หน่วยงานรัฐไทยเร่งสอบสินบนนำเข้าเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจากญี่ปุ่น


กรุงเทพฯ
18 ก.ค.-ประธานบอร์ด สั่งเอ็กโก้-กฟผ.ตรวจสอบข่าวเจ้าหน้าที่รัฐ รับสินบน ระบุสบายใจ
ที่ รายงานข่าวเบื้องต้น เป็นการจ่ายเพื่อการขนส่งการนำเข้าเครื่องจักรโรงไฟฟ้า ด้านกรมเจ้าท่า-กรมศุลกากร
แจงเบื้องต้นไม่น่าเกี่ยวข้อง แต่พร้อมตรวจสอบ ด้าน”กัลฟ์” แจงไม่มีโครงการว่าจ้าง
MHPS
ในปี 2556


นายวิฑูรย์
กุลเจริญวิรัตน์ อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน  ในฐานะประธานคณะกรรมการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
(กฟผ.) และประธานคณะกรรมการ บมจ.ผลิตไฟฟ้า (เอ็กโก) กล่าวว่า ได้ให้ทั้ง2
หน่วยงานตรวจสอบข่าวเรื่องเจ้าหน้าที่รัฐรับสินบน 20 ล้านบาทจากบริษัทมิตซูบิชิ
ฮิตาชิ พาวเวอร์ ซิสเต็มส์
(MHPS) ประเทศญี่ปุ่น
ซึ่งตามข่าวว่าเป็นช่วงเวลาที่ก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนอมหน่วยที่4 ปี 56-57
อย่างไรก็ตาม บางข่าวได้รายงานว่าเป็นการติดสินบน ด้านการนำเข้า การขนส่ง
เครื่องจักรเข้ามาในประเทศไทย โดยกรณีนี้อาจเป็นเรื่องชิปปิ้ง การติดต่อ เรื่องการนำเข้าสินค้า
ซึ่งหากเป็นจริงก็รู้สึกสบายใจระดับหนึ่ง ว่าไม่ใช่การจ่ายสินบนให้กับเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงพลังงาน
 แต่ก็สั่งการเร่งรัดให้ กฟผ.
และเอ็กโกตรวจสอบ ซึ่งหากพบว่ามีเจ้าหน้าที่รับสินบนจริง ก็จะลงโทษตามกฏระเบียบ

“เบื้องต้นยังไม่ทราบรายละเอียดที่ชัดเจนว่า
พาดพิง หรือจ่ายสินบนให้ใคร ในโครงการใด  แต่หากเป็นโครงการขนอม 4 หากเป็นเรื่องซื้อเครื่องจักรและการก่อสร้าง
เป็นเรื่องของผู้รับเหมา ดำเนินการ ซึ่งจะนำเข้ามาอย่างไร
ทางเอ็กโกคงไม่ทราบเรื่อง แต่ ก็ให้ทาง กฟผ.และเอ็กโก ตรวจสอบทั้งหมด หากพบว่าใครทำผิดก็จะลงโทษไม่เลี้ยงไว้อย่างแน่นอน”
นายวิฑูรย์กล่าว

ทั้งนี้
 โครงการขนอม4 เป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมของเอ็กโก  ตั้งอยู่ในจ.นครศรีธรรมราช  โดย โครงการนี้ ทาง
Mitsubishi Corporation (MC) มีหน้าที่
ดูแลรวบรวมและสรุปการดำเนินงานของกลุ่มผู้รับเหมา  มี
Mitsubishi Hitachi Power Systems (MHPS) เป็นผู้ผลิตอุปกรณ์หลัก ต่างๆ เช่น
เครื่องกำเนิดไฟฟ้า และบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัก ชั่น จำกัด
(มหาชน) (
STEC) ดูแลงาน โครงสร้างต่างๆ  มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับกฟผ. เป็นเวลา 25 ปี
กำลังการผลิตรวม 930 เมกะวัตต์ (
MW) แบ่งเป็นหน่วยผลิตจำนวน
2 หน่วย ๆ ละ 465 เมกะวัตต์ โดยใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงหลัก
เริ่มเดินเครื่องเชิงพาณิชย์และจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในวันที่ 19 มิถุนายน 2559 โดยเริ่มก่อสร้าง
วันที่1 ตุลาคม 2556


