ประธาน กกพ.ระบุแนวโน้มตรึงค่าไฟฟ้าเอฟทีงวดใหม่


กรุงเทพฯ 7
พ.ย.- ประธาน กกพ.ระบุแนวโน้มค่าไฟฟ้างวดใหม่ ไม่เปลี่ยนแปลง เตือนรอบถัดไปขยับขึ้นแน่นอน
 ส่วนแผนพีดีพีใหม่ คาดเสร็จกลางปีหน้า ด้านเวทีสัมมนาระบบไฟฟ้ายุคเทคโนโลยีใหม่
ชี้ อนาคตโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่มืดมน โดยโรงเล็กผลิตเองใช้เองและพลังงานทดแทนจะมีบทบาทมากขึ้น


นายพรเทพ ธัญญพงศ์ชัย
ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ. ) กล่าวว่า พรุ่งนี้ (8 พ.ย. )  คณะกรรมกรรมการ กกพ.จะพิจารณาค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ
หรือ
FT สำหรับการเรียกเก็บในงวดมกราคม
เมษายน  2561 มีแนวโน้มจะไม่ปรับราคา
เพราะยังมีวงเงินลงทุนส่วนที่ไม่เป็นไปตามแผนงาน 3 การไฟฟ้า ที่จะนำมาดูแลได้
และไม่ต้องการให้ราคาผันผวนจนกระทบต่อผู้ประกอบการมากเกินไป อย่างไรก็ตาม
สิ่งที่น่ากังวล คือ ต้นทุนราคาน้ำมันที่ขยับขึ้นจะส่งผลให้ราคาก๊าซธรรมชาติปรับขึ้นตาม
และอาจทำให้งวดถัดไป (พ.ค.-ส.ค.2561 ) ขยับสูงขึ้นมาก ดังนั้น ในวันพรุ่งนี้
จึงต้องดูปัจจัยทั้งหมด แล้ว คณะกรรมการจะตัดสินอีกครั้งว่า จะขยับราคาหรือไม่

“ขณะนี้มีพลังงานทดแทน
บางส่วนเข้าไม่ตามแผน ก็ทำให้ภาระต้นทุนเอฟทีงวดใหม่ลดลง ส่วนราคาน้ำมันที่เริ่มขยับขึ้นยอมรับว่าทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นบ้าง
แต่เงินบาทที่ผ่านมาแข็งค่า ก็มีผลต่อต้นทุนต่ำลง
ซึ่งก็คาดว่าน่าจะตรึงราคาเอฟทีงวดใหม่ได้ จากงวดนี้ อยู่ที่ติดลบ
15.90 สตางค์ต่อหน่วย
ที่ส่งผลให้ค่าไฟ้ฟ้าเฉลี่ยเรียกเก็บรวมค่าไฟฟ้าฐาน
อยู่ที่ 3.5966
บาทต่อหน่วยนายพรเทพ กล่าว

นายพรเทพ  กล่าวว่า
ค่าไฟฟ้าตามแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าระยะยาว20 ปี (พีดีพี ) ฉบับใหม่ จะเป็นอย่างไรนั้น
คงจะต้องดูแผนงานที่กระทรวงพลังงานกำลังดำเนินการ เท่าที่ทราบ
จะมีการจัดทำแยกความต้องการใช้ไฟฟ้าเป็นรายภาค เพื่อให้ทำแผนให้เน้นสนองตอบความต้องการเป็นรายภาครวมทั้งให้เน้นเรื่องการพยากรณ์ที่มีความคลาดเคลื่อนน้อยที่สุด



นายไกรสีห์  กรรณสูต  กรรมการ กกพ. กล่าวในงานEGAT
Energy Forum 2017 
ว่า
ตามแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าระยะยาว20 ปี (พีดีพี ) ฉบับปัจจุบัน ในปี 2579 ค่าไฟฟ้า
จะขยับขึ้นเป็นประมาณ 5 บาท/หน่วย จากปัจจุบันประมาณ 3.60 บาท/หน่วย อย่างไรก็ตาม
แผนใหม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจาก
Disruptive
Technology 
หรือเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ
ในธุรกิจผลิตไฟฟ้าเกิดขึ้น รองรับการใช้พลังงานทดแทน โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์
ระบบกักเก็บพลังงาน (
Energy Storage)  ระบบสมาร์ทกริด
ทำให้เอกชนสามารถผลิตไฟฟ้าใช้เอง (ไอพีเอส ) มากขึ้นเรื่อยๆ
ในอนาคตโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ อาจไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นน้อย
หลังจากที่โรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ ของกลุ่มกัลฟ์ 5,000 เมกะวัตต์ เกิดขึ้น  จากเทคโนโลยีใหม่ที่เกิดขึ้น  ดังนั้น โรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ก็จะกลายเป็นโรงไฟฟ้าสำรอง
หรือ แบล็คอัพ เพื่อให้ระบบ มีความมั่นคง ซึ่งเป็นส่วนที่
กฟผ.จะต้องปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลง

นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร
รองผู้ว่าการพัฒนาธุรกิจ กฟผ
กล่าวว่า
กฟผ.ปรับตัว พัฒนานวัตกรรมรับการเปลี่ยนแปลง และยังพร้อมลงทุนพลังงานทดแทน 2,000
เมกะวัตต์ ซึ่งต้องดูว่า แผน พีดีพีที่ปรับใหม่คาดว่าจะเสร็จกลางปี 2561 นั้น
จะเห็นชอบให้ลงทุนหรือไม่ โดยในส่วนของโรงไฟฟ้าภาคเอกชนที่เกิดใหม่
ก็คาดว่าจะช่วยให้
กฟผ.มีรายได้จากการให้บริการบำรุงรักษาโรงไฟฟ้ามากขึ้นจากปัจจุบันมีราว 3-4
พันล้านบาท

