ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – นายกฯ นำ ครม. แถลงผลประชุมนัดพิเศษ แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า 4 ด้าน เศรษฐกิจ-ความมั่นคง-ภัยพิบัติ-สังคม เข้มปราบยา-พนันออนไลน์ ย้ำรัฐบาลนี้ไม่กาสิโน ลั่นทำงานไม่มีวันหยุด อาจประชุม ครม. มากกว่าสัปดาห์ละครั้ง
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นำคณะรัฐมนตรีทั้ง 35 คน แถลงผลการประชุม ครม.นัดพิเศษ ว่า ตนและคณะรัฐมนตรีได้มีการประชุมนัดพิเศษเป็นครั้งแรก ซึ่งได้มีการรับทราบถึงวาระสำคัญ ดังนี้ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ได้พิจารณาร่างนโยบายของรัฐบาลที่จะทำการแถลงต่อรัฐสภา ซึ่งเรากำลังรอคำยืนยันจากประธานรัฐสภาอยู่ คาดว่าต้นสัปดาห์หน้า
นอกจากนี้ ที่ประชุมมีมติเห็นชอบนโยบายของรัฐบาล มีสาระสำคัญ คือ การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า 4 ด้าน ได้แก่ ปัญหาเศรษฐกิจ การลดรายจ่าย ลดค่าครองชีพให้กับประชาชน ผลักดันโครงการคนละครึ่ง ลดค่าเดินทาง ค่าขนส่ง และค่าพลังงาน เพื่อสนับสนุนให้ประชาชนมีค่าครองชีพ มีรายจ่ายลดลง นอกจากนั้น ในด้านพลังงาน จะสนับสนุนประชาชนได้ใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น สะดวกขึ้น และง่ายขึ้น
ส่วนปัญหาความมั่นคงพิพาทไทย-กัมพูชา เราจะใช้มาตรการทางการทหาร และทางการทูต ควบคู่กันไป เพื่อรักษาอธิปไตยของประเทศไทยและรักษาประโยชน์ของพี่น้องประชาชนชาวไทย
ขณะที่ปัญหาภัยพิบัติธรรมชาติ นอกจากจะต้องเร่งรัดทำระบบเตือนภัย ป้องกันภัย เราจะต้องปรับปรุงระบบมาตรการดูแลประชาชนให้รวดเร็ว ทันสถานการณ์ ซึ่งจะต้องแก้กฎระเบียบ หลักเกณฑ์ต่างๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ของรัฐดำเนินการช่วยเหลือประชาชนได้โดยสะดวก คล่องตัว และแก้ปัญหาได้รวดเร็ว ไม่ผิดกฎหมาย ไม่ผิดระเบียบ ป้องกันการรั่วไหล และป้องกันการทุจริตคอร์รัปชัน
ส่วนปัญหาภัยสังคม รัฐบาลจะปราบปรามอย่างจริงจัง เข้มงวด และเด็ดขาด กับขบวนการค้ายาเสพติด การพนันออนไลน์ สแกมเมอร์ เครือข่ายหลอกลวงประชาชนที่ทำให้เกิดการเสียหายกับประชาชน เป็นภัยทางเศรษฐกิจ เจ้าหน้าที่ของรัฐที่ละเว้นกับการปฏิบัติหน้าที่ ในเรื่องนี้จะต้องถูกดำเนินคดีอย่างร้ายแรง อาจจะถึงต้องออกจากราชการไว้ก่อน และดำเนินคดีทางอาญาทุกคดี รัฐบาลจะเอาจริง เพื่อแก้ปัญหาด้านภัยสังคมให้ผ่านพ้นไปให้ได้ รัฐบาลนี้มีนโยบายชัดเจนที่จะไม่สนับสนุนธุรกิจการพนัน ไม่มีเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์แบบมีกาสิโน และไม่มีการพนันออนไลน์ที่ถูกกฎหมาย