สำหรับเอ็กโกเป็นบริษัทในเครือ
กฟผ.  โดย กฟผ. ถือหุ้นร้อยละ25.41
และรองลงมาคือ ผู้ถือหุ้นจากญี่ปุ่น
บริษัท TEPDIA Generating B.V. ร้อยละ 23 .49 ..โดย TEPDIA เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Tokyo Electric Power Company (TEPCO) และ Diamond Generating Asia, Limited ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ Mitsubishi Corporation ในสัดส่วนการร่วมทุนฝ่ายละ ร้อยละ50

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร
อธิบดีกรมเจ้าท่า กล่าวว่า  การนำเข้าเครื่องจักรดังกล่าว อาจจะผ่านท่าเรือขนอม
ซึ่งท่าเรือนี้บริหารงานโดยบริษัทเอกชน อย่างไรก็ตาม ทางกรมฯ
จะตรวจสอบการขนส่งเครื่องจักรผ่านท่าเรือในเชิงลึกด้วยว่า ดำเนินการอย่างไร  ตามที่มีการกล่าวอ้าง ในรายงานข่าวการสอบสวน ของทางการญี่ปุ่นว่า
การให้สินบนเกิดจากขนส่ง  โดยเฉพาะช่วงปี
2556 – 2557

นายชัยยุทธ
คำคูณ  โฆษกกรมศุลกากร เปิดเผยว่า  ข้อกล่าวอ้างดังกล่าว
กรมศุลกากรต้องขอพิจารณาเอกสารหลักฐานให้ชัดเจน จากทางการของญี่ปุ่น
ว่าระบุถึงเจ้าหน้าที่รัฐของไทยอย่างไรบ้าง เพราะการนำเข้าเครื่องกำเนิดไฟฟ้า
เป็นสินค้าที่มีพิกัดอัตราภาษีต่ำมาก เพียงร้อยละ 1-5 เนื่องจากเป็นอุปกรณ์
เครื่องมือเครื่องจักรที่จำเป็นต่อโครงสร้างพื้นฐานจะเสียภาษีน้อยมาก
จึงระบุไม่ได้ชัดเจนว่าศุลกากรจะเกี่ยวข้องกับคดีนี้อย่างไรบ้าง
อีกทั้งไทยมีข้อตกลงการค้าเสรี
FTA ไทย-ญี่ปุ่น  เพื่อลดภาษีนำเข้าระหว่างกันหลายรายการ 
จึงมองว่าเป็นเหตุจูงใจต่อเรื่องการตัดสินบนน้อยมาก ส่วนการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงจะเกิดขึ้นหรือไม่ต้องพิจารณาให้ชัดเจนว่ามีการกล่าวอ้างมายังศุลกากรอย่างไรบ้าง

นายวีระพล
จิรประดิษฐกุล กรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. กล่าวว่า
กกพ.ยังไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับกรณีดังกล่าว เรื่องนี้ไม่ใช่อำนาจของ
กกพ.ที่จะเข้าไปตรวจสอบ
รวมถึงโครงการดังกล่าวเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนมีการจัดตั้งคณะกรรมการ
กกพ.ชุดปัจจุบัน ดังนั้น
เป็นเรื่องที่ทางประเทศญี่ปุ่นจะต้องดำเนินการไปตามข้อกฎหมายที่กำหนด

