ถ้าไม่คุมเข้มยอดติดเชื้ออาจทะลุ 3 หมื่นต่อวัน

ทำเนียบรัฐบาล 19 ก.ค.-ศบค.เพิ่มพื้นที่คุมสูงสุดจาก 24 เป็น 53 จังหวัด งดออกนอกที่พักโดยไม่จำเป็นช่วงกลางวัน หลังอาจารย์สิ่งแวดล้อม มหิดลเตือน ถ้าไม่คุมเข้มยอดติดเชื้ออาจพุ่ง 3 หมื่นต่อวัน ขอประชาชนร่วมมือปฏิบัติตามข้อกำหนดฉบับ 28


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19 : ศบค.) แถลงว่า จากการประเมินสถานการณ์ นางนวลจันทร์ สิงห์คราญ อาจารย์คณะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลนำเสนอข้อมูลว่า หากไม่มีมาตรการใด ๆ ควบคุม อาจทำให้ยอดการติดเชื้อสูงสุดถึงวันละ 31,997 คนต่อวัน แต่หากควบคุมจะมียอดเฉลี่ย 9,018 – 12,605 คนต่อวัน เช่นจำนวนแต่ละวันในปัจจุบัน ดังนั้น เพื่อการควบคุมสูงสุด ศบค.จึงกำหนดพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศใหม่ โดยยกระดับพื้นที่สถานการณ์โควิด-19 พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด 13 จังหวัด ประกอบด้วย กรุงเทพมหานคร ฉะเชิงเทรา ชลบุรี นครปฐม นนทบุรี นราธิวาสปทุมธานี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา ยะลา สงขลา สมุทรปราการสมุทรสาคร

โฆษก ศบค. กล่าวว่า พื้นที่ควบคุมสูงสุดเพิ่มจาก 24 เป็น 53 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ กาญจนบุรี กาฬสินธุ์ กำแพงเพซร ขอนแก่น จันทบุรี ชัยนาท ชัยภูมิ เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง ตราด ตาก นครนายก นครราชสีมา นครศรีธรรมราช นครสวรรค์ บุรีรัมย์ ประจวบคีรีขันธ์ ปราจีนบุรี พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก เพชรบุรี เพชรบูรณ์ มหาสารคาม ยโสธร ร้อยเอ็ด ระนอง ระยอง ราชบุรี ลพบุรี ลำป่าง ลำพูน เลย ศรีสะเกษ สกลนคร สตูล สมุทรสงคราม สระแก้ว สระบุรี สิงห์บุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี สุรินทร์ หนองคาย หนองบัวลำภู อ่างทอง อุดรธานี อุทัยธานี อุตรดิตถ์ อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ส่วนพื้นที่ควบคุม 10 จังหวัด ชุมพร นครพนม น่าน บึงกาฬ พังงา แพร่ พะเยา มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน สุราษฎร์ธานี และพื้นที่เฝ้าระวังสูง 1 จังหวัด คือ ภูเก็ต


“ขอเน้นย้ำให้ประชาชนร่วมมือตามข้อกำหนดล่าสุด ฉบับที่ 28 คือพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด(สีแดงเข้ม) ในพื้นที่ภาคกลาง ซึ่งที่ประชุมศปก.ศบค.เช้านี้(19 ก.ค.) มีมติให้งดเดินทางออกนอกเคหสถานหรือที่พำนักโดยไม่จำเป็นในช่วงเวลากลางวัน ยกเว้นการเดินทางเพื่อการจัดหาเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต อาหาร ยาและเวชภัณฑ์ ไปพบแพทย์ การรักษาพยาบาล การรับวัคซีนป้องกันโรคหรือมีความจำเป็นเพื่อปฏิบัติงานหรือประกอบอาชีพที่ไม่สามารถปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งหรือ เวิร์คฟอร์มโฮมได้ ซึ่งฝ่ายความมั่นคงจะจัดชุดตรวจเข้มแข็งกระจายอยู่รอยต่อของแต่ละจังหวัด มีด่านตรวจทั้งเข้าและออก” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว

โฆษกศบค. กล่าวว่า มีแนวทางเข้มข้นขึ้น 3 แนวทาง คือ การแสดงหลักฐานการอนุญาตต่อเจ้าพนักงานในพื้นที่เป็นใบผ่านทางหรือผ่านแอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” ที่ด่านตรวจ ต้องลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ covid19.in.th ซึ่งจะได้คิวอาร์โค้ดเพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่ด่านตรวจตั้งแต่วันนี้ (19 ก.ค.) เป็นต้นไป ทั้งนี้ นอกจากบุคคล 6 กลุ่มที่จะได้รับการยกเว้น คือด้านการสาธารณสุข การขนส่งเพื่อประโยชน์ของประชาชน เช่น อาหาร ยาและเวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ อุปโภคบริโภค ผลผลิตทางการเกษตร น้ำมันเชื้อเพลิง ไปรษณีย์และพัสดุ สิ่งพิมพ์ เพื่อการส่งออกและนำเข้า การขนส่งหรือขนย้ายประชาชน การให้บริการอำนวยประโยชน์เพื่อความสะดวกแก่ประชาชน การประกอบอาชีพที่จำเป็น กรณีจำเป็นอื่น ๆ ที่ได้รับอนุญาตเป็นการเฉพาะของเจ้าหน้าที่

“อาจทำให้ประชาชนในพื้นที่ 13 จังหวัด มีความยุ่งยากในการเดินทาง เพราะถือว่าเป็นบุคคลกลุ่มเสี่ยง ส่วนบุคคลนอกเขตพื้นที่จะเดินทางเข้ามาสามารถทำได้ แต่ต้องมีความจำเป็นเท่านั้น ห้ามบุคคลใดในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดออกนอกเคหสถานระหว่างเวลา 21.00 น. ถึง 04.00 น. ของวันรุ่งขึ้นต่อเนื่อง เป็นระยะเวลาอย่างน้อย 14 วัน” นพ.ทวีศิลป์ กล่าว


โฆษก ศบค. กล่าวว่า สำหรับการขนส่งสาธารณะ ให้กระทรวงคมนาคม กทม. จังหวัดหรือหน่วยงานที่รับผิดชอบ กำกับดูแลการขนส่งและให้บริการสาธารณะทุกประเภทในเขตพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด และการขนส่งสาธารณะทุกประเภทระหว่างจังหวัดทั่วราชอาณาจักร โดยให้จำกัดจำนวนผู้โดยสารไม่เกินร้อยละ 50 ของความจุผู้โดยสาร สำหรับยานพาหนะแต่ละประเภท ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 21 กรกฎาคมเป็นต้นไป

นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนการจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มให้จำหน่ายได้ถึงเวลา 20.00 น. โดยห้ามบริโภคในร้าน ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า community mall หรือ สถานประกอบการอื่น ให้เปิดบริการได้เฉพาะ supermarket และแผนกยาและเวชภัณฑ์เท่านั้น พื้นที่ให้บริการฉีดวัคซีน โรงแรมงดการจัดประชุมสัมมนาหรือจัดเลี้ยง ส่วนร้านสะดวกซื้อ ตลาดสดให้ปิดบริการตั้งแต่เวลา 20.00 น. ถึง 04.00 น.ของวันรุ่งขึ้น แต่หากพบการติดเชื้อสูงขึ้น ให้จังหวัดสามารถพิจารณาปิดได้ ส่วนโรงเรียน สถาบันการศึกษาฝึกอบรมและสถานศึกษาต่าง ๆ ยังไม่ให้เปิดบริการ

“ขณะที่สถานประกอบการนอกห้างสรรพสินค้า ได้แก่ โรงพยาบาล สถานพยาบาล คลินิกรักษาโรค ร้านขายยา โรงงาน ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจการเงิน ธนาคาร ตู้ ATM ธุรกิจสื่อสารคมนาคม ร้านจำหน่ายอาหาร ไปรษณีย์และพัสดุภัณฑ์ ร้านจำหน่ายอาหารสัตว์ ร้านขายยา ร้านจำหน่ายเครื่องมือช่างและอุปกรณ์ก่อสร้าง ร้านจำหน่ายสินค้าเบ็ดเตล็ดยังให้เปิดบริการ แต่ ทั้งนี้ ให้อำนาจแต่ละจังหวัดประเมินสถานการณ์และสามารถสั่งปิดได้ หากพบว่าสถานที่นั้น ๆ เป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อ” โฆษก ศบค. กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“ภูมิธรรม” เผย “สมเด็จพระสังฆราช” รับสั่งสังคายนากฎหมายสงฆ์

