จ่อดึงคลินิกเวชกรรมใน กทม. เป็นหน่วยบริการ ‘รับส่งต่อทั่วไป’

กทม. 21 ส.ค.- สปสช. เตรียมเปิดรับคลินิกเวชกรรมเป็นหน่วยบริการรับส่งต่อทั่วไปในกองทุนบัตรทอง รองรับประชาชนในพื้นที่ กทม. กรณีเจ็บป่วยเล็กน้อยเข้าถึงบริการเพิ่มขึ้น-ลดภาระค่าใช้จ่าย พร้อมจ่ายค่าบริการแบบ Fee schedule คาดสัปดาห์หน้าเปิดรับสมัคร-เปิดบริการ 1 ต.ค. นี้


นพ.จเด็จ ธรรมธัชอารี เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) เปิดเผยว่า จากการประเมินพบว่าหน่วยบริการ (สถานพยาบาล) ที่จะรองรับประชาชนในบางพื้นที่ยังไม่เพียงพอ โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานคร (กทม.) สปสช. จึงมีนโยบายเพิ่มคลินิกเวชกรรมเข้ามาเป็นหน่วยบริการรับส่งต่อทั่วไปในกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) เข้ามารองรับประชาชนที่เกิดเจ็บป่วยเล็กน้อยในบริการแบบผู้ป่วยนอกโดยไม่ต้องใช้ใบส่งตัว

สำหรับคลินิกเวชกรรมในกลุ่มนี้อาจจะเป็นคลินิกที่ยังไม่เต็มประสิทธิภาพ เช่น เปิดให้บริการแค่ช่วงเย็นเท่านั้น เนื่องจากแพทย์ที่ให้บริการอาจจะติดงานที่โรงพยาบาลในช่วงกลางวัน หรือเป็นคลินิกที่ตรวจแล็บได้ไม่ครบ ซึ่งในอดีตที่ผ่านมาคลินิกเวชกรรมในลักษณะนี้ สปสช. ไม่ได้นำเข้ามาในระบบ เนื่องจากมีคุณสมบัติไม่ครบ เช่น ในคุณสมบัติระบุว่าต้องให้บริการวันละ 8 ชั่วโมง ฯลฯ ทำให้เสียโอกาส ฉะนั้นจึงคิดว่าจะเปิดให้คลินิกเวชกรรมเข้ามารองรับ เพื่อให้ความสะดวกแก่ประชาชนมากขึ้น


อย่างไรก็ตาม เท่าที่เคยตรวจสอบกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) พบว่ามีคลินิกเวชกรรมประมาณ 5,000 แห่ง ทั่ว กทม. เข้าใจว่าส่วนหนึ่งเป็นคลินิกเสริมความงามก็จะเหลือประมาณกว่า 2,000 แห่งที่เป็นคลินิกทั่วไป ขณะเดียวกันตอนนี้ก็มีคลินิกชุมชนอบอุ่นประมาณ 200 แห่ง ซึ่งตั้งเป้าว่าถ้าได้ประมาณ 500 แห่งก็น่าจะเข้ามาช่วยแบ่งเบากรณีที่มีผู้ป่วยที่เข้ามารับบริการใกล้บ้านได้ โดยพยายามจะดูการกระจายตัว หรือความหนาแน่นในบางพื้นที่

“เชื่อว่าคลินิกฯ ที่มีอยู่เพียงพอ เพียงแต่ว่าที่ผ่านมาคลินิกฯ อาจจะไม่สนใจ และในอีกส่วนหนึ่งกติกาไม่เอื้อให้เข้ามาในระบบ ซึ่งเราก็จะมีการปรับกติกาให้เอื้อมากขึ้น” นพ.จเด็จ กล่าว

นพ.จเด็จ กล่าวว่า สำหรับเกณฑ์ในการเข้าร่วมกับ สปสช.ก็ไม่ยาก หากคลินิกเวชกรรมได้ขึ้นทะเบียนกับ สบส.แล้ว ก็สามารถสมัครเข้ามาได้ เพราะคลิกนิกเวชกรรมที่ถูกกฎหมายนั้นมี พ.ร.บ.สถานพยาบาลรองรับอยู่แล้ว ส่วนเรื่องระบบการจ่ายนั้นจะเป็นการจ่ายค่าบริการแบบรายรายการ หรือ Fee schedule ซึ่งเป็นการจ่ายเมื่อเกิดบริการที่ในขณะนี้มีอยู่ประมาณ 4,000 รายการในระบบ โดย สปสช.ได้ปรับปรุงระบบการบันทึกและจ่ายเงินที่เป็นปัจจุบัน(Real time) ซึ่งในส่วนนี้จะมีโปรแกรมฟรีให้กับคลินิกด้วย รวมไปถึงมีระบบการพิสูจน์ตัวตน และมีระบบส่งข้อมูลรายการที่ให้บริการ ฉะนั้นการเบิกจะไม่เป็นอุปสรรคเหมือนในอดีต