นายสหรัฐ
บุญโพธิภักดี รองผู้ว่าการพลังงานหมุนเวียนและพลังงานใหม่ ในฐานะโฆษกการ กฟผ.
กล่าวว่า ขณะนี้ กฟผ.อยู่ระหว่างตรวจสอบข้อมูลต่างๆ  ซึ่งยังไม่ทราบว่าโรงไฟฟ้าที่ปรากฎเป็นข่าวนั้น
เป็นโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายใหญ่(ไอพีพี)
หรือโครงการผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก(เอสพีพี)  เบื้องต้น ยืนยันว่า โครงการโรงไฟฟ้าดังกล่าว
ไม่ใช่โครงการของ กฟผ.  ส่วนที่ระบุว่าอาจเป็นโครงการ
ที่ มี
รัฐวิสาหกิจไทยร่วมถือหุ้น ร้อยละ25 นั้น ทาง กฟผ.ได้สอบถามข้อมูลต่างๆไปยัง
บริษัทลูกของ กฟผ.ทั้ง เอ็กโก้ กรุ๊ป และบริษัท ผลิตไฟฟ้าราชบุรีโฮลดิ้ง แล้ว
คาดว่าจะได้รับความชัดเจนในเร็วๆนี้.

        บมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) แจ้งว่า ในส่วนของโครงการโรงไฟฟ้ากลุ่มบริษัททั้งหมด
ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกรณีดังกล่าวใด ๆ และจากการที่บริษัทตรวจสอบอย่างไม่เป็นทางการไปยัง
MHPS เพื่อชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่ง MHPS ได้ยืนยันกลับมาว่ากรณีที่เป็นข่าวไม่เกี่ยวข้องกับกลุ่มบริษัทกัลฟ์
ทั้งบริษัทย่อยและบริษัทในเครือแต่อย่างใด โดยโครงการของกัลฟ์ฯไม่มีโครงการใด ๆ ได้ลงนามสัญญาว่าจ้างออกแบบวิศวกรรม
จัดหา และก่อสร้าง (
EPC) กับ MHPS ในปี 2556 ดังที่ปรากฎในข่าว 

          ทั้งนี้ สำนักข่าวหลายแห่งของญี่ปุ่นรายงานว่าสำนักงานสืบสวนพิเศษของอัยการกรุงโตเกียวกำลังสืบสวนบริษัทมิตซูบิชิ
ฮิตาชิ พาวเวอร์ ซิสเต็มส์ หรือ
MHPS ในข้อหาละเมิดกฎหมายป้องกันการแข่งขัน
ที่ไม่เป็นธรรมโดยทางบริษัทได้จ่ายสินบนให้กับเจ้าหน้าที่ทางการของประเทศไทย ผ่านนายหน้ารายหนึ่ง
เป็นมูลค่ากว่า 60 ล้านเยน หรือราว 20 ล้านบาท โดยรายงานข่าวส่วนหนึ่งแจ้งว่าเป็นการติดสินบนในการขนส่ง
นำเข้าเครื่องจักรและเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ในช่วงปี 2556-2557    และทาง
MHPSได้ต่อรองการรับสารภาพ หรือ plea
bargain
 เพื่อแลกกับการที่ทางบริษัทจะไม่ถูกดำเนินคดีหรือลงโทษ- 

-สำนักข่าวไทย

 

 

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ยิงดับ 2 ศพ คาวัดดังย่านเพชรเกษม

10 ก.ค.- ลูกเจ้าของโรงเรียนคลั่งยา ชักปืนยิงดับ 2 ศพ คาวัดดังย่านเพชรเกษม ตำรวจควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว เกิดเหตุยิงกันเสียชีวิต 2 คน โดยบริเวณข้างโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซ.เพชรเกษม 20 พบ 1 ศพ เป็นหญิง และบริเวณข้างวัดแห่งหนึ่ง แขวงคูหาสวรรค์ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ พบอีก 1 ศพเป็นผู้ชาย เบื้องต้นจากการสอบถามเพื่อนบ้าน คาดผู้ก่อเหตุมีอาการคลั่งยา หลอนฝันว่าผู้ตายรายแรกที่เป็นหญิงทำคุณไสยใส่ จึงเดินไปใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่กกหู ขณะที่กำลังซักผ้าเสียชีวิตทันที หลังจากนั้นเดินออกมาหน้าวัด พบนายติ่ง จึงใช้ปืนกระบอกเดียวกัน ยิงเข้าเบ้าตาเสียชีวิตคาที่เป็นศพที่ 2 ขณะนี้ตำรวจควบคุมตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว เป็นลูกเจ้าของโรงเรียนใกล้เคียงกับวัดดังกล่าว ถูกนำตัวไปสอบสวนที่ สน.ภาษีเจริญ – สำนักข่าวไทย

หนึ่งเดียวในโลก! ทำบุญตักบาตรบนหลังช้างสุรินทร์

สุรินทร์ 10 ก.ค.- สุรินทร์จัดยิ่งใหญ่! ทำบุญตักบาตรบนหลังช้าง เพื่อความเป็นสิริมงคล เนื่องในวันอาสาฬหบูชาและเข้าพรรษา ประจำปี 2568 ยิ่งใหญ่หนึ่งเดียวในโลก ประชาชนและนักท่องเที่ยวไทยและต่างประเทศ หลั่งไหลร่วมทำบุญตักบาตรบนหลังช้างสุรินทร์ เนื่องในวันอาสาฬหบูชา และเข้าพรรษา ประจำปี 2568 บริเวณลานหน้าอนุสาวรีย์พระยาสุรินทร์ภักดีศรีณรงค์จางวาง อ.เมือง จ.สุรินทร์ มีพระสงฆ์ สามเณร 64 รูป นั่งรับบิณฑบาตบนหลังช้างแสนรู้ และช้างงายาว 64 เชือก โดยนำอัฒจันทร์เหล็กมาตั้งรอบอนุสาวรีย์ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนมายืนใส่บาตรข้าวสารอาหารแห้ง เพื่อความเป็นสิริมงคล ช้างที่มีพระสงฆ์นั่งบนหลังจะเดินเข้าไปรับบาตร. – สำนักข่าวไทย

บุกจับแอดมินแอปฯ ดัง นำเด็กไลฟ์แสวงหาประโยชน์

ร้อยเอ็ด 10 ก.ค.- มท.1 ลุยต่อ สั่งการชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง นำหมายศาลบุกจับแอดมินกลุ่มแอปฯ ดัง นำเด็กมาเปลือยไลฟ์ออนไลน์แสวงหาประโยชน์ พร้อมช่วย 2 เด็กสาวเหยื่อค้ามนุษย์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย สั่งการให้ กรมการปกครอง เปิดปฏิบัติการ “Discord disconnected” จับกุมหนุ่มนำเด็กสาวมาเปลือยไลฟ์สดออนไลน์หารายได้ โดยนายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดีกรมการปกครอง ร่วมกับนายชัชวาลย์ เบญจสิริวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดร้อยเอ็ด พล.ต.ต.ภูมิวิทย์ เวชกามา ผบก.ภ.จว.ร้อยเอ็ด นายพุทธภูมิ นาชัยเริ่ม นายอำเภอธวัชบุรี สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดร้อยเอ็ด นายเรืองลักษณ์ เรืองยังมี ผู้อำนวยการสำนักการสอบสวนและนิติการ และนายศักดิ์ชัย โรจนรัตน์ ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการบังคับใช้กฎหมายพนักงานฝ่ายปกครอง พ.ต.อ. ภาสกร หินเธาว์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรธวัชบุรี นำทีมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครองร่วมเข้าแสดงหมายค้นหมายจับของศาลจังหวัดร้อยเอ็ด จับกุมหนุ่ม นำเด็กมาเปลือยไลฟ์สดออนไลน์หารายได้ พร้อมตรวจค้นบ้านเพื่อหาพยานหลักฐานในพื้นที่อำเภอธวัชบุรี จังหวัดร้อยเอ็ด สืบเนื่องจากกรมการปกครอง […]

กรมอุตุฯ เตือน 6 จังหวัดรับมือฝนถล่ม-ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 10 ก.ค.- กรมอุตุฯ เตือน 6 จังหวัด บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร จันทบุรี และตราด รับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทย โดยเฉพาะในบริเวณจังหวัดบึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 11-13 ก.ค. ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เนื่องจากจะมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน […]