มาเลเซียจะใช้วัคซีนแอสตราฯกับคนอายุ 60 ปีขึ้นไป

เจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาเลเซียยืนยันวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของแอสตราเซนเนกามีความปลอดภัย หลังจากได้รับวัคซีนลอตแรกผ่านโครงการโคแวกซ์ขององค์การอนามัยโลกเมื่อ 3 วันก่อน

ผู้กำกับจีน-นักแสดงเกาหลีใต้ผงาดคว้ารางวัลออสการ์

การประกาศผลรางวัลออสการ์ครั้งที่ 93 ได้สิ้นสุดลงแล้วในช่วงเช้าที่ผ่านมาตามเวลาในไทย ภาพยนตร์เรื่อง โนแมดแลนด์ (Nomadland) ชนะ 3 รางวัลใหญ่ รวมถึงรางวัลผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยมของโคลอี เจา ผู้กำกับภาพยนตร์ชาวจีน ขณะที่ยุน ยู-จอง นักแสดงชาวเกาหลีใต้ได้รับรางวัลนักแสดงสมทบหญิงยอดเยี่ยมจากภาพยนตร์เรื่อง มินาริ (Minari)

สหรัฐจะส่งความช่วยเหลือทางการแพทย์ให้อินเดียทันที

วอชิงตัน 26 เม.ย.- สหรัฐจะจัดส่งสิ่งจำเป็นต่อการผลิตวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ให้อินเดียโดยทันที รวมทั้งเวชภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อรับมือการแพร่ระบาดหนัก ทำเนียบขาวแถลงว่า สหรัฐได้ระบุแหล่งวัตถุดิบที่จำเป็นต่อการผลิตวัคซีนโควิชีลด์ให้อินเดียแล้ว และจะเร่งจัดส่งไปทันที ขณะที่สภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐแถลงว่า ได้จัดหายา ชุดตรวจแบบรวดเร็ว เครื่องช่วยหายใจ และชุดป้องกันส่วนบุคคลหรือพีพีอี (PPE) และจะเร่งจัดส่งไปให้โดยทันที อย่างไรก็ดี ยังไม่มีความชัดเจนว่า สหรัฐจะส่งวัคซีนของแอสตราเซนเนกาที่มีสำรองให้แก่อินเดียหรือไม่ หลังจาก นพ.แอนโทนี เฟาชี หัวหน้าที่ปรึกษาด้านการแพทย์ของประธานาธิบดีโจ ไบเดนเผยกับสถานีโทรทัศนืเอบีซี (ABC) เมื่อวันอาทิตย์ว่า กำลังพิจารณาอยู่ ที่ผ่านมาผู้ฉีดวัคซีนของแอสตราเซนเนกาบางรายเกิดภาวะลิ่มเลือดอุดตันหายาก เช่นเดียวกับวัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสันที่ฉีดเข็มเดียว แต่หลายประเทศรวมทั้งอินเดียอนุมัติให้ใช้ สถานการณ์โควิดระบาดหนักในอินเดียทำให้ผู้มีชื่อเสียง นักเคลื่อนไหว และผู้เชี่ยวชาญหลายคนเรียกร้องให้สหรัฐหาทางช่วยเหลือ ซัลมาน รุชดี นักเขียนชาวอังกฤษเชื้อสายอินเดียทวีตถึงประธานาธิบดีไบเดน ขอให้รยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออกวัตถุดิบที่จะเปิดทางให้อินเดียสามารถผลิตวัคซีนได้เอง.-สำนักข่าวไทย

เยอรมนีเตรียมช่วยอินเดียรับมือโควิดระบาดหนัก

เยอรมนีจะส่งออกซิเจนและความช่วยเหลือทางการแพทย์ไปยังอินเดียในอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพื่อช่วยรับมือกับสถานการณ์ระบาดรุนแรงของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในอินเดีย

อียูจะให้ชาวอเมริกันฉีดวัคซีนโควิดแล้วเข้าได้

วอชิงตัน 26 เม.ย.- สหภาพยุโรปหรืออียู (EU) จะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวชาวอเมริกันที่ฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เดินทางเข้าอียูได้ในอีกหลายเดือนข้างหน้า นางอัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรปให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์เมื่อวันอาทิตย์ตามเวลาสหรัฐว่า ชาวอเมริกันใช้วัคซีนที่ได้รับการอนุมัติจากสำนักงานยายุโรปหรืออีเอ็มเอ (EMA) ทำให้สามารถเดินทางเข้าอียูได้อย่างเสรี เพราะสมาชิกอียูทั้ง 27 ชาติจะยอมรับผู้ฉีดวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติจากอีเอ็มเออย่างไม่มีเงื่อนไข สหรัฐมีความคืบหน้าอย่างมาก และใกล้จะฉีดวัคซีนให้คนวัยผู้ใหญ่ได้ร้อยละ 70 ภายในเดือนกลางเดือนมิถุนายน การฟื้นการเดินทางขึ้นอยู่กับสถานการณ์การระบาด สถานการณ์ในสหรัฐกำลังดีขึ้น เช่นเดียวกับสถานการณ์ในอียู จนถึงขณะนี้อีเอ็มเออนุมัติวัคซีน 3 ขนานที่ใช้ในสหรัฐประกอบด้วยวัคซีนของโมเดอร์นา ไฟเซอร์และจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน อย่างไรก็ดี นิวยอร์กไทมส์ระบุว่า การฉีดวัคซีนของสหรัฐและความคืบหน้าในการเจรจาวิธีการใช้ใบรับรองวัคซีนถือว่าล่าช้าจากแผนที่กำหนดไว้เรื่องการให้ชาวอเมริกันไปท่องเที่ยวอียู อียูเคยเผยว่า ต้องการใช้ใบรับรองการฉีดวัคซีนแต่ยังไม่มีการสรุปจนถึงขณะนี้.-สำนักข่าวไทย

อินโดนีเซียระงับออกวีซ่าให้ผู้เดินทางมาจากอินเดีย

จาการ์ตา 23 เม.ย. – อินโดนีเซียจะระงับการออกวีซ่าให้แก่ชาวต่างชาติที่มีประวัติเดินทางไปอินเดียในช่วง 14 วันที่ผ่านมา เพื่อป้องกันการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ที่กลายพันธุ์ หลังอินเดียพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่มากเป็นสถิติสูงสุดในโลกติดต่อกันเป็นวันที่สอง นายไอลังกา ฮาร์ตาร์โต รัฐมนตรีกระทรวงประสานงานด้านเศรษฐกิจของอินโดนีเซียกล่าวว่า รัฐบาลอินโดนีเซียตัดสินใจระงับการออกวีซ่าให้แก่ชาวต่างชาติที่อาศัยในอินเดีย หรือมีประวัติเดินทางไปอินเดียในช่วง 14 วันที่ผ่านมา ขณะที่นายบูดี กูนาดี ซาดิคิน รัฐมนตรีสาธารณสุขอินโดนีเซียเผยว่า มาตรการดังกล่าวมีขึ้นหลังจากอินโดนีเซียพบผู้ป่วยติดเชื้อ 12 คนในเที่ยวบินเช่าเหมาลำจากเมืองเจนไนของอินเดียที่มีผู้โดยสารทั้งหมด 129 คน ขณะนี้ยังคงมีผู้เดินทางเข้ามายังอินโดนีเซียอีกเป็นจำนวนมาก และทางการอินโดนีเซียจำเป็นต้องเฝ้าระวังบุคคลที่เดินทางมาจากประเทศในภูมิภาคเอเชียใต้ อย่างไรก็ดี ชาวอินโดนีเซียที่เดินทางกลับมาจากอินเดียจะได้รับอนุญาตให้เข้าประเทศ แต่จะต้องเข้าสู่มาตรการกักตัวเข้มงวดและปฏิบัติตามข้อบังคับต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด ขณะนี้ อินโดนีเซียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 1.62 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตราว 44,000 คน ถือเป็นสถิติผู้ป่วยติดเชื้อและผู้เสียชีวิตสูงสุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้.-สำนักข่าวไทย

องค์การอนามัยโลกชี้ประเทศยากจนยังเข้าไม่ถึงวัคซีนโควิด

เจนีวา 23 เม.ย. – องค์การอนามัยโลกระบุว่า ประเทศยากจนยังคงเข้าไม่ถึงวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในขณะที่องค์การอนามัยโลกก่อตั้งโครงการโคแวกซ์ครบรอบ 1 ปี ดร. ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกกล่าวถึงโครงการส่งเสริมการเข้าถึงเครื่องมือในการรับมือกับโรคโควิด-19 (ACT) ที่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีก่อนว่า ขณะนี้ทั่วโลกฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ไปเกือบ 900 ล้านโดส แต่วัคซีนกว่าร้อยละ 81 ได้รับการจัดส่งไปยังประเทศที่มีรายได้สูงหรือสูงกว่าระดับปานกลาง ขณะที่ประเทศที่มีรายได้ต่ำได้รับวัคซีนเพียงร้อยละ 0.3 ก่อนหน้านี้ ดร. ทีโดรสได้ตำหนิความไม่เท่าเทียมในการจัดส่งวัคซีนมาแล้วหลายครั้ง และเรียกร้องให้ประเทศร่ำรวยแบ่งปันวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้แก่ประเทศยากจน เพื่อนำไปฉีดเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ในขณะเดียวกัน โครงการโคแวกซ์ได้จัดส่งวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จำนวน 40.5 ล้านโดสให้แก่ 118 ประเทศทั่วโลก และตั้งเป้าจัดหาวัคซีนให้ได้ราว 2,000 ล้านโดสภายในสิ้นปีหน้า นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวกำลังหาแหล่งผลิตวัคซีนรายใหม่เพื่อเพิ่มการจัดส่งวัคซีนให้แก่ประเทศยากจน และบรรเทาปัญหาขาดแคลนวัคซีนของแอสตราเซเนกา ซึ่งเป็นวัคซีนหลักของโครงการและได้รับการผลิตในอินเดีย ขณะนี้ ทั่วโลกมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 กว่า 3 ล้านคนแล้ว.-สำนักข่าวไทย

นครเพิร์ทของออสเตรเลียสั่งล็อกดาวน์หลังพบผู้ป่วยโควิด

เพิร์ท 23 เม.ย. – รัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียประกาศล็อกดาวน์นครเพิร์ทและภูมิภาคพีลที่มีพรมแดนติดกันเป็นเวลา 3 วัน นับตั้งแต่เที่ยงคืนของวันนี้เป็นต้นไป เนื่องจากพบชายออสเตรเลียคนหนึ่งมีผลตรวจโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เป็นบวกหลังออกมาจากโรงแรมกักตัวในนครเพิร์ท นายมาร์ค แมคโกแวน มุขมนตรีรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียแถลงผ่านโทรทัศน์ว่า การใช้มาตรการล็อกดาวน์เป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เขาก็ไม่อยากใช้วิธีนี้เช่นกัน แต่จำเป็นต้องทำเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่เกิดจากเชื้อโควิด ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐเวสเทิร์นออสเตรเลียคาดว่า ผู้ป่วยติดเชื้อคนดังกล่าวอาจติดเชื้อโควิดในช่วงที่กักตัวอยู่ในโรงแรมของนครเพิร์ท ซึ่งทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดในชุมชน เนื่องจากขณะนี้มีเชื้อโควิดกลายพันธุ์ที่ทำให้มีโอกาสติดเชื้อสูงมากขึ้น ทั้งยังระบุเพิ่มเติมว่า เจ้าหน้าที่ของออสเตรเลียกำลังสืบสวนสาเหตุการติดเชื้อของผู้ป่วยคนดังกล่าว ในขณะเดียวกัน นายมาร์ติน โฟลีย์ รัฐมนตรีสาธารณสุขของรัฐวิกตอเรียกล่าวว่า ผู้โดยสารที่เดินทางโดยเครื่องบินจากนครเพิร์ทมายังนครเมลเบิร์นจะถูกร้องขอให้กักตัว เนื่องจากชายออสเตรเลียที่ติดเชื้อโควิดได้โดยสารเครื่องบินจากนครเพิร์ทมายังบ้านของเขาในนครเมลเบิร์น หลังจากที่ออกมาจากโรงแรมกักตัวในนครเพิร์ท นอกจากนี้ ออสเตรเลียยังได้ประกาศใช้มาตรการเข้มงวดด้านพรมแดนมากขึ้นด้วยการลดจำนวนผู้ที่เดินทางมาจากอินเดียและประเทศที่เป็นศูนย์กลางการระบาดของโรคโควิด-19 ก่อนหน้านี้ ออสเตรเลียใช้มาตรการปิดพรมแดนมาเป็นเวลาปีกว่า แต่อนุญาตให้พลเมืองและผู้พำนักถาวรส่วนใหญ่เดินทางเข้าประเทศได้ และต้องเข้าสู่มาตรการกักตัวในโรงแรมเป็นเวลา 14 วัน โดยเสียค่าใช้จ่ายเอง ยกเว้นผู้ที่เดินทางมาจากนิวซีแลนด์ที่ได้รับการยกเว้นให้ไม่ต้องกักตัว ขณะนี้ ออสเตรเลียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 29,500 คน และผู้เสียชีวิตเพียง 910 คน ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว.-สำนักข่าวไทย

