รวบผู้ต้องหาอ้างมูลนิธิรัฐบุรุษหลอกช่วยประมูลโครงการก่อสร้างจากรัฐได้

19 ส.ค. – ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการ รวบผู้ต้องหาแอบอ้างมูลนิธิรัฐบุรุษ หลอกผู้รับเหมาช่วยประมูลโครงการก่อสร้างจากรัฐได้ สูญเงินเกือบ 8 ล้านบาท พ.ต.อ.เอนก เตาสุภาพ รองผู้บังคับการปราบปราม แถลงเปิดปฏิบัติการ “Village Fund Zero Fraud กองทุนหมู่บ้านไร้โกง” จับกุมผู้ต้องหาฉ้อโกงกองทุนหมู่บ้าน ความเสียหายมูลค่าเกือบ 8 ล้านบาท โดยปฏิบัติการดังกล่าวสามารถจับกุมนายจิราณัฏฐ์ หรือหน่อย อายุ 57 ปี ชาว จ.นครปฐม ในข้อหาฉ้อโกง, ปลอมและใช้เอกสารปลอม, นำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และฟอกเงิน โดยสามารถจับกุมได้ที่คอนโดแห่งหนึ่งใน ต.ศาลายา อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม คดีนี้สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 7 มิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน กก.2 บก.ป. ดำเนินคดีกับ นายจิราณัฏฐ์ เนื่องจากแอบอ้างว่าทำงานอยู่ที่มูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ สามารถให้การช่วยเหลือบริษัทของผู้เสียหาย ประมูลได้รับงานในโครงการภาครัฐและโครงการของสำนักงานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติ หรือ กทบ. ซึ่งมีทั้งโครงการจริงและโครงการอุปโลก จำนวน […]

บุกทลายแก๊งฟอกเงินข้ามชาติ ยึดเงินสดกว่า 46 ล้าน

8 ส.ค. – กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง บุกทลายแก๊งฟอกเงินข้ามชาติ ผ่าน Huione Pay (ฮวยวัน เพย์) ยึดเงินสดกว่า 46 ล้านบาท กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เปิดปฏิบัติการ “SKYFALL” ทลายเครือข่ายฟอกเงินข้ามชาติผ่านแพลตฟอร์ม Huione Pay จับกุมผู้ต้องหาชาวเมียนมา 3 คน คือ นายอู อายุ 57 ปี, นางธิดา อายุ 57 ปี และนายเล่า อายุ 54 ปี พร้อมของกลางเงินสดรวมกว่า 46 ล้านบาท ในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนโดยแสดงตนเป็นบุคคลอื่น, ร่วมกันเป็นอั้งยี่, ทุจริตหรือหลอกลวงร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลปลอมหรืออันเป็นเท็จ, สมคบกันเพื่อกระทำความผิดฐานฟอกเงิน และร่วมกันฟอกเงิน” การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากผู้เสียหายเข้าแจ้งความกับตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ว่าถูกหลอกให้ลงทุนผ่านเฟซบุ๊กที่อ้างเกี่ยวกับการลงทุนเทรดหุ้น ต่อมาถูกเชิญเข้ากลุ่มไลน์ซึ่งมีสมาชิกจำนวนมาก มี “หน้าม้า” ในกลุ่มคอยยืนยันว่าถอนเงินได้จริง หลังจากสังเกตการณ์ในกลุ่มประมาณ 2-3 เดือน ผู้เสียหายจึงตัดสินใจลงทุน […]

