AMER 7 ประโยชน์ไทย “สร้างชื่อ-แชร์ข้อมูลพลังงานเพื่ออนาคต”

 


 


กรุงเทพฯ 29  ต.ค.-  วันที่ 1 -3 พ.ย. 2560 ประเทศไทยโดยกระทรวงพลังงาน
เป็นเจ้าภาพในการประชุมโต๊ะกลมระดับรัฐมนตรีพลังงานเอเชีย
 
(ASIAN Ministerial Energy Roundtable : AMER)
ครั้งที่ 7
โรงแรมแชงกรีล่า กรุงเทพฯ ไทยได้ประโยชน์ทั้งสร้างชื่อเสียงและได้ข้อมูลพลังงานทั้งจากประเทศผู้ผลิตและผู้บริโภคพลังงานในเอเชีน

 

       การประชุม AMER 7
เป็นหารือระดับรัฐมนตรีพลังงานของชาติสมาชิกในเอเชียร่วมกับผู้นำองค์กรระหว่างประเทศ
ภายใต้แนวคิด
Global Energy Markets in Transition : From Vision to Action หรือการเปลี่ยนผ่านตลาดพลังงานโลก
จากวิสัยทัศน์สู่การปฏิบัติ โดยชาติในเอเชีย ประกอบด้วย
ประเทศผู้ขายน้ำมันในกลุ่มตะวันออกกลางและกลุ่มประเทศผู้ซื้อน้ำมันรายใหญ่
 
รวมทั้งชาติในอาเซียนจะร่วมกันแสดงทัศนะต่อสถานการณ์พลังงาน
ประเด็นสำคัญ
3 ด้าน คือ ตลาดน้ำมัน (Oil
Market)
ตลาดก๊าซธรรมชาติ (Gas Market) และการเปลี่ยนผ่านพลังงานไปสู่ทางเลือกการใช้พลังงานทดแทน
โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่เปลี่ยนผ่าน (
Disruptive Technology)




       สำนักข่าวไทย ได้สัมภาษณ์ คุณทวารัฐ  สูตะบุตร
ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.)
       ถึงการจัดงานในครั้งนี้

 

โลกเห็นความสำคัญชาติเอเชีย จึงเป็นที่มาของ AMER

               การประชุม AMER หรือ  ASIAN Ministerial Energy Roundtable เป็นกรอบการประชุมแบบหลวมๆ
ที่จะเชิญ รัฐมนตรีพลังงาน ในทุกประเทศของทวีปเอเชียมาพบกัน ผู้จัดหลักคือองค์กรระหว่างประเทศ
 International Energy Forum หรือ IEF
ซึ่งเป็นองค์กรพี่องค์กรน้องกับ OPEC

    วัตถุประสงค์หลักขององค์กรนี้
คือ ต้องการสร้างเวทีในการพูดคุยระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายพลังงาน
โดยเฉพาะน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ เพราะฉะนั้น
IEF เปรียบเหมือนแกนกลางในการที่จะจัดเวทีประชุมลักษณะนี้
ซึ่งจัด
2 ระดับ คือ  ระดับโลก คือเชิญทุกประเทศ ปีละครั้ง โดย IEF
ก็จะเชิญประเทศยักษ์ใหญ่ต่างๆ แต่ IEF มีความสนใจพิเศษในทวีปเอเชีย
เพราะทวีปเอเชียมีลักษณะพิเศษ คือ มีทั้งผู้ผลิตรายใหญ่ คือ กลุ่มตะวันออกกลาง
และผู้ใช้รายใหญ่ คือ กลุ่ม จีน ยุโรป อาเซียน เพราะฉะนั้น
IEF ถึงริเริ่มกรอบพูดคุยพิเศษขึ้นมาประมาณ 10 ปีที่แล้ว
เป็นกรอบเฉพาะทวีปเอเชีย

