‘เนทันยาฮู’- ‘ทรัมป์’ ดูเหมือนจะยุติการเจรจากับฮามาส

เยรูซาเลม/วอชิงตัน/ไคโร 26 ก.ค. – นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลและประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐดูเหมือนจะยุติการเจรจาหยุดยิงในฉนวนกาซากับกลุ่มฮามาสในวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยทั้งอิสราเอลและสหรัฐกล่าวว่า เป็นที่ชัดเจนแล้วว่ากลุ่มติดอาวุธชาวปาเลสไตน์ไม่ต้องการข้อตกลงหยุดยิง นายเนทันยาฮูกล่าวว่า ขณะนี้อิสราเอลกำลังพิจารณา “ทางเลือกอื่น” เพื่อบรรลุเป้าหมายในการนำตัวประกันกลับจากกาซา และยุติการปกครองของฮามาสในดินแดนดังกล่าว ซึ่งขณะนี้กำลังเผชิญกับการขาดแคลนอาหารอย่างกว้างขวางและประชากรส่วนใหญ่ไร้ที่อยู่อาศัยท่ามกลางความเสียหายอย่างรุนแรง นายทรัมป์กล่าวว่าเขาเชื่อว่าผู้นำฮามาสจะถูกตามล่าตัว โดยเขาบอกกับนักข่าวว่าฮามาสไม่ต้องการทำข้อตกลงจริงๆ และเขขาคิดว่าพวกเขาอยากจะเสียชีวิต และมันเป็นเรื่องที่แย่มาก และตอนนี้จุดที่จะต้องทำงานให้เสร็จได้แล้ว คำกล่าวของผู้นำทั้งสองดูเหมือนจะแสดงให้เห็นว่า ในช่วงเวลานี้มีโอกาสน้อยสำหรับการกลับมาเจรจาเพื่อหยุดการสู้รบ ในขณะที่ความกังวลระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นเกี่ยวกับการขาดแคลนอาหารที่สถานการณ์ย้ำแย่ลงในกาซาที่เป็นผลมาจากสงคราม อิสราเอลและสหรัฐได้ถอนคณะผู้แทนออกจากการเจรจาหยุดยิงในกาตาร์เมื่อวันพฤหัสบดี หลังจากที่ฮามาสยื่นข้อเสนอหยุดยิง แหล่งข่าวระบุเมื่อวันพฤหัสบดีว่าการถอนตัวของอิสราเอลมีขึ้นเพื่อการปรึกษาหารือเท่านั้น และไม่จำเป็นต้องหมายความว่าการเจรจาถึงจุดวิกฤต แต่คำกล่าวของนายเนทันยาฮูบ่งชี้ว่าจุดยืนของอิสราเอลแข็งกร้าวขึ้นในชั่วข้ามคืน คนกลางในการเจรจาอย่างกาตาร์และอียิปต์กล่าวว่ามีความคืบหน้าบางอย่างในการเจรจารอบล่าสุด พวกเขากล่าวว่าการระงับการเจรจาเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการปกติ และพวกเขามุ่งมั่นที่จะพยายามบรรลุข้อตกลงหยุดยิงต่อไปโดยร่วมมือกับสหรัฐ ภายใต้ข้อเสนอหยุดยิงนี้มีรายละเอียดเกี่ยวกับการพักการสู้รบเป็นเวลา 60 วัน อนุญาตให้มีการนำความช่วยเหลือเข้าสู่กาซามากขึ้น และปล่อยตัวประกันที่เหลืออยู่ 50 คนที่กลุ่มติดอาวุธจับกุมไว้ เพื่อแลกกับนักโทษปาเลสไตน์ที่ถูกจำคุกในอิสราเอล ข้อเสนอถูกระงับเนื่องจากความไม่เห็นด้วยว่าอิสราเอลควรถอนทหารออกไปไกลแค่ไหน และอนาคตหลังจาก 60 วันหากไม่มีข้อตกลงถาวร.-813.-สำนักข่าวไทย