ตร.เปิดปฏิบัติการกวาดล้างพระทำผิด กม. รวบได้ 154 จาก 181 เป้าหมาย

5 ส.ค. – ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการกวาดล้างพระทำผิดกฎหมายจับกุมเป้าหมายได้ 154 เป้าหมายจาก 181 เป้าหมาย พบพระบางรูปไม่ยอมลาสิกขา ยืนยันวันนี้ต้องดำเนินการทั้งหมด ด้านสำนักพุทธฯ ยืนยันจะให้ความร่วมมือกับตำรวจ 100% พร้อมทำข้อตกลง พระทำผิด 3 รูปใน 1 จังหวัด ต้องเด้ง ผอ.สำนักพุทธจังหวัด เพื่อรับผิดชอบ พล.ต.อ.ไกรบุญ ทรวดทรง รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สำหรับปฏิบัติการดังกล่าวมี 181 เป้าหมาย โดยมีเป้าหมายเป็นพระ 154 คน พระที่ลาสิกขาไปแล้ว 27 คน จับได้แล้วตอนนี้รวม 154 คน จาก 73 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งผู้ต้องหาส่วนมากรับสารภาพ เนื่องจากเราดำเนินการโดยมีหมายจับ แต่ก็ยังมีบางรายที่ไม่ยอมลาสิกขา ยังอาศัยผ้าเหลืองเป็นที่ค้ำจุนให้ตัวเอง แต่อย่างไรก็ตามเรื่องนี้มหาเถรสมาคมได้ออกระเบียบและแก้ไขขั้นตอนระยะเวลาในการลาสิกขาแล้ว จาก 3 ปี ลดเหลือ 10 วัน ฉะนั้นในวันนี้เราจะดำเนินการลาสิกขาให้พระที่ทำผิดกฎหมายลาสิกขาทั้งหมด เพื่อจะเข้าสู่กระบวนการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป […]

เปิดปฏิบัติการค้น 200 จุด ล่าพระทำผิดกฎหมาย

กทม. 5 ส.ค.-ตำรวจสอบสวนกลาง เปิดปฏิบัติการทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา ลุยค้น 200 จุดทั่วประเทศ ไล่ล่าจับพระทำผิดกฎหมาย 181 เป้าหมาย ล่าสุดจับพระวัดดังย่านคลอง 6 ปทุมธานี พบเอี่ยวองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ในฐานะหัวหน้าศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา สั่งการ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. นำกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด บช.ก. เปิดปฏิบัติการกวาดลานวัด เข้าตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย กว่า 200 จุด เพื่อจับกุมผู้ต้องหาคดีต่างๆ อาทิ ยักยอกทรัพย์ ฟอกเงิน เมาแล้วขับ หรือ มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการยาเสพติด รวมไปถึงองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ที่หลบหนีมาบวชเป็นพระซ่อนตัวตามวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยกลุ่มผู้ต้องหาที่เป็นเป้าหมายหลักของปฏิบัติการครั้งนี้ มีด้วยกันทั้งหมด 181 ราย แบ่งเป็น ผู้ต้องหาที่ยังมีสถานะเป็นพระ 154 ราย ในจำนวนนี้มีพระตำแหน่งสูงสุดเป็นระดับเจ้าอาวาส ส่วนผู้ต้องหาที่เคยเป็นพระแต่สึกไปแล้วมีทั้งหมด 27 ราย ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการเข้าดำเนินการจับกุม อย่างไรก็ตามขณะนี้มีรายงานว่า จากปฏิบัติการดังกล่าวขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาคนสำคัญได้รายหนึ่งแล้ว […]

