เอ็กโก เผยลดค่าไฟเป็นไปได้ หากแข่งขันนำเข้าLNG 

กรุงเทพฯ 28 ส.ค.-“เทพรัตน์” เอ็มดี เอ็กโก กรุ๊ป ว่าที่ผู้ว่าการ กฟผ. ย้ำนโยบายรัฐบาลใหม่ ลดค่าไฟฟ้า ทำได้หากเกิดการแข่งขันนำเข้า LNG มากขึ้น วอนปรับแผนพีดีพีใหม่ต้องปรับแผนสำรองไฟฟ้า  ต้องคำนึงถึงพลังงานพึ่งได้ควบคู่ส่งเสริมเชื้อเพลิงไฮรโดรเจน ส่วนครึ่งปีหลังมั่นใจได้กำลังผลิตใหม่ 1,000 MW ตามแผนและ  ปรับเป้าใหม่ ปักหมุด Net Zero ปี 2050 


 นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป กล่าวถึงนโยบายการลดค่าไฟฟ้าของรัฐบาลใหม่ว่า  ค่าไฟฟ้าขึ้นอยู่กับต้นทุนเชื้อเพลิงเป็นหลัก ซึ่งในขณะนี้เป็นเรื่องที่ดีที่ต้นทุนราคาก๊าซธรรมชาติ โดยเฉพาะ LNG ลดลง  และเมื่อรัฐบาลส่งเสริมการนำเข้าผ่าน ผู้นำเข้ารายใหม่ๆ ก็ให้เกิดการแข่งขัน ต้นทุนก็จะลดต่ำลง เป็นผลดีต่อค่าไฟ ซึ่งล่าสุด ผู้นำเข้ารายใหม่ๆ ได้มีการหารือร่วมกันว่า จะมีการนำเข้าร่วมกันเพื่อเป็นการบริหารต้นทุนทั้งค่าขนส่งและราคาก๊าซฯให้ต่ำลง  

ทั้งนี้ เมื่อเปลี่ยนแปลงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ก็คาดหวังว่าจะเร่งดำเนินการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าระยะยาว (พีดีพี ) ฉบับใหม่ ซึ่งก็ต้องคำนึงถึง ความมั่นคง,ต้นทุนราคาที่กระทบต่อค่าครองชีกให้ต่ำที่สุด รวมทั้งเรื่องสิ่งแวดล้อมเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งต้องทำ 3 สิ่งควบคู่กันไป โดยในส่วนการลดก๊าซเรือนกระจกนั้น การส่งเสริมพลังงานทดแทน เช่น ลม แสงอาทิตย์ ระบบแบตเตอรี่สำรองไฟฟ้า ก็ต้องพิจารณาว่าระบบเหล่านี้ ไม่สามารถพึ่งพาได้เต็มที่เหมือนพลังงานฟอสซิล โดยแสงอาทิตย์พึ่งพาได้ราวร้อยละ 20 ดังนั้น ระบบสำรองไฟฟ้าภาพรวมก็จะต้องเปลี่ยนแปลงไป จะดูเพียงสำรองไฟฟ้าที่ 15 % เหมือนในอดีตไม่ได้


นอกจากนี้ ในอนาคตการเปลี่ยนผ่านพลังงานมาสู่พลังงานทดแทน เชื้อเพลิงไฮโดรเจนจะมีบทบาท สำคัญ ก็ขอให้รัฐบาลพิจารณาสนับสนุนเป็นพิเศษ  เพราะต้นทุนยังสูง เพื่อให้ธุรกิจเกิดขึ้นได้ก่อน เช่นเดียวกับในอดีตที่ รัฐบาลส่งเสริมพลังงานแสงอาทิตย์ด้วย ระบบ ADDER และปรับมาเป็น FIT เช่นในปัจจุบัน 

 ส่วน ปัญหาผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่ทวีความรุนแรงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เอ็กโก กรุ๊ป ได้ปรับเป้าหมายใหม่ที่ท้าทายและเข้มข้นกว่าเดิม โดยขยับเป้าหมายการบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutral) ให้เร็วขึ้นกว่าเดิม 10 ปี เป็น 2040 และเพิ่มเป้าหมายใหม่ คือ การบรรลุการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2050 ดำเนินการทั้งไม่มีการลงทุนโรงไฟฟ้าถ่านหินเพิ่มเพิ่ม ลงทุนด้านไฟฟ้าพลังงานทดแทนและพลังงานใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ มีแผนงาน ลงทุนซัพพลายเชนไฮโดรเจน ในโรงไฟฟ้าฟอสซิล  ควบคู่แผนศึกษาดักจับคาร์บอน ในโรงไฟฟ้า BLCP ,ขนอม   ตลอดจนการผลิตกรีนไฮโดรเจนจากโรงไฟฟ้าโบโค ร็อค วินด์ฟาร์ม ของเอ็กโก กรุ๊ป ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ ออสเตรเลีย ซึ่งเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูงในการพัฒนาอุตสาหกรรมกรีนไฮโดรเจน เป็นต้น