ทั้งนี้ แก้ปัญหาการค้าเกษตรตกต่ำ โดยเฉพาะราคาข้าว ราคามันสำปะหลัง และสินค้าการเกษตรหลายชนิด ซึ่งเราจะมีมาตรการช่วยเหลือเกษตรกร ลดต้นทุนการผลิต โดยเฉพาะปุ๋ย และจะป้องกันปราบปรามการลักลอบนำผลผลิตทางการเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามาในประเทศไทยโดยไม่ถูกกฎหมาย ทำให้สินค้าทางการเกษตรไม่สามารถปรับขึ้นมาสูงได้ และเราจะส่งเสริมให้มีการพัฒนาศักยภาพการผลิตภาคเกษตรให้เป็นเกษตรอัจฉริยะ
จะจัดทำระบบสาธารณสุขให้ประชาชนทุกกลุ่ม ทุกวัย ให้เข้าถึงได้อย่างทั่วถึงและสะดวกที่สุด และปฏิรูปกฎหมายต่างๆ เกี่ยวกับการศึกษา เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับประเทศไทย ในการที่จะรับมือกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา จะนำประเทศไทยเข้าสู่สังคมคาร์บอนต่ำ เพื่อให้เทียบเท่ากับเวทีโลก
ในวันนี้คณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบให้ตนทำหนังสือลงนามกราบเรียนประธานรัฐสภา เพื่อแถลงนโยบายต่อรัฐสภาเรียบร้อยแล้ว ซึ่งเราได้ขอความกรุณาจากประธานสภา ขอดำเนินการในช่วงวันที่ 28- 30 กันยายน แต่ขอให้ดำเนินการเป็นเหมือนกับรัฐบาลชุดอื่นๆ ใช้นโยบายและฟังคำอภิปรายจากสมาชิกทั้งหมด 2 วัน
คณะรัฐมนตรีได้กำหนดรูปแบบแนวทางการประชุมคณะรัฐมนตรี และกรอบเวลาในการนำเสนอโครงการต่างๆ พร้อมทั้งเอกสารประกอบการพิจารณาในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี โดยได้แจ้งให้ทุกหน่วยที่เกี่ยวข้อง ปรับเวลาการทำงานให้รวดเร็ว กระชับ ลดขั้นตอนที่ไม่จำเป็น และลดความซ้ำซ้อนให้ได้มากที่สุด ทั้งนี้ ต้องถูกต้องตามระเบียบของราชการ ถูกต้องตามกฎหมายทุกประการ เนื่องจากรัฐบาลมีข้อจำกัดด้านเวลา ทุกหน่วยจึงต้องปรับตัวให้เป็นไปตามกรอบเวลาการดำเนินงานของรัฐบาล เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และแก้ปัญหาให้ประชาชนได้เร็วที่สุด คณะรัฐมนตรีของตนทุกคนต้องพร้อมทำงานตลอดเวลา วันหยุดไม่มี สัปดาห์ละ 7 วัน ทำได้ โดยที่ไม่มีความละล้าละลัง ซึ่งจะเป็นการทำงานในมิติใหม่ของคณะรัฐมนตรีของประเทศไทย คณะรัฐมนตรีของพี่น้องประชาชน และการประชุมคณะรัฐมนตรีก็จะดำเนินขึ้นตามความจำเป็น ไม่จำเป็นต้องประชุมสัปดาห์ละหนึ่งครั้ง ไม่มีข้อจำกัดทางด้านเวลา เร่งผลักดันนโยบายต่างๆ เพื่อนำไปสู่พี่น้องประชาชน และเราอาจจะมีการประชุมคณะรัฐมนตรีมากกว่าสัปดาห์ละหนึ่งวัน เมื่อมีความจำเป็นเร่งด่วน เพราะปัญหาของประเทศรอไม่ได้ นี่คือการหารือแบบคร่าวๆ ในวันนี้
นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า พวกเราทุกคนได้รับพรอันประเสริฐจากฟากฟ้า และมีความปลื้มปีติ ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ได้รับพระราชทานกำลังใจจากองค์พระประมุขของชาติเรา ทุกคนมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง เต็มใจทุ่มเทบริหารราชการแผ่นดิน สนองพระมหากรุณาธิคุณ และตอบสนองพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคน นับจากวินาทีนี้เป็นต้นไป.-319-สำนักข่าวไทย