รัสเซียจับกุมผู้สนับสนุน “นาวัลนี” กว่า 1,700 คน

มอสโก 22 เม.ย. – ตำรวจรัสเซียจับกุมผู้ประท้วงกว่า 1,700 คนที่ออกมาชุมนุมในหลายสิบเมือง ซึ่งจัดขึ้นโดยพันธมิตรของนายอเล็กซี นาวัลนี ผู้นำฝ่ายค้านรัสเซียที่อดอาหารประท้วงเจ้าหน้าที่เรือนจำมา 4 สัปดาห์ เพราะไม่ยอมให้เขาได้รับการรักษาอาการเจ็บป่วย โอวิดี-อินโฟ กลุ่มสังเกตการณ์การประท้วงและการคุมขังของรัสเซียรายงานว่า ตำรวจรัสเซียได้จับกุมชาวรัสเซียที่สนับสนุนนายนาวัลนีไปแล้ว 1,782 คน ในจำนวนนี้ มีชาวรัสเซียถูกจับกุมที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก 804 คน และที่เมืองอูราลส์ในนครอูฟา 119 คน ขณะที่โฆษกหญิงของนายนาวัลนีถูกสั่งจำคุก 10 วัน และพันธมิตรที่ใกล้ชิดรายอื่น ๆ ก็ถูกคุมตัวเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียกล่าวสุนทรพจน์ประจำปี โดยที่เขาได้เตือนกลุ่มประเทศตะวันตกไม่ให้ล้ำเส้นรัสเซีย และจงใจไม่กล่าวถึงนายนาวัลนี ในขณะเดียวกัน กลุ่มผู้สนับสนุนนายนาวัลนีได้มารวมตัวกันบริเวณใจกลางกรุงมอสโก เพื่อเรียกร้องให้ทางการรัสเซียปล่อยตัวนายนาวัลนีและอนุญาตให้คณะแพทย์รักษาอาการป่วยของเขา ด้านนางยูเลีย นาวาลนาญา ภรรยาของนายนาวัลนีได้เข้าร่วมการชุมนุมดังกล่าวเช่นกัน ขณะนี้นายนาวัลนี วัย 44 ปี ผู้รอดชีวิตจากการถูกวางยาพิษเมื่อปีก่อน ซึ่งทางการรัสเซียปฏิเสธว่าไม่มีส่วนรู้เห็น มีร่างกายซูบผอมและอ่อนแอ หลังอดอาหารมาเป็นเวลา 4 สัปดาห์ โดยพันธมิตรของเขาระบุว่า การกระทำเช่นดังกล่าวเสี่ยงต่อภาวะไตวายหรือหัวใจหยุดเต้น ขณะที่สหรัฐเตือนว่า […]

ยูเอ็นชี้ชาวเมียนมาประสบปัญหาอดอยากมากขึ้น

นิวยอร์ก 22 เม.ย. – องค์การสหประชาชาติ หรือยูเอ็น ระบุว่า เมียนมากำลังเผชิญกับปัญหาความมั่นคงทางอาหารที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเหตุรัฐประหารและวิกฤตการณ์การเงินที่รุนแรง ซึ่งอาจทำให้ชาวเมียนมาหลายล้านคนประสบปัญหาอดอยากในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า รายงานของโครงการอาหารโลก (WFP) ของยูเอ็นระบุว่า ชาวเมียนมาราว 3.4 ล้านคนจะต้องดิ้นรนเพื่อให้มีอาหารรับประทานในอีก 3 – 6 เดือนข้างหน้า และชาวเมียนมาที่อยู่ในเขตเมืองจะได้รับผลกระทบหนักสุด เนื่องจากปัญหาตกงานที่เพิ่มขึ้นในภาคการผลิต การก่อสร้าง และบริการต่าง ๆ รวมถึงราคาอาหารที่เพิ่มสูงขึ้น รายงานดังกล่าวยังระบุว่า ราคาข้าวและน้ำมันที่ใช้ปรุงอาหารตามท้องตลาดในเมียนมาเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 5 และร้อยละ 18 ตามลำดับนับตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ และมีสัญญาณบ่งชี้ว่าครัวเรือนในนครย่างกุ้ง ซึ่งเป็นศูนย์กลางการค้าของเมียนมา กำลังอดอาหารบางมื้อ กินอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการน้อยลง และมีหนี้สินเพิ่มมากขึ้น ทั้งนี้ โครงการอาหารโลกได้วางแผนขยายการดำเนินงานเพิ่มขึ้นอีก 3 เท่า เพื่อช่วยเหลือชาวเมียนมาราว 3.3 ล้านคน และขอระดมเงินบริจาคราว 106 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (3,300 ล้านบาท) นายสตีเฟน แอนเดอร์สัน ผู้อำนวยการโครงการอาหารโลกประจำเมียนมาระบุในแถลงการณ์ว่า ผู้คนที่ยากจนในเมียนมากำลังตกงานเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ และไม่อาจหาซื้ออาหารได้ […]