        โดยการเชิญ
รมว.พลังงานของทุกประเทศในเอเชีย ประมาณ
31 – 32 ประเทศ
มาพบกันหรือพูดคุยกันเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์แบบเป็นกันเอง ไม่เป็นทางการนัก ไม่มีสนธิสัญญาใดๆที่ต้องลงนาม
แต่เป็นการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ แล้วก็เป็นการมองภาพอนาคต
ทั้งระยะใกล้และระยะไกลว่า ทิศทางพลังงานในมุมมองของแต่ละคนเห็นเป็นอย่างไร
เพราะมุมมองผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ ผู้ผลิตก๊าซรายใหญ่อาจจะมีอีกมุมมองนึง
ในขณะที่ผู้ใช้รายใหญ่อาจจะมีอีกมุมมองนึง ถ้ามุมมองต่างกัน
ปฏิบัติต่างกันในบางกรณี อาจจะทำให้ตลาดปั่นป่วนได้
เพราะฉะนั้นการมีโอกาสได้พูดคุยกันก็จะเป็นโอกาสที่จะทำให้เกิดความเข้าใจตรงกัน
และทำให้ตลาดพลังงานในทวีปเอเชียไม่มีความผันผวนมากนัก

 

ไทยเป็นเจ้าภาพจัดประชุม AMER เป็นครั้งแรก ในการประชุม
ครั้งที่ 7

 

        ครั้งนี้ เป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่จัดประชุม
AMER  โดย ธรรมเนียมปฏิบัติก็จะจัดทุก 2 ปี โดยสลับกันเป็นเจ้าภาพระหว่างของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่
เช่น กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง แล้วกลุ่มผู้ใช้รายใหญ่ก็คือ จีน ญี่ปุ่น อินเดีย
อาเซียน สลับกันไปมา เมื่อครั้งที่แล้ว ครั้งที่ 6 จัดที่กรุงโดฮา นครรัฐกาตาร์ แล้วก็ประเทศไทย รับเป็นเจ้าภาพจัดครั้งนี้ จึงขอเชิญชวนให้คนไทยมีส่วน่รวมในการต้อนรับแขกบ้านแขกเมือง
ก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทย
อีกมุมหนึ่งก็จะทำให้ประเทศเหล่านี้เห็นศักยภาพของประเทศไทยด้วย ส่วนที่ว่าประเทศไทยจะได้อะไร
ก็ชัดเจนครับ ได้ข้อมูลข่าวสาร
แล้วเราก็จะเอาข้อมูลข่าวสารนี้มาแปลงเป็นนโยบายรองรับอนาคตได้

“ภาพอนาคตพลังงานของโลก
ผมเชื่อว่าจะเกี่ยวข้องกับทวีปเอเชียค่อนข้างมาก
เพราะประเทศเอเชียค่อนข้างใช้พลังงานเยอะ เราก็จะมีนวัตกรรมใหม่ๆในการที่จะคิดค้นพลังงานใหม่ๆในอนาคตเช่นเดียวกัน
เพราะฉะนั้นอนาคตจะอยู่ที่ทวีปนี้ครับ”

 

ศตวรรษนี้ เป็นยุคทองของทวีปเอเชีย

            ศตวรรษนี้
เป็นยุคทองของทวีปเอเชีย ส่วนหนึ่งเพราะว่า ทวีปเอเชียตลอดหลาย
10 ปีที่ผ่านมา
มีหลายๆประเทศที่เติบโตอย่างก้าวกระโดด ไม่นับ ญี่ปุ่น เมื่อ
30 ปีที่แล้ว ประเทศที่ตามมา เช่น เกาหลี ไต้หวัน ฮ่องกง รวมถึง 5 เสือ ในอาเซียนก็พัฒนามาตลอด 20 ปี จน 10 ปีให้หลังนี้เห็นความเปลี่ยนแปลงอันโดดเด่นของประเทศจีน และอินเดีย
ทำให้ภาพของอนาคตของโลกหลายส่วนจะถูกกำหนดด้วยประเทศในเอเชีย
ในอดีตการกำหนดชะตาโลก ส่วนใหญ่จะอยู่กับประเทศตะวันตก ไม่ว่าจะเป็น อเมริกา
หรือยุโรป แต่ในอนาคต ผมเชื่อเหลือเกินว่า ประเทศต่างๆในทวีปเอเชีย
จะมีอิทธิพลเพิ่มมากขึ้น ในอดีตภาพของการค้าพลังงาน จะเป็นภาพของการไหลเข้าออกจากตะวันออกกลาง
ไปสู่ประเทศตะวันตก เช่น ยุโรป และสหรัฐอเมริกา
แต่ปัจจุบันเส้นทางการซื้อขายพลังงานได้เปลี่ยนแปลงไป เส้นทางการค้าพลังงานหลัก
เช่น น้ำมันและก๊าซจะไหลมาทางทิศตะวันออกมากกว่าตะวันตก คือ
ไหลจากตะวันออกกลับมาสู่ประเทศยักษ์ใหญ่ในทวีปเอเชีย โดยเฉพาะจีน อินเดียญี่ปุ่น
เกาหลีและอาเซียน ดังนั้นการโอนถ่ายครั้งนี้จะมีอิทธิพลต่อชะตาโลกในอนาคต