เกาหลีใต้-ไทย หารือเอฟทีเอนอกรอบที่กรุงเทพฯ

โซล 22 ก.ค. – กระทรวงอุตสาหกรรมของเกาหลีใต้ เปิดเผยว่า เกาหลีใต้และไทยมีกำหนดเริ่มต้นการเจรจาความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจ หรือ อีพีเอ (EPA) ระหว่างกัน โดยทั้งสองฝ่ายมุ่งหวังที่จะขยายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ท่ามกลางความไม่แน่นอนทางการค้าทั่วโลก สำนักข่าวยอนฮับรายงานว่า ข้อมูลของกระทรวงการค้า อุตสาหกรรม และพลังงานของเกาหลีใต้ระบุว่า การเจรจานอกรอบดังกล่าวจะมีขึ้นเป็นเวลา 4 วัน จนถึงวันศุกร์ ที่กรุงเทพฯ การประชุมจะมุ่งเน้นความคืบหน้าใน 7 ภาคส่วน รวมถึงด้านสินค้า บริการ การลงทุน และเศรษฐกิจดิจิทัล เกาหลีใต้และประเทศไทยจัดการเจรจาอีพีเออย่างเป็นทางการรอบที่ 6 ที่กรุงโซลของเกาหลีใต้ ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยคาดว่าการเจรจารอบที่ 7 จะจัดขึ้นหลังเดือนสิงหาคม อีพีเอเป็นความตกลงการค้าเสรีประเภทหนึ่ง ซึ่งมักจะครอบคลุมถึงบทบัญญัติว่าด้วยความช่วยเหลือด้านการพัฒนาและความร่วมมือ นายโนห์ กอน-กี รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการเจรจาการค้า กล่าวว่า รัฐบาลเกาหลีจะแสวงหาข้อตกลงทางการค้าที่ยืดหยุ่นและหลากหลายกับประเทศโลกใต้ (Global South) ที่มีศักยภาพในการเติบโตสูงและมีคุณค่าทางยุทธศาสตร์ด้วยทรัพยากรแร่ที่สำคัญ เช่น ประเทศไทย บังกลาเทศ และปากีสถาน เขากล่าวด้วยว่า รัฐบาลวางแผนที่จะช่วยให้บริษัทเกาหลีใต้ขยายธุรกิจในต่างประเทศ เพิ่มการส่งออก และกระจายจุดหมายปลายทางการค้า ท่ามกลางความท้าทายที่เพิ่มขึ้นในสภาพแวดล้อมการค้าโลก […]

อินโดนีเซียเผยบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐหลัง “การต่อสู้ที่ไม่ธรรมดา”

จาการ์ตา, 16 ก.ค. – อินโดนีเซียกล่าวเมื่อวันพุธว่า ได้บรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐอเมริกาแล้ว หลังจากการเจรจาที่ต้องผ่าน “การต่อสู้ที่ไม่ธรรมดา” ซึ่งส่งผลให้อัตราภาษีที่สหรัฐเสนอต่อสินค้าส่งออกของอินโดนีเซ๊ยลดลงจากร้อยละ 32 เหลือ ร้อยละ 19 ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าวในวันอังคารว่า ได้บรรลุข้อตกลงกับอินโดนีเซียแล้ว หลังจากที่เขาได้พูดคุยกับประธานาธิบดีปราโบโว ซูเบียนโต ของอินโดนีเซีย และข้อตกลงนี้เป็นหนึ่งในไม่กี่ฉบับที่รัฐบาลนายทรัมป์สามารถตกลงได้ก่อนถึงกำหนดเส้นตายการเจรจาวันที่ 1 สิงหาคม ฮาซาน นาสบี โฆษกประธานาธิบดีอินโดนีเซียกล่าวกับผู้สื่อข่าววันนี้ว่า เป็นการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดาชองทีมเจรจาของอินโดนีเซียที่นำโดยรัฐมนตรีประสานงานฝ่ายกิจการเศรษฐกิจ นายนาสบีกล่าวด้วยว่า ประธานาธิบดีปราโบโวได้เจรจาโดยตรงกับนายทรัมป์ทางโทรศัพท์ด้วย แต่เขาไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดใด ๆ เพิ่มเติม โดยเขากล่าวว่า นายปราโบโวจะแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนในวันพุธหลังจากเขาเดินทางกลับจากต่างประเทศแล้ว ในขณะที่นายปราโบโว โพสต์ข้อความผ่านทางบัญชีผู้ใช้งานแพลตฟอร์มอินสตาแกรมของเขาว่า อินโดนีเซียและสหรัฐตกลงที่จะนำพาความสัมพันธ์ทางการค้าเข้าสู่ยุคใหม่ หลังจากที่เขากล่าวว่า ได้หารือทางโทรศัพท์ที่ “ยอดเยี่ยมมาก” กับทรัมป์ ซึ่งนายนาสบีเรียกข้อตกลงนี้ว่าเป็น “จุดนัดพบ” ระหว่างสองรัฐบาล และกล่าวว่าอัตราภาษีของอินโดนีเซียต่ำกว่าประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มาก นายทรัมป์กล่าวว่า อินโดนีเซีย ให้คำมั่นที่จะซื้อเครื่องบินโบอิ้ง 50 ลำ ซื้อพลังงานจากสหรัฐมูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์ และผลิตภัณฑ์เกษตรจากสหรัฐมูลค่า […]