อินเดียพบผู้ป่วยโควิดรายวันมากเป็นสถิติสูงที่สุดในโลก

นิวเดลี 22 เม.ย. – อินเดียพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 รายวัน 314,835 คน ทำสถิติผู้ป่วยติดเชื้อรายวันสูงที่สุดในโลก ในขณะที่การระบาดระลอกสองและยอดผู้ป่วยติดเชื้อที่พุ่งสูงในหลายพื้นที่ทำให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการรับมือของหน่วยงานสาธารณสุขอินเดีย ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขอินเดียระบุว่า อินเดียพบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 314,835 คน ทำลายสถิติสูงสุดก่อนหน้าของสหรัฐที่พบผู้ป่วยติดเชื้อรายวัน 297,430 คน ในเดือนมกราคม แต่หลังจากนั้นยอดผู้ป่วยติดเชื้อในสหรัฐก็ลดลงอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ อินเดียยังพบผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 เพิ่มขึ้น 2,104 คน ทำให้อินเดียมียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมราว 15.93 ล้านคน และผู้เสียชีวิตกว่า 184,600 คน ประธานแพทยสมาคมเมืองอาห์มาดาบัดในรัฐคุชราตของอินเดียกล่าวว่า สถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ของอินเดียอยู่ในขั้นวิกฤตมาก ผู้ป่วยติดเชื้อต่างดิ้นรนหาเตียงในโรงพยาบาล ขณะที่โรงพยาบาลหลายแห่งประสบปัญหาขาดแคลนออกซิเจนสำหรับผู้ป่วยอย่างฉับพลัน ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำศูนย์โรคติดเชื้อของมหาวิทยาลัยการแพทย์แห่งรัฐเซาท์แคโรไลนาของสหรัฐระบุผ่านทวิตเตอร์ว่า สถานการณ์ระบาดที่รุนแรงในอินเดียจะทำให้ระบบสาธารณสุขอินเดียรับมือไม่ไหว ในขณะเดียวกัน โรงพยาบาลในภาคเหนือและตะวันตกของอินเดีย ซึ่งรวมถึงกรุงนิวเดลี ได้ประกาศแจ้งว่ามีปริมาณออกซิเจนที่จะใช้ได้ต่อไปอีกเพียงไม่กี่ชั่วโมงเพื่อรักษาชีวิตของผู้ป่วยติดเชื้อ ขณะที่ข้อมูลของรัฐบาลอินเดียระบุว่า โรงพยาบาลในอินเดียกว่า 2 ใน 3 จากทั้งหมด หรือคิดเป็นร้อยละ 66 ไม่มีเตียงคนไข้ว่าง โดยที่แพทย์อินเดียแนะนำให้ผู้ป่วยติดเชื้อกักตัวอยู่ในบ้านแทน.-สำนักข่าวไทย