 

Global Energy Markets in Transition : From Vision to Action

          Theme การประชุมAMER
7 จะพูดคุยกัน “Global Energy Transition” หรือ
การเปลี่ยนผ่านพลังงาน
“From vision to action” จากวิสัยทัศน์สู่การปฏิบัติจริง
เพราะปัจจุบันในช่วงเวลา
3 – 5 ปีที่ผ่านมา
เราเห็นภาพชัดเจนแล้วครับว่า
การใช้พลังงานของโลกจะเริ่มมีทิศทางที่จะเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมค่อนข้างมาก
เปลี่ยนแปลงจากการพึ่งพาน้ำมันเป็นส่วนใหญ่ เริ่มหาเชื้อเพลิงทดแทนเพิ่มมากขึ้น
เชื้อเพลิงทดแทนอันดับ
1 เลย คือ ก๊าซธรรมชาติ
ถัดจากก๊าซธรรมชาติก็จะมีพลังงานทดแทนในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสายลม แสงแดด
พลังงานแห่งอนาคต ทั้งไฟฟ้าและไฮโดรเจน
เพราะฉะนั้นการเปลี่ยนผ่านครั้งนี้จะมีอิทธิพลต่อการกำหนดชะตาโลกในอนาคต
ส่วนใหญ่การเปลี่ยนผ่านก็จะมีภาพของการวิจัยที่ยังไม่สามารถจับต้องได้
การประชุมครั้งนี้จะเป็นการแชร์ประสบการณ์หรือนำประสบการณ์ของแต่ละประเทศ
มาพูดคุยกันว่า แนวทางการปฏิบัติได้จริงของแต่ละประเทศ
มีการดำเนินการที่แตกต่างกันอย่างไร


พระวิสัยทัศน์ ในหลวง ร.9 นำพาไทยสู่พลังงานทดแทน

                                        

            ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งในไม่กี่ประเทศในทวีปเอเชียซึ่งมีการปฏิบัติจริงและมีการริเริ่มการเปลี่ยนผ่านยุคของการใช้พลังงานมานานพอสมควรแล้ว
เราเริ่มจากขั้นตอนแรกเลยก็คือ การเปลี่ยนผ่านจากยุคน้ำมันเพียงอย่างเดียว
มาเป็นยุคที่เริ่มผสมเชื้อเพลิงชีวภาพ หรือ น้ำมัน ที่มาจากไบโอ ตอนนี้น้ำมันในประเทศกว่าร้อยละ
90 ทุกหยด มีน้ำมันไบโอผสม เพราะพระวิสัยทัศน์ของในหลวงรัชกาลที่
9 “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช” ที่ทรงส่งเสริมผลผลิตด้านเกษตรกรรมของประเทศไทย
สามารถแปลงและสร้างมูลค่าเพิ่มเป็นพลังงานได้ เพราะฉะนั้นจะเห็นว่าจากพระวิสัยทัศน์นั้น
นำมาสู่ภาคปฏิบัติ ประเทศไทยทำได้แล้ว และเราอยากแชร์ประสบการณ์อันนี้ให้กับประเทศในทวีปเอเชียด้วยเช่นกัน
ประเทศอื่นๆก็มี
Action ที่แปลงมาจากวิสัยทัศน์ หรือ Vision อื่นด้วยเช่นกัน เช่น ประเทศจีน เค้าเริ่มแปลงวิสัยทัศน์ว่า
ในอนาคตจะพึ่งพาน้ำมันและก๊าซ ถ่านหินมากไม่ได้นัก
เค้าเริ่มแปลงสภาพยานยนต์ของเค้าในอนาคต เป็นยานยนต์ไฟฟ้า
แต่ละประเทศอาจจะมีแรงบันดาลใจแตกต่างกัน
Vision แตกต่างกัน

