สระบุรี
7 ส.ค.-เอ็กโก คุยร่วมทุนโรงไฟฟ้าใหม่ ต่างประเทศ มีดีลกำลังผลิตใหม่ ไม่ต่ำกว่ากำลังผลิตเดิมที่ขาย
“มาซินลอค” ประเทศฟิลิปปินส์ ส่วนจะปันผลพิเศษระหว่างกาลหรือไม่จับตาบอร์ด 17
ส.ค.นี้
นายวิฑูรย์ กุลเจริญวิรัตน์
อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน ประธานคณะกรรมการ บมจ.ผลิตไฟฟ้า (EGCO) กล่าวว่า บริษัทเชื่อมั่นว่า
กำลังผลิตไฟฟ้าของบริษัท จะเพิ่มขึ้น ในอัตราที่ไม่น้อยกว่า กำลังผลิตโรงไฟฟ้า มาซินลอค
ประเทศฟิลิปปินส์ที่จำหน่ายออกไป โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจา เพื่อสรุป เข้าซื้อกิจการ
(M&A) ธุรกิจไฟฟ้าในต่างประเทศ ซึ่งจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้
ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องอยู่แล้วทั้งการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน
และจากพลังงานเชื้อเพลิงหลัก
นอกจากนี้
ในวันที่ 17 ส.ค.นี้จะมีการประชุมคณะกรรมการบริษัทจะพิจารณาเรื่องการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลที่มาจากกำไรจากการดำเนินงานตามปกติ
ส่วนจะมีการจ่ายปันผลพิเศษจากกำไรที่ได้รับหลังจากที่ขายหุ้นใน บมจ.จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก
(EASTW) และ ขายหุ้นโรงไฟฟ้ามาซินลอค
ออกไปหรือไม่นั้น
ยังต้องพิจารณาอย่างรอบคอบเพราะบริษัทยังมีแผนการลงทุนต่อเนื่องด้วย
EGCO
มีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนร่วมลงทุนในโครงการมาซินลอค
แบ่งเป็น โรงไฟฟ้าหน่วยที่ 1 และ 2 ตามปริมาณเสนอขายรวม 308.70 เมกะวัตต์ ,ระบบแบตเตอรี่เก็บไฟฟ้า (Battery
Energy Storage) ขนาด
4.90 เมกะวัตต์ นอกจากนี้ โครงการมาซินลอค ยังอยู่ระหว่างก่อสร้างโรงไฟฟ้า
หน่วยที่ 3 กำลังการผลิต 147 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ ในไตรมาส 1/61 EGCO ขายหุ้นทั้งหมด 18.72% ใน EASTW คิดเป็นมูลค่ารวม 5.23 พันล้านบาท
ขณะเดียวกันยังได้ขายหุ้น 49% ในโรงไฟฟ้ามาซินลอค มูลค่า 850 ล้านเหรียญสหรัฐ
หรือราว 2.7 หมื่นล้านบาท ส่งผลให้ไตรมาส 1/61 มีกำไรสุทธิสูงถึง 2.02
หมื่นล้านบาท
สำหรับการผลิตของเอ็กโก ภายหลังการขายหุ้นโรงไฟฟ้ามาซินลอค ทำให้ ณ
สิ้นไตรมาส 1/61 มีกำลังการผลิตตามสัดส่วนร่วมทุน 4,804 เมกะวัตต์
โดยเป็นโครงการที่ COD แล้ว 4,260 เมกะวัตต์ จากโรงไฟฟ้า 26
แห่งใน 5 ประเทศ ได้แก่ ไทย, ลาว
,ฟิลิปปินส์ ,อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย และมีโรงไฟฟ้าที่อยู่ระหว่างพัฒนา ได้แก่
โรงไฟฟ้า “ไซยะบุรี” และ “น้ำเทิน 1” ในสปป.ลาว และโรงไฟฟ้า
“ซานบัวนาเวนทูรา” ประเทศฟิลิปปินส์ กำลังการผลิตตามสัดส่วนร่วมทุนรวม
544 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในปี 62 และปี 65-สำนักข่าวไทย