“ปานเทพ” ชี้ “ทนายตั้ม” ดิ้นยากเปลี่ยนคดีฉ้อโกงเป็นคดีแพ่ง

ม.ธรรมศาสตร์​ 24 พ.ย. – “ปานเทพ” ชี้ “ทนายตั้ม” ดิ้นยากเปลี่ยนคดีฉ้อโกงเป็นคดีแพ่ง ท้าแน่จริงรับสารภาพ​ เผยผู้กำกับ สน.บางซื่อ ส่อแววโดนด้วยหากละเว้นปฏิบัติหน้าที่


นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ คณบดีวิทยาลัยการแพทย์แผนตะวันออก มหาวิทยาลัยรังสิต​ กล่าวถึงคดีฉ้อโกงของนายษิทรา​ เบี้ยบังเกิด​ หรือทนายตั้ม​ ว่าเชื่อว่าขณะนี้ทนายตั้มประเมินสถานการณ์ไม่ถูก แม้จะมีทนายเข้าไปรายงานสถานการณ์ แต่ก็ไม่เหมือนกับคนที่อยู่ข้างนอก อาจประเมินเข้าข้างตัวเองว่ามีประเด็นที่จะสามารถต่อสู้ได้ และหากดูจากน้ำเสียงของทนายสะท้อนให้เห็นว่าแม้แต่ทนายที่อยู่รอบข้างทนายตั้มก็ประเมินสถานการณ์ว่า หากยังคงเดินหน้าประเด็นที่ว่าได้รับเงิน 71 ล้านบาทมาโดยเสน่หา จะไม่สามารถสู้คดีได้ ดังนั้น ทนายสายหยุดจึงคิดจะแปลงเป็นคดีแพ่ง แล้วให้มีการคืนเงินแทน ทำให้ทนายสายหยุดกับทนายตั้ม อาจมีความคิดไม่เหมือนกัน แล้วจะเห็นว่าทนายสายหยุดเป็นคนที่มีคุณธรรม และหวังว่าจะยืนหยัดในทางที่ถูกต้อง ให้คำแนะนำที่ถูกต้องกับทนายตั้ม แต่ขึ้นอยู่กับว่าทนายตั้มจะไว้วางใจทนายสายหยุดแค่ไหน ซึ่งที่ผ่านมาสำนักงานทนายความ ของทนายตั้ม ให้น้ำหนักนายอาคม คงสวัสดิ์ หรือทนายอาคม มากกว่าทนายสายหยุด​ แต่เนื่องจากมีเรื่องบาดหมางกัน ทำให้ทนายอาคมไม่ได้ทำคดีให้ แต่วันนี้ตนเชื่อว่าทนายที่อยู่รอบข้างทนายตั้มประเมินสถานการณ์ถูกว่าขณะนี้ทนายตั้มเสียเปรียบ​ และการจะลดความเสียเปรียบได้ดีที่สุดคือการสารภาพ แล้วคืนทรัพย์สินทั้งหมดให้ อาจทำให้สถานการณ์ดีขึ้นกว่าเดิม

เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ที่จะเปลี่ยนคดีอาญาเป็นคดีแพ่ง นายปานเทพ กล่าวว่า​ ตอนนี้ถือว่ายากแล้ว เพราะการที่ทนายตั้มเตรียมสัญญาไว้ตั้งแต่ต้น สะท้อนให้เห็นว่ามีการคิดวางแผนโดยใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือ ฟอกความผิดให้ตัวเองหลังกระทำผิด และน่าเสียดายที่ประเมินสถานการณ์ต่ำไป เพราะแชทข้อความทั้งหมดถูกส่งไฟล์ที่ถูกต้องไปให้กับคู่กรณี​ ดังนั้น คดีนี้จึงดิ้นยากมากที่จะเปลี่ยนจากคดีฉ้อโกงเป็นคดีแพ่ง เพราะตอนนี้เป็นคดีฉ้อโกงแน่นอน


“ทั้งวิธีการของทนายตั้ม และการจะทำสัญญาแบบไม่ให้เซ็นสัญญาทุกหน้าไว้ล่วงหน้า ระดับสอบเนติบัณฑิตได้แต่กลับมาทำแบบนี้แสดงให้เห็นว่ามีเจตนาแต่แรกที่จะเอาเงินคู่กรณี ไม่ได้ใช้ความคิดในการลงทุนอะไร ยิ่งได้เงินมาแล้วนำไปซื้อบ้าน ยิ่งถือว่าไม่มีเหตุผล วันแรกที่ได้เงินมากลับนำไปใช้สอยอย่างมโหฬาร หลังจากนั้น 1 เดือน ก็ไปซื้อบ้านด้วยเงินสด ดังนั้น โอกาสที่จะแก้ให้เป็นคดีแพ่งถือว่ายากมาก” นายปานเทพ​ กล่าว

เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ที่ทนายตั้มยังมีหลักฐานเด็ด นายปานเทพ กล่าวว่า หากมีหลักฐานเด็ดและเป็นหมัดน็อกได้จริงไม่มีทางมาถึงวันนี้ได้เลยที่ต้องเข้าไปอยู่ในเรือนจำ รวมถึงภรรยา และคดีที่เพิ่มเป็นคดีฟอกเงิน มีการอายัดทรัพย์และไม่ได้รับการประกันตัว ถ้ามีเด็ดจริงคงโชว์ไปนานแล้ว แสดงว่าสิ่งที่มีในมือน้ำหนักไม่เพียงพอ และตนเชื่อว่าคงไม่มีหมัดเด็ดจริง

นายปานเทพ ยังกล่าวถึงกรณีที่ทนายตั้มนำ GPS ไปติดรถของมาดามอ้อย ว่า GPS เป็นเทคโนโลยีที่สามารถตรวจสอบได้ด้วยเทคโนโลยี แต่เรื่องติดมีสาระสำคัญน้อยกว่าเรื่องใครเป็นคนลงทะเบียน ในสัญญาเป็นชื่อใคร ส่วนที่ทนายตั้มอ้างว่าไม่มีการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันไว้ในโทรศัพท์มือถือ นายปานเทพ ย้อนถามกลับว่าไหนว่าโทรศัพท์หาย แล้วเหตุใดอ้างว่าไม่มีการดาวน์โหลด ส่วนประเด็นถัดไปคือชื่อที่ปรากฏและไม่สามารถเปลี่ยนได้ เข้าไปส่องดูพิกัด เป็นชื่อของภรรยาทนายตั้ม ซึ่งเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ จึงไม่มีประโยชน์ที่จะถกเถียงด้านวรรณกรรม


นายปานเทพ กล่าวว่า ไม่อยากฝากอะไรไปถึงทนายตั้ม เพราะคิดว่าคงไม่ได้ยินในสิ่งที่ตนพูด ถึงมีคนไปสื่อสารแต่เชื่อว่าทนายตั้มมีอคติ ไม่เชื่อว่าสิ่งที่ตนพูดเป็นเรื่องจริง หรืออาจจะถูกดัดแปลง แต่คนที่มีน้ำหนักที่ทนายตั้มต้องฟังคือทนายสายหยุดที่ต้องกล้าพูดความจริง ประเมินสถานการณ์จริงๆ ถ้าจะให้ตนให้คำแนะนำกับทนายสายหยุด ต้องไปบอกกับทนายตั้มว่าสถานการณ์ข้างนอกตอนนี้แย่มาก ถ้าแน่จริงรับสารภาพจะมีประโยชน์มากกว่า แต่หากไม่รับสารภาพและยืนยันจะต่อสู้ในแนวทางนี้ ทนายสายหยุดก็มีสิทธิที่จะถอนตัวได้

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าหากทนายตั้มยอมรับและขอโทษมาดามอ้อย จะเป็นคดีแพ่ง คืนเงินแล้วทุกอย่างจะจบนั้น นายปานเทพ กล่าวว่า​ คงเป็นไปไม่ได้ เพราะตอนนี้เป็นคดีอาญา เป็นคดีฉ้อโกง หลายกรรม เพราะทำหลายครั้ง โดยเฉพาะคดี 39 ล้านบาท ชัดเจนว่ามีการวางแผนเป็นขั้นเป็นตอนตั้งแต่แรก ถึงขนาดวางแผนให้ตัวเองอยู่ต่างประเทศเพื่อไม่ให้มีหลักฐานในวันที่ถอนเงินสด ตนเชื่อว่าเมื่อถึงศาล ศาลจะเข้าใจถึงพฤติการณ์ของคนที่เป็นนักกฎหมาย และใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือในการอำพรางตัวเอง เพื่อให้ได้มาซึ่งเงินของผู้อื่น​ คนเชื่อว่าคนที่อยู่ในเรือนจำไม่มีทางรู้ข้อมูลเท่ากับคนนอกเรือนจำ โอกาสจะเบี่ยงคดีเป็นอย่างอื่นยากมาก​ หากทนายตั้มคิดได้ ตัดสินใจสารภาพประกาศคืนทรัพย์สินทั้งหมดเดี๋ยวนี้ เชื่อว่าศาลจะลดโทษ เพราะการสำนึกผิด ยอมรับการกระทำผิด เป็นหนทางเดียวที่จะทำให้โทษหนักกลายเป็นเบา​ และไม่แน่ใจว่าโทษที่เบาลงนั้น มาดามอ้อยจะเดินสุดทางต่อหรือไม่ ถ้าสำนึกอย่างแท้จริงเราก็ไม่สามารถตอบแทนมาดามอ้อยได้ แต่ถึงวันนี้ทนายตั้มไม่ได้ยอม เพราะยังใช้ช่วงทำนองเล่ห์เหลี่ยม ข่มโดยการใช้วาทกรรม​ ซึ่งต้องยอมรับในศาลอย่างเดียว​