“นาซา” สกัดออกซิเจนจากอากาศบนดาวอังคารได้แล้ว

องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐ หรือนาซา ประสบความสำเร็จจากการเปลี่ยนคาร์บอนไดออกไซด์ในอากาศบนดาวอังคารให้เป็นออกซิเจนบริสุทธิ์เพื่อใช้หายใจได้เป็นครั้งแรกจากภารกิจสำรวจดาวอังคาร

สิงคโปร์เร่งตรวจสอบหอพักแรงงานสกัดโควิดระบาดซ้ำ

สิงคโปร์ 22 เม.ย. – สิงคโปร์กำลังตรวจสอบความเป็นไปได้จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ในหอพักแรงงานต่างชาติซ้ำอีกครั้ง หลังพบแรงงานที่มีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นบวก 2 คน กระทรวงแรงงานสิงคโปร์ระบุในแถลงการณ์ว่า กระทรวงได้แยกแรงงานที่ติดเชื้อโควิดไปกักตัว และมอบหมายให้ศูนย์โรคติดเชื้อแห่งชาติของสิงคโปร์เข้าไปตรวจสอบหอพักแรงงาน เพื่อตรวจสอบการติดเชื้อซ้ำที่อาจเกิดขึ้นได้ ขณะที่หนังสือพิมพ์เดอะ สเตรท ไทมส์ ของสิงคโปร์รายงานโดยไม่ระบุแหล่งข่าวว่า กระทรวงแรงงานสิงคโปร์วางแผนที่จะย้ายแรงงานต่างชาติหลายร้อยคนไปอยู่ในสถานกักตัว เจ้าหน้าที่ของสิงคโปร์ได้ตรวจหาเชื้อโควิดในกลุ่มแรงงานต่างชาติที่หอพักเวสต์ไลต์ วูดแลนด์ หลังพบแรงงานวัย 35 ปีติดเชื้อโควิดเมื่อวันที่ 20 เมษายนจากการตรวจหาเชื้อโควิดตามปกติ แม้แรงงานคนดังกล่าวได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 โดสที่ 2 เมื่อวันที่ 13 เมษายนแล้วก็ตาม ขณะที่เพื่อนร่วมห้องของเขาก็มีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นบวกเช่นกัน ขณะนี้ สิงคโปร์พบว่ามีแรงงานทั้งหมด 10 คนที่เคยมีผลตรวจหาเชื้อโควิดเป็นบวกกลับมาติดเชื้อโควิดซ้ำอีกครั้ง สิงคโปร์พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิดครั้งล่าสุดในกลุ่มแรงงานต่างชาติกว่า 10 คนเมื่อเดือนกันยายนปีก่อน และแทบจะไม่พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา โดยที่รัฐบาลสิงคโปร์สามารถควบคุมการระบาดในชุมชนได้เป็นอย่างดี ขณะนี้ สิงคโปร์มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 60,000 คน และมีผู้เสียชีวิตเพียง 30 คน ทั้งนี้ ยอดผู้ป่วยติดเชื้อส่วนใหญ่ของสิงคโปร์มักเกิดขึ้นจากการระบาดในหอพักแออัด ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของแรงงานค่าจ้างต่ำจากภูมิภาคเอเชียใต้จนทำให้ทางการสิงคโปร์ต้องสั่งล็อกดาวน์หอพักหลายแห่งมาแล้ว.-สำนักข่าวไทย

อินสตาแกรมเปิดตัวระบบป้องกันการละเมิดบนโลกออนไลน์

อินสตาแกรม แอปพลิเคชันแบ่งปันรูปภาพและคลิปวิดีโอในเครือเฟซบุ๊ก อิงค์ เปิดตัวระบบป้องกันไม่ให้ผู้ใช้งานเห็นข้อความที่อาจเป็นการละเมิดด้วยการกรองคำ วลี และอีโมจิที่ไม่เหมาะสม

