำเนินคดีกับนายพีระวิทย์ และเหรัญญิกพรรค ต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองเข้ามอบตัวต่อพนักงานสอบสวน สภ.พระพุทธบาท โดยเลื่อนการเข้าให้ปากคำและแสดงหลักฐานการเบิกจ่ายเงิน และต่อมาผู้ต้องหาทั้งสองได้หลบหนี เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงออกหมายจับในข้อหา […]

“ธีรรัตน์” สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บาย 24 ชม. รับพายุคาจิกิ

กทม. 22 ส.ค.- “ธีรรัตน์” สั่งการผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ สแตนด์บายรับมือผลกระทบ “พายุคาจิกิ” ตลอด 24 ชั่วโมง ย้ำ ประชาสัมพันธ์ข้อมูลให้ประชาชนรับรู้และเตรียมพร้อมอย่างต่อเนื่อง นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า กระทรวงมหาดไทยโดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ได้ติดตามสภาวะอากาศร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับผลกระทบพายุโซนร้อน “คาจิกิ” ซึ่งพบว่าพื้นที่บางส่วนมีความเสี่ยงต้องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม น้ำท่วมขังในเขตชุมชนเมืองที่เกิดน้ำท่วมขังซ้ำซาก ระหว่างวันที่ 24 – 28 สิงหาคม 2568 ในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ 45 จังหวัด และกรุงเทพมหานคร นางสาวธีรรัตน์ ได้สั่งการผู้ว่าราชการจังหวัด 45 จังหวัด และศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต รวมถึงกรุงเทพมหานคร กำชับให้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อย่างใกล้ชิด พร้อมกำชับให้จัดทีมปฏิบัติการพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยเข้าประจำพื้นที่เสี่ยง เพื่อเข้าเผชิญเหตุและให้การช่วยเหลือประชาชนได้อย่างทันท่วงทีตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมประกาศแจ้งเตือนและปิดกั้นพื้นที่ไม่ให้บุคคลใดเข้าพื้นที่หากพบว่ามีความเสี่ยง ในส่วนพื้นที่ชายฝั่ง ให้สั่งห้ามนักท่องเที่ยวเล่นน้ำและห้ามเดินเรือทุกชนิดหากสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรง “ให้ผู้ว่าฯ […]

ข่าวแนะนำ

ทีมทนายวัดพระบาทน้ำพุแจงปม “หลวงพ่ออลงกต” สวมบัตร ปชช. คนตาย

ลพบุรี 24 ส.ค. – วัดพระบาทน้ำพุ ตั้งโต๊ะแถลง ยืนยันเลขบัตรประชาชนของ “หลวงพ่ออลงกต” ไม่ซ้ำกับ “อลงกต พลมุข” ปัดตอบปมเลขบัตรประชาชนผู้เสียชีวิต ผูกพร้อมเพย์บัญชีมูลนิธิฯ ขอไปตรวจสอบก่อน ส่วนทางคดี จับตาสัปดาห์หน้า จะมีผู้ถูกดำเนินคดีมากกว่า 1 คน วันนี้ ที่วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี นายศุภชัย สิงคาลวานิช หัวหน้าทีมทนายความของวัดพระบาทน้ำพุ พร้อมตัวแทนมูลนิธิต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับวัดพระบาทน้ำพุ ร่วมกันแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่างๆ เป็นครั้งแรก โดยบอกว่าวันนี้ หลวงพ่ออลงกตไม่ได้หลีกเลี่ยงที่จะมาให้สัมภาษณ์ แต่ครั้งนี้มีข้อมูลมาก มีปัญหาเรื่องข้อกฎหมายและปัญหาที่ซับซ้อนหลายอย่าง หากตอบไปอาจกระทบต่อคดี และยืนยันว่า หลวงพ่อมีเจตนาบริสุทธิ์ในการช่วยเหลือผู้ป่วย เด็กกำพร้า ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส กลุ่มเปราะบางในสังคม ซึ่งขณะนี้สังคมเข้าใจผิดในหลายเรื่อง เพราะเกิดการชี้นำของหลายเพจ กลุ่มผู้มีอิทธิพลในบางสื่อ นำเรื่องมาปะติดปะต่อจนสร้างความเสียหาย ส่วนประเด็นที่กำลังเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องที่หลวงพ่ออลงกต สวมชื่อและเลขบัตรประชาชน “อลงกล พลมุข” ข้าราชการที่เสียชีวิตไปแล้วนั้น ทีมทนาย เปิดเผยว่า หลวงพ่ออลงกต มีบัตรประชาชนของท่านเอง และนามสกุลของท่าน […]