รฟท.ขับเคลื่อนมาตรการรักษาความปลอดภัย

กรุงเทพฯ 26 ก.ค. – การรถไฟฯ จับมือตำรวจสอบสวนกลาง ขับเคลื่อนมาตรการรักษาความปลอดภัยทั้งในสถานีและบนขบวนรถไฟ พร้อมพิจารณาแนวทางเพิ่มกำลังตำรวจ-ตำรวจหญิง ช่วยดูแลบนขบวนรถ นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า การรถไฟฯ ร่วมกับศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมบนขบวนรถไฟ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด เพื่อขับเคลื่อนมาตรการรักษาความปลอดภัยบนขบวนรถไฟอย่างต่อเนื่อง สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้โดยสารที่ใช้บริการ โดยเฉพาะในเส้นทางระยะไกลที่ใช้เวลาเดินทางเป็นเวลานาน จะมีการจัดเจ้าหน้าที่ตำรวจขึ้นประจำขบวนตลอดเส้นทาง จำนวนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่คอยดูแลความปลอดภัยอยู่บนขบวนในขณะนี้จึงไม่ได้น้อยลงไปกว่าเดิมแต่อย่างใด สำหรับการดูแลความปลอดภัยให้แก่ผู้โดยสารถือเป็นภารกิจสำคัญที่การรถไฟฯ ให้ความสำคัญมาโดยตลอด ดังนั้น ความร่วมมือกับศูนย์ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมบนขบวนรถไฟ จึงเป็นกลไกสำคัญที่ช่วยเสริมศักยภาพในการดูแลประชาชนบนขบวนรถ นอกจากนี้ในอนาคตการรถไฟฯ ยังมีแผนที่จะเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำขบวนเพิ่มเติม เพื่อความปลอดภัยทั้งในสถานีและบนขบวนรถไฟ รองรับจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น และสร้างความมั่นใจสูงสุดในการเดินทางด้วยระบบราง อีกทั้งจะพิจารณาแนวทางที่จะเพิ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจหญิงเข้ามาดูแลเพิ่มเติมอีกด้วย “การมีเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำขบวนรถไฟ โดยเฉพาะในเส้นทางไกลที่ต้องเดินทางหลายชั่วโมง จะช่วยให้ประชาชนรู้สึกปลอดภัยและอุ่นใจมากยิ่งขึ้น ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ช่วยยกระดับคุณภาพการให้บริการของการรถไฟฯ ได้อย่างเป็นรูปธรรม” ผู้ว่าการการรถไฟฯ กล่าว การรถไฟฯ ยังคงมุ่งมั่นดำเนินงานอย่างเป็นระบบ ควบคู่กับการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่อให้ระบบขนส่งทางรางของประเทศเป็นทางเลือกที่มั่นคง ปลอดภัย และทันสมัย พร้อมรองรับการเดินทางของประชาชนในทุกภูมิภาคได้อย่างมีประสิทธิภาพ.-513-สำนักข่าวไทย

ตร.ปรับชื่อเป็น “ศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา”

21 ก.ค. – สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปรับชื่อ “ศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาฯ” เป็น “ศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา” เพื่อสอดคล้องกับพันธกิจ และอำนาจหน้าที่ จากกรณีที่ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ได้มีการตั้ง “ศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และส่งเสริมพระธรรมวินัย” เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการหากพบการกระทำความผิดทั้งทางสงฆ์และทางกฎหมาย พร้อมทั้งเปิดช่องทางรับแจ้งเบาะแสจากประชาชนกรณีพบเห็นพฤติกรรมไม่เหมาะสมของพระภิกษุสงฆ์ โดยสามารถแจ้งเบาะแสเข้ามาได้ที่ INBOX เพจเฟซบุ๊ก : ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) หรือโทรแจ้งได้ที่เบอร์โทร 082-1237166 นั้น ล่าสุด พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้มีการเรียกประชุมคณะทำงานของศูนย์ฯ ดังกล่าว โดยมีการกำหนดแนวทางป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดที่ส่งผลกระทบต่อพระพุทธศาสนา พร้อมมีการให้ปรับชื่อ “ศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และส่งเสริมพระธรรมวินัย” (จากเดิม) เป็น “ศูนย์ป้องกันปราบปรามภัยคุกคามและเสริมสร้างความมั่นคงทางพระพุทธศาสนา” เพื่อให้มีความสอดคล้องกับพันธกิจและอำนาจหน้าที่ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งนี้ ในส่วนของการปฏิบัติงานของศูนย์ดังกล่าว ยังคงให้ ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เป็นหน่วยงานหลักในการบังคับใช้กฎหมาย และประสานการปฏิบัติงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่และเป็นไปตามข้อกฎหมาย -สำนักข่าวไทย