เอ็กโก กรุ๊ป มุ่งมั่นแสวงหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าและธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่องอย่างไม่หยุดยั้ง คาดจนถึงสิ้นปีจะได้กำลังผลิตใหม่ตามเป้าหมาย 1,000 เมกะวัตต์ต่อปี จากที่ขณะนี้ได้มาแล้วกว่า 100 เมกะวัตต์ ซึ่งขณะนี้กำลังเจรจาใน2 โครงการในสหรัฐ รวมทั้งโครงการในอาเซียน 


ส่วนโครงการใน สปป.ลาว 3 โครงการ ทั้งไซยะบุรี,น้ำเทิน 1และน้ำเทิน 2 คาดกำลังผลิตจะใกล้เคียงกับปีที่แล้ว และรายได้เป็นเงินบาทและเงินดอลลาร์สหรัฐ จึงไม่ได้รับผลกระทบจากเงินกีบอ่อนค่า โดยส่วนที่กระทบคือ รายได้ของพนักงาน ในสปป.ลาวที่จะได้รับการจ่ายค่าจ้าง เงินเดือนเป็นเงินกีบ ในเรื่องนี้ทาง บริษัทก็มีแผนจะช่วยลดผลกระทบของพนักงานด้วย

นายเทพรัตน์ กล่าวว่า การลงทุนสำคัญที่ช่วยส่งเสริมให้เอ็กโก กรุ๊ป มุ่งสู่การบรรลุ Net Zero 2050 ได้ตามแผน คือการลงทุนในเอเพ็กซ์ ซึ่งเป็นผู้พัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียนขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกา โดยในปี 2023 เอเพ็กซ์มีโครงการที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว 2 โครงการ กำลังผลิตรวม 294 เมกะวัตต์ และโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง 5 โครงการ กำลังผลิตรวม 657 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทยอยแล้วเสร็จระหว่างปี 2023-2025 แบ่งเป็น โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ 2 โครงการ ในรัฐเท็กซัส โครงการพลังงานลม 1 โครงการ ในรัฐเมน และโครงการระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ 2 โครงการ ในรัฐเท็กซัส ในขณะเดียวกัน ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาอีกจำนวนมากถึง 242 โครงการ กำลังผลิตรวม 53,767 เมกะวัตต์

สำหรับผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2023 เอ็กโก กรุ๊ป มีกำไรสุทธิจำนวน 3,482 ล้านบาท เพิ่มขึ้น4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ภาพรวมผลประกอบการของเอ็กโก กรุ๊ป ในปี 2023 คาดว่าจะได้รับปัจจัยบวกจากการรู้รายได้แบบเต็มปีของโรงไฟฟ้าน้ำเทิน 1 ใน สปป.ลาว รวมถึงการรับรู้รายได้แบบเต็มปีจากโรงไฟฟ้าไรเซ็ก ในสหรัฐอเมริกา และโครงการโรงไฟฟ้าหยุนหลิน ในไต้หวัน ที่สามารถทยอยจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเมื่อติดตั้งเครื่องผลิตไฟฟ้าจากใบพัดกังหันแล้วเสร็จ โดยปัจจุบัน (ณ วันที่ 25 สิงหาคม 2023) สามารถติดตั้งเสากังหัน (Monopiles) แล้วเสร็จจำนวน 39 ต้น และติดตั้งเครื่องผลิตไฟฟ้าจากใบพัดกังหัน (Wind Turbine Generators) ที่สามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบแล้ว จำนวน 22 ต้น รวมทั้งโครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ(TPN) ที่คาดว่าจะเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ภายในไตรมาสที่ 3 ของปี 2023 เป็นต้นไป โดยโครงการนี้ก็จะได้ผลบวกจากการปิดดีลควบรวมกิจการของเอสโซ่และบางจากฯ ที่จะทำให้บางจากฯมาใช้บริการท่อ TPN  ได้ด้วยเช่นกัน.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

car blocked hydrant delaying Thai temple fire control in New York

เปิดภาพรถจอดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงในเหตุไฟไหม้วัดไทย