 “ประเทศไทยเราเป็นหนึ่งในประเทศอาเซียน
ผมมั่นใจว่าเราเป็น
TOP 5 ของประเทศเอเชีย
ในการที่จะริเริ่มและผลักดัน ขับเคลื่อนพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด
ส่วนหนึ่งแรงบันดาลใจมาจากพระวิสัยทัศน์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่
9

 

ตลาดน้ำมัน (Oil Market) – —

  
ในช่วงที่ผ่านมามีการรวมตัวกันอย่างแนบแน่นเพิ่มขึ้นของชาติสมาชิกโอเปก
รวมทั้งสถานการณ์ที่ไม่สงบในหลายพื้นที่ ที่คาดว่าจะมีผลต่อราคาน้ำมัน
ในขขณะเดียวกันข้อกำหนดเรื่องมาตรฐานน้ำมันเรือเดินสมุทรที่ลดปริมาณค่ากำมะถันให้น้อยลงก็มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการใช้พลังงาน
ซึ่งเรือเดินสมุทรอาจเปลี่ยนจากน้ำมันเตา หรือดีเซลกำมะถันสูง ไปสู่กำมะถันต่ำ
หรืออาจจะเปลี่ยนไปใช้ก๊าซธรรมชาติเหลว หรือ
LNG มากขึ้น การหารือเรื่องตลาดน้ำมันจะทำให้ทราบแนวคิดของผลิตและผู้ใช้

-ตลาดก๊าซธรรมชาติ (Gas Market)

        ก๊าซ LNG หรือก๊าซธรรมชาติเหลว
เป็นส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนผ่านของพลังงานในยุคปัจจุบัน
เพราะว่าในอดีตก๊าซธรรมชาติ มักจะถูกใช้ในประเทศที่ผลิตได้
การค้าระหว่างประเทศน้อยมาก จนมีเทคนิคการแปลงก๊าซนั้นเป็นของเหลว
แล้วนำของเหลวนั้นเข้าตู้เย็น ไปยังประเทศผู้นำเข้าได้ ปัจจุบันสภาพการเปลี่ยนผ่าน
คือ มีแหล่งที่จะผลิตก๊าซ
LNG มากขึ้นและตลาดของผู้ที่ต้องการ
LNG ก็ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด มีหลายประเทศที่ต้องการ LNG
เข้าไปเสริมการใช้ก๊าซธรรมชาติในประเทศเค้า 1 ในนั้นก็คือประเทศไทย
เพราะฉะนั้นการเปลี่ยนผ่านคราวนี้
LNG เริ่มจะมีการค้าขายมากขึ้น
สภาวะการค้าขายคล้ายน้ำมันมากขึ้น ซึ่งสภาวะนี้จะเกิดขึ้นในทวีปเอเชีย
เพราะว่าผู้ผลิตรายใหญ่ คือ การ์ตา ผู้ใช้รายใหญ่ คือ จีน ญี่ปุ่น ไต้หวัน
และมีไทย สิงคโปร์เพิ่มขึ้นมา กลายเป็น
Destination หลัก
ของแหล่งก๊าซ
LNG เหล่านี้ เพราะฉะนั้น ทิศทางของ LNG
จะมีอิทธิพลต่อเนื่องไปอย่างน้อย 10 ปีข้างหน้า
จะมีอิทธิพลมากในทวีปเอเชีย

-การเปลี่ยนผ่านพลังงานไปสู่ทางเลือกการใช้พลังงานทดแทน
โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่เปลี่ยนผ่าน (
Disruptive Technology) 