ชี้พรรครัฐบาลญี่ปุ่นอาจสูญเสียเสียงข้างมากในสภาสูง

โตเกียว 15 ก.ค. – ผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนที่เผยแพร่ในวันนี้แสดงให้เห็นว่า พรรคร่วมรัฐบาลของญี่ปุ่นมีแนวโน้มที่จะสูญเสียเสียงข้างมากในการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาในวันที่ 20 กรกฎาคมนี้ ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อความไม่มั่นคงทางการเมือง ในขณะที่ญี่ปุ่นกำลังเผชิญปัญหาในการบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐ หนังสือพิมพ์อาซาฮีรายงานโดยอ้างอิงจากการสำรวจความคิดเห็นของผู้มีสิทธิลงคะแนนเลือกตั้งว่า พรรคเสรีประชาธิปไตย หรือ แอลดีพี (LDP) ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลของนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ และพรรคโคเมโตะ ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาล มีแนวโน้มที่จะประสบปัญหาในการรักษาที่นั่ง 50 ที่นั่งที่จำเป็นเพื่อรักษาสถานะเสียงข้างมากในสภาสูงเอาไว้ ในขณะเดียวกัน สำนักข่าวจิจิของญี่ปุ่นก็รายงานเช่นกันว่า รัฐบาลผสมกำลังเผชิญความยากลำบากในการหาเสียงเลือกตั้ง และอาจสูญเสียเสียงข้างมากในสภาสูง คะแนนนิยมในรัฐบาลของนายอิชิบะที่ลดลง เนื่องจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น รวมถึงราคาข้าวซึ่งเป็นอาหารหลักของญี่ปุ่นที่พุ่งสูงขึ้น กระทบกับครัวเรือน เดวิด โบลลิ่ง ผู้อำนวยการของบริษัทที่ปรึกษาด้านความเสี่ยงทางการเมือง “ยูเรเชียกรุุ้ป” (Eurasia Group) กล่าวในผลการศึกษาว่า คะแนนนิยมของนายอิชิบะที่ลดลงสะท้อนให้เห็นถึงความไม่พอใจของผู้มีสิทธิเลือกตั้งต่อสภาพที่เป็นอยู่ โดยเสริมว่าเขามองเห็นโอกาสร้อยละ 60 ที่พรรคร่วมรัฐบาลจะสูญเสียเสียงข้างมากในสภาสูง ความไม่แน่นอนทางการเมืองนี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สำคัญสำหรับญี่ปุ่น ซึ่งจะต้องบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับสหรัฐภายในเส้นตายใหม่คือวันที่ 1 สิงหาคม เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเรียกเก็บภาษีร้อยละ 25 หนังสือพิมพ์โยมิอุริรายงานว่า นายอิชิบะกำลังเตรียมการเพื่อพบกับนายสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐในวันศุกร์นี้ ใสระหว่างที่เขาเดินทางเยือนญี่ปุ่น และเนื่องจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ไม่สดใสและภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นส่งผลกระทบต่อครัวเรือน นายอิชิบะได้ให้คำมั่นว่าจะแจกเงินสดให้เพื่อบรรเทาผลกระทบจากค่าครองชีพที่สูงขึ้น แต่นายอิชิบะได้ปฏิเสธข้อเรียกร้องของฝ่ายค้านที่ให้ลดอัตราภาษีการขายของญี่ปุ่น […]

เกาหลีใต้ระบุอาจบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐภายในสิงหาคม

โซล, 14 ก.ค. – สื่อท้องถิ่นของเกาหลีใต้รายงานวันนี้ว่า ผู้แทนเจรจาการค้าของเกาหลีใต้กล่าวว่า อาจเป็นไปได้ที่จะบรรลุข้อตกลงการค้า “ในหลักการ” กับสหรัฐภายในกำหนดเส้นตายวันที่ 1 สิงหาคม และส่งสัญญาณว่าเกาหลีใต้อาจเปิดตลาดภาคเกษตรกรรมของตนมากขึ้น นายยอ ฮัน-กู รัฐมนตรีการค้า ซึ่งเจรจาระดับสูงกับเจ้าหน้าที่สหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว กล่าวว่าเกาหลีใต้พยายามหลีกเลี่ยงภาษีนำเข้า “ที่ไม่เป็นธรรม” ของสหรัฐในภาคส่วนสำคัญต่อศักยภาพทางอุตสาหกรรม ซึ่งอาจบั่นทอนความร่วมมือทางอุตสาหกรรมกับสหรัฐ ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านความมั่นคงและคู่ค้าหลัก นายยอให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่นว่า เขาเชื่อว่ามีความเป็นไปได้ที่จะบรรลุข้อตกลงในหลักการในการเจรจาเรื่องภาษีนำเข้าของสหรัฐและใช้เวลาในการเจรจาต่อไป พร้อมเสริมว่า ระยะเวลายี่สิบวันไม่เพียงพอที่จะได้สนธิสัญญาที่สมบูรณ์แบบซึ่งมีทุกรายละเอียด นายยอกล่าวว่า เกาหลีใต้จำเป็นต้องพิจารณาอย่างมีกลยุทธ์ในกรณีของภาคเกษตรกรรมและปศุสัตว์และว่า สินค้าที่มีความ “อ่อนไหว” อาจจำเป็นต้องได้รับการคุ้มครองต่อไป แต่บางแง่มุมอาจถูกนำมาพิจารณาในฐานะเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงทางการค้าโดยรวมกับสหรัฐ นายยอระบุว่ามีความ “คืบหน้าอย่างมาก” ในการหารือกับเจ้าหน้าที่สหรัฐเกี่ยวกับความร่วมมือในภาคอุตสาหกรรมหลัก ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเจรจาทางการค้า แต่สหรัฐจำเป็นต้องลดภาษีนำเข้าเฉพาะสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์และเหล็กกล้า เกาหลีใต้กำลังเร่งดำเนินการเพื่อบรรลุข้อตกลงทางการค้าเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกเรียกเก็บภาษีร้อยละ 25 โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีกำหนดเริ่มใช้ในวันที่ 1 สิงหาคม หลังจากที่การเจรจาเริ่มต้นล่าช้าเนื่องจากมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้เมื่อเดือนที่แล้ว จากข้อมูลของกรมศุลกากรเกาหลีใต้ เกาหลีใต้ได้เปรียบดุลการค้ากับสหรัฐในปี 2024 สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 55,600 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 จากปี 2023 โดยเป็นผลมาจากการส่งออกรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น.-813.-สำนักข่าวไทย

