กรุงเทพฯ 10 ก.ย – อธิบดีกรมอุทยานฯ สั่งด่วนให้เจ้าหน้าที่ CITES เข้าตรวจสอบเหตุสิงโตสวนสัตว์แห่งหนึ่งรุมขย้ำคนเลี้ยงจนเสียชีวิต ย้ำให้ตรวจสอบทั้งความถูกต้องของการครอบครองและความเหมาะสมของส่วนจัดแสดง โดยให้ขยายผลตรวจสอบส่วนจัดแสดงเสือ ซึ่งเป็นสัตว์ดุร้ายขนาดใหญ่เพิ่มเติมด้วย ป้องกันเกิดเหตุสลดซ้ำ
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กล่าวว่า ได้สั่งการให้นายสดุดี พันธุ์ภักดี ผู้อำนวยการกองคุ้มครองพันธุ์สัตว์ป่าและพืชป่าตามอนุสัญญา (CITES) นำเจ้าหน้าที่รุดเข้าตรวจสอบเหตุสิงโต 3 ตัว ของสวนสัตว์แห่งหนึ่งรุมขย้ำเจ้าหน้าที่ที่ดูแล เบื้องต้นขอความร่วมมือควบคุมพื้นที่ส่วนจัดแสดงสัตว์โซนสวนสัตว์เปิด ที่เปิดให้บริการขึ้นรถให้อาหารสิงโตและเสือ โดยจะต้องตรวจสอบตั้งแต่การครอบครองสิงโต ซึ่งเป็นสัตว์ป่าควบคุม ชนิด ก ว่าถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ พื้นที่จัดแสดงมีความเหมาะสมและปลอดภัยเพียงพอหรือไม่
สำหรับสวนสัตว์แห่งนี้ขออนุญาตเปิดกิจกรรมสวนสัตว์ตามกฎหมาย โดยแจ้งครอบครองสิงโตหลายตัว แต่จะต้องตรวจสอบโดยละเอียดว่า แจ้งถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ เบื้องต้นยังไม่ชัดเจนว่า เหตุใดสิงโตจึงรุมทำร้ายคนเลี้ยงจนเสียชีวิต ทั้งนี้ ตรวจสอบรูปแบบการเลี้ยงด้วยว่า มีการใช้ความรุนแรงต่อสัตว์หรือไม่ ตลอดจนขั้นตอนปฏิบัติต้องรอบคอบ หรือมีจุดอ่อนและจุดหละหลวมด้านใด จนทำให้เกิดเหตุดังกล่าว
นอกจากนี้ยังมีการจัดแสดงเสือซึ่งต้องตรวจสอบในลักษณะเดียวกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุสลดซ้ำ ทั้งกับผู้ปฏิบัติงานและนักท่องเที่ยว
สำหรับสิงโต เป็นสัตว์ป่าควบคุมชนิด ก หมายถึง สัตว์สายพันธุ์ที่มีลักษณะนิสัยดุร้าย มีพฤติกรรมที่อาจสร้างความหวาดกลัว หรือเป็นอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือทรัพย์สินของมนุษย์ โดยกรมอุทยานฯ สั่งให้ผู้ครอบครองสิงโตทุกราย ไม่ว่าจะเป็นสวนสัตว์รัฐหรือเอกชน รวมถึงบุคคลต้องมาขึ้นทะเบียนครอบครอง โดยเมื่อปี 2567 มีผู้แจ้งการครอบครอง 37 ราย จำนวน 223 ตัว ในส่วนกลางในพื้นที่ กทม. แจ้งครอบครอง 4 ราย จำนวน 39 ตัว หากไม่มีการแจ้งครอบครองให้ถูกต้องตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2562 จะมีความผิดตามมาตรา 19 วรรค 1 มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ในการครอบครองก็มีข้อกำหนดว่า ต้องดูแลในสถานที่ที่แข็งแรงปลอดภัย กรณีที่จะเคลื่อนย้าย ต้องแจ้งต่อกรมอุทยานฯ หากเคลื่อนย้ายก่อนได้รับอนุญาต มีความผิดตามระเบียบกรมอุทยานฯ ว่าด้วยการแจ้งและการรับแจ้งและการครอบครองสัตว์ป่าควบคุมและซากสัตว์ป่าควบคุม 2565 จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
ล่าสุดได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่กอง CITES ซึ่งโทรศัพท์ตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่ประจำสวนสัตว์ฯ ได้รับข้อมูลว่า เหตุเกิดขึ้นเวลา 11.00 น. เจ้าหน้าที่ผู้ช่วยคนหนึ่งใช้รถเฝ้าสัตว์อยู่คันเดียว ขณะเกิดเหตุมีนักท่องเที่ยวเข้าชมปกติ ขณะนี้ได้จัดการโดยปิดพื้นที่แล้ว และนำสัตว์เข้ากรงทั้งหมด เจ้าหน้าที่อื่นๆ พยายามเข้าช่วยเหลือเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้าย แต่พบว่าเสียชีวิตแล้ว คลิปที่ปรากฏเป็นคลิปจากนักท่องเที่ยวที่บันทึกไว้ได้
ส่วนจำนวนสิงโตในการครอบครองของสวนสัตว์แห่งนี้ที่แจ้งต่อกรมอุทยานฯ ในปี 2567 มี 45 ตัว ล่าสุดแจ้งว่าเหลือ 32 ตัว ตายไป 13 ตัว โดยเจ้าหน้าที่กอง CITES กำลังเร่งเข้าตรวจสอบในประเด็นต่างๆ ทั้งหมด. -512 สำนักข่าวไทย