“ประเทศไทยต้องรอด Save Thailand” ชวนคิดฝ่าวิกฤติ

กรุงเทพฯ 30 ก.ย. – หลายฝ่ายร่วม นำ“ประเทศไทยต้องรอด Save Thailand” ชวนคิดฝ่าวิกฤติ


สำนักข่าวออนไลน์ไทยพับลิก้า จัดงานสัมมนาหัวข้อ “ประเทศไทยต้องรอด Save Thailand Restore.Reframe.Rise” ณ แกรนด์ เซนเตอร์พอยต์ ลุมพินี ดร.ศุภวุฒิ สายเชื้อ ประธานกรรมการสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยไม่ได้ขยายตัวมากนัก จีดีพีลดลงอย่างต่อเนื่อง ธุรกิจ SME เผชิญสถานการณ์ที่แย่กว่าช่วงโควิด-19 จากการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินที่ลดต่ำจาก 3 ล้านล้านบาท ในไตรมาส 3/2563 มาที่ 2.8 ล้าน ในปี 2568
 
โครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทยกำลังเปลี่ยน โดยสัดส่วนของการผลิตสินค้า อุตสาหกรรมต่อ GDP ลดลง แต่สัดส่วนของภาคบริการเพิ่มมากขึ้น ดังนั้นประเทศไทยควรต้องพึ่งพิงภาคบริการมากขึ้น และหาจุดแข็งใหม่ของภาคสินค้าอุตสาหกรรม เพราะเรากำลังพัฒนาประเทศไปสู่การให้บริการมากขึ้น หลายประเทศก็เป็นอย่างนี้หมด ยักษ์ใหญ่ที่สุดในสินค้าภาคอุตสาหกรรมคือ จีน ที่เร่งการผลิตผลิตสินค้าอุตสาหกรรมโดยเฉพาะสินค้าที่มีเทคโนโลยีสูง แต่จีนยังปิดจุดอ่อนของตัวเองไม่ได้ใน อุตสาหกรรมอาหาร ต้องนำเข้าเพิ่มขึ้นมาโดยตลอด

ประเทศไทยเราส่งออกอาหารไปจีน อยู่ในอันดับที่ 5 หรือ 6 ดังนั้น หากเราต้องการจะอยู่รอด ต้องปรับตัวไปสู่ภาคบริการ และภาคการผลิตอาหาร แปรรูปสินค้าเกษตร ภาครัฐต้องสร้างกฎระเบียบ และแก้กฎระเบียบบางอย่าง โดยเฉพาะการปลดล็อกการผูกขาด เพื่อปลดล็อกศักยภาพของประเทศและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เช่น การกำหนดราคาที่เหมาะสมเรื่องพลังงาน การพัฒนาโลจิสติกส์โดยการอนุญาตให้เอกชนเข้ามาพัฒนาใช้รางรถไฟได้ตลอดจนการใช้ประโยชน์จากที่ราชพัสดุให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
 
พลิกวิธีคิดจากรัฐเดินนำ เป็น ‘เอกชนคิด ภาครัฐเอื้อ’
ดร.รุ่ง มัลลิกะมาส รองผู้ว่าการด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ไทยยังเผชิญปัญหาและช่องโหว่หลายด้าน ทั้งจากแรงกดดันต่างประเทศ เช่น ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ มาตรการภาษีศุลกากร รวมถึงการแข่งขันด้านการผลิต ขณะเดียวกันปัจจัยภายในประเทศอย่างปัญหาสังคมผู้สูงอายุ หนี้ครัวเรือนสูง และข้อจำกัดด้านนโยบาย ล้วนเป็นแรงกดดันที่อาจทำให้ประเทศถูกปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือทางเศรษฐกิจ
ไทยยังมีจุดแข็งหลายด้าน เช่น โครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่เข้มแข็ง ระบบการเงินที่มั่นคง และภาคธุรกิจเอกชนที่ยืดหยุ่นและพร้อมปรับตัว แต่สิ่งเหล่านี้ยังไม่ถูกนำไปต่อยอดใช้ประโยชน์ได้เต็มศักยภาพ เช่น การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตของประชากรกว่า 90% และระบบพร้อมเพย์ (PromtPay) ที่เติบโตเฉลี่ยปีละ 26% แต่กลับยังไม่ถูกนำมาใช้สร้างความได้เปรียบเชิงเศรษฐกิจอย่างแท้จริง
 
