รัฐสภา 15 ส.ค.- สภาผ่านงบฯ กระทรวงศึกษาธิการ “สุรวาท” ฉะ สพฐ.ของบส่วนใหญ่ไปลงโรงเรียนคุณภาพ เอาใจโรงเรียนประจำอำเภอ “ด้านครูจวง” ฟ้องประชาชน “สพฐ.” หั่นงบปรับปรุงอาคารเรียนเด็กพิเศษ แทนลดงบโครงการซ้ำซ้อน
นายสุรวาท ทองบุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน อภิปรายมาตรา 24 กระทรวงศึกษาธิการ ว่า งบประมาณของ สำนักงานคณะกรรมการศึกษาขั้นพื้นฐาน(สพฐ.)ทั้งที่เป็นงบลงทุนและค่าดำเนินการ ส่วนใหญ่จะลงไปที่โรงเรียน 1 อำเภอ 1 โรงเรียนคุณภาพ มากกว่า 50% ขณะที่โครงการส่งเสริมการเรียนรู้ขั้นพื้นฐานทุกที่ทุกเวลา ซึ่งใช้งบประมาณ 1,854 ล้านบาท เป็นค่าเช่าอุปกรณ์สำหรับการเรียนการสอนของนักเรียน หรือแท็บเล็ต แต่ค่าเช่าอุปกรณ์สำหรับครู ตั้งไว้เพียง 150 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นจำนวนที่น้อยนิด และงบประมาณทั้งหมดนี้จะลงไปที่โรงเรียนคุณภาพและโรงเรียนมัธยมปลาย ดังนั้นถ้าตั้งงบประมาณอย่างนี้ การศึกษาของไทยจะตกต่ำที่สุดในรอบ 20 ปี และปีนี้จะมีการสอบ PISA สำหรับเด็กม.3 แต่แจกแท็บเล็ตให้กับนักเรียนม.ปลาย อีกทั้งงบประมาณลงไปที่ตัวอำเภอ แต่การสอบPISA ซุ่มสอบทุกโรงเรียน
“รับรองได้เลยว่าปีนี้การสอบของไทยต่ำสุดในรอบ 23 ปีถ้ายังไม่หยุดยั้งโครงการแบบนี้ ขณะที่โรงเรียนอื่นๆ ต้องการคอมพิวเตอร์สำหรับครู เพื่อใช้ร่วมกันกับนักเรียนทั้งห้อง ไม่ได้เรียกร้องอะไรเป็นการส่วนตัว มีตั้ง 30,000 กว่าโรงเรียน แต่กลับมาเอาอกเอาใจ ดูแลแค่โรงเรียนประจำอำเภอ ที่มีเพียงแค่ 1,800 กว่าโรงเรียน และปล่อยโรงเรียนอื่นๆทิ้งร้างไป” นายสุรวาท กล่าว
นายปารมี ไวจงเจริญ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน เสนอให้ตัดงบประมาณของ สพฐ.ในส่วนของโครงการส่งเสริมการศึกษาเท่าเทียมด้วยระบบดิจิทัลพัฒนาทักษะและเครดิตพอร์ตโพลิโอ ค่าจ้างเหมาบริการจัดหาสื่อการเรียนรู้ในรูปแบบดิจิทัลเพื่อการพัฒนาทุนมนุษย์ ซึ่ง อนุกมธ.ฯ ตัดงบจาก 109 ล้านบาท เหลือ 99 ล้านบาท ซึ่งตนมองว่าตัดงบน้อยไป เพราะสามารถปรับลดงบประมาณได้อีก หรือ ชะลอทั้งโครงการ เพราะเป็นโครงการซ้ำซ้อนกับงบประมาณปี 68 จนนักเรียนและครูไทยมีสื่อดิจิทัลมากเกินจำเป็น อีกทั้งสื่อดิจิทัลเพื่อพัฒนาทุนมนุษย์สามารถสืบหาได้จากอินเทอร์เน็ตทั่วไป
นายปารมี กล่าวต่อว่า ตนขอตัดลดงบรายโครงการ แต่ที่ประชุมอนุกมธ.ฯ ไม่ยอมรับ และให้สพฐ. ปรับแบบวงเงินรวม ทำให้ สพฐ.ปรับลดงบก่อสร้างอาคารโรงเรียน 14 โรงเรียนที่ผุผัง เสาไฟ สายไฟระเกะระกะ มีข่าวนักเรียนบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอาคารที่ผุพัง และตนขอฟ้องประชาชนด้วยว่า สพฐ. ลดงบปรับปรุงอาคารเรียนของเด็กที่บกพร่องทางการได้ยินและเด็กพิเศษที่เป็นกลุ่มเปราะบางและได้รับงบจากสพฐ. น้อยอยู่แล้ว
“ฝากถามประธานอนุกมธ.ฯ มีตัวเลขผิดปกติ ในมติ อนุกมธ. ให้ปรับลดโครงการเสริมสร้างคุณลักษณะของนักเรียน 3 แสนบาท แต่รายงานการปรับลดที่เสนอต่อสภาฯ พบว่า สพฐ. ปรับเพียง 2 หมื่นบาท” นายปารมี อภิปราย
ด้าน น.ส.กุลวลี นพอมรบดี สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะกรรมาธิการฯ ชี้แจงว่า โครงการปรับปรุงอาคารศูนย์การศึกษาพิเศษ 3 รายการ วงเงิน 12.7528 ล้านบาท ที่มีการสอบถามว่าทำไมสพฐ.ไปปรับลดในรายการนี้ ซึ่งตนได้สอบถามไปเหมือนกันว่าทางหน่วยงานได้ชี้แจงว่า ส่วนที่ปรับลดคือรูปแบบรายการและประมาณการไม่สอดคล้องกัน หากตัดงบปี 69 ไปเขาก็ไม่สามารถดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างได้ ตนจึงแจ้งทางหน่วยงานไปว่า ถ้าเป็นเหตุจำเป็นจริงๆ ก็ต้องไปดูเรื่องเอกสารให้พร้อม ไม่เช่นนั้นอาคารเหล่านี้ที่ต้องสร้างให้กับเด็กพิเศษจะเสียโอกาส ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ให้ไปของบเหลือจ่ายของกระทรวงหรืองบกลางก็ได้ เพราะเชื่อว่าทุกคนพร้อมที่ผลักดัน
จากนั้นที่ประชุมลงมติเห็นชอบมาตรา 24 ตามที่กรรมาธิการแก้ไข 253 เสียง ไม่เห็นชอบ 121 เสียง งดออกเสียง 26 เสียง ไม่ลงคะแนน 3 เสียง -สำนักข่าวไทย