3 กองทุนสุขภาพ จับมือชวน รพ.เอกชน ร่วมบริการสิทธิบัตรทอง

กทม. 20 ก.พ.- 3 กองทุนสุขภาพ จับมือชวน รพ.เอกชน ร่วม “บริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค” ภายใต้สิทธิประโยชน์ “กองทุนบัตรทอง” เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้สิทธิแก่ผู้ประกันตนและข้าราชการ รวมถึงสิทธิบัตรทอง ระบุเป็นการให้บริการเพิ่มเติมที่เบิกจ่ายกับ สปสช. พร้อมย้ำชัด รายการเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลกับกรมบัญชีกลางและประกันสังคมยังเหมือนเดิม

เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2565 ที่ผ่านมา สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) จัดประชุมชี้แจงแนวทางการดำเนินงานจัดบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคสำหรับประชาชนไทยสิทธิข้าราชการและประกันสังคมแก่สถานพยาบาลเอกชนในโครงการประกันสังคมและที่เข้าร่วมโครงการเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยใน (Elective surgery hospital) กับกรมบัญชีกลาง ผ่านทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ มีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 280 คน ประกอบด้วยตัวแทนจากโรงพยาบาลเอกชนทั่วประเทศ ตัวแทนจากสมาคมโรงพยาบาลเอกชน ตัวแทนจากสำนักงานประกันสังคม กรมบัญชีกลาง และ สปสช.


นพ.จักรกริช โง้วศิริ รองเลขาธิการ สปสช. กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบายสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคให้กับคนไทยทุกคน และมอบให้ สปสช.ดำเนินการภายใต้กองทุนบัตรทอง นำมาสู่การบูรณาการร่วมกันของ 3 กองทุนสุขภาพ คือ กองทุนประกันสังคม สวัสดิการข้าราชการ และบัตรทอง เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคอย่างเท่าเทียม และไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนในการเบิกจ่ายของ 3 กองทุน

ในการนี้เพื่ออำนวยความสะดวกการเข้ารับบริการให้กับประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มผู้ประกันตนและข้าราชการ สปสช.ได้เชิญชวน โรงพยาบาลเอกชน สถานพยาบาลเอกชนโครงการประกันสังคมและสถานพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการเบิกจ่ายตรงค่ารักษาพยาบาลประเภทผู้ป่วยในกับกรมบัญชีกลางเข้าร่วมเป็น “หน่วยบริการรับส่งต่อเฉพาะด้านบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรคในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ” เพื่อให้บริการสร้างเสริมสุขภาพ ฯ เพิ่มเติมให้กับผู้ประกันตนและข้าราชการที่ดูแลอยู่ โดยเบิกจ่ายค่าบริการจาก สปสช.


ทั้งนี้ หน่วยบริการรับส่งต่อเฉพาะสร้างเสริมสุขภาพฯ เบื้องต้นจะให้บริการเฉพาะรายการที่เบิกจ่ายตามรายการที่กำหนด ได้แก่ บริการดูแลหญิงตั้งครรภ์ บริการตรวจคัดกรองภาวะพร่องฮอร์โมนไทรอยด์และโรคฟีนิลคีโตนูเรียในทารกแรกเกิด บริการแว่นตาสำหรับเด็กที่มีภาวะสายตาผิดปกติ บริการยุติการตั้งครรภ์ที่ปลอดภัย บริการคุมกำเนิดกึ่งถาวร และบริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก กรณีที่ตรวจคัดกรองหากมีความผิดปกติก็แนะนำให้เข้ารับบริการที่สถานพยาบาลหรือหน่วยบริการประจำตามสิทธิต่อไป

“เดิมที สปสช.จ่ายค่าบริการสร้างเสริมสุขภาพและป้องกันโรค แบบเหมาจ่ายรายหัว ทำให้ประชาชนต้องไปรับบริการได้เฉพาะที่หน่วยบริการบัตรทอง สปสช.จึงปรับการจ่ายเพื่อเปิดช่องให้สถานพยาบาลนอกระบบหลักประกันสุขภาพ ที่สนใจเข้าร่วมให้บริการสร้างเสริมสุขภาพฯ ซึ่งประชาชนสิทธิบัตรทองก็สามารถใช้บริการได้ด้วย และนำมาสู่การประชุมชี้แจงในวันนี้” รองเลขาธิการ สปสช. กล่าว