   การเปลี่ยนผ่านพลังงานที่เรียกว่า
เทคโนโลยีแบบก้าวกระโดด หรือ
disruptive technology
หรือเทคโนโลยีที่เข้ามาทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ตอนนี้หลายประเทศฟันธงว่า
disruptive
technology ในเรื่องของพลังงาน จะมีองค์ประกอบ 3 เรื่องด้วยกัน คือ 1. พลังงานแสงอาทิตย์
โดยเฉพาะถ้าติดตั้งบนหลังคาบ้าน
2.การใช้ยานยนต์ไฟฟ้าแทนยานยนต์น้ำมัน
3.ระบบเก็บสะสมพลังงาน 
เพราะเราคาดว่าถ้าเก็บระบบเก็บสะสมพลังงาน
energy storage เก็บพลังงานแสงแดดช่วงกลางวันก็มีเยอะและสามารถมาใช้ตอนกลางคืนได้
ใช้ชาร์จรถไฟฟ้าได้ สิ่งเหล่านี้นำมาสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่
สำหรับภาคพลังงานทั้งโลก สำหรับประเทศไทย เริ่มเห็นภาพพลังงานแสงอาทิตย์เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้น

รัฐบาลปัจจุบันของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
มีนโยบายสนับสนุนทั้งยานยนต์ไฟฟ้า และการวิจัย
energy storage อย่างเข้มข้น
เพราะฉะนั้น บริบทประเทศไทยทันสมัยไม่แพ้ในหลายๆชาติ
ในการที่จะส่งเสริมนวัตกรรมใหม่ๆ ไม่วาจะเป็นเรื่องยานยนต์ไฟฟ้า
solar
rooftop และ energy storage

“เรื่องที่เราเสนอเป็น TOPIC  หรือหัวข้อในการพูดคุยกัน เพราะว่า
ในมุมมองของประเทศผู้นำเข้า เรามองว่า
3 เรื่องนี้
ถ้าต้นทุนต่ำลงมาอยู่ในระดับที่แข่งขันได้กับการใช้น้ำมันปกติ มันจะเปลี่ยนหน้ามือเป็นหลังมือ
นัยยะหนึ่งก็เป็นการส่งสัญญาณบ่งบอกประเทศผู้ผลิตน้ำมันว่า
ถ้าคุณขายน้ำมันหรือก๊าซแพงเกินไป สิ่งเหล่านี้จะมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
ประเทศท่านอาจจะล่มจมได้”

เตรียมพร้อมโครงสร้างพื้นฐานรับเทคโนโลยีใหม่

                อีกนัยยะหนึ่งก็ส่งสัญญาณบอกประเทศชั้นนำที่กำลังคิดค้นเทคโนโลยีเหล่านี้ว่า
ถ้าหากเทคโนโลยีเหล่านี้ไม่แข่งกัน ลดต้นทุนก็จะไม่มีวันสู้น้ำมันได้
ประเทศไทยเป็นประเทศที่อยู่ตรงกลาง
เรามีเทคโนโลยีบางส่วนที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า และ
solar rooftop และ energy
storage แต่เราก็อยากจะเป็นประเทศที่แนวหน้าที่เกาะกระแสไปถูกว่าเทคโนโลยีนี้มาแน่
แทนน้ำมันได้แน่ เราก็จะอยู่ค่ายนั้น แต่ถ้าบอกเทคโนโลยีนี้มา
ยังไงน้ำมันก็จะไม่แพงต่อไป
เราก็จะได้เตรียมการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจให้รองรับได้ทัน
โอกาสนี้จะเป็นโอกาสที่ดีที่จะทำให้เห็นว่า แต่ละประเทศมีมุมมองอย่างไร

