fbpx

ประธาน กกพ.ระบุแนวโน้มตรึงค่าไฟฟ้าเอฟทีงวดใหม่


กรุงเทพฯ 7
พ.ย.- ประธาน กกพ.ระบุแนวโน้มค่าไฟฟ้างวดใหม่ ไม่เปลี่ยนแปลง เตือนรอบถัดไปขยับขึ้นแน่นอน
 ส่วนแผนพีดีพีใหม่ คาดเสร็จกลางปีหน้า ด้านเวทีสัมมนาระบบไฟฟ้ายุคเทคโนโลยีใหม่
ชี้ อนาคตโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่มืดมน โดยโรงเล็กผลิตเองใช้เองและพลังงานทดแทนจะมีบทบาทมากขึ้น


นายพรเทพ ธัญญพงศ์ชัย
ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ. ) กล่าวว่า พรุ่งนี้ (8 พ.ย. )  คณะกรรมกรรมการ กกพ.จะพิจารณาค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ
หรือ
FT สำหรับการเรียกเก็บในงวดมกราคม
เมษายน  2561 มีแนวโน้มจะไม่ปรับราคา
เพราะยังมีวงเงินลงทุนส่วนที่ไม่เป็นไปตามแผนงาน 3 การไฟฟ้า ที่จะนำมาดูแลได้
และไม่ต้องการให้ราคาผันผวนจนกระทบต่อผู้ประกอบการมากเกินไป อย่างไรก็ตาม
สิ่งที่น่ากังวล คือ ต้นทุนราคาน้ำมันที่ขยับขึ้นจะส่งผลให้ราคาก๊าซธรรมชาติปรับขึ้นตาม
และอาจทำให้งวดถัดไป (พ.ค.-ส.ค.2561 ) ขยับสูงขึ้นมาก ดังนั้น ในวันพรุ่งนี้
จึงต้องดูปัจจัยทั้งหมด แล้ว คณะกรรมการจะตัดสินอีกครั้งว่า จะขยับราคาหรือไม่

“ขณะนี้มีพลังงานทดแทน
บางส่วนเข้าไม่ตามแผน ก็ทำให้ภาระต้นทุนเอฟทีงวดใหม่ลดลง ส่วนราคาน้ำมันที่เริ่มขยับขึ้นยอมรับว่าทำให้ต้นทุนเพิ่มขึ้นบ้าง
แต่เงินบาทที่ผ่านมาแข็งค่า ก็มีผลต่อต้นทุนต่ำลง
ซึ่งก็คาดว่าน่าจะตรึงราคาเอฟทีงวดใหม่ได้ จากงวดนี้ อยู่ที่ติดลบ
15.90 สตางค์ต่อหน่วย
ที่ส่งผลให้ค่าไฟ้ฟ้าเฉลี่ยเรียกเก็บรวมค่าไฟฟ้าฐาน
อยู่ที่ 3.5966
บาทต่อหน่วยนายพรเทพ กล่าว

นายพรเทพ  กล่าวว่า
ค่าไฟฟ้าตามแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าระยะยาว20 ปี (พีดีพี ) ฉบับใหม่ จะเป็นอย่างไรนั้น
คงจะต้องดูแผนงานที่กระทรวงพลังงานกำลังดำเนินการ เท่าที่ทราบ
จะมีการจัดทำแยกความต้องการใช้ไฟฟ้าเป็นรายภาค เพื่อให้ทำแผนให้เน้นสนองตอบความต้องการเป็นรายภาครวมทั้งให้เน้นเรื่องการพยากรณ์ที่มีความคลาดเคลื่อนน้อยที่สุด