ASEAN agrees Myanmar election is not a priority, Malaysia says

อาเซียนเห็นพ้องเลือกตั้งเมียนมาไม่ใช่เรื่องด่วน

กัวลาลัมเปอร์ 11 ก.ค.- สมาชิกอาเซียนมีความเห็นตรงกันว่า การเลือกตั้งในเมียนมาไม่ใช่เรื่องเร่งด่วน สิ่งสำคัญที่สุดในขณะนี้ คือ การยุติความรุนแรงทั้งหมด เพื่อให้ทุกฝ่ายหันมาเจรจาหาทางออกร่วมกัน นายโมฮาหมัด ฮาซัน รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซียซึ่งเป็นประธานหมุนเวียนของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรืออาเซียนให้สัมภาษณ์สื่อ นอกรอบการประชุมอาเซียนที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ในวันนี้ว่า ชาติสมาชิกอาเซียนมีความเห็นพ้องกันว่า การเลือกตั้งในเมียนมาไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนในเวลานี้ แต่สิ่งสำคัญที่สุด คือ จะต้องยุติความรุนแรงทั้งหมดลงก่อน เพื่อให้ทุกฝ่ายได้ร่วมกันเจรจาหาทางออกของปัญหาทางการเมือง และเรียกร้องให้รัฐบาลทหารเมียนมาปฏิบัติตามฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียน ซึ่งเป็นแผนสันติภาพที่ผู้นำทหารเมียนมาเคยตกลงไว้เมื่อเดือนเมษายน 2564 หลังจากเกิดการทำรัฐประหารรัฐบาลพลเรือนของนางออง ซาน ซู จีในเดือนกุมภาพันธ์ปีเดียวกัน นายโมฮาหมัดกล่าวว่า การเลือกตั้งในเมียนมาไม่ถือเป็นส่วนหนึ่งของแผนสันติภาพ 5 ข้อ และอาเซียนได้แนะนำเมียนมาแล้วว่า การเลือกไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดในขณะนี้ เพราะสถานการณ์ที่ยังเต็มไปด้วยความรุนแรง และการปราบปรามกลุ่มที่เห็นต่างกับรัฐบาลทหาร การเลือกตั้งที่ไร้พรรคฝ่ายค้านที่มีประสิทธิภาพจะไม่สามารถแก้ปัญหาใด ๆ ได้ มีแต่จะทำให้สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายลงไปอีก และอาเซียนจะไม่ยอมรับการเลือกตั้งในเมียนมาที่ไม่มีพรรคการเมืองเข้าร่วมทุกพรรค นอกจากนี้อาเซียนยังต้องการให้เมียนมาขยายเวลาหยุดยิงออกไปอีก หลังจากที่ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายต่อต้านประกาศหยุดยิงหลังเกิดแผ่นดินไหวใหญ่เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา  แต่ก็ยังมีรายงานว่าฝ่ายรัฐบาลยังคงยิงปืนใหญ่และใช้การโจมตีทางอากาศต่อฝ่ายต่อต้านอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลทหารเมียนมาปฏิเสธเรื่องดังกล่าว ขณะที่การสู้รบภายในประเทศหลังเกิดรัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 7,000 คน ประชาชนมากกว่า 3 ล้าน 5 แสนคนต้องไร้ที่อยู่.-816(814).-สำนักข่าวไทย

พาณิชย์จีนชี้ ‘เจรจา-ร่วมมือ’ คือทางออกด้านทางการค้า

ปักกิ่ง 4 ก.ค. — โฆษกกระทรวงพาณิชย์ของจีนเปิดเผยวันนี้ว่าการเจรจาและความร่วมมือคือแนวทางที่ถูกต้อง หลังมีรายงานว่าสหรัฐ ยกเลิกข้อจำกัดทางเศรษฐกิจและการค้าบางส่วนต่อจีน โดยบริษัทจีนบางแห่งได้รับแจ้งจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐ ว่าจะมีการหวนส่งออกสินค้าบางรายการสู่จีนอีกครั้ง อาทิ ซอฟต์แวร์ออกแบบชิป อีเทน และเครื่องยนต์เครื่องบิน สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า โฆษกฯ ยืนยันว่าภายหลังการเจรจาทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ ครั้งล่าสุดในกรุงลอนดอนของสหราชอาณาจักร ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงรายละเอียดการดำเนินงานร่วมกันเพื่อผลักดันฉันทามติสำคัญซึ่งบรรลุโดยผู้นำทั้งสองประเทศผ่านการสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อวันที่ 5 มิ.ย. และเพื่อสานต่อผลลัพธ์จากการเจรจาในนครเจนีวา ในระหว่างกระบวนการนี้ จีนกำลังพิจารณาคำขอใบอนุญาตส่งออกสำหรับสินค้าที่อยู่ภายใต้การควบคุมตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง ขณะที่สหรัฐได้ดำเนินการผ่อนปรนมาตรการจำกัดบางประการ และแจ้งให้จีนรับทราบแล้ว โฆษก เสริมว่ากรอบความร่วมมือที่บรรลุผลจากการเจรจาในกรุงลอนดอนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย พร้อมย้ำว่าการเจรจาและความร่วมมือคือแนวทางที่ถูกต้อง ขณะที่การข่มขู่และกดดัน “ไม่ได้นำไปสู่ทางออกใด” ทั้งนี้ โฆษกฯ ยังเรียกร้องให้สหรัฐตระหนักถึงธรรมชาติที่เป็นประโยชน์ร่วมกันของความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าจีน-สหรัฐยอมถอยกันคนละครึ่งทาง และแก้ไขแนวทางปฏิบัติที่ผิดพลาด เพื่อร่วมกันดำเนินตามฉันทามติของผู้นำทั้งสองฝ่าย พร้อมส่งเสริมการพัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าที่มั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว.-813.-สำนักข่าวไทย