ไทยพร้อมต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุม AMER 7

                   ทุกประเทศในทวีปเอเชีย
อยากมาประเทศไทย อยากมากรุงเทพฯ อยากมาสัมผัสอาหารไทย มานั่งรถตุ๊กๆในประเทศไทย
เพราะฉะนั้น นอกจาก ประเทศไทยเป็นประเทศศูนย์กลางในการพบปะหารือในเชิงวิชาการแล้ว
ประเทศไทยยังเป็นประเทศที่อยู่บนทางที่จะเลือกตัดสินใจเหมือนกัน
ถึงแม้ปัจจุบันนโยบายเราจะเป็นนโยบายแบบผสมผสาน คือ
ยังให้พลังงานฟอสซิลมีบทบาทสำคัญแต่อีกนัยยะหนึ่ง
ก็ยังมีนโยบายเข้ามาส่งเสริมเพื่อให้เกิดพลังงานรูปแบบใหม่ โดยเฉพาะพลังงานทดแทน
ไม่ว่าจะเป็น
3 เทคโนโลยีที่พูดถึง คือ ยานยนต์ไฟฟ้า(EV) , Solar
Rooftop และ Energy Storage

          “ เราเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีนโยบายขับเคลื่อนประเทศที่โดดเด่น
แต่ว่าเราตอบไม่ได้ว่า
3 อย่างนี้จะแทนน้ำมันได้หรือเปล่า ถ้าแทนได้ ราคาเท่าไหร่
การแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างประเทศผู้ผลิตและผู้ใช้พลังงาน ในเอเชีย สิ่งเหล่านี้ คือสิ่งที่ประเทศไทยจะได้รับจากการเป็นเจ้าภาพการจัดประชุม
AMER 7

 

 

 

 

 

 

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ หลังเมียนมาปะทะรุนแรง

ตาก 12 ก.ค. – ผบ.กองกำลังนเรศวร ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ด่วน พร้อมเฝ้าระวังชายแดนอำเภอพบพระอย่างใกล้ชิด หลังเหตุปะทะในเมียนมาทวีความรุนแรง มีรายงานการโจมตีค่ายทหารเมียนมาด้วยโดรน กองกำลังกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ กลุ่มต่อต้านรัฐบาลเมียนมา ใช้โดรนทิ้งระเบิดโจมตีใส่ฐาน “ทีตาแหล่” ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านวาเล่ย์เหนือ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก หลายครั้ง ขณะที่ทหารเมียนมาก็ยิงปืนเล็กยาวตอบโต้ โดยยังไม่ทราบความเสียหายที่เกิดขึ้น และยังไม่มีรายงานผลกระทบต่อฝั่งประเทศไทย พลตรีไมตรี ชูปรีชา ผู้บัญชาการกองกำลังนเรศวร พร้อมคณะนายทหารระดับสูง และฝ่ายปกครองอำเภอพบพระ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บริเวณบ้านวาเล่ย์ และบ้านมอเกอร์ไทย อำเภอพบพระ อย่างใกล้ชิด เพื่อประสานงานกับหน่วยงานความมั่นคงในการเตรียมแผนเผชิญเหตุจากผลกระทบของการสู้รบใกล้แนวชายแดนในด้านมนุษยธรรม โดยขณะนี้มีผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมาจำนวน 457 คน อาศัยอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว 2 แห่ง ในอำเภอพบพระ และได้รับการดูแลตามหลักมนุษยธรรมภายใต้ความร่วมมือของศูนย์สั่งการชายแดนประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดตาก และแนวทางของสภาความมั่นคงแห่งชาติ พลตรี ไมตรี เน้นย้ำให้หน่วยเฉพาะกิจราชมนู ร่วมกับฝ่ายปกครอง เพิ่มความเข้มงวดในการป้องกันการรุกล้ำอธิปไตยของกองกำลังติดอาวุธต่างชาติ และดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งกองกำลังนเรศวรยืนยันว่าประเทศไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง และไม่สนับสนุนฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งในการใช้พื้นที่ประเทศไทยเพื่อประโยชน์ของตนเอง .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]

อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธร ย่องให้ข้อมูลตำรวจกองปราบ

12 ก.ค. – อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร แอบย่องเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจกองปราบ เวลา 12.05 น. วันที่ 12 กรกฎาคม 2568 อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เบื้องต้นส่วมชุด โปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าวันนี้เข้ามาให้ปากคำกรณีที่ ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสวัดโสธรฯ ไม่ตอบแต่อย่างใด ผู้สื่อข่าวสอบถามเพิ่มเติมต่ออีกว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่นั้น ด้านอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน.-414-สำนักข่าวไทย