เมื่อถามว่าตอนนี้ยังไม่มีการไปแจ้งข้อหากรณี 39 ล้านบาท​ คิดว่าตำรวจยังมีข้อหาอื่นอีกหรือไม่ นายปานเทพ กล่าวว่า ตำรวจชุดที่ทำคดีชุดนี้ทุ่มเททำคดีอย่างละเอียด การใช้เวลานานแต่ละคดีไม่ใช่ว่าหาหลักฐานไม่เจอ แต่รู้ว่ากำลังต่อสู้กับนักกฎหมายชื่อดังในประเทศไทย และมีเส้นสายจำนวนมาก ดังนั้น การนำไปสู่การแจ้งข้อหาต้องรัดกุมแบบไม่มีรอยรั่ว หรือหากจะมีต้องน้อยที่สุด จึงมองว่าตำรวจใช้เวลาเพื่อให้รัดกุมรอบคอบ​

นายปานเทพ กล่าวว่า อยู่ที่ผู้กำกับ สน.บางซื่อ ว่าจะดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในการลงบันทึกประจำวัน อันนี้ข้อความเป็นเท็จ และใช้บันทึกที่มีข้อความเป็นเท็จไปใช้หลอกลวงผู้อื่นหรือไม่​ ถ้าสำเนาบัตรชื่อยังไม่ดำเนินการ ถ้า สน.บางซื่อ ไม่ดำเนินการ เชื่อว่าจะโดนฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ที่ปล่อยให้มีการลงบันทึกประจำวันที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย และใช้เป็นหลักฐานเครื่องมือในการหลอกผู้อื่น ถือเป็นเรื่องอันตรายมาก ดังนั้น การสอบสวนเรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องสมควรแก่เหตุ ผู้กำกับ สน. ต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจ ดำเนินคดีกับทุกคนที่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่เฉพาะคนที่ลงบันทึกประจำวัน ถ้าไม่อยู่ในขบวนการเดียวกันก็ต้องเอาผิดกับคนเหล่านี้

เมื่อถามว่าวันนี้ส่อแววผู้กำกับจะโดนด้วยหรือไม่ นายปานเทพ กล่าวว่า มีสิทธิที่จะโดนหากละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

ส่วนที่นายสายหยุดทนายความของทนายตั้มจะเข้าไปพบทนายตั้มในวันจันทร์นี้ หากแนวทางไม่ตรงกันมีโอกาสที่ไม่ทำคดีต่อหรือไม่ นายปานเทพ กล่าวว่า ส่วนตัวยังเชื่อมั่นทนายสายหยุด​ เพราะทนายสายหยุดรู้ว่าหากต่อสู้แบบเดิมคงไม่ชนะ ตนยังเชื่อในความคิดอ่านของทนายสายหยุดว่ายังเป็นคนที่มีคุณธรรมอยู่ แล้วหวังว่าภายใต้มโนสำนึกของทนายสายหยุดที่รู้ผิดรู้ชอบ​ ต้องรู้ว่าสถานการณ์ทนายตั้มตอนนี้เป็นคนดีหรือไม่ดี ทำที่หน้าของทนายสายหยุดน่าจะมีบทบาทสำคัญต่อการตัดสินใจของทนายตั้ม​ การที่จะไปพบวันจันทร์นี้จะเป็นตัวตัดสินใจว่าทนายสายหยุดจะช่วยทำคดีให้ทนายตั้มต่อไปหรือไม่ และตอนนี้ตนเห็นว่าทีม Adventure ที่ไม่ใช่เพื่อนสนิท ของทนายตั้มและยึดมั่นตามกฎหมาย ก็มีทิศทางเดียวกัน ประชาชนและสังคมก็เกือบจะเป็นฉันทานุมัติเดียวกันแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นกับคดีนี้ ตอนนี้ตนเชื่อว่าทนายตั้มประเมินสถานการณ์ข้างนอกต่ำกว่าความเป็นจริง​ ส่วนเรื่องพินัยกรรม นายปานเทพ กล่าวว่า น่าจะเป็นพฤติการณ์แวดล้อมประกอบสำนวน ตรงนี้จะเป็นดัชนีชี้วัดองค์ประกอบเข้าฐานความผิด