Hun Sen and Hun Manet at the event marking 74th founding anniversary of CCP June 28,2025

กัมพูชายืนยันไม่เจรจาถ้าไทยไม่เปิดด่าน

พนมเปญ 2 ก.ค.- ผู้นำกัมพูชายืนกรานจะไม่มีการเจรจากับไทยอย่างแน่นอน ตราบใดที่ฝ่ายไทยยังไม่ยอมเปิดด่านพรมแดนทั้งหมดตามปกติ เว็บไซต์ขแมร์ไทม์สรายงานว่า นายฮุน มาเน็ต นายกรัฐมนตรีกัมพูชากล่าววานนี้ขณะไปร่วมงานวันประมงแห่งชาติที่จังหวัดตาแก้วว่า กัมพูชาจะไม่ยอมเจรจากับไทยเพื่อลดความขัดแย้งพรมแดน ตราบใดที่ไทยยังไม่ยอมเปิดด่านทั้งหมดตามปกติ การแก้ไขสถานการณ์ขณะนี้ขึ้นอยู่กับฝ่ายไทย เนื่องจากไทยเป็นฝ่ายปิดด่านก่อน ทำให้กัมพูชาต้องตอบโต้ในแบบเดียวกัน แต่หากไทยยอมเปิดจุดผ่านแดนทั้งหมดอย่างครบถ้วน กัมพูชาก็จะยอมร่วมเจรจาระหว่างผู้นำกองทัพเกี่ยวกับการลดกำลังทหาร แต่หากปล่อยให้สถานการณ์ยังเป็นแบบนี้ก็ไม่สามารถจะบรรลุความไว้วางใจระหว่างกันได้ ผู้นำกัมพูชายังได้ตำหนิฝ่ายไทยว่า มีความคลุมเครือและมีความไม่สอดคล้องกันระหว่างฝ่ายนโยบายและฝ่ายปฏิบัติ ประกอบกับขาดการประสานงานกันระหว่างรัฐบาลกับกองทัพ ปัญหาเหล่านี้ล้วนเป็นอุปสรรคต่อการหาทางแก้ปัญหาที่ชัดเจน น่าเชื่อถือ และมีความยั่งยืน โดยยกตัวอย่างเรื่องการปิดด่านว่า รัฐบาลไทยสั่งการอย่างหนึ่ง  แต่ทหารกลับปฏิบัติอีกอย่างหนึ่ง นายฮุน มาเน็ตยังได้ส่งข้อความไปยังสื่อไทยที่กล่าวหากัมพูชาว่าปฏิบัติไม่ดีต่อคนไทย กรณีที่มีรายงานว่ามีรถยนต์ของคนไทยตกค้างอยู่ในฝั่งกัมพูชาตั้งแต่วันที่ 23 มิถุนายนว่า กัมพูชาได้ยืนยันอย่างชัดเจนแล้วว่าไม่มีรถยนต์ของไทยตกค้างอยู่ในกัมพูชา อีกทั้งยังปฏิเสธข้อกล่าวหาของไทยที่ว่า กัมพูชาแทรกแซงการเมืองไทย โดยเฉพาะเรื่องการปล่อยคลิปเสียงการสนทนาระหว่างนายฮุน เซน ประธานวุฒิสภาของกัมพูชากับ นส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทย ตามด้วยการที่นายฮุน เซนวิจารณ์ตระกูลชินวัตรต่อสาธารณชน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาระบุว่า การจะปลดหรือแต่งตั้งใครในทางการเมืองของไทยเป็นเรื่องภายในของไทย ไม่เกี่ยวกับกัมพูชา แต่หากมีปัญหากระทบถึงกัมพูชา กัมพูชาก็จำเป็นต้องตอบโต้.-816(814).-สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นยกเลิกการประชุมกับสหรัฐหลังขอให้เพิ่มงบกลาโหม