ดังนั้น ดร.รุ่ง จึงเสนอ 3 แนวทางสำคัญเพื่อให้เศรษฐกิจไทยเดินหน้าอย่างมีคุณภาพ คือ (1) กำหนดทิศทางพัฒนาที่ชัดเจนและสอดคล้องกับทรัพยากรที่มี (2) สร้างกติกาที่เอื้อต่อความสำเร็จและโปร่งใส และ (3) เร่งความร่วมมือระหว่างรัฐ เอกชน และภาคการเงิน เพื่อให้การขับเคลื่อนเป็นไปอย่างรวดเร็วและยั่งยืน
 ประเทศไทยต้องไม่ยึดติดกับแนวคิดว่า ‘ภาครัฐคิด เอกชนทำ’ อีกต่อไป แต่ต้องเป็น ‘เอกชนคิด ภาครัฐเอื้อ’ โดยรัฐไม่ควรลงไปแข่งขันในสิ่งที่เอกชนทำได้ดีกว่า แต่ควรสร้างสภาพแวดล้อมและสนับสนุนอย่างเพียงพอ ขณะที่ภาคการเงินต้องกล้าจัดสรรสินเชื่อเพื่อเสริมศักยภาพเอกชน


Connect the Dots รัฐ-เอกชน เปิดพื้นที่ ผสานความร่วมมือ
นายผยง ศรีวณิช ประธานสมาคมธนาคารไทย และกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยหลายประเด็นถูกหยิบยกถกเถียงมานาน แต่สิ่งที่น่ากังวลคือปัญหาต่างๆ ยังคงเป็นเพียง “วาทกรรม” ที่ไม่ถูกนำไปสู่การปฏิบัติจริง เพื่อแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างและยกระดับขีดความสามารถของประเทศ ไทยมี ปัญหาแรงงานนอกระบบกว่า 53% ของกำลังแรงงานทั้งหมดที่เรียกร้องสวัสดิการจากรัฐโดยขาดความสมดุล ปัญหาภาษีที่นิติบุคคลอยู่ในระบบเพียง 28% รวมถึงหนี้นอกระบบซึ่งตัวเลขทางการอยู่ที่ 12% แต่ผลสำรวจพบสูงถึง 25% สะท้อนว่าเศรษฐกิจและการเงินไทยยังไม่ inclusive ขาดข้อมูลที่ครอบคลุมและเชื่อถือได้สำหรับการออกแบบนโยบายสาธารณะ

อีกทั้งแรงงานในระบบลดลงต่อเนื่อง ขณะที่แรงงานนอกระบบกลับเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ภาคอุตสาหกรรมแข่งขันได้ยาก ธุรกิจใหม่เกิดน้อยกว่าธุรกิจที่ปิดตัวลง ขณะที่สภาพคล่องกว่า 5 ล้านล้านบาทในระบบการเงินไม่สามารถไหลไปสู่การลงทุนภาคจริงได้ สวนทางกับเงินลงทุนไทยที่ไหลออกต่างประเทศมากกว่า 7 ล้านล้านบาท สะท้อนความเชื่อมั่นการลงทุนภายในประเทศที่ลดลง โจทย์ใหญ่คือการ connect the dots ทั้งด้านข้อมูล กฎกติกา และการประสานงานระหว่างหน่วยงานรัฐที่ยังแยกส่วน (fragmented) ทำให้การตอบสนองต่อปัญหาล่าช้าและไม่ตรงจุด ทั้งที่ทรัพยากรและข้อมูลมีอยู่แล้ว แม้รัฐบาลมีเวลา 4 เดือน และประกาศ Quick Big Win ทำได้จริงหรือไม่ อะไรคือ priority…เป็นตัวพิสูจน์ trust and confidence ว่าเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ ทุกภาคส่วนต้องรับผิดชอบ ไม่ว่าภาคเอกชน รัฐ การเงิน เอกชนไม่ต้องขอรัฐอย่างเดียว
 
นายผยง ได้ยกตัวอย่างแพลตฟอร์ม Reinvent Thailand ในฐานะเวทีการทำงานร่วมกัน (co-creation space) ที่ทุกภาคส่วนสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูล ข้อเท็จจริง และทางออกได้อย่างสร้างสรรค์ เพื่อต่อยอดสู่การเปลี่ยนแปลงที่แท้จริง โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับเศรษฐกิจไทยให้แข่งขันได้ ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความเชื่อมั่นใหม่ “Reinvent Thailand “ คือ ฟอรั่มการทำงานแบบ agile และทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม ให้เกิดการถกเถียงเชิงสาธารณะที่สร้างสรรค์ มากกว่าจะปล่อยให้คนสร้างวาทกรรมไปชักจูงระบบและสร้างความรู้ที่บิดเบือนให้สาธารณะ นำไปสู่พฤติกรรมสาธารณะที่ไม่สร้างคุณค่าทางเศรษฐกิจ
 