เมื่อถามว่าสัปดาห์หน้าจะมีอะไรเซอร์ไพรส์หรือไม่ นายปานเทพ กล่าวว่า จะรอให้ทนายสายหยุดพูดวันจันทร์ก่อน ถ้ามีสิ่งใดที่จำเป็นต้องพูดก็จะมีการพูดอีกครั้ง.-319​-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“สุชาติ” จ่อลาออก สส. ให้สภามี สส.ทำงาน

ทำเนียบ 7 ก.ค.-“สุชาติ” เผยเตรียมลาออก สส. เพื่อให้บัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้ขึ้นมา มองให้สภามี สส.ทำงาน นายสุชาติ ตันเจริญ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงธรรมเนียมปฏิบัติของคนที่เป็น สส.ระบบบัญชีรายชื่อ จะลาออกเมื่อเป็นรัฐมนตรี หรือไม่ว่า ที่ผ่านมายังไม่มีการลาออกแต่โดยธรรมเนียมก็ควรจะลาออก เพราะการทำหน้าที่ของรัฐมนตรีก็เต็มเวลาอยู่แล้ว ไม่มีเวลาที่จะไปช่วยงานสภา ซึ่งขณะนี้สภาเสียงปริ่มน้ำ ซึ่งตนมีความตั้งใจที่จะลาออกจาก สส ระบบบัญชีรายชื่ออยู่แล้ว เพื่อให้ สส.ระบบบัญชีรายชื่อลำดับถัดไปได้เลื่อนขึ้นมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สส. ลำดับถัดไปที่จะขึ้นมาเป็น สส.แทนนายสุชาติ คือ นายเอกพร รักความสุข บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ลำดับที่ 38.-316.-สำนักข่าวไทย

พม.ร้องเอาผิด “จอนนี่ มือปราบ” สร้างรีสอร์ทรุกล้ำที่ส่วนกลาง

บก.ปทส. 7 ก.ค. – จนท.กรมพัฒนาสังคมฯ ร้องตำรวจป่าไม้ตรวจสอบปมรีสอร์ทของ “จอนนี่มือปราบ” อินฟลูชื่อดัง บุกรุกพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ในอุบลราชธานี และถูกข่มขู่ไม่ให้เข้าพื้นที่ นายวัชระ โกเสนตอ นักพัฒนาสังคมชำนาญการพิเศษ ได้รับมอบอำนาจจากนายกันตพงศ์ รังษีสว่าง อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นำหลักฐานเอกสารเข้าแจ้งความกับกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีกับ ด.ต.ยุทธพล หรือ “จอนนี่ มือปราบ” อดีตตำรวจที่ผันตัวลาออกจากราชการมาเป็นอินฟลูเอนเซอร์ กรณีสร้างรีสอร์ทรุกเข้าไปในเขตนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ตำบลคำเขื่อนแก้ว อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี นายวัชระ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาสังคมฯ รับแจ้งจากนิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย ว่ามีผู้เข้าไปทำประโยชน์ในที่ดินของนิคมโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยส่วนที่รุกล้ำเข้ามาเป็นพื้นที่ที่นิคมกันไว้เป็นป่าไม้ส่วนกลาง 20% รุกล้ำเข้ามาประมาณ 1 ไร่ และเริ่มก่อสร้างรีสอร์ทเมื่อปี 2564 เป็นต้นมา และทางกรมฯ ก็ได้ลงบันทึกประจำวันและมีหนังสือให้ระงับการดำเนินการรีสอร์ทมาตั้งแต่ปี 2565 แต่เจ้าของรีสอร์ทไม่ให้ความร่วมมือ และยังมาโวยวายที่นิคมฯ ข่มขู่เจ้าหน้าที่ ไม่ให้เจ้าหน้าที่เข้าไปที่รีสอร์ท ทั้งนี้นิคมสร้างตนเองลำโดมน้อย มีพื้นที่ตามแนวเขตตามแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งนิคมสร้างตนเองฯ ชัดเจน เนื้อที่ […]