จับ LGBTQ+ หลอกเหยื่อไปทำงานที่แคนาดา ก่อนเชิดเงินหนี

20 ก.ค. – ตำรวจ CIB จับหนุ่ม LGBTQ+ วัย 20 ปี ตั้งบริษัทจัดหางาน ลวงคนไทยไปทำงานเกษตรที่แคนาดา ก่อนเชิดเงินราว 50 ล้านบาท หลบหนี ซ้ำขู่เรียกเงิน 5,000 บาท แลกคืนพาสปอร์ต นายพรเทพ อายุ 20 ปี LGBTQ+ ถูกจับกุมในข้อหา “ร่วมกันฉ้อโกง และร่วมกันหลอกลวงผู้อื่นว่าสามารถหางานในต่างประเทศได้” บริเวณตลาดนัดซอยจอมทอง 12 แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กทม. โดยมีพฤติการณ์จัดตั้งบริษัทประเภทท่องเที่ยวและรับทำวีซ่า จากนั้นโพสต์จัดหาคนงานไปเป็นแรงงานในต่างประเทศ ทำงานเกษตรที่ประเทศแคนาดา ทำให้มีผู้สนใจจำนวนมาก ก่อนจะเก็บเงินค่าดำเนินการรายละ 150,000-200,000 บาท และมีเงื่อนไขว่าหากไม่ชำระเงินภายในเวลาที่กำหนด วีซ่าจะถูกยกเลิกทันที ทำให้เหยื่อยินยอมจ่ายเงินล่วงหน้า เมื่อถึงกำหนดรับเอกสารและตั๋วเครื่องบิน กลับติดต่อนายพรเทพไม่ได้ และปิดบริษัทหนี เชิดเงินมูลค่า 40-50 ล้านบาท แล้วหนีไป สปป ลาว ก่อนย้อนกลับมาที่บ้านจนถูกตำรวจจับกุมไว้ได้ เบื้องต้นให้การปฏิเสธ อ้างว่าถูกหลอกให้จดทะเบียนบริษัท […]

“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง

กทม. 12 ก.ค.-“บิ๊กเต่า” ให้โอกาสคณะสงฆ์ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเอี่ยวสีกากอล์ฟ เชื่อพระเป็นเหยื่อ หากไม่เสร็จพร้อมดำเนินการ เผยอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรฯ เข้าให้ข้อมูล เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง วันนี้ (12 ก.ค.) หลังจากอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร เข้าให้ปากคำเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ เมื่อเวลา 12.30 น. แต่งกายด้วยชุดโปโลสีเทา กางเกงวอร์มขายาว ผู้สื่อข่าว พยายามสอบถามว่าเข้ามาให้ปากคำกรณีที่ปรากฏอยู่ในคลิปหรือไม่ ทางอดีตผู้ช่วยเจ้าวาสไม่ตอบ เมื่อถามเพิ่มเติมว่า คลิปที่ปรากฏอยู่ตอนนนี้ ใช่ตัวเองจริงหรือไม่ อดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร ปิดปากเงียบ ไม่มีการให้ข้อมูลอะไรกับสื่อมวลชน ก่อนที่จะเดินขึ้นไปให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหน้ากองปราบด้านบน จากนั้นในเวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เดินทางมาที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง โดยเดินทางขึ้นตึกด้านหลัง ใช้ลิฟต์ลานจอดรถ หลังเดินทางกลับจากวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร โดยหลบผู้สื่อข่าวที่มารออยู่ด้านหน้า และได้สอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ในเวลา 16.20 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ให้สัมภาษณ์ว่าการหารือกับพระผู้ใหญ่ในวันนี้ ก็ถือเป็นการทำงานร่วมกันกับ ปปท. ซึ่งมีผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ […]