นายไกรสีห์  กรรณสูต  กรรมการ กกพ. กล่าวในงานEGAT
Energy Forum 2017 
ว่า
ตามแผนพัฒนากำลังไฟฟ้าระยะยาว20 ปี (พีดีพี ) ฉบับปัจจุบัน ในปี 2579 ค่าไฟฟ้า
จะขยับขึ้นเป็นประมาณ 5 บาท/หน่วย จากปัจจุบันประมาณ 3.60 บาท/หน่วย อย่างไรก็ตาม
แผนใหม่น่าจะมีการเปลี่ยนแปลง เนื่องจาก
Disruptive
Technology 
หรือเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ
ในธุรกิจผลิตไฟฟ้าเกิดขึ้น รองรับการใช้พลังงานทดแทน โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์
ระบบกักเก็บพลังงาน (
Energy Storage)  ระบบสมาร์ทกริด
ทำให้เอกชนสามารถผลิตไฟฟ้าใช้เอง (ไอพีเอส ) มากขึ้นเรื่อยๆ
ในอนาคตโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ อาจไม่จำเป็นต้องเกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นน้อย
หลังจากที่โรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ ของกลุ่มกัลฟ์ 5,000 เมกะวัตต์ เกิดขึ้น  จากเทคโนโลยีใหม่ที่เกิดขึ้น  ดังนั้น โรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ก็จะกลายเป็นโรงไฟฟ้าสำรอง
หรือ แบล็คอัพ เพื่อให้ระบบ มีความมั่นคง ซึ่งเป็นส่วนที่
กฟผ.จะต้องปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลง

นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร
รองผู้ว่าการพัฒนาธุรกิจ กฟผ
กล่าวว่า
กฟผ.ปรับตัว พัฒนานวัตกรรมรับการเปลี่ยนแปลง และยังพร้อมลงทุนพลังงานทดแทน 2,000
เมกะวัตต์ ซึ่งต้องดูว่า แผน พีดีพีที่ปรับใหม่คาดว่าจะเสร็จกลางปี 2561 นั้น
จะเห็นชอบให้ลงทุนหรือไม่ โดยในส่วนของโรงไฟฟ้าภาคเอกชนที่เกิดใหม่
ก็คาดว่าจะช่วยให้
กฟผ.มีรายได้จากการให้บริการบำรุงรักษาโรงไฟฟ้ามากขึ้นจากปัจจุบันมีราว 3-4
พันล้านบาท

 

นายทวารัฐ สูตะบุตร  ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.)
กล่าวว่า จากเทคโนโลยีพลังงานที่เปลี่ยนแปลงจะทำให้ กฟผ.ต้องปรับตัว (
Transform) อย่างหนัก ใน 3-4 ปีข้างหน้า ทั้งด้านพัฒนาเทคโนโลยี
การรองรับนโยบาย 4.0 และการมีปฏิสัมพันธ์ชมชุน
ซึ่ง
กระทรวงพลังงานได้มอบหมายให้ กฟผ.ดำเนินการโครงกา
รความร่วมมือลดใช้ไฟฟ้า (Demand Respond ;DR) 350
เมกะวัตต์ ใน 3 ปีข้างหน้า การพยากรณ์เรื่องลม แสงแดด และน้ำ เพื่อนำมาประยุกต์
สำหรับการสั่งการโรงไฟฟ้าภายใน 5 ปีข้างหน้า
รวมทั้งพิจารณาเตรียมพร้อมรับยานยนต์ไฟฟ้า(อีวี ) ที่คาดว่าจะเป็นที่นิยมมากยิ่งขึ้น
โดยให้พิจารณาจัดทำฉลากเบอร์ 5
สำหรับอีวีด้วย
เนื่องจากถือได้ว่าเปรียบเสมือน อุปกรณ์ประหยัดพลังงาน

 

   ทั้งนี้ งาน EGAT Energy
Forum 2017 
กฟผ.จัดขึ้นเพื่อเผยแพร่ความรู้และประสบการณ์ในงานบริการต่าง
ๆ ของ กฟผ
รวมทั้งแลกเปลี่ยนความรู้ทางวิชาการผ่านการประชุมสัมมนาและเสนอเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆในกระบวนการผลิตไฟฟ้า
ธุรกิจงานบริการและธุรกิจเชื้อเพลิง รวมถึงแนวทางการพัฒนาการดำเนินงานของ กฟผ
ในยุค Energy 4.0สำนักข่าวไทย

 

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ฝนถล่มหลายจังหวัด

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุ “ซูลิก” ฉบับที่ 12 ภาคเหนือ อีสาน กลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากกับมีลมแรง

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ

พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนตกหนัก 76 จังหวัด 19-23 ก.ย.

พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ซูลิก” แล้ว คาดขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ หัวพายุส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนแล้ว ช่วงระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย.67 มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 76 จังหวัด