นิวยอร์ก 13 ก.พ. – หน่วยงานดับเพลิงในนครนิวยอร์กโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง เป็นเหตุให้เกิดความล่าช้าในการดับไฟไหม้วัดไทยในเขตบรองซ์ของนครนิวยอร์ก ที่เกิดขึ้นเมื่อเช้าวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเปิดเผยสาเหตุที่ทำให้เกิดไฟไหม้ นายโรเบิร์ต เอส. ทักเกอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานดับเพลิงนิวยอร์กหรือเอฟดีเอ็นวาย (FDNY) โพสต์ในแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) แสดงความเสียใจกับเหตุไฟไหม้ในเขตบรองซ์ และขอบคุณสภากาชาดและหน่วยงานฉุกเฉินที่ช่วยเหลือผู้ประสบภัย พร้อมกับโพสต์ภาพรถยนต์ที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิง โดยระบุว่า นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 วันที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงประสบปัญหาหัวจ่ายน้ำดับเพลิงถูกกีดขวาง และครั้งนี้เป็นหัวจ่ายน้ำดับเพลิงที่อยู่ตรงข้ามกับอาคารที่เกิดไฟไหม้ วินาทีที่มีค่าต้องสูญเปล่าเพราะยวดยานที่จอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงอย่างผิดกฎหมาย เรื่องนี้เป็นยิ่งกว่าการทำผิดกฎหมาย เพราะเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ด้านเอฟดีเอ็นวายโพสต์เอ็กซ์ว่า เหตุไฟไหม้วัดอุษาพุฒยาราม เมื่อราว 06.00 น. วานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ทวีความรุนแรงจากการเตือนภัยระดับ 2 เป็นระดับ 3 เจ้าหน้าที่มากกว่า 40 หน่วย รวม 150 นาย พยายามควบคุมไฟที่ไหม้ 2 อาคาร แต่น่าเสียใจที่มีผู้เสียชีวิต 2 คน มีรถยนต์คันหนึ่งจอดกีดขวางหัวจ่ายน้ำดับเพลิงซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุที่สุด และเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นหลายครั้งในช่วงไม่นานมานี้ เอฟดีเอ็นวายโพสต์ในเวลาต่อมาว่า เหตุไฟไหม้ดังกล่าวเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องทำความร้อนแบบพกพาสัมผัสกับวัสดุที่ติดไฟง่าย พร้อมกับย้ำว่า […]

ปลอดภัยแล้ว นร.ถูกเก๋งฝ่าไฟแดงพุ่งชนขณะข้ามทางม้าลาย

รถเก๋งฝ่าไฟแดงชนนักเรียนขณะข้ามทางม้าลายหน้าโรงเรียนดัง คนขับอ้างไม่ใช่คนพื้นที่ มัวมองดู GPS ส่วนน้องนักเรียนปลอดภัยแล้ว

ภูมิใจไทยวอล์กเอาต์

ประชุมร่วมรัฐสภา วุ่นตั้งแต่เริ่ม “ภท.” วอล์กเอาต์ยกพรรค

“ภูมิใจไทย” วอล์กเอาต์ยกพรรคตั้งแต่เริ่มถกแก้ รธน. “ไชยชนก” บอกขัดต่อคำวินิจฉัยศาล ด้าน “หมอเปรม” โร่เสนอญัตติด่วนขอให้ศาล รธน.ตีความก่อน ลั่น เป็นคนมีวุฒิภาวะ-ทำอะไรรอบคอบ บรรจงเขียนอย่างสุดยอดในชีวิต ทำ “ณัฐวุฒิ” โวยยังไม่เห็นเอกสาร สุดท้ายประธาน “วันนอร์” สั่งพักประชุม 15 นาที

ข่าวแนะนำ

ฆ่าอำพราง 3 ศพ พ่อแม่ลูก ยัดใส่รถกระบะ

สะเทือนขวัญ! ฆ่าอำพราง 3 ศพ พ่อแม่ลูก ยัดใส่รถกระบะทิ้งบ้านร้างริมถนน พื้นที่ อ.คลองขลุง จ.กำแพงเพชร ญาติเผยหายตัวไปตั้งแต่ 12 ม.ค.68

“ไทด์ เอกพันธ์” ให้ข้อมูล DSI คดีแตงโม มั่นใจจำได้ทุกบาดแผล

“ไทด์ เอกพันธ์” เข้าให้ข้อมูล DSI คดีแตงโม ยืนยันจำได้ทุกบาดแผล มั่นใจ รอยกรีดลึกยาวโคนขาขวาด้านในไม่ใช่สาเหตุจากใบพัดเรือ ขณะที่ศาลนัดฟังคำพิพากษา 23 พ.ค.นี้

สภาล่ม

สภาฯ ล่ม​ องค์ประชุมไม่ครบ วอล์กเอาต์ 2 รอบ

ล่ม​จนได้​ องค์ประชุมไม่ครบ​ หลัง​มีวอล์กเอาต์ 2 รอบ และมีมติไม่เลื่อนญัตติด่วน “หมอเปรม” ขอให้ส่งศาลตีความก่อนถกร่างแก้ไข รธน.