สกัดจับขบวนการค้ามนุษย์ ลอบขนคนไทยไปเขมร

สระแก้ว 24 ส.ค. – ทหารพรานลาดตระเวนชายแดนไทย-กัมพูชา บ้านกุดหิน ต.คลองน้ำใส อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว สกัดจับคนไทย 10 คน ขณะลักลอบเข้ากัมพูชา เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นขณะเจ้าหน้าที่กำลังลาดตระเวนตามแนวชาย เพื่อสกัดกั้นสิ่งผิดกฎหมายที่จะแอบลักลอบขนข้ามแดน ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว (ไม่ทราบทะเบียน) และ รถยนต์เก๋ง สีดำ ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ซึ่งทั้งขับผ่านเข้ามาในพื้นที่ล่อแหลม โดยรถยนต์ โตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์สีขาว ได้จอดให้คนเดินลงมาจากรถ และเดินเข้าป่าไป จำนวน 6 คน ประกอบด้วย คนนำพา 1 คน และผู้ลักลอบ 5 คน โดยทั้งหมดเป็นคนไทย ซึ่งเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมตัวไว้ได้ ส่วนรถยนต์เก๋งสีดำที่ขับตามมา เมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ จึงขับหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถสกัดจับไว้ได้ (ห่างจากจุดแรกประมาณ 200 เมตร) จากการตรวจสอบภายในรถพบคนไทย 4 คน […]

พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใกล้ศูนย์เด็กเล็ก

อุบลราชธานี 24 ส.ค. – พบหลุมจรวด BM-21 ที่ยังไม่ระเบิด ใน อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี อยู่ริมสระน้ำใกล้ศูนย์เด็กเล็ก เพียง 100 เมตร จากกรณีที่กัมพูชา ยิงจรวด BM–21 เข้าใส่ชุมชน บ้านเรือนประชาชน ในฝั่งไทย จนนำไปสู่การสูญเสียชีวิต และทรัพย์สิน ของประชาชนคนไทย เมื่อช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งปัจจุบันผลกระทบจากจรวด BM–21 ต่อประชาชน คนไทย ยังคงมีอยู่ ภาพจากกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ได้จากบ้านหลังหนึ่ง ในอำเภอน้ำยืน จ.อุบลราชธานี เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นกัมพูชาได้ยิงจรวด BM-21 เข้ามาตกในเขตชุมชนฝั่งไทย โดยเหตุการณ์ครั้งนั้น มีจรวด BM-21 ตกมาทั้งหมด 11 ลูก 2 ใน 11 ลูก ตกใส่บ้านประชาชน จนบ้านพังเสียหายทั้งหมด 2 หลัง และมี 1 […]

“มาริษ” จ่อบินเจนีวา แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี

สวีเดน 24 ส.ค.-“มาริษ” เตรียมบินเจนีวาต่อ แจงประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคี-องค์การสิทธิมนุษยชน-กาชาด ย้ำไทยรักสันติ ทำตามกฎหมายระหว่างประเทศ ฟ้องเขมรใช้ทุ่นระเบิด-โจมตีพลเรือนไทย นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่าหลังการเยือนสวีเดนอย่างเป็นทางการแล้วจะเดินทางไปเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในวันที่ 26 ส.ค.นี้ โดยมีเป้าหมายหลัก 3 ประการคือ ไปชี้แจงให้กับประเทศกลุ่มสัญญาอนุภาคีให้เข้าใจสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ซึ่งกัมพูชาใช้ยุทธศาสตรฺของการใช้ วัตถุระเบิดสังหารบุคคน ที่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ และอนุสัญญาออตตาวาและในโอกาสนี้จะพบกับสำนักงานข้าหลวงใหญ่สืทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการใช้ทุ่นระเบิดสังหาร การละเมิดสิทธิมนุษยชนด้วยการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ของกัมพูชา รวมทั้งการใช้โซเชียลมีเดีย ซึ่งเมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (icrc )ก็ได้ออกมาพูดชัดเจนว่าไม่เห็นด้วยอย่างมาก และไม่สนับสนุนให้มีการใช้สงครามข่าวสารในการต่อสู้ โดยใช้พลเรือนเป็นตัวกระทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างกัน ซึ่งในโอกาสนี้ตนจะได้พบปะกับประธาน crc พอดี ซึ่งเคยพบกันที่กรุงเทพมหานครแล้ว และทางประธานทราบว่าตนจะมาเจนีวาก็สามารถมาพูดคุยกันต่อได้ ซึ่งจะได้อธิบายทั้ง 2 ประการเหล่านี้เพราะ icrc เป็นองค์กรหลักที่ดูกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งทั้งสามองค์กรที่เราวางกลยุทธ์ จะเข้ามาพูดคุย ชี้แจงก็เพื่อยืนยัน ใน ท่าทีบทบาท ของประเทศไทยที่ชัดเจนว่าเราเป็นประเทศ ที่รักสันติ เราต้องการ แก้ไขปัญหาระหว่างกันอย่างสันติวิธี แต่ต้องมีความจริงใจ […]