วอชิงตัน 21 มิ.ย. –  หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์รายงานเมื่อวันศุกร์ว่า ญี่ปุ่นยกเลิกการประชุมระดับสูงประจำปีกับสหรัฐ ซึ่งเป็นพันธมิตรคนสำคัญ หลังจากที่สหรัฐเรียกร้องให้ญี่ปุ่นเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหม นายมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐและนายพีท เฮกเซ็ธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ มีกำหนดจะพบกับนายทาเคชิ อิวายะและนายเก็น นาคาทานิ รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่น ในการประชุมแบบ ทู พลัส ทู ที่กำหนดจะจัดขึ้นในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ที่กรุงวอชิงตัน แต่หนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทมส์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวที่ไม่ระบุชื่อที่คุ้นเคยกับเรื่องนี้ว่า ญี่ปุ่นได้ ยกเลิกการประชุมดังกล่าวหลังจากที่สหรัฐขอให้ญี่ปุ่น เพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมเป็นร้อยละ 3.5 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพีซึ่งสูงกว่าที่เคยขอไว้ที่ร้อยละ 3 เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศญี่ปุ่นรายหนึ่งซึ่งไม่ขอเปิดเผยชื่อแจ้งกับรอยเตอร์สวันนี้ว่า ญี่ปุ่นกับสหรัฐไม่เคยมีการหารือเรื่องเป้าหมายการใช้จ่ายด้านกลาโหมที่ร้อยละ 3.5 หรือ ร้อยละ 5 แต่อย่างใด และระบุว่า ตนเองไม่ได้รับทราบข้อมูลใด ๆ ตามที่ไฟแนนเชียลไทมส์รายงานว่าญี่ปุ่นยกเลิกการประชุม ทู พลัส ทู เพราะสหรัฐกดดันเรื่องงบประมาณกลาโหม นอกจากนี้ เขายังกล่าวด้วยว่า โดยทั่วไปแล้ว การประสานงานการประชุมแบบ 4 ฝ่าย หรือ […]

อิหร่าน-อิสราเอลโจมตีครั้งใหม่หลังอิหร่านปฏิเสธเจรจานิวเคลียร์

เยรูซาเล็ม 21 มิ.ย. – อิหร่านและอิสราเอลต่างโจมตีกันครั้งใหม่เมื่อช่วงเช้าวันเสาร์ หนึ่งวันหลังจากที่อิหร่าน กล่าวว่าจะไม่เจรจาเกี่ยวกับโครงการนิวเคลียร์ของตนในขณะที่ถูกคุกคาม และยุโรปพยายามที่จะรักษาการเจรจาสันติภาพไว้ เมื่อเวลาประมาณ 02:30 น. ตามเวลาในอิสราเอล หรือตรงกับ 6:30 น. เช้าวันนี้ตามเวลาในประเทศไทย กองทัพอิสราเอลได้ออกคำเตือนถึงขีปนาวุธที่ยิงโจมตีมาจากอิหร่าน ส่งผลให้ไซเรนเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในหลายพื้นที่ของภาคกลางอิสราเอล รวมถึงเทลอาวีฟ และในเขตเวสต์แบงก์ในพื้นที่ยึดครองของอิสราเอล ในขณะเดียวกัน กองทัพอิสราเอลกล่าวว่า อิสราเอลได้เปิดฉากโจมตีระลอกใหม่ไปยังอิหร่าน โดยมีเป้าหมายที่คลังเก็บขีปนาวุธและโครงสร้างพื้นฐานต่าง ๆ อับบาส อารักชี รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน กล่าวว่าจะไม่มีการเจรจากับสหรัฐจนกว่าการรุกรานของอิสราเอลจะหยุดลง อย่างไรก็ตาม เขาได้เดินทางถึงเจนีวาเมื่อวันศุกร์เพื่อหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศในยุโรป ซึ่งทางฝั่งยุโรปหวังว่าจะสามารถสร้างหนทางกลับไปสู่การใช้วิธีการทางการทูตได้ ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าวย้ำเมื่อวันศุกร์ว่า เขาจะใช้เวลาถึงสองสัปดาห์ในการตัดสินใจว่าสหรัฐควรเข้าร่วมความขัดแย้งในฝั่งอิสราเอลหรือไม่ นายทรัมป์กล่าวด้วยว่าเขาไม่น่าจะกดดันให้อิสราเอลลดการโจมตีทางอากาศเพื่อเปิดทางให้การเจรจาดำเนินต่อไป.-813.-สำนักข่าวไทย

U.S. Treasury Secretary Scott Bessent testifies during a hearing before the Senate Appropriations Committee