วัดราชบพิธฯ 17 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เผย “สมเด็จพระสังฆราช” รับสั่งสังคายนากฎหมายสงฆ์ เพิ่มความเข้มกฎหมายเก่า ชี้ปัญหาที่เกิดขึ้นเป็นส่วนน้อยทำพระพุทธศาสนาเสื่อม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเข้าเฝ้าถวายเครื่องสักการะเนื่องในเทศกาลเข้าพรรษา ประจำปี 2568 แด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก และสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ณ วัดราชบพิธสถิต ว่า สมเด็จพระสังฆราชทรงประทานพรให้เรามุ่งมั่นทำงานอย่างเต็มที่ ท่านก็ต้องการความร่วมมือกันของทุกฝ่าย และประเด็นที่สำคัญคือ การไว้ซึ่งพระพุทธศาสนา ท่านบอกว่า ให้จัดการได้เต็มที่ หากผิดปาราชิกก็ต้องทำไปตามวินัยที่มีอยู่ และขณะนี้มีการพูดคุยกันว่า ฝ่ายพลเรือน พยายามที่จะขออนุญาตออกกฎระเบียบ ซึ่งท่านก็เห็นพ้องต้องกันกับสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ ว่าอยากให้นำกฎหมายเก่ามาดู และเพิ่มความเข้มงวด หากจะเขียนอะไรลงไปก็ให้เต็มที่ อย่าให้พระพุทธศาสนามีความเสื่อม และเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องเฉพาะจุด โซเชียลพูดถึงไกลไป ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องเคร่งครัด และหากมีการแก้กฎหมายแล้วให้หารือที่มหาเถรสมาคม แต่ถือว่าพระองค์ท่านให้เป็นหลักแล้วว่าให้ดำเนินการให้เข้มงวด ส่วนที่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ออกมาระบุว่า เตรียมเปิดคดีใหม่มีพระในระดับชั้นสมเด็จเข้าไปเกี่ยวข้องแต่ไม่เกี่ยวกับคดีสีกากอล์ฟ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงาน แต่ได้ฟังจากสื่อ คิดว่าตอนนี้ได้คุยกับพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง […]

พบอีก พระชั้นผู้ใหญ่ วิดีโอคอลบอกรัก “สีกากอล์ฟ”

กทม. 17 ก.ค.-พบอีก พระชั้นผู้ใหญ่ ระดับเจ้าอาวาส ใน จ.พิจิตร วิดีโอคอลบอกรัก “สีกากอล์ฟ” ด้านตำรวจจ่อลุยตรวจค้นวัด รวมถึงสถานศึกษาสงฆ์หลายแห่ง เพื่อตรวจสอบเส้นเงิน เวลา 9.30 น. รออีก 1 รูป พระชั้นผู้ใหญ่ ระดับเจ้าอาวาส Video Call บอกรัก สีกากอล์ฟ ในลักษณะว่าเธอเป็นคนแรก และเป็นคนเดียว รักมาก ซึ่งจัดการตรวจสอบพบว่า พระรูปดังกล่าว เป็นเจ้าอาวาสวัดแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดพิจิตร และมีความสัมพันธ์ในลักษณะฟิลแฟนแบบนี้มานานแล้ว และเป็นคนส่งเงินค่าเช่าบ้านให้สีกากอล์ฟ แทบทุกเดือน สำหรับความคืบหน้ากรณี “สีกากอล์ฟ” มีสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับพระชั้นผู้ใหญ่ กว่า 20 รูป ในวันนี้มีรายงานว่า ตำรวจ ปปป. พร้อมด้วยตำรวจในสังกัดกองบัญชาการตำรวจสอบกลาง จะลุยตรวจค้นวัดรวมถึงสถานศึกษาสงฆ์หลายแห่ง เพื่อตรวจสอบเส้นเงิน รวมถึงหาพยานหลักฐานเชื่อมโยง อดีตผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดประยูรวงศาวาส ทุจริตเงินวัดไปให้สีกากอล์ฟ โดยการตรวจค้น จะเกิดขึ้นหลังจากการประชุมตั้งศูนย์ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา และส่งเสริมพระธรรมวินัย ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เวลา 13.00 น. […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ-กลาง-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 17 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา และน่าน ขอให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมิวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำปาง พะเยา และน่าน ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบน และประเทศลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า […]

มทภ.2 เผยกำลังพลเหยียบกับระเบิดขณะลาดตระเวน เจ็บ 3

อุบลราชธานี 17 ก.ค. – แม่ทัพภาค 2 เผยกำลังพลเหยียบกับระเบิด ขณะออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต ไปยังเนิน 481 ชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี บาดเจ็บ 3 นาย อาการปลอดภัย ชี้เป็นระเบิดตกค้างในพื้นที่สู้รบเดิม พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ระบุว่า ชุดลาดตระเวนกองร้อยทหารพรานที่ 2302 (ชุด ลว. ร้อย ทพ.2302 ) (ดุสิต) ได้จัดกำลังพลจำนวน 14 นาย ประกอบด้วย ทพ. 2 นาย ชุด RDF 6 นาย ทหารช่าง 6 นาย ออกลาดตระเวนจากฐานปฏิบัติการมรกต ไปยังเนิน 481 ชายแดนช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี กำลังพลชุดลาดตระเวนได้ประสบเหตุเหยียบกับระเบิด บริเวณพิกัด WA 220 […]