สหรัฐสอบกรณีชาวอเมริกันเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนเจแอนด์เจ

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี กำลังสอบสวนกรณีหญิงชาวรัฐออริกอนเสียชีวิต และหญิงชาวรัฐเทกซัสถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หลังจากที่ทั้งคู่เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน

“อีลอน มัสก์” ทุ่มเงินให้ผู้คิดเทคโนโลยีดักจับคาร์บอน

แคลิฟอร์เนีย 23 เม.ย. – อีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีชาวอเมริกันประกาศมอบเงินรางวัล 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (3,142 ล้านบาท) ให้แก่ผู้คิดค้นวิธีรับมือกับปัญหาโลกร้อน โดยการกำจัดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากชั้นบรรยากาศหรือมหาสมุทร มัสก์ ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารเทสลา อิงค์ บริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้า กล่าวว่า ทุกคนมีโลกอยู่เพียงใบเดียว แม้มีโอกาสเพียงร้อยละ 0.1 ที่จะทำให้เกิดหายนะ ก็ไม่ควรปล่อยให้เกิดขึ้น โครงการกำจัดคาร์บอน เอ็กซ์ไพรส์ คาร์บอน รีมูฟวัลของมัสก์ที่สนับสนุนเงินรางวัล 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐตั้งเป้าค้นหาวิธีการแก้ปัญหาที่ใช้งานได้จริงในการกำจัดคาร์บอนปีละ 1,000 ตันออกจากชั้นบรรยากาศ และมีศักยภาพที่จะนำไปพัฒนาให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ทั้งนี้ ผู้เข้าแข่งขันต้องวางแผนแยกคาร์บอนออกจากชั้นบรรยากาศได้อย่างน้อย 100 ปี โดยที่คณะผู้จัดโครงการดังกล่าวระบุว่า จะเปิดรับฟังความเห็นจนถึงกลางเดือนหน้าก่อนที่จะนำแนวทางที่ได้ไปกำหนดเป็นกฎในการแข่งขันต่อไป เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา มัสก์ ประกาศความตั้งใจของเขาเรื่องการเสนอเงินรางวัล 100 ล้านดอลลาร์ แต่มาประกาศรายละเอียดของการแข่งขันเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นวันคุ้มครองโลก หรือ เอิร์ธเดย์ การแข่งขันจะดำเนินไปเป็นเวลา 4 ปีและสิ้นสุดในวันคุ้มครองโลก ในปี 2025 มัสก์ถือเป็นนักอุตสาหกรรมที่เน้นเรื่องสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นการผลักดันให้เทสลากลายเป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ที่มีมูลค่าสูงสุดในโลก และการติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อให้ผู้ขับชาร์จรถยนต์ได้โดยไม่ต้องพึ่งคาร์บอน […]

