สธ.วอนเห็นใจหมอดีมีเยอะ เตรียมขยายกรอบอัตรากำลังเพิ่ม

กรุงเทพฯ 5 พ.ย. – หลังจากวานนี้ (4 พ.ย.65) ทางโรงพยาบาลเชียงแสน ได้แถลงข่าวขอโทษต่อเหตุการณ์คลิปหมอว่าญาติคนไข้โง่ และสั่งพักงานหมอเป็นเวลา 7 วันนั้น ล่าสุด ก.สาธารณสุข เตรียมขออัตรากำลังเพิ่ม เพื่อบรรเทาภาระงานที่ล้นมือแพทย์ แต่ขณะเดียวกันก็วอนคนไข้เห็นใจ เหตุกระทบกระทั่งระหว่างหมอกับคนไข้ เป็นเรื่องที่พบเห็นประจำ แต่ด้วยโลกออนไลน์ ทำให้เหตุการณ์นี้พบเห็นบ่อยขึ้น หมอดียังมีอีกเยอะ


นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุข ได้รับทราบถึงปัญหาเรื่องการกระทบกระทั่งระหว่างหมอกับคนไข้ จากกรณีเคสโรงพยาบาลเชียงแสน จึงเตรียมหารือขยายกรอบอัตรากำลังบุคลากรเพิ่มอีก โดยเป็นกรอบระยะเวลา 5 ปี สำรวจอัตรากำลังเป็นรายพื้นที่ ตั้งแต่รายภาค ที่มีจำนวนประชากรมาก อย่างภาคเหนือและภาคอีสาน และลงไปถึงระดับอำเภอ เพื่อไม่ให้เกิดการกระจุกตัวของอัตรากำลัง หลังจากที่ผ่านมาเคยขอกรอบอัตรากำลังไป ก็ได้รับการอนุมัติถึง 90%

อย่างไรก็ตาม ปัญหาระหว่างหมอกับคนไข้ ไม่ใช่เรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้น เพียงแต่ปัจจุบันมีสื่อโซเชียลออนไลน์ หากมองในแง่ดีก็ถือเป็นการตรวจสอบ แต่ก็ต้องมองว่า ในการถ่ายภาพเหล่านี้ ปกติในการทำงานห้ามมีการถ่ายภาพ ไม่ว่าจะเป็นหมอหรือคนไข้ หากต่างคนต่างถ่าย ต่างคนต่างยั่วยุ ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ยิ่งจะทำให้การทำงานระหว่างหมอกับคนไข้ ยากมากขึ้น ทั้งที่ความจริงแล้ว ความสัมพันธ์ระหว่างหมอกับคนไข้เป็นไปในลักษณะแบบพึ่งพากัน เหมือนไข่กับไก่ ก็อยากให้ต่างคนต่างถ้อยทีถ้อยอาศัย เหมือนเช่นในอดีต และอยากชี้แจงว่า หมอดียังมีอีกเยอะ เพราะในจำนวนการตรวจรักษานับล้านครั้ง ยังมีหมอดีอีกมาก


ขณะที่เพจโรงพยาบาลเชียงแสน ปรากฏเหตุผู้ป่วยและญาติคนไข้กระหน่ำโทรศัพท์ไปยังโรงพยาบาล เพื่อสอบถามประวัติหมอคนดังกล่าว ทำให้โรงพยาบาลต้องขึ้นข้อความขอสงวนเบอร์โรงพยาบาลไว้ให้กับผู้ป่วยเท่านั้น โดย นพ.สุขชัย เธียรเศวตตระกุล ผอ.โรงพยาบาลเชียงแสน จ.เชียงราย กล่าวว่า หลังจากมีการกระทบกระทั่งระหว่างหมอกับคนไข้ และได้มีการพักงานหมอคนดังกล่าวไปแล้ว 7 วัน วันนี้ (5 พ.ย.65) ตลอดทั้งวันมีคนโทรศัพท์มาสอบถามข้อมูลหมอคนดังกล่าว และต่อว่าโรงพยาบาล ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้แต่รับฟังและทำความเข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนบุคคล และได้ชี้แจงกับคนไข้ รวมถึงญาติที่โทรศัพท์มาบางส่วน แต่อย่างไรก็ตาม ต้องขอให้เปิดพื้นที่และสงวนการโทรไว้เฉพาะผู้ป่วยฉุกเฉิน สำหรับหมอคนดังกล่าว ขณะนี้นอกจากพักงาน 7 วัน ยังขอลาพักร้อนต่ออีก 2-3 สัปดาห์. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”