วอชิงตัน 23 เม.ย. – ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐประกาศตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกร้อยละ 50-52 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเดิมถึงสองเท่า ภายในปี 2573 ในการประชุมสุดยอดผู้นำในวาระการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่จัดขึ้นเป็นเวลา 2 วัน
ประธานาธิบดีไบเดนกล่าวในการประชุมเสมือนจริงที่มีผู้นำจาก 40 ประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมถึงผู้นำจีน รัสเซีย และสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ประมุขแห่งนครรัฐวาติกันที่เป็นปรปักษ์กับสหรัฐว่า สหรัฐจะตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นต้นเหตุของปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพิ่มเป็นร้อยละ 50-52 ภายในปี 2573 เมื่อเทียบกับปี 2548 เพื่อทำให้สหรัฐกลับมายืนอยู่ในแถวหน้าอีกครั้ง ความเสียหายจากการนิ่งเฉยยังคงรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ แต่สหรัฐจะไม่รีรออีกต่อไป
ในขณะเดียวกัน นายจอห์น แคร์รี อดีตรัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐที่รับตำแหน่งทูตด้านสภาพภูมิอากาศในรัฐบาลประธานาธิบดีไบเดนยืนยันว่า การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะเกิดขึ้นอย่างถาวร เนื่องจากเป็นกลไกตลาด แม้ผลการเลือกตั้งในครั้งหน้าจะเปลี่ยนไปก็ตาม เขายังระบุว่า ประเทศเศรษฐกิจมากกว่าครึ่งหนึ่งของโลกมุ่งมั่นที่จะดำเนินการรักษาระดับอุณหภูมิทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นให้ใกล้เคียงกับระดับ 1.5 องศาเซลเซียส ซึ่งนับว่าเป็นระดับที่น้อยกว่ายุคก่อนอุตสาหกรรมและเป็นปณิธานที่กำหนดไว้ในความตกลงปารีส เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบที่รุนแรงที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ.-สำนักข่าวไทย