Camp Mystic after Texas floods

เปิดภาพความเสียหายน้ำท่วมแคมป์ในเท็กซัส

เท็กซัส 6 ก.ค.- ทีมกู้ภัย อาสาสมัครและตำรวจ ช่วยกันรื้อถอนเศษซากความเสียหายและซากต้นไม้กิ่งไม้ใกล้ที่ตั้งแคมป์ในรัฐเท็กซัสของสหรัฐ ซึ่งมีนักเรียนหญิง 27 คน สูญหายจากเหตุน้ำท่วมฉับพลันที่เกิดขึ้นเมื่อเช้ามืดวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น   ค่ายมิสติก (Camp Mystic) เป็นค่ายกิจกรรมนักเรียนหญิงล้วน มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมในค่าย 700 คน ในช่วงที่เกิดฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลันครั้งใหญ่ในเทศมณฑลเคอร์ ทางตอนกลางของรัฐเท็กซัส แคมป์แห่งนี้ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำกัวดาลูปในแถบหุบเขาตอนกลางรัฐเท็กซัส ซึ่งเป็นศูนย์กลางที่เกิดน้ำท่วม ก่อตั้งโดยโค้ชฟุตบอลมหาวิทยาลัยเท็กซัส เมื่อเกือบหนึ่งร้อยปีก่อนในปี 2469 เพื่อให้เยาวชนหญิงได้สัมผัสบรรยากาศแบบคริสเตียนในการพัฒนาตนเอง.-820(814).-สำนักข่าวไทย

กรมอุตุฯ เตือน 4 ภาครับมือฝนถล่ม ระวังน้ำท่วม-น้ำป่าไหลหลาก

กทม. 6 ก.ค.- กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง เตือน “เหนือ อีสาน ตะวันออก ใต้” รับมือฝนตกหนัก อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้มีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณจังหวัดภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเมียนมาตอนบนและลาวตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง พายุโซนร้อน “ดานัส” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน คาดว่าจะเคลื่อนเข้าใกล้ไต้หวัน ในช่วงวันที่ 6–7 กรกฎาคม 2568 โดยไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่อลักษณะอากาศของประเทศไทย แต่จะทำให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่ปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือน 6 จังหวัดรับมือฝนถล่ม-ระวังน้ำท่วมฉับพลัน

กทม. 10 ก.ค.- กรมอุตุฯ เตือน 6 จังหวัด บึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร จันทบุรี และตราด รับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยยังคงมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณประเทศไทย โดยเฉพาะในบริเวณจังหวัดบึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง ในช่วงวันที่ 11-13 ก.ค. ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง เนื่องจากจะมีร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน […]

“ทักษิณ” ประกาศเลิกคบ “ฮุน เซน”

พญาไท 9 ก.ค. – “ทักษิณ” ประกาศเลิกคบ “ฮุน เซน” ยอมรับช็อกลูกสาวถูกปล่อยคลิป ชี้ไม่มีการรบ เผยผลประโยชน์สีเทาจุดแตกหัก “ฮุน เซน” เชื่อปมชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ถึงขั้นสงคราม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในงาน “55 ปี NATION : ผ่าทางตันประเทศไทย” Chapter 3 บก. ถาม “ทักษิณ ชินวัตร” ณ ห้องพญาไท 4 ชั้น 6 โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท ดำเนินรายการโดย 3 บก. บรรณาธิการอำนวยการเครือเนชั่นระบุจุดเริ่มต้นของรอยร้าวที่ปะทุขึ้นสู่สาธารณะมาจากการปล่อยคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีแพทองธาร และฮุน เซน โดย ดร.ทักษิณ เล่าย้อนถึงเหตุการณ์ในวันนั้นว่า เดิมทีมีการนัดหมายให้นายกฯ แพทองธาร สนทนากับฮุน เซน ผ่านการประสานงานของ “พี่ฮวด” โดยมีรัฐมนตรีคนสำคัญร่วมรับฟังด้วย ทั้งนายภูมิธรรม […]

