กรุงเทพฯ 23 ก.ค. – อธิบดีกรมชลประทานเผย ย้ำให้สถานีสูบน้ำที่เชื่อมกับระบบระบายน้ำของกรุงเทพมหานครพร้อมรับฝนชุกปลายฤดู หากฝนตกหนักติดต่อกันหลายวัน ให้เร่งระบายน้ำออกอ่าวไทยเพื่อให้สถานการณ์ของกรุงเทพฯ และปริมณฑลกลับสู่ภาวะปกติเร็วที่สุด
นายประพิศ จันทร์มา อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า ได้ตรวจติดตามการทำงานของสถานีสูบน้ำต่างๆ ที่มีจุดเชื่อมต่อกับระบบระบายน้ำของกรุงเทพมหานคร พร้อมย้ำให้เตรียมรับสถานการณ์ฝนชุกช่วงปลายฤดูตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ฝนจะตกชุกหนาแน่นในช่วงเดือนสิงหาคมถึงกันยายน อีกทั้งปี 2565 ปริมาณฝนรวมของทั้งประเทศในช่วงฤดูฝนตกจะมากกว่าค่าปกติร้อยละ 3 นอกจากนี้อาจมีพายุเข้าสู่ประเทศไทยประมาณ 1-2 ลูก
ทั้งนี้หากฝนตกหนักติดต่อกันหลายวันต้องเร่งระบายน้ำออกทะเลเพื่อบรรเทาน้ำที่อาจท่วมขังในกรุงเทพฯ ด้วยการสูบระบายน้ำออกจากพื้นที่ ผ่านสถานีสูบน้ำประเวศบุรีรมย์และสถานีสูบน้ำหนองจอก แล้วเร่งระบายน้ำลงสู่คลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต ก่อนจะระบายลงสู่แม่น้ำบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา และทะเลอ่าวไทยตามลำดับ โดยจะควบคุมปริมาณน้ำไม่ให้กระทบต่อประชาชนในพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา ส่วนเส้นทางระบายน้ำอีกเส้นทางหนึ่งคือ ใช้สถานีสูบน้ำที่อยู่ริมคลองชายทะเลเร่งระบายน้ำออกสู่ทะเลอ่าวไทยเพื่อให้สถานการณ์น้ำในกรุงเทพมหานครและปริมณฑลกลับเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วที่สุด
นายประพิศกล่าวว่า กรมชลประทานเฝ้าระวังติดตามสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำช่วงที่ฝนตกในพื้นที่กรุงเทพมหานครอย่างใกล้ชิด ก่อนหน้านี้ได้ร่วมกับสำนักการระบายน้ำกรุงเทพมหานครวางแผนระบายน้ำร่วมกัน วันน้ำย้ำให้สำนักงานชลประทานที่ 11 ตรวจสอบความพร้อมของสถานีสูบน้ำและประตูระบายน้ำให้สามารถใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ ติดตั้งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ พร้อมเดินเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติม เพื่อเร่งระบายน้ำท่วมขังออกจากพื้นที่ให้ออกสู่ทะเลโดยเร็วที่สุดและเตรียมรองรับปริมาณฝนที่อาจตกลงมาเพิ่มได้อีกในระยะต่อไป จนกว่าจะสิ้นสุดฤดูฝน.-สำนักข่าวไทย