สหรัฐอาจขยายการพักใช้ภาษี 90 วันให้คู่ค้าหลัก

วอชิงตัน 12 มิ.ย.- รัฐมนตรีคลังของสหรัฐเปิดเผยว่า สหรัฐอาจขยายการพักใช้ภาษีศุลกากรเป็นเวลา 90 วันให้แก่คู่ค้าหลักที่ยังคงเจรจากับสหรัฐอย่างจริงใจ ขณะที่ผู้นำสหรัฐระบุว่า ไม่มีเวลาเจรจากับประเทศที่มีความสำคัญน้อย นายสกอตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังของสหรัฐชี้แจงต่อคณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณในวุฒิสภาเมื่อวานนี้ เรื่องรัฐบาลจะดำเนินการอย่างไรเมื่อการพักใช้ภาษีศุลกากร 90 วันจะสิ้นสุดลงหลังวันที่ 8 กรกฎาคม นายเบสเซนต์กล่าวว่า มีความเป็นไปได้สูงมากว่า สำหรับประเทศและกลุ่มการค้าอย่างสหภาพยุโรปหรืออียูที่กำลังเจรจากับสหรัฐอย่างจริงใจ สหรัฐจะขยายเวลาการพักใช้ภาษีศุลกากร 90 วันออกไปเพื่อเดินหน้าการเจรจาอย่างจริงใจต่อไป แต่หากไม่เจรจา สหรัฐก็จะไม่ขยายเวลาให้ เขาย้ำด้วยว่า รัฐบาลกำลังเจรจาการค้ากับคู่ค้าสำคัญอยู่ 18 คู่ค้า ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้ประกาศใช้ภาษีศุลกากรกับประเทศต่าง ๆ เมื่อวันที่ 2 เมษายนที่เขาระบุว่าเป็นวันปลดแอก ตอบข้อถามสื่อในเรื่องนี้ว่า ยังไม่คิดว่าจำเป็นต้องขยายการพักใช้ภาษี เขาย้ำว่า รัฐบาลยังไม่เปลี่ยนแปลงการจัดลำดับความสำคัญที่มุ่งเจรจากับญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และคู่ค้าหลักอื่น ๆ เพราะไม่มีเวลาที่จะเจรจากับอีกมากกว่า 150 ประเทศที่มีความสำคัญน้อยต่อสหรัฐ ดังนั้นสหรัฐจะเป็นฝ่ายส่งสารไปยังประเทศเหล่านี้ภายใน 1 สัปดาห์ครึ่งถึง 2 สัปดาห์ว่า ข้อตกลงการค้าของสหรัฐจะมีหน้าตาเป็นอย่างไร และประเทศเหล่านี้สามารถตอบรับหรือปฏิเสธสารของสหรัฐได้.-814.-สำนักข่าวไทย

ผู้แทนการค้าจีนเผยจีน-สหรัฐเจรจาอย่างตรงไปตรงมา

ลอนดอน 11 มิ.ย. — หลี่ เฉิงกัง ผู้แทนการค้าระหว่างประเทศของจีนจากกระทรวงพาณิชย์และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงฯ เปิดเผยว่าจีนและสหรัฐ จัดการเจรจาอย่างมืออาชีพ มีเหตุผล ลึกซึ้ง และตรงไปตรงมาตลอดในช่วงสองวันที่ผ่านมา สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า นายหลี่ กล่าวข้อความข้างต้นระหว่างการแถลงข่าวหลังการประชุมกลไกหารือด้านเศรษฐกิจและการค้าจีน-สหรัฐ ครั้งที่ 1 ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงลอนดอนของสหราชอาณาจักร โดยหลี่ระบุว่าทั้งสองฝ่ายได้ตกลงในหลักการเกี่ยวกับกรอบการดำเนินการตามฉันทามติที่ผู้นำสองประเทศบรรลุร่วมกันในการสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน รวมถึงฉันทามติที่บรรลุในการเจรจาที่นครเจนีวา นายหลี่เปิดเผยว่าจีนหวังว่าความคืบหน้าที่เกิดขึ้นในการประชุมที่ลอนดอนจะช่วยส่งเสริมความไว้วางใจระหว่างจีนและสหรัฐฯ และผลักดันให้ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าระหว่างสองประเทศพัฒนาไปอย่างมั่นคงและแข็งแรงยิ่งขึ้น พร้อมเสริมว่าการประชุมครั้งนี้ยังช่วยส่งพลังบวกต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลกอีกด้วย.-813.-สำนักข่าวไทย

1 2 3 28
...