“ไบเดน” เพิ่มเป้าลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 50

วอชิงตัน 23 เม.ย. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐประกาศตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 50-52 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมถึงสองเท่า ภายในปี 2573 ในการประชุมสุดยอดผู้นำในวาระการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่จัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวในการประชุมเสมือนจริงที่มีผู้นำจาก 40 ประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมถึงผู้นำจีน รัสเซีย และสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งนครรัฐวาติกันที่เป็นปรปักษ์กับสหรัฐว่า สหรัฐจะตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นต้นเหตุของปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพิ่มเป็นร้อยละ 50-52 ภายในปี 2573 เมื่อเทียบกับปี 2548 เพื่อทำให้สหรัฐกลับมายืนอยู่ในแถวหน้าอีกครั้ง ความเสียหายจากการนิ่งเฉยยังคงรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ แต่สหรัฐจะไม่รีรออีกต่อไป ในขณะเดียวกัน นายจอห์น แคร์รี อดีตรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐที่รับตำแหน่งทูตด้านสภาพภูมิอากาศในรัฐบาลประธานาธิบดีไบเดนยืนยันว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะเกิดขึ้นอย่างถาวร เนื่องจากเป็นกลไกตลาด แม้ผลการเลือกตั้งในครั้งหน้าจะเปลี่ยนไปก็ตาม เขายังระบุว่า ประเทศเศรษฐกิจมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลกมุ่งมั่นที่จะดำเนินการรักษาระดับอุณหภูมิทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นให้ใกล้เคียงกับระดับ 1.5 องศาเซลเซียส ซึ่งนับว่าเป็นระดับที่น้อยกว่ายุคก่อนอุตสาหกรรมและเป็นปณิธานที่กำหนดไว้ในความตกลงปารีส เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่รุนแรงที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ.-สำนักข่าวไทย

ญี่ปุ่นเพิ่มเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นร้อยละ 46

โตเกียว 22 เม.ย. – ญี่ปุ่นประกาศเพิ่มเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นร้อยละ 46 ภายในปี 2573 เพื่อตอบสนองต่อแรงกดดันจากสหรัฐ บริษัทธุรกิจญี่ปุ่น และนักสิ่งแวดล้อมที่มองว่าเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ร้อยละ 26 เป็นปริมาณที่น้อยเกินไป นายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซูงะ ของญี่ปุ่นประกาศเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนครั้งใหม่เพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 46 ภายในปี 2573 เมื่อเทียบกับปี 2556 เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่จะเริ่มการประชุมเสมือนจริงในวาระการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่มีประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐเป็นเจ้าภาพ ขณะนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังพิจารณานโยบายด้านพลังงานของปีนี้ และระบุว่าจะตั้งเป้าลดการใช้เชื้อเพลิงถ่านหินที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนในกระบวนการผลิตไฟฟ้าแบบผสม แต่จนถึงขณะนี้ญี่ปุ่นยังคงสนับสนุนการใช้ถ่านหินอยู่ เนื่องจากเริ่มสร้างเตาปฏิกรณ์ได้ค่อนข้างช้า หลังประสบเหตุภัยพิบัตินิวเคลียร์ฟุกุชิมะไดอิชิจนต้องปิดตัวลง ทั้งนี้ สหรัฐกำลังพยายามกอบกู้ความน่าเชื่อถือในการรับมือปัญหาโลกร้อน หลังจากที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐได้ทำลายฉันทามติระหว่างประเทศในการลดการปล่อยมลพิษ ก่อนหน้านี้ แหล่งข่าวใกล้ชิดการเดินทางเยือนสหรัฐของนายซูงะเมื่อสัปดาห์ก่อนระบุว่า ญี่ปุ่นตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากรัฐบาลของประธานาธิบดีไบเดนที่ต้องการให้ญี่ปุ่นตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนมากขึ้นอีก ขณะที่เมื่อปลายปีที่แล้ว นายซูงะได้ประกาศตั้งเป้ามุ่งสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอน หรือ การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สุทธิเท่ากับศูนย์ ภายในปี 2593 ซึ่งทำให้ญี่ปุ่นอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับประเทศอื่น ๆ ทั้งนี้ การปล่อยก๊าซคาร์บอนและมลพิษอื่น ๆ เป็นศูนย์ภายในปี 2593 จะทำให้อุณหภูมิทั่วโลกเพิ่มขึ้นใกล้เคียงกับระดับ 1.5 องศาเซลเซียสได้มากที่สุด.-สำนักข่าวไทย

1 255 256 257 258 259 315