นายรชตะ อุ่นสุข ผู้อำนวยการกลุ่มงานกฎหมายด้านสวัสดิการรักษาพยาบาล กรมบัญชีกลาง กล่าวว่า สิทธิประโยชน์สร้างเสริมสุขภาพฯ คนไทยทุกคนมีสิทธิเข้าถึงบริการ สปสช.จึงหารือกับกรมบัญชีกลางเพื่อให้ข้าราชการและญาติสายตรงเข้าถึงบริการนี้ ซึ่งกรมบัญชีกลางมีสัญญากับโรงพยาบาลเอกชนรวม 200 แห่ง ที่ให้บริการผ่าตัดแบบไม่เร่งด่วน จึงตั้งโจทย์ว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้โรงพยาบาลเหล่านี้ร่วมให้บริการสร้างเสริมสุขภาพฯ กองทุนบัตรทองด้วย


อย่างไรก็ตามประเด็นแรกที่ต้องเน้นย้ำคือ การเบิกจ่ายค่ารักษาพยาบาลกับกรมบัญชีกลางทุกอย่างยังเหมือนเดิม เพียงแต่ รพ.ที่ร่วมให้บริการสร้างเสริมสุขภาพฯ กองทุนบัตรทองจะต้องทำข้อมูลการบริการสร้างเสริมสุขภาพฯ เพิ่มเติมเพื่อเบิกจ่ายกับ สปสช.เท่านั้น ตัวอย่างสิทธิการฝากครรภ์ ปกติคนท้องที่ฝากครรภ์กับโรงพยาบาลใดก็จะผ่าคลอดที่นั่นด้วย ซึ่งหากผู้มีสิทธิเข้าผ่าท้องคลอด รพ.ยังคงเบิกค่าบริการกับกรมบัญชีกลางเหมือนเดิม เพียงแต่ในส่วนบริการฝากครรภ์ที่เพิ่มมาใหม่ ให้ส่งข้อมูลเบิกค่าบริการกับ สปสช. โดยไม่เรียกเก็บเพิ่มกับผู้มีสิทธิอีก

“ผมย้ำว่าโครงการนี้เป็นความร่วมมือ สปสช. สปส. และกรมบัญชีกลาง ขอเชิญชวนให้โรงพยาบาลที่เป็นคู่สัญญากรมบัญชีกลาง เข้าร่วมให้บริการสร้างเสริมสุขภาพฯ กับ สปสช. เนื่องจากจะเป็นประโยชน์ต่อผู้รับบริการที่ท่านดูแลอยู่”

ด้าน นางยุวดี อัคนิวรรณ ผู้อำนวยการกลุ่มงานคุ้มครองสิทธิทางการแพทย์ สำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า ประกันสังคมเริ่มให้สิทธิประโยชน์ส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรค จำนวน 14 รายการเมื่อ 1 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา พร้อมขยายเปิดรับสถานพยาบาลมาร่วมให้บริการ ในการร่วมมือกับสปสช. ครั้งนี้ สปส.คงนำสิทธิประโยชน์สร้างเสริมสุขภาพฯ ของกองทุนบัตรทองมาทบทวนและจ่ายเฉพาะรายการที่ไม่ซ้ำซ้อนแทน ปัจจุบันมี รพ.เอกชน ในระบบประกันสังคม 89 แห่ง ในจำนวนนี้มี 39 แห่งที่ไม่ได้อยู่ในระบบของ สปสช.