โฆษกรัฐบาลทหารยัน “มิน อ่อง หล่าย” ร่วมประชุมอาเซียน

ย่างกุ้ง 21 เม.ย. – สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุดของเมียนมาจะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนเพื่อหารือเกี่ยวกับวิกฤตการณ์ในเมียนมา ขณะที่กลุ่มนักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐประหารออกมาชุมนุมเรียกร้องให้รัฐบาลทหารเมียนมาปล่อยตัวผู้ที่ถูกคุมขัง นิกเกอิ เอเชีย นิตยสารข่าวรูปแบบออนไลน์ของญี่ปุ่นรายงานว่า พลจัตวาซอ มิน ตุน โฆษกรัฐบาลทหารเมียนมายืนยันว่า พลเอกอาวุโสมิน อ่อง หล่าย จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียนที่กรุงจาการ์ตาของอินโดนีเซียในวันเสาร์นี้ แต่สำนักข่าวรอยเตอร์สยังไม่สามารถติดต่อโฆษกรัฐบาลทหารเพื่อยืนยันข่าวดังกล่าวได้ ทั้งนี้ สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรืออาเซียน พยายามแนะแนวทางให้เมียนมายุติเหตุนองเลือดที่เกิดขึ้นจากการก่อรัฐประหาร แต่ทั้ง 10 ประเทศสมาชิกจำเป็นต้องยึดมั่นในหลักฉันทามติและไม่แทรกแซงกิจการในประเทศของสมาชิก ทำให้เกิดข้อจำกัดในการหลอมรวมมุมมองที่แตกต่างกันของชาติสมาชิกต่อการแสดงจุดยืนจากเหตุสังหารพลเรือนหลายร้อยคนของกองทัพเมียนมา ในขณะเดียวกัน ผู้คนในโลกโซเชียลมีเดียต่างพากันแชร์รูปภาพสวมเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินและชูมือที่มีชื่อผู้ถูกจับกุมเขียนอยู่ เสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินถือเป็นสัญลักษณ์ของการไว้อาลัยให้แก่นายวิน ทิน นักเคลื่อนไหวผู้สนับสนุนประชาธิปไตยที่ถูกกองทัพเมียนมาสั่งจำคุก 19 ปีและเสียชีวิตเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2557 ทั้งนี้ ก่อนเสียชีวิต เขาได้รับการปล่อยตัวออกจากเรือนจำ และสัญญาว่าจะสวมเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินไปจนกว่านักโทษการเมืองทั้งหมดจะได้รับการปล่อยตัว ขณะที่สมาคมช่วยเหลือนักโทษทางการเมืองเมียนมารายงานว่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุปราบปรามผู้ประท้วง 738 คน และมีผู้ถูกจับกุม 3,300 คน ในจำนวนนี้ มี 20 คนที่ถูกตัดสินโทษประหาร.-สำนักข่าวไทย

ควีนเอลิซาเบธที่ 2 มีพระชนมายุครบ 95 พรรษาในวันนี้

สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษทรงมีพระชนมายุครบ 95 พรรษาในวันนี้ แต่จะไม่มีการจัดพิธีฉลองอย่างเป็นทางการ เนื่องจากพระองค์ทรงอยู่ในช่วงไว้ทุกข์จากการสิ้นพระชนม์ของเจ้าชายฟิลิป ดยุกแห่งเอดินบะระและพระราชสวามีที่ครองคู่กันมายาวนาน 73 ปี

เกาหลีใต้หวังพึ่งสหรัฐช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนวัคซีนโควิด

โซล 21 เม.ย. – เกาหลีใต้หวังให้สหรัฐช่วยแก้ปัญหาขาดแคลนวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 เพื่อตอบแทนที่รัฐบาลเกาหลีใต้เคยส่งชุดตรวจโควิดและหน้ากากอนามัยให้สหรัฐในช่วงที่มีการระบาดระยะแรก นายชุง อึยยอง รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของเกาหลีใต้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เกาหลีใต้ได้เน้นย้ำกับสหรัฐว่า เพื่อนยามยากคือเพื่อนแท้ ก่อนหน้านี้ รัฐบาลเกาหลีใต้เคยส่งชุดตรวจโควิดและหน้ากากอนามัยจำนวนมากให้สหรัฐในช่วงที่มีการระบาดระยะแรก เพราะทั้งสองประเทศเป็นพันธมิตรที่แน่นแฟ้นต่อกัน แม้ในช่วงนั้นการจัดหาอุปกรณ์ดังกล่าวในเกาหลีใต้ก็ตกอยู่ในภาวะตึงตัวเช่นกัน เกาหลีใต้หวังว่าสหรัฐจะช่วยแก้ไขปัญหาความท้าทายด้านการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่เกาหลีใต้กำลังเผชิญอยู่ เพื่อตอบแทนน้ำใจของเกาหลีใต้ที่มีให้แก่สหรัฐเมื่อปีก่อน การขอความช่วยเหลือดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่รัฐบาลเกาหลีใต้ถูกตำหนิจากสื่อท้องถิ่นว่า ไม่ยอมวางแผนจัดซื้อวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ให้เพียงพอตั้งแต่เนิ่น ๆ และฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนไปได้เพียงร้อยละ 3 จากประชากรทั้งหมดราว 51 ล้านคน เนื่องจากประสบปัญหาขาดแคลนวัคซีนทั่วโลก ทั้งนี้ เกาหลีใต้ฉีดวัคซีนโดสแรกของแอสตราเซเนกาและไฟเซอร์ให้ประชาชนราว 1.77 ล้านคน ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบกับสหรัฐที่ฉีดวัคซีนให้ประชาชนร้อยละ 40 จากประชากรทั้งหมด 328 ล้านคน ในขณะเดียวกัน เกาหลีใต้พบผู้ป่วยติดเชื้อรายใหม่ 731 คน เพิ่มขึ้นจากวันก่อนหน้าที่มี 549 คน ทำให้มียอดผู้ป่วยติดเชื้อสะสมกว่า 115,900 คน และผู้เสียชีวิตกว่า 1,800 คน.-สำนักข่าวไทย

เกิดเหตุตำรวจสหรัฐยิงหญิงวัยรุ่นผิวดำเสียชีวิต

ตำรวจนครโคลัมบัสในรัฐโอไฮโอของสหรัฐใช้ปืนยิงหญิงวัยรุ่นผิวดำวัย 16 ปีเสียชีวิตเมื่อวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น หลังจากที่เขาเผชิญหน้ากับเธอในขณะที่กำลังรายงานแจ้งเหตุพบบุคคลพกอาวุธมีด

ศาลตัดสินอดีตตำรวจผิวขาวมีความผิดคดี “จอร์จ ฟลอยด์”

มินนีแอโพลิส 21 เม.ย. – นายเดเร็ค เชาวิน อดีตตำรวจผิวขาวของเมืองมินนีแอโพลิสในสหรัฐ ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิดฐานฆาตกรรมนายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวดำชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกัน หลังการพิจารณาคดีดังกล่าวถือเป็นบททดสอบความรับผิดชอบครั้งใหญ่ของตำรวจในสหรัฐ คณะตุลาการใช้เวลาพิจารณาคดีไม่ถึง 11 ชั่วโมง ก่อนตัดสินให้นายเชาวิน วัย 45 ปี มีความผิดตามข้อหาทั้งหมด 3 กระทง ได้แก่ ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาแต่ไม่ได้เตรียมการไว้ก่อน ข้อหาทำร้ายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยประมาท ขณะที่กลุ่มคนที่มารวมตัวกันอยู่ด้านนอกห้องพิจารณาคดีของเมืองมินนีแอโพลิส ซึ่งได้รับการคุ้มกันอย่างหนาแน่น ต่างส่งเสียงยินดีและร่ำไห้ด้วยความโล่งใจ เมื่อศาลประกาศคำพิพากษาหลังใช้เวลาไต่สวนคดีถึง 3 สัปดาห์ ในขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ใส่กุญแจมือนายเชาวิน ซึ่งก่อนหน้านี้ได้รับการประกันตัวโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หลังผู้พิพากษาของเฮนเนพินเคาน์ตีในเมืองมินนีแอโพลิสอ่านคำตัดสินที่เป็นเอกฉันท์ของคณะลูกขุนที่เป็นชาย 5 คน หญิง 7 คน และมีความหลากหลายทางเชื้อชาติ เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายเชาวินออกจากห้องพิจารณาคดีในทันที โดยที่เขาสวมหน้ากากอนามัยและไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ขณะที่นายฟิโลนิส ฟลอยด์ น้องชายของนายจอร์จ ฟลอยด์ เข้าไปสวมกอดอัยการ ทั้งนี้ นายเชาวินต้องเผชิญกับโทษจำคุกสูงสุดถึง 40 ปีจากข้อหารุนแรงที่สุดคือ ข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนาแต่ไม่ได้เตรียมการไว้ก่อน ซึ่งจะมีกำหนดบทลงโทษจะมีขึ้นในภายหลัง […]