อย่างไรก็ตาม การเปิดรับคลินิกเวชกรรมเข้ามาเป็นหน่วยบริการรับส่งต่อทั่วไปนั้น ตั้งใจให้เริ่มบริการได้ในวันที่ 1 ต.ค. 2565 เนื่องจากเป็นช่วงเริ่มต้นของปีงบประมาณใหม่ ซึ่งขณะนี้จะมีการเสนอรายละเอียดให้กับคณะอนุกรรมการหลักประกันสุขภาพระดับเขตพื้นที่ (อปสข.) กทม.และหลังจากนั้นจะเริ่มประกาศผ่านสื่อเพื่อให้มีหน่วยบริการเข้ามาเสริมกลไกดังกล่าว ตั้งเป้าว่าวันที่ 1 ต.ค. จะเริ่มเปิดตัว และคาดว่าสัปดาห์หน้าจะสามารถเปิดรับสมัครได้

ทั้งนี้ สิ่งสำคัญคือประชาชนในกรณีที่เจ็บป่วยเล็กน้อยจะได้รับความสะดวกในการเข้ารับบริการที่หน่วยบริการใกล้บ้านมากขึ้น และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนได้เพราะไม่ต้องเดินทางไกล ซึ่งตรงนี้นับว่าเป็นอีกหนึ่งรูปแบบในการยกระดับบริการปฐมภูมิใน กทม. นอกเหนือจากรูปแบบใหม่ๆ ฉะนั้นหน่วยบริการรับส่งต่อจะเป็นอีกหนึ่งส่วนที่เข้ามายกระดับบริการปฐมภูมิใน กทม. ซึ่งในอนาคตก็อาจะมีการขยายไปที่หัวเมืองใหญ่ๆ ต่อไป

“ถ้าท่านเป็นคลินิกฯ ที่ไม่ครบกติกาของการเป็นหน่วยบริการปฐมภูมิ หรือหน่วยบริการประจำ ท่านอาจจะเปิดตอนเย็นบ้างช่วงหลังจากปฏิบัติราชการแล้ว เราก็เชิญชวนให้คลินิกฯ ในลักษณะนี้เข้ามาเป็นหน่วยรับส่งต่อ เพื่อให้บริการกับพี่น้องประชาชนที่อาจจะอยู่ใกล้บ้าน หรือสะดวกเดินทางมาที่ท่าน และท่านก็สามารถมาเรียกเก็บค่าใช้จ่ายกับ สปสช. ได้ ซึ่งตอนนี้เราพัฒนาระบบการจ่ายอย่างรวดเร็วแล้ว เชื่อว่าถ้าท่านตกลงในราคาที่เราจะจ่ายในลักษณะ Fee schedule หรือการจ่ายตามรายการและราคาที่กำหนด ไม่เกิน 2-3 วันเราก็จ่ายเงินได้” นพ.จเด็จ กล่าว

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ สายด่วน สปสช. 1330 หรือช่องทางระบบออนไลน์ทั้งไลน์ สปสช. ไลน์ไอดี @nhso หรือคลิก https://lin.ee/zzn3pU6 และ Facebook : สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ https://www.facebook.com/NHSO.Thailand .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : ส่องทิศทางแห่งอำนาจ “รัฐบาลทรัมป์ 2.0”

รายงานพิเศษวันนี้ไปติดตามสิ่งที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัญญาหาเสียงเอาไว้ ที่จะทำให้พอเห็นทิศทางการครองอำนาจของเขา โดยมีหลายอย่างที่จะสร้างความสั่นสะเทือนอย่างมาก

พาชมเรือใบอิตาลีจอดเทียบท่าภูเก็ต

เมื่อ 2 วันก่อน สำนักข่าวไทยเก็บภาพของเรืออเมริโกเวส ปุชชี่ ขณะกำลังจะเข้าจอดเทียบท่าที่จังหวัดภูเก็ตให้ได้ชมไปแล้ว วันนี้คุณเพลินพิศ ชูเสน จะพาไปทำความรู้จักเรือลำนี้ให้มากขึ้นพร้อมกับพาไปเยี่ยมชมภายในตัวเรือ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊ก บช.ก. สอบปากคำ

“ทนายตั้ม” เครียดหนัก หลัง 3 บิ๊กสอบสวนกลาง สอบปากคำ นานกว่า 5 ชั่วโมง ขณะที่พนักงานสอบสวนเตรียมเข้าค้น “ษิทรา ลอว์ เฟิร์ม” เช้าพรุ่งนี้ หาหลักฐานเพิ่ม ก่อนฝากขังช่วงบ่าย ค้านประกันตัว

นายกฯ เผยผลสำเร็จร่วมประชุมเวทีอนุภูมิภาค GMS ACMECS

“แพทองธาร” นายกฯ เผยผลสำเร็จร่วมประชุมเวทีอนุภูมิภาค GMS ACMECS ขับเคลื่อนความร่วมมือสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต การพัฒนาคุณภาพชีวิต และความกินดีอยู่ดีของประชาชนในภูมิภาคอย่างไร้รอยต่อ