ในกรณีฝากครรภ์ ผู้ประกันตนนอกจากได้รับค่าฝากครรภ์ 1,500 บาทแล้ว หากฝากครรภ์ที่โรงพยาบาลที่ร่วมให้บริการกับ สปสช. ก็จะได้รับบริการฝากครรภ์คุณภาพฟรีตามสิทธิบัตรทองเพิ่มเติม โดยโรงพยาบาลเบิกค่าบริการฝากครรภ์จากสปสช. ในส่วนค่าคลอดบุตร สปส.ยังดูแลในอัตรา 15,000 บาท ซึ่ง รพ. ยังเรียกเก็บค่าบริการกับผู้ประกันตนเช่นเดิม

“รพ.ประกันสังคมที่ร่วมให้บริการสร้างเสริมสุขภาพฯ กับ สปสช. อาจสร้างแรงจูงใจให้ผู้ประกันตนเลือกใช้สิทธิที่ รพ.ท่านเพิ่มเติม เป็นการร่วมดูแลผู้ประกันตนให้เข้าถึงสิทธิ มีสุขภาพที่ดี และลดค่ารักษาพยาบาล สปส.หวังเป็นอย่างยิ่งจะมี รพ.ที่ร่วมให้บริการกับ สปสช. เพิ่มเติม” นางยุวดี กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

ล่า “เสือปุ่น” หัวหน้าแก๊งปล้นเงินกว่า 3 ล้าน

กทม. 1 ก.ค. – ตำรวจยังคงไล่ล่าแก๊งปล้นเงินกลางห้างดังย่านลาดพร้าว ได้เงินไปกว่า 3.4 ล้านบาท ล่าสุดศาลอนุมัติหมายจับแล้ว พบเป็นคนดังโซเชียลสายคุก ฉายา “เสือปุ่น” มีประวัติคดีโชกโชน .-สำนักข่าวไทย

“เจนี่” ถือฤกษ์ดี ปลงผมบวชสามเณรี ญาติมิตรร่วมอนุโมทนา

สระบุรี 1 ก.ค. – “เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ์” วัย 44 ปี ถือฤกษ์งามยามดี เช้าวันนี้ (1 ก.ค.68) ปลงผมบวชสามเณรี ในโครงการบรรพชาสามเณรี รุ่นที่ 3 บริเวณปะรำพิธี ณ ศรีวรญาลัย จ.สระบุรี โดยมีครอบครัว ญาติสนิท ผู้หลักผู้ใหญ่ที่นับถือ และเพื่อนพ้องทั้งในและนอกวงการ ร่วมอนุโมทนา. – สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยศาล รธน. ยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติ

ทำเนียบ 1 ก.ค.-นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมชี้แจงเต็มที่ ยืนยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติและรักษาอธิปไตย ไม่มีเจตนาอยากได้อะไรเป็นของตัวเอง พร้อมขอโทษ หากวิธีการไม่ถูกใจใครหลายคน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัย กรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุนเซ็น และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ด้วยมติ 7:2 ว่า ขอน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลต่อจากนี้ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งระยะเวลานั้นไม่แน่ใจ แต่มีเวลาประมาณ 15 วันที่จะชี้แจง ตนจะทำให้เต็มที่ในการที่จะบอกความตั้งใจที่แท้จริงว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมาว่า ความตั้งใจและเจตนาจริงๆ เกิน 100% ว่าตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อรักษาไว้เพื่ออธิปไตยของเรา เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตของกองทัพและทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา ตนมั่นใจในสิ่งนี้มากๆ แต่วิธีการที่ตนเองทำ อาจจะมีทั้งถูกใจหรือไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ก็จะพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ ว่าเป็นความตั้งใจ เป็นความพยายามเกิน 100% ที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เจตนาไม่มีอยากได้อะไรของตัวเองเลย และคิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความวุ่นวายและ ทำอย่างไรที่จะไม่ต้องสู้รบกัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และตนก็คงรับไม่ได้หากพูดอะไรกับทางผู้นำและทำให้เกิดผลเสีย เกิดการทะเลาะหรือโกรธเคือง อันนั้นเป็นความตั้งใจจริงๆ ถ้าลองฟังดูจริงๆ ก็จะรู้ว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เพราะฉะนั้นนี่คือ […]