ทบ.แจงปมทหารไทย-กัมพูชา ปะทะคารมที่ช่องอานม้า

9 ก.ค.- โฆษกกองทัพบก แจงทหารไทย-กัมพูชา ปะทะคารมที่ช่องอานม้า ปมทหารเขมรอยากรู้อยากเห็น ขยับเข้าใกล้พื้นที่ไทยเกินขอบเขตที่กำหนด จากกรณีเฟซบุ๊กเพจ “Army Military Force” โพสต์คลิปภาพทหารเขมรปะทะคารมกับทหารพรานของไทย ตามที่มีการนำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดเมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 9 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก กล่าวว่า เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ก.ค.68 เวลา 09.00 น. โดยสื่อของฝ่ายกัมพูชาได้นำเสนอคลิปวิดีโอการโต้เถียงระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารไทยและทหารกัมพูชา จากการตรวจสอบของหน่วยที่เกี่ยวข้องพบว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นบริเวณช่องอานม้า ต.โซง อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี ซึ่งอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของกองร้อยทหารพราน 2310 โดยกำลังพลประมาณ 7 นาย ได้จัดเตรียมสถานที่ เพื่อรองรับกิจกรรมภายในของหน่วย และกิจกรรมการตรวจเยี่ยมของผู้บังคับบัญชา คาดว่าฝ่ายกัมพูชาเห็นว่าฝ่ายทหารไทยมีการปฏิบัติต่างไปจากวันปกติทั่วไป จึงอยากเข้ามาสังเกตการณ์ใกล้ๆ แต่เมื่อเข้าใกล้พื้นที่มากกว่าขอบเขตที่กำหนด ทหารไทยจึงแสดงตนเข้าชี้แจง และขอให้อยู่ในระยะที่เหมาะสม เป็นเหตุให้เกิดการโต้เถียงกันด้วยวาจาตามที่ปรากฏข่าว แต่ทั้งสองฝ่ายได้มีการอธิบายทำความเข้าใจกันจนเป็นที่เข้าใจทั้งสองฝ่าย ทั้งนี้ บริเวณที่ฝ่ายไทยจัดกิจกรรมมิได้เป็นการรุกล้ำเข้าไปในเขตกัมพูชาตามที่มีการกล่าวอ้างแต่อย่างใด.-สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” นิมนต์เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย ลาสิกขา เซ่นคลิปลับ

กรุงเทพฯ 9 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” นิมนต์เจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย ลาสิกขา เซ่นคลิปลับ ขณะที่ ผช.เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ไปขอสึกที่วัดดังเชียงใหม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป., นายภูมิวิศาล เกษมสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา รักษาราชการแทนรองเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ที่ส่งเจ้าหน้าที่ติดตามตัวเจ้าอาวาสวัดพระพุทธฉาย จ.สระบุรี พระชั้นผู้ใหญ่อีกรูปหนึ่งที่ปรากฏอยู่ในหลักฐานคลิปวิดีโอร่วมหลับนอนกับสีกา ก. เช่นเดียวกัน เพื่อตามตัวมาพูดคุยเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นจากกรณีดังกล่าว ภายหลังทราบว่าเจ้าตัวกำลังเดินทางออกจากวัดมาที่หน้าวัดอโศการาม จ.สมุทรปราการ เพื่อมาซื้อจีวรผืนใหม่ จึงนำกำลังไปดักนิมนต์ได้ที่แยกไฟแดงพื้นที่ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ก่อนเจรจาพร้อมนำหลักฐานคลิปและภาพออกมาแสดงให้เจ้าตัวรับทราบ จนทำให้จำนนต่อหลักฐาน ยอมตัดสินใจลาสิกขา เพื่อรับผิดชอบต่อการกระทำดังกล่าว จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงนิมนต์เดินทางต่อมายังวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เพื่อกล่าวคำลาสิกขา ต่อหน้าองค์พระประทานในพระอุโบสถวัดไตรมิตร ขณะเดียวกันในส่วนของการติดตามหาตัวผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ เบื้องต้นทราบว่าติดตามเจอตัวที่วัดพระธาตุสุนันทา ต.แม่หอพระ อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจา แสดงหลักฐานให้เจ้าตัวได้รับทราบ เพื่อให้แสดงความรับผิดชอบด้วยการยอมสึกขาดจากความเป็นพระด้วย […]