กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – รัฐบาลเดินหน้าตั้งศูนย์ OSS ช่วยเอกชนไทย รับมือมาตรการภาษีสหรัฐ จุดเดียวครบทุกบริการด้านการค้า ให้คำปรึกษาภาษี–ขยายตลาด ช่วยลดต้นทุนส่งออก
นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยกระทรวงพาณิชย์ เปิดให้บริการศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ (MOC One Stop Service : OSS) @Ratchada ณ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ถนนรัชดาภิเษก เพื่อขับเคลื่อนนโยบาย “พาณิชย์พึ่งได้” ให้เป็นที่พึ่งของผู้ประกอบการไทยในทุกระดับ ตั้งแต่ผู้ประกอบการรายย่อย SMEs จนถึงขนาดใหญ่
สำหรับศูนย์ OSS เป็นหนึ่งในมาตรการเชิงรุกของรัฐบาลในการรับมือกับสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศ โดยเฉพาะมาตรการภาษีนำเข้าสหรัฐอเมริกา (Reciprocal Tariff) 19% กับสินค้านำเข้าจากหลายประเทศ รวมถึงสินค้าหลักบางประเภทของไทย ซึ่งอาจกระทบความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยโดยตรง ซึ่งศูนย์ OSS ถูกออกแบบให้เป็นจุดช่วยเหลือผู้ประกอบการครบวงจรตั้งแต่การให้คำปรึกษาภาษี การเยียวยา การขอข้อมูล การลดต้นทุนธุรกิจ ไปจนถึงการเพิ่มโอกาสทางการค้าในตลาดโลก เพื่อให้สามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็วและทันต่อสถานการณ์
ปัจจุบันศูนย์บริการแบบเบ็ดเสร็จ มี 12 หน่วยงานร่วมให้บริการในศูนย์ฯ ประกอบด้วย 8 หน่วยงานในสังกัดกระทรวงพาณิชย์ ได้แก่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กรมการค้าต่างประเทศ (DFT) กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ (DTN) กรมพัฒนาธุรกิจการค้า (DBD) กรมทรัพย์สินทางปัญญา (DIP) กรมการค้าภายใน (DIT) สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (TPSO) และสถาบันระหว่างประเทศเพื่อการค้าและการพัฒนา (ITD) พร้อมด้วย 4 หน่วยงานภายนอก ได้แก่ หอการค้าไทย สำนักงานคณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย กรมศุลกากร และ EXIM Bank และยังมีแผนเชิญหน่วยงานเพิ่มเติม เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สภาอุตสาหกรรม สภาหอการค้า และสมาคม SMEs เพื่อให้บริการครอบคลุมยิ่งขึ้น
“การจัดตั้งศูนย์ OSS เป็นเพียงหนึ่งในหลายมาตรการของรัฐบาล เพื่อรองรับผลกระทบจากมาตรการภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ อัตรา 19% โดยรัฐบาลได้เตรียมแนวทางสนับสนุนผู้ประกอบการทุกมิติทั้งเชิงรุกและเชิงรับ เพื่อยืนเคียงข้างผู้ประกอบการไทย ให้สามารถปรับตัวและรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก จึงอยากให้ผู้ประกอบการ Walk-in มาปรึกษาได้ทันที มีเจ้าหน้าที่ประจำทุกวัน พร้อมเปิดบริการวันเสาร์–อาทิตย์ เพื่ออำนวยความสะดวกสูงสุด ปัจจุบันมี 2 ช่องทางให้บริการ ได้แก่ Walk-in รับบริการหน้าเคาน์เตอร์ และโทรศัพท์สายด่วนส่งออก 1169 หรือ 02-513-1909” นายอนุกูล กล่าว.-515 -สำนักข่าวไทย