ปลดล็อกสกิล ‘AI’ ทางรอดแรงงานไทย 50 เด้ง
ดร.ณภัทร จาตุศรีพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามเมทริกซ์ คอนซัลติ้ง จำกัด กล่าวว่า อนาคตประเทศไทยจะรอดหรือไม่ ขึ้นอยู่กับการลงทุนกับสินค้าสาธารณะ (Public Goods) เช่น การศึกษา สาธารณสุข และโครงสร้างพื้นฐาน การยกระดับตลาดแรงงาน และการเข้าถึงเทคโนโลยี AI อย่างทั่วถึง ซึ่งจะให้ผลตอบแทนทางเศรษฐกิจและสังคมสูงถึง 50 เท่า  นับว่า ทางออกคือ ความกล้า กล้าละทิ้ง ความคิดว่าไทยไม่เก่งพอ ไม่เคยทำ สู้ชาติอื่นไม่ได้ คนไม่พอ ทุนไม่พอ โครงสร้างไม่ดีพอ ทุกคนรู้หมด แค่ให้โอกาสตัวเองลองทำอะไรใหม่ๆ เร่งลงทุนใน Public Goods อย่างมีกลยุทธ์ ไม่สำคัญว่าจะลงทุนโดยใคร เพราะผลตอบแทนที่เพิ่มขึ้น 50 เท่าเกินพอสำหรับทุกคน

นับว่าแรงงานไทยเผชิญวิกฤติซ้ำซ้อน ทั้งจำนวนประชากรลดลง และผลกระทบจาก AI ที่อาจทำให้งานกว่า 80% หายไปใน 5 ปีหากไม่มีมาตรการรองรับ ดังนั้น ภาครัฐและเอกชนต้องร่วมกันสร้างกลไกให้แรงงานเปลี่ยนผ่านไปสู่งานใหม่ แทนการคงงานเก่าแบบซอมบี้  ประเทศไทยต้องหาวิธีทำให้ประชาชนเข้าถึง AI ง่ายที่สุด เช่น การอุดหนุนผ่านคูปอง โดยไม่จำกัดเชื้อชาติของผู้พัฒนาเทคโนโลยี เนื่องจากเอสเอ็มอีไทย 99.5% ต้องการเครื่องมือ AI เพื่อยกระดับผลิตภาพและมีโอกาสเติบโตเป็น ยูนิคอร์นในอนาคต
 
 ภาคเกษตรชะงักงัน ต้องใช้ ‘เทคโนโลยี’ สร้างการเปลี่ยนแปลง
 
ดร.รัสรินทร์ ชินโชติธีรนันท์ CEO และผู้ร่วมก่อตั้งลิสเซินฟิลด์ (ListenField) กล่าวว่า ภาคเกษตรไทยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยเพียง 0.23% ระหว่างปี 2555–2565 ขณะที่ช่องว่างรายได้ระหว่างแรงงานเกษตรกับนอกภาคเกษตรห่างกันถึง 5 เท่า ส่วนงบวิจัยมีเพียง 0.3–0.4% ของงบรวม ขณะเดียวกัน KPI ในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติโดยสภาพัฒน์ ตั้งเป้าให้ GDP ภาคการเกษตรโต 4.5% ต่อปี และรายได้ครัวเรือนเกษตรเกิน 537,000 บาท/ปี แต่ตัวเลขดังกล่าวนับเป็น “เป้าหมายที่ทะเยอทะยานมาก” และจะไปไม่ถึงหากยังติดคอขวดด้านการปฏิบัติ (execution)
 
 ListenField จึงนำ ‘เทคโนโลยี’ เข้ามายกระดับภาคการเกษตรไทย ตัวอย่างเช่น โครงการที่ทำงานร่วมกับคูโบต้า พื่อวิเคราะห์ธาตุอาหารในดิน ช่วยให้เกิดการพัฒนาอย่างตรงจุด, โครงการร่วมกับ Unilever ภายใต้แนวทาง Regenerative Farming สามารถช่วยเพิ่มผลผลิตกว่า 70% ให้เกษตรกรกว่า 2,000 และมีผู้รับซื้อให้ราคาพรีเมียมเพื่อจูงใจให้ทำตามมาตรฐานความยั่งยืน, โครงการที่ร่วมกับ ADB โดยให้เกษตรกรจัดการแปลงสมุนไพรเพื่อสกัดน้ำมันหอมระเหย เชื่อมข้อมูลย้อนกลับถึงผู้ซื้อออร์แกนิก เพิ่มรายได้ ราว 5,000 บาทต่อกิโลกรัม.-515 สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]