 

นายทวารัฐ สูตะบุตร  ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.)
กล่าวว่า จากเทคโนโลยีพลังงานที่เปลี่ยนแปลงจะทำให้ กฟผ.ต้องปรับตัว (
Transform) อย่างหนัก ใน 3-4 ปีข้างหน้า ทั้งด้านพัฒนาเทคโนโลยี
การรองรับนโยบาย 4.0 และการมีปฏิสัมพันธ์ชมชุน
ซึ่ง
กระทรวงพลังงานได้มอบหมายให้ กฟผ.ดำเนินการโครงกา
รความร่วมมือลดใช้ไฟฟ้า (Demand Respond ;DR) 350
เมกะวัตต์ ใน 3 ปีข้างหน้า การพยากรณ์เรื่องลม แสงแดด และน้ำ เพื่อนำมาประยุกต์
สำหรับการสั่งการโรงไฟฟ้าภายใน 5 ปีข้างหน้า
รวมทั้งพิจารณาเตรียมพร้อมรับยานยนต์ไฟฟ้า(อีวี ) ที่คาดว่าจะเป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น
โดยให้พิจารณาจัดทำฉลากเบอร์ 5
สำหรับอีวีด้วย
เนื่องจากถือได้ว่าเปรียบเสมือน อุปกรณ์ประหยัดพลังงาน

 

   ทั้งนี้ งาน EGAT Energy
Forum 2017 
กฟผ.จัดขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้และประสบการณ์ในงานบริการต่าง
ๆ ของ กฟผ
รวมทั้งแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการผ่านการประชุมสัมมนาและเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆในกระบวนการผลิตไฟฟ้า
ธุรกิจงานบริการและธุรกิจเชื้อเพลิง รวมถึงแนวทางการพัฒนาการดำเนินงานของ กฟผ
ในยุค Energy 4.0สำนักข่าวไทย

 

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

พยาบาลเกษียณร้องไซเบอร์ ถูกโรแมนซ์สแกม สูญ 12 ล้าน

16 มิ.ย. – พยาบาลเกษียณ วัย 65 ปี ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว หรือโรแมนซ์สแกม ชวนลงทุนคริปโต สูญเงิน 12 ล้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาพยาบาลเกษียณอายุราชการวัย 65 ปี ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพหลอกหลอกให้รัก (Romance Scam) และชักชวนให้ลงทุนในระบบคริปโตผ่านแพลตฟอร์มเทรดปลอม สูญเงินเกือบ 12 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 รับเรื่อง นางสาวอ้อ อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพหรือ นางสาวพร (นามสมมติ) ทักข้อความมาหาตนผ่านแอพ TikTok และชวนพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว และต้องการหาคู่ชีวิต และชวนคุยเรื่องส่วนตัวจนเตนเชื่อใจ จนผ่านไป 2 […]

“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก […]

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย

Hun Sen delivers speech in Cambodia's Senate

“ฮุน เซน” ขู่ให้ไทยเปิดด่านทั้งหมดภายในวันนี้

พนมเปญ 16 มิ.ย.- นายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชาประกาศว่า ไทยต้องเปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดภายใน 24 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมด และห้ามสินค้าไทยทุกอย่างเข้ากัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายฮุน เซนยื่นคำขาดระหว่างกล่าวสุนทรพจน์พิเศษก่อนการประชุมวุฒิสภาในเช้าวันนี้ว่า เดิมกัมพูชาจะปิดจุดผ่านแดนกับไทยทั้งหมดในวันนี้ แต่รัฐบาลได้เลื่อนการตัดสินใจออกไป หลังจากที่เขาและนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้สนทนาทางโทรศัพท์กับนายกรัฐมนตรีแพรทองธาร ชินวัตรของไทย หากไทยไม่เปิดจุดผ่านแดนกับกัมพูชาทั้งหมดอีกครั้งตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป กัมพูชาจะห้ามผักและผลไม้ผ่านจุดผ่านแดนทั้งหมดของกัมพูชา นอกจากนี้กัมพูชาจะยกเลิกมาตรการจำกัดการผ่านแดนกับไทยที่ใช้อยู่ในขณะนี้ หากทางการไทยกลับมาเปิดจุดผ่านแดนตั้งแต่เวลา 06.00-22.00 น.ตามเดิม นายฮุน เซนประกาศชัดเจนว่า ทางการกัมพูชาจะไม่มีวันนั่งโต๊ะเจรจากับทางการไทยเรื่องการจำกัดการผ่านแดน เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน โดยได้ตั้งคำถามว่า กองทัพไทยเป็นฝ่ายจำกัดการผ่านแดน และเมื่อกัมพูชาทำเช่นเดียวกัน ก็ต้องการเจรจาเพื่อรักษาหน้าเช่นนั้นหรือ พร้อมกับสำทับว่า กัมพูชาจะไม่ปล่อยให้ชื่อเสียงประเทศตกอยู่ในความเสี่ยงเพราะความผิดพลาดของคนอื่น.-814.-สำนักข่าวไทย