นักข่าวญี่ปุ่นเรียกร้องให้เมียนมาปล่อยนักข่าวที่ถูกจับ

โตเกียว 20 เม.ย. – กลุ่มนักข่าวญี่ปุ่นเรียกร้องให้รัฐบาลทหารของเมียนมาปล่อยตัวนายยูกิ คิตาซูมิ นักข่าวอิสระชาวญี่ปุ่นที่ถูกคุมขังในเรือนจำของนครย่างกุ้ง ในขณะที่ทางการเมียนมากำลังปราบปรามสื่อท่ามกลางการประท้วงต่อต้านรัฐประหารที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง นักข่าวที่เป็นเพื่อนของนายคิตาซูมิกล่าวว่า กลุ่มนักข่าวญี่ปุ่นต้องการให้รัฐบาลทหารเมียนมาหยุดข่มเหงประชาชนเมียนมา และเรียกร้องให้ปล่อยตัวนักข่าวหลายคนที่ถูกคุมตัวไว้โดยเร็ว ซึ่งรวมถึงนายคิตาซูมิด้วย นักข่าวกลุ่มดังกล่าวได้เริ่มเปิดให้ยื่นคำร้องผ่านระบบออนไลน์ต่อรัฐบาลทหารเมียนมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ และขณะนี้มีผู้ลงชื่อในคำร้องราว 2,000 คน ด้านรัฐบาลญี่ปุ่นได้ออกมาเรียกร้องให้เมียนมาปล่อยตัวนายคิตาซูมิเช่นกัน นอกจากนี้ กลุ่มนักข่าวในญี่ปุ่นยังขอร้องให้รัฐบาลญี่ปุ่นใช้มาตรการรุนแรงขึ้นเพื่อกดดันให้เมียนมาปล่อยตัวนายคิตาซูมิที่ถูกเจ้าหน้าที่กองทัพเมียนมาจับกุมตัวตั้งแต่ช่วงค่ำของวันอาทิตย์ในข้อหาเผยแพร่ข้อมูลเท็จ ในขณะเดียวกัน ผู้อำนวยการกลุ่มปกป้องสิทธิมนุษยชน “ฮิวแมนไรท์ วอทช์” ประจำญี่ปุ่นให้ความเห็นว่า รัฐบาลญี่ปุ่นยังใช้มาตรการกดดันเมียนมาไม่มากพอ เรื่องการจับกุมนักข่าวญี่ปุ่นน่าจะเป็นจุดเปลี่ยนให้รัฐบาลทำอะไรมากกว่านี้ ทั้งยังระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจัดการปัญหาที่เกิดขึ้นในเมียนมาอย่างละมุนละม่อม ในขณะที่สหภาพยุโรปและสหรัฐต่างใช้มาตรการลงโทษรุนแรงต่อบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุรัฐประหาร ทั้งนี้ สมาคมช่วยเหลือนักโทษทางการเมืองเมียนมารายงานว่า ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตจากเหตุปราบปรามการชุมนุม 737 คน และมีผู้ถูกจับกุม 3,229 คน.-สำนักข่าวไทย

1 256 257 258 259 260 315