รวบ “สังข์” ผู้ต้องหาแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร

6 ก.ค.- ตำรวจบุกรวบ “สังข์” ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด หลังก่อเหตุแหกห้องขัง สภ.เมืองสกลนคร จนมุมบนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ CIB จับกุมนายเกียรติศักดิ์ หรือ สังข์ อายุ 39 ปี ผู้ต้องหาคดีอาวุธปืนและยาเสพติด ได้บนขบวนรถไฟ ขณะเตรียมหลบหนีเข้ากรุงเทพฯ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวมาลงบันทึกการจับกุมที่ สน.เตาปูน และอยู่ระหว่างการควบคุมตัวกลับมาดำเนินคดีที่ สภ.เมืองสกลนคร นายเกียรติศักดิ์ ก่อเหตุหลบหนีจากห้องควบคุม สภ.เมืองสกลนคร เมื่อช่วงเช้ามืดของวันที่ 13 มิถุนายน เจ้าหน้าที่พบเบาะแสหลบซ่อนตัวบนเทือกเขาภูพาน ขณะเดียวกันโซเชียลพากันแชร์ภาพนายเกียรติศักดิ์ พบว่า เป็นบุคคลอันตรายที่อาจมีอาวุธ หากใครพบเห็นห้ามเข้าใกล้ ทั้งนี้ สภ.เมืองสกลนคร ได้ปูพรมค้นหาตามล่าตัวและตั้งรางวัลนำจับ เป็นเงิน 3 หมื่นบาทให้กับผู้แจ้งเบาะแส .-สำนักข่าวไทย

จับบริษัทนอมินีจีน เงินหมุนเวียนกว่า 500 ล้าน

กทม. 25 มิ.ย.-บุกค้น 3 จังหวัด ล่าบริษัทนอมินีจีน ปล่อยเช่าเครื่องจักรหนัก พบให้พนักงานคนไทยเป็นกรรมการฯ เงินหมุนเวียนกว่า 500 ล้านบาท ตำรวจสอบสวนกลาง บุกค้นสำนักงานบริษัท โดยสำนักใหญ่อยู่ในกรุงเทพมหานคร และสาขาในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และระยอง พร้อมตรวจยึดเอกสารหลักฐาน เช่น หนังสือรับรองการขอจัดตั้งบริษัท เอกสารให้เช่าซื้อ และเครื่องจักรหนักกว่า 250 คัน พร้อมดำเนินคดีกับผู้ต้องหาเป็นนิติบุคคลจีนและไทยรวม 2 ราย เป็นชายชาวจีน 1 คน และหญิงชาวไทยอีก 2 คนหลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบบริษัทต้องสงสัยว่าเข้าข่ายทำผิดในลักษณะนำบุคคลสัญชาติไทยมาเป็นตัวแทนอำพรางถือหุ้นแทนคนต่างด้าว หรือ “นอมินี” ประกอบธุรกิจนำเข้าและให้เช่าเครื่องจักรหนัก รถเครน และรถยก เพื่อเลี่ยงกฎหมาย และเมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินของบริษัท พบมีการรับโอนเงินจากนายทุนจีนมาลงทุนกว่า 50 ล้านบาท และพบเงินหมุนเวียนในบัญชีกว่า 500 ล้านบาท ขณะที่จากการสอบถามผู้ถือหุ้นคนไทยยืนยันว่าบริษัทฯ บริหารโดยคนสัญชาติจีนเป็นหลัก สอบสวนเบื้องต้นผู้ต้องหาให้การปฏิเสธ.-สำนักข่าวไทย

รวบ 2 ทหารเกณฑ์หนีค่าย ล่อลวงเด็กหญิงไปกระทำชำเรา

22 มิ.ย.- ตำรวจสอบสวนกลาง จับ 2 ทหารเกณฑ์หนีค่าย ล่อลวงเด็กหญิงไปกระทำชำเรา เบื้องต้นให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกันจับกุมนายนพดล อายุ 20 ปี และนายเกียรติศักดิ์ อายุ 21 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดนครศรีธรรมราช รวม 3 ข้อหา อาทิ “ร่วมกันพรากเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปฯเพื่อการอนาจาร, ร่วมกันพาเด็กอายุไม่เกินสิบห้าปีไปเพื่อการอนาจาร แม้ผู้นั้นจะยินยอมก็ตามฯ” สืบเนื่องจากช่วงประมาณปลายเดือนตุลาคม 2566 ผู้เสียหายถูก น.ส.ฟ้า หนึ่งในผู้ต้องหาซึ่งเป็นเพื่อนกับผู้เสียหาย ชักชวนโดดเรียนและไปนั่งเล่นที่บ้านของเพื่อนก่อนถูกผู้ต้องหาทั้งสองข่มขืนกระทำชำเรา เบื้องต้นทั้งสองให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา .-สำนักข่